เช้าวันใหม่ ไป๋หลันก็มารับตามกำหนดเวลา ปกติทั้งสองไม่ได้พูดคุยกันมากนัก บนรถจึงเงียบไม่มีเสียงพูดคุยจนกระทั่งมาถึงที่สถานที่
ในขณะที่รถไม่ยังไม่จอดสนิท
โจวซู ผู้ช่วยผู้จัดการของลู่ซื่อก็มายืนรอ
“มีอะไรหรือคะ” ไป๋หลันเอ่ยถามอย่างสงสัย
โจวซูก็ชำเลืองมองดูม่านเวยอิงเล็กน้อยแล้วพูดขึ้น
“พี่ลู่ซื่อให้ฉันมารอพี่ค่ะ ทางเราเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น เอ่อ... เฉียนเยว่ซิน ไม่สบาย...ค่ะ”
ไป๋หลันยกปากยิ้ม คำว่าไม่สบายของเฉียนเยว่ซิน ในบริษัทฝูหัว ต่างรู้เหตุผลกันดี ย่อมเกิดจากที่ดื่มหนักและไม่สามารถมาทำงานได้เสียมากกว่า
“ความหมายของคุณโจว จะให้ฉันช่วยหรือคะ”
ไป๋หลันถามขึ้นด้วยความสงสัยพลางเดินเข้าไปบริเวณห้องแต่งตัว
งานในวันนี้เป็นการถ่ายภาพโปรโมทเกมออนไลน์ REGA ซึ่งเปิดยุทธภพหวนคืนจอมือถือให้คนเข้าไปชิงเจ้ายุทธจักรในโลกออนไลน์ ในห้องแต่งตัวแบ่งดารานางแบบไว้สองส่วน นางแบบทั่วไปจะอยู่รวมกันในห้องธรรมดา ซึ่งในห้องนี้มีนางแบบจากบริษัทฝูหัวอยู่จำนวนหนึ่ง
ลี่อิน นางแบบที่ดูไป๋หลันดูแล เมื่อเห็นพวกเขาเธอก็ลุกขึ้นแล้วเข้ามาทักทาย
เธอจับมือของม่านเวยอิงขึ้นมา เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ม่านม่านเป็นอย่างไรบ้าง”
หากลี่อินไม่ทราบมาก่อนว่าม่านเวยอิงพึ่งจะออกจากโรงพยาบาลเมื่อวาน จะต้องเข้าใจว่าเด็กคนนี้แอบไปทำสปาผิวก่อนรับงานแน่นอน มีออร่าสดใสไม่คล้ายคนพึ่งหายป่วยเลยสักนิด
“ขอบคุณค่ะ..ฉันสบายดี”
ม่านเวยอิงตอบพลางโล่งอก อย่างน้อยก่อนหน้าม่านเวยอิงคนเดิมก็หาใช่คนนิสัยดีพูดคุยกันเองทำคนอื่น ทำให้เธอไม่ต้องเปลืองแรงระวังตัวเท่าใดนัก
ลี่อินเองก็ถามตามมารยาทไม่ได้ใส่ใจ จากนั้นก็ชวนไปเปลี่ยนชุด พวกเธอได้รับบทเป็นหญิงสาวยุทธภพที่มีกำลังภายในปานกลาง ชุดจึงรวมอยู่ด้วยกันสามารถเลือกที่เหมาะกับตนเองได้เลย
โจวซูที่กำลังคุยกับไป๋หลันสีหน้าเคร่งเครียด
“แล้ว..เฉียนเยว่ซิน..จะยอมหรือ”
“พี่ลู่ซื่อบอกมาไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนั้นค่ะ...ขอเพียงม่านเวยอิงยินดีก็พอ” การรับงานครั้งนี้เป็นบริษัทที่จัดหามาให้ นางแบบฝ่ายหญิงเป็นของบริษัทฝูหัว ส่วนฝ่ายชายคือบริษัทเจียช่าน ทั้งสองบริษัทก็จะส่งดารานางแบบ นายแบบที่กำลังดันมาเป็นตัวเอก จึงไม่ได้มีการตกลงระบุตัวดารา ผู้จัดการที่รับผิดชอบจึงสามารถเปลี่ยนนางแบบได้เอง
“เป็นผลประโยชน์ของ ม่านเวยอิงพี่ย่อมยินดี” ไป๋หลันเอ่ยขึ้น
“ขอบคุณมากค่ะ ฉันได้ติดต่อนางแบบที่จะมาถ่ายแทนเรียบร้อยแล้ว เช่นนั้นฉันจะไปพาม่านเวยอิงไปแต่งตัวก่อนนะคะ”
ไป๋หลันมองตามหลังโจวซูที่กำลังรีบเข้าไปยังห้องแต่งตัว ท่าทางผ่อนคลายกว่าสักครู่มากนัก คาดว่าดาราในมือของลู่ซื่อคงติดถ่ายแบบถ่ายละครหมด ทำให้โอกาสตกมาเป็นของม่านเวยอิง
เมื่อเห็นทั้งสองคนออกมาจากห้องแต่งตัว ไป๋หลันจึงพยักหน้าให้ม่านเวยอิงเล็กน้อยแจ้งให้เธอตามโจวซูไป หากมองเพียงรูปร่างหน้าตา ม่านเวยอิงย่อมไม่เป็นรองเฉียนเยว่ซิน ทว่า เรื่องความสามารถในการถ่ายทอดอารมณ์ยังห่างชัดกันมาก เธอรู้สึกหนักอึ้งภายในใจขึ้นมา งานนี้เป็นการถ่ายแบบเธอก็หวังว่าคงพอจัดการได้
ม่านเวยอิง ไม่ได้มีข้อสงสัยทำไมเธอได้เปลี่ยนห้องแต่งตัวและเปลี่ยนชุด เธอมองชุดใหม่รู้สึกพอใจ ชุดนี้ให้ความรู้สึกดีกว่าเมื่อสักครู่มาก
หลังแต่งกายทำหน้าทำผมเสร็จ ทุกคนก็มารวมตัวกันที่ฉากถ่ายรูป ม่านเวยอิงมองเหล่านางแบบนายแบบที่แต่งกายเป็นจอมยุทธ์ หากพูดถึงความรู้สึกแม้จะดูแตกต่างจากโลกที่เธอจากมา แต่ว่า หากจอมยุทธ์ต่างมีหน้าตาดีเช่นนี้ก็คงดีไม่น้อย
“ว้าว...ม่านเวยอิง เธอสวยจังเลยตำแหน่งเจ้ายุทธภพต้องเป็นของเธอแน่นอน” ลี่อิงเอ่ยชมอย่างจริงใจ ในฐานะนางแบบน้องใหม่ต้องเป็นปากหวานนิสัยดี
อวี้หนิงชำเลืองมองด้วยสายตาเคือง เธอเป็นนางแบบที่พึ่งเข้าสังกัดมาใหม่ วันนี้ได้งานมาถ่ายแทนในส่วนของม่านเวยอิง ตอนแรกที่ได้รับโทรศัพท์จากโจวซูเธอก็ดีใจมาก แต่พอรู้เรื่องราวทั้งหมด เธอก็รู้สึกว่าทำไมไม่เป็นเธอที่ได้ถ่ายแทนเฉียนเยว่ซินในเมื่อเธอเป็นคนในสังกัดลู่ซื่อ ทำไมโอกาสดีๆเช่นนี้ถึงได้ให้ม่านเวยอิงไปแทน ด้วยความขุ่นเคืองจึงเผลอพูดจาไม่ดีออกไป
“หากไม่ใช่เพราะพี่ลู่ซื่อเมตตา คงไม่มีโอกาสดีๆ แบบนี้หรอก”
ม่ายเวยอิงได้ยินอย่างชัดเจน เธอไม่เคยต้องอดทนต่อสิ่งใดๆ หากใครไม่พูดจาไม่ดี ไม่พอใจเธอก็ฆ่าทันที ทว่าด้วยกำลังภายในที่มีอยู่ เธอทำได้เพียงกลั่นแกล้งบังคับแก้วน้ำให้หกได้เท่านั้น
“ว้าย!!” เสียงอวี้หนิงร้องขึ้น ด้วยความตกใจ เธอไม่เข้าใจเหตุใดแก้วน้ำที่อยู่ดีๆ ก็คว่ำทำให้ชุดที่เธอเลือกและแย่งชิงจากลี่อิงเปียกเกือบหมดทั้งตัว
“รีบเข้าไปเปลี่ยนชุดเถอะ” โจวซูพูดด้วยอารมณ์ไม่ดี เธอนั่งอยู่ใกล้อวี้หนิงกว่าทุกคน ย่อมไม่คิดว่าเป็นฝีมือใครนอกจากเจ้าตัวจะซุ่มซ่ามเสียเอง และยังมีคำพูดเมื่อสักครู่ของอวี้หนิงยิ่งทำให้เธอรู้สึกไม่ดีกับอีกฝ่าย
ไม่มีคนสังเกตเห็นคนที่ตกใจยิ่งกว่าอวี้หนิง
กลับเป็นม่านเวยอิง ผู้ก่อเหตุ
เธอกำลังตื่นตระหนก
หลังจากที่ปล่อยพลังออกไป ทันทีที่เสียงร้องของอวี้หนิงดังขึ้น ม่านเวยอิงก็รู้สึกได้ทันทีพลังที่เพิ่มขึ้นในเมื่อวานก็สลายไป
ไม่จริง สวรรค์ ท่านกำลังลงโทษข้าหรือ
คงไม่ใช่ว่า.....
แน่นอนว่า โง่แค่ไหน ม่านเวยอิงย่อมเข้าใจ
เธอจะได้พลังลมปราณเพิ่มขึ้น เมื่อทำความดี
และมันจะลดลง หากเธอนำไปใช้ทำสิ่งไม่ดี
เหมือนมีเสียงประทัดดังก้องวังวานในหู
ม่านเวยอิงรู้สึกหูฮื้อไปชั่วขณะ
แววตาวูบไหวไปมาจิตใจเริ่มล่องลอย
ไป๋หลันเห็นม่านเวยอิงนิ่งเงียบก้มหน้า จึงพูดให้กำลังใจ
“ไม่ต้องกังวล พี่เชื่อว่าเราทำได้”
เมื่อได้ยินเสียงของไป๋หลันดึงสติม่านเวยอิง เดิมนางหาใช่คนคิดอะไรซับซ้อน ในเมื่อกำหนดมาให้เธอทำความดี เธอก็แค่จะทำตาม
“ค่ะ”
แววตาแน่วนิ่งจริงจังของม่านเวยอิงกลับมาอีกครั้ง
ทำให้ไป๋หลันอึ้งไปชั่วขณะรู้สึกถึงพลังที่แผ่ซานออกมา
สักพักทีมงานก็มาตามนางแบบ
ม่านเวยอิงลุกขึ้นเดินด้วยท่วงท่าองอาจ เธอออกไปยืนหน้ากล้องด้วยแววตาเข้มฉายแววเด็ดเดี่ยว นัยต์ตาคล้ายอยากกระชากวิญญาณของใครบางคน เธอยกดาบขึ้นวาดเป็นวงด้วยความคล่องแคล่ว
ดี ดี ดี
เสียงช่างภาพตะโกนชื่นชม
ขอแววตาเหี้ยมเกรียมพร้อมสังหารอีกนิดครับ
ดีครับ ดีมากครับ สวย สวย
ไม่ว่าทีมงานจะขอท่าทางแบบไหน ม่านเวยอิงก็จัดวางร่างกายได้อย่างเหมาะสมกับเป็นจอมยุทธ์หญิง
ฉีซา หนึ่งในนายแบบจอมยุทธ์ กำลังเป็นดาวรุ่งพุ่งแรง เขาหันมาพูดคุยผู้จัดการส่วนตัว ดวงตามีแววสงสัย
“ม่านเวยอิง คนนี้เหตุใดเมื่อก่อนพวกเราไม่เคยได้ยินชื่อนะ”
“เป็นดาราในสังกัดฝูหัวที่พอมีผลงานเท่านั้นครับ เดิมนางแบบที่จะต้องถ่ายคู่คุณฉีคือคุณเฉียนเยว่ซิน..คาดว่าคงเกิดเรื่องจึงได้เปลี่ยนตัวกระทันหัน”
“อย่างนั้นรึ นับว่าผมเป็นคนโชคดีคนหนึ่งสินะ”
ประกายตาของฉีซาวาววามเจ้าเล่ห์แฝงรอยยิ้ม
เชิญคุณฉีซาค่ะ
เสียงทีมงานดังขึ้นฉีซาก็ปรับสีหน้าเป็นสุภาพอ่อนโยนลุกขึ้นออกไปด้วยท่าทางเป็นมืออาชีพ รูปร่างสูงโปร่งสมส่วนดูมีเสน่ห์ตรึงสายตา พอได้มาถ่ายคู่ร่วมกับม่านเวยวิงยิ่งทำให้ทั้งคู่คล้ายสามารถเปร่งแสงได้
“ว้าว..พวกเขาเหมือนคู่รักเทพเซียนเลย”
เสียงอุทานของลี่อิงดังขึ้น ทุกคนพร้อมพยักหน้าเห็นด้วย มีเพียงอวี้หนิงที่มีแววตาทอประกายอิจฉาเพียงเสี้ยวนาทีก่อนจะปรับเป็นอ่อนโยนยินดีกับความสำเร็จของผู้อื่น
ช่วงเช้าได้ถ่ายภาพแค่ของม่านเวยอิงกับฉีซาเท่านั้น พอถึงเวลาพักเที่ยงทีมงานได้มาเชิญม่านเวยอิงไปร่วมทานที่โต๊ะอาหาร เป็นเรื่องปกติของกองถ่ายที่มีการแบ่งชนชั้นดารา
“ค่ะ”
ม่านเวยอิงไม่ได้ปฏิเสธ เธอลุกขึ้นตามทีมงานไปในทันที วันนี้ใช้พลังงานไปมากเธอรู้สึกหิวมากจริงๆ
ที่โต๊ะอาหาร ทีมงานได้จัดให้เธอนั่งข้างกับฉีซาเมื่อทุกคนมาพร้อมก็ลงมือทานทันที ไม่มีพิธีอะไรมากเพราะอย่างไรก็ยังอยู่ในช่วงทำงาน
ในขณะที่ทานข้าว ฉีซาก็แอบมองม่านเวยอิงอยู่เรื่อยๆ ท่าทางการกินของหญิงสาวนั้นทำให้เขาอดประหลาดใจไม่ได้ แม้จะดูไม่สุภาพเท่าใดนักแต่กลับไม่น่ารังเกียจ
เมื่อทุกคนเริ่มวางช้อนลงจึงเริ่มเอ่ยปากพูดคุย
“ผมฉีซา ยินดีที่ได้ร่วมงานนะครับ เมื่อเช้าไม่มีโอกาสทักทายต้องขอโทษที่เสียมารยาทครับ”
“อ่อค่ะ...ฉันม่านเวยอิงค่ะ”
ท่าทีไร้มารยาแต่เย็นชาเหินห่างยิ่งทำให้ฉีซาเริ่มสนใจคนตรงหน้า แม้ภายในใจจะแย้งบอกว่าอีกฝ่ายอาจจะแกล้งปล่อยเพื่อจับก็เป็นได้ วงการมายาอะไรย่อมเกิดขึ้นได้ ขณะที่กำลังจะชวนคุยต่อเสียงทุ้มหนึ่งก็ดังขึ้น
“พรุ่งนี้หนังเรื่อง กระดูกจอมมาร จะแคสตัวละครนางมารสวี่หราน คุณม่านเวยอิงไม่ลองไปดูหน่อยหรือครับ”
เสียงนั่นก็คือเสียงเฉียวฉือช่างภาพในวันนี้
ม่านเวยอิงเบิกตาโตขึ้น เอ่ยถามทันที
“คุณจะช่วยแนะนำให้ฉันหรือคะ”
คำถามตรงไปตรงมาและยังอยู่ต่อหน้าคนอื่น สาวน้อยที่สดใสน่ารักย่อมเป็นที่เอ็นดู เฉียวฉือจึงยกปากยิ้มแล้วพูด
“แน่นอนสิ ผมว่าคุณเหมาะสำหรับบทนี้”
ขณะที่พูดในใจของเฉียวฉือยังคิดถึงว่าผู้กำกับซุนจะต้องขอบคุณเขาที่แนะนำนางมารน้อยผู้นี้
หลังจากงานเสร็จ ไป๋หลันก็ขับรถไปส่งม่านเวยอิง เธอชำเลืองมองหญิงสาวพลางคิดสะท้อนในใจ การที่ได้ถ่ายภาพแทนเฉียนเยว่ซินย่อมไม่ใช่เป็นเพราะว่าม่านเวยอิงมีความสามารถ แต่เป็นเพราะลู่ซื่อต้องการให้เธอแบกรับความผิดพลาดในวันนี้ด้วย หากม่านเวยอิงทำออกมาไม่ดี ลูกค้าไม่พอใจพวกเราย่อมได้รับการตำหนิจากผู้ใหญ่ไปด้วยกัน ทว่าม่านเวยอิงกลับทำได้ดีเกินคาด แล้วยังได้รับการแนะนำจากช่างภาพให้ไปแคสตัวละคร ด้วยนิสัยใจแคบของเฉียนเยว่ซินต้องเคืองอย่างแน่นอน
เดิมทีม่านเวยอิงก็ได้รับบทตัวประกอบเป็นศิษย์ของสำนักเซียนในเรื่อง กระดูกจอมมาร มาแล้ว เวลาเข้าฉากจะมองเห็นไกล ๆ หรือมุมมองผ่าน ๆ แทบจะไม่เห็นใบหน้า ส่วนบทดีบทเด่นต้นสังกัดฝูหัวย่อมให้ดาราตัวท๊อปไปครอง ม่ายเวยอิงไม่เคยได้รับบทดี ๆ เช่นนี้มาก่อน ดังนั้นโอกาสที่จะได้รับการแนะนำให้ไปแคสถือว่าเป็นโชคที่หล่นมาจากฟ้า หากเป็นเมื่อก่อนไป๋หลันยอมไม่กล้าพาม่านเวยอิงไปแคส ทว่าหลังจากที่เห็นท่วงท่าฟาดกระบี่ของม่านเวยอิง ทำให้เธออยากจะลองดู
“พรุ่งนี้ พี่ไป๋หลันจะมารับฉันไหมคะ”
เสียงใส ๆ ถามขึ้นทำให้ไป๋หลันแทบสะดุ้ง
“มาสิ ... กำหนดการ รายละเอียดตัวบทพี่ส่งไปให้แล้วใน mail เรื่องนี้ค่อนข้างจะกะทันหัน เราไม่มีเวลาเตรียมตัวแต่อย่างไรก็ต้องทำให้เต็มที่...”
ไป๋หลันพูดด้วยน้ำเสียงค่อนข้างจะเรียบเฉยเธอไม่อยากจะกดดัน เด็กเท่าไรนัก
“ค่ะ”
ม่านเวยอิงรับคำอย่างว่าง่ายเหมือนอย่างเคย
ไป๋หลันพยักหน้าบอกให้สาวน้อยขึ้นไปพักผ่อน