อาเชอร์ถอนใจแรงๆ เขายกมือลูบเป้ากางเกงแล้วก็บ่นพึมพำ “แกจะแข็งตั้งเด่ไม่เลือกเวลาแบบนี้ไม่ได้นะโว้ย!! แกเห็นไหม แม่นั่นดูแคลนแกทั้งขั้นนั้น ยังพิศวาสหล่อนอยู่อีกหรือไงวะ” หลังจากนั้นอาเชอร์ก็ลากขาตัวเองกลับเข้าห้องพัก เขาสลัดเสื้อผ้าทิ้ง กระโจนลงไปในอ่างอาบน้ำใช้น้ำเย็นจัดเพื่อสะกัดความพลุ่งพล่านที่เกิดขึ้น เขานั่งแช่น้ำเย็นเกือบสามสิบนาที ในที่สุดความอหังการของเขาก็สงบลงได้
“เจ้านายหิวมั้ยครับ?” เคเดนตะโกนถามอยู่หน้าห้องน้ำ
“สั่งไวน์ให้สักขวดนะ วันนี้กูอยากเมา” อาเชอร์ตะโกนสวน
เขาไม่เคยรู้สึกขายขี้หน้าใคร เท่ากับวันนี้มาก่อน เป็นประสบการณ์แย่ๆ ที่เขาอยากลืม แต่กลับไม่สามารถลืมได้ ตอนที่หลับตาลง ภาพของหญิงผู้นั้นก็ผุดขึ้นมา ความพลุ่งพล่านที่ทำท่าว่าจะสงบ กลับกระพือขึ้นมาอีก อาเชอร์กัดกรามกรอดๆ มือกำขอบอ่างจนเกือบแตกคามือ
ความปรารถนาของเขาที่เคยมีกับเพศหญิงไม่เคยรุนแรงเท่านี้มาก่อน เขาเองก็ไม่เข้าใจ อะไรทำให้เขาปรารถนาหญิงผู้นั้นมากมายขนาดนี้ หลังคบคิดอยู่นาน อาเชอร์เลยเข้าใจ ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนเชิดใส่เขา ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนรังเกียจการสัมผัสจากเขา ผู้หญิงคนนั้นเป็นคนแรก หล่อนจุดประกายความอยากเอาชนะของเขา สัญชาติญาณนักล่าที่เคยนิ่งสงบเลยตื่นขึ้นมา
ใช่เลย...มันต้องใช่แน่ๆ มันก็แค่ความรู้สึกอยากชนะเฉยๆ
ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้มีอิทธิพลกับเขามากขนาดนั้นสักหน่อย
อาเชอร์ทรงตัวยืนหลังปลงตก เขาฉวยผ้าเช็ดตัวมาพันช่วงล่างกันความอุจาด แต่ก็หมิ่นแหม่จนน่าใจหาย แผงอกแน่นตึงของเขากับลอนกล้ามที่เรียงตัวหายลงไปใต้ผืนผ้า และวีเชฟเหนือสะโพกที่หากสาวคนไหนโผล่หน้าเข้ามาเห็น คงได้ร้องกรี๊ดๆ จนสลบ
อาเชอร์เดินเลยไปนั่งบนโซฟาติดหน้าต่างกระจกบานใหญ่ เขามองเหม่อไปด้านนอก มีนกนางนวลบินโฉบไปมา และท้องทะเลสีฟ้าคราม
ก๊อกๆ
เคเดนเดินไปเปิดประตู อาหารที่เขาสั่งให้เจ้านายมาส่งแล้ว
ผู้หญิงสาวสวยรูปร่างดีคนหนึ่งเข็นรถเข็นขนาดใหญ่เข้ามาเสิร์ฟถึงที่ หญิงผู้นั้นสะดุดเล็กน้อยตอนที่สายตาบังเอิญตวัดผ่านจุดที่อาเชอร์นั่งอยู่ เคเดนกดยิ้มมุมปาก ผายมือไปอีกทาง ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับจุดที่อาเชอร์นั่ง
จังหวะการเดินเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด หล่อนจงใจทิ้งสะโพกและขยับตัวช้ากว่าเดิม
เคเดนส่ายหน้าปรามเสียงแผ่วๆ “อย่าเสียเวลาเลย เจ้านายผมหิว และไม่ต้องการผู้หญิงตอนนี้”
ป่านหน้าชา ริ้วแก้วขึ้นสีจัด เธอถูกปรามาสซึ่งๆ หน้า แถมเถียงไม่ได้เสียด้วย การทำงานบนเรือสำราญที่ใช้เวลานานในการพักผ่อนของเศรษฐีกระเป๋าหนัก นอกจากดื่มกินแล้วก็มีผู้หญิงอีกอย่างที่สร้างความบันเทิงให้ มีผู้หญิงหลายคนซื้อตั๋วขึ้นเรือเพื่อมาแสวงโชค หลายคนได้ดิบได้ดี กลายเป็นเศรษฐีหลังจากลงจากเรือ ซึ่งป่านเองก็ต้องการความโชคดีเช่นนั้นบ้าง แต่คงเพราะเธอก็แค่ผู้หญิงบ้านนอก ไม่มีความรู้ สื่อสารกับผู้โดยสารกระเป๋าหนักเหล่านั้นไม่ได้ เธอเลยต้องปรับเปลี่ยนตัวเอง ใช้เวลาสำหรับแก้ไขสิ่งที่ตัวเองทำไม่ได้ ระหว่างนั้นก็ทำงานบนเรือ เก็บเกี่ยวประสบการไปก่อน จนกระทั่งตอนนี้ น่าจะถึงเวลาของเธอแล้ว หากตกผู้ชายกระเป๋าหนักๆ ได้สักคน เธอคงสามารถลืมตาอ้าปากได้สักที
และลูกค้ารายนี้ เขาหล่อและโดดเด่นกว่าลูกค้ารายอื่น
ป่านจ้องรอจังหวะ และเมื่อโอกาสเปิดให้เธอ ป่านไม่รีรอที่จะทำตามสิ่งที่ตัวเองวาดหวังไว้
ตอนที่ 4.สาวเสิร์ฟสะบัดช่อ
ชุดสาวเสิร์ฟเล็กไปสักนิดสำหรับพบูที่มีรูปร่างเหมือนนาฬิกาทราย เอวเธอเล็กค่อดกิ่ว แต่สะโพกกับผายตึง ชุดที่คนทั่วไปใส่แล้วธรรมดา แต่เมื่อมาอยู่บนร่างกายพบู กลับตรงกันข้าม
“มีจักรเย็บผ้าไหมคะ ฉํนคิดว่าชุดนี้มันคับไปสักนิด” พบูส่ายหน้าแทบทนมองตัวเองผ่านกระจกเงาไม่ได้
“เราไม่เคยต้องแก้ชุดมาก่อนเลย ทนเอาหน่อยนะ เธอทำพาร์ทไทม์แค่เจ็ดวันเองไม่ใช่เหรอ?” บรรจงย่นจมูก ชุดที่พบูสวมไม่ได้แย่สักนิด ขนาดตัวเองที่เป็นเพศเดียวกันยังมองว่าสวย แล้วในสายตานักเที่ยว คงมองอย่างชื่นชมจนน้ำลายยืด
“เข็มกับด้ายละคะ พอมีไหม?” พบูถามต่อ เธอคงไม่กล้าเคลื่อนไหว หากชุดที่สวมรัดไปทั้งตัวแบบนี้
“ก็พอมีหรอก แต่เธอจะทำทันหรือไง เหลืออีกไม่ถึงชั่วโมงบาร์ก็จะเปิดแล้วนะ” บรรจงท้วง
พบูถอนใจแรงๆ ช่วงเวลาแสนสั้นนี่ เธอคงทำอะไรไม่ได้ แต่พบูจะไม่ยอมทนอยู่ในชุดที่ทำเอาเธอหายใจแทบไม่ออกแบบนี้ หลังบาร์ปิด เธอคงต้องใช้เวลาว่างๆ นั่นแก้ไขชุดนี้ ไม่อย่างนั้นอีกหกวันที่เหลือคงรู้สึกเหมือนตกนรก
“วันนี้คงต้องทนไปก่อนค่ะ” พบูบ่นพึมพำ
“เธอนี่แปลกคนนะ เท่าที่ฉันเคยเจอ สาวๆ ส่วนใหญ่ฝันอยากมีรูปร่างแบบนี้ทั้งนั้นเลยนะ แต่เธอกลับไม่ชอบ”
พบูยิ้มแหยๆ ไม่ได้แย้งอะไร เธอไม่เคยพิศวาสรูปร่างเหมือนยั่วผู้ชายตลอดเวลาแบบนี้เลย มันทำให้เธอตกเป็นเป้าสายตาเพศชาย และโดนเพศเดียวกันมองด้วยสายตาผสมความริษยา และหากมีผู้ชายของใครสักคนเกิดต้องตาพบูเข้า ตราบาปนั่นจะถูกโยนมาให้เธอ ทั้งที่พบูไม่เคยมีเจตนาเช่นนั้นเลย
“อ้อ ฉันลืมบอกไป ทิปที่ลูกค้าให้เธอน่ะ เธอสามารถเก็บไว้เองได้เลยนะ เพราะในบิลค่าเครื่องดื่ม ชาร์ทค่าทิปรวมไว้แล้ว แต่บัญชีจะแบ่งให้ตอนสิ้นเดือน เธอคงไม่ได้ทิปส่วนนั้น เพราะเธอทำแค่พาร์ทไทม์ใช่มั้ย?”
“แล้วถ้าบูสนใจอยากทำงานที่นี่ต่อ บูต้องทำยังไงคะ?” พบูถามต่อ
บรรจงยิ้มแปลกๆ “ไม่ต้องทำอะไรเลย พอเรือจอดเธอก็แค่กลับมาหาฉันแล้วเซ็นสัญญาจ้างก็เท่านั้นเอง”
พบูพยายามสลัดแววตาที่เห็นจากบรรจงทิ้ง แต่เธอกลับทำไม่ได้ ในแววตานั่นบอกอะไรหลายๆ อย่างทั้งเยาะหยันและดูแคลน
“อย่าไปสนใจเลยยัยบู แกควรชินได้แล้วกับแววตาแบบนี้” พบูปรามตัวเอง
หลายครั้งที่เพศเดียวกันทำลายศักดิ์ศรีและสบประมาทเธอ มันช่วยไม่ได้ที่เธอเกิดมาแล้วหน้าตาดีกว่าคนอื่น คนที่มองคนอื่นผิวเผินก็มักจะคิดแบบนี้ แต่หากได้พิจารณาเนื้อแท้ของพบู ความคิดของพวกเขาจะเปลี่ยนไปเอง
“ขอโทษค่ะ ฉันเป็นพนักงานใหม่ เขาให้ฉันมาทำงานตรงนี้ ฉันต้องทำอะไรบ้างคะ” พบูเดินมาถึงจุดที่ตัวเองต้องทำงาน เธอพูดเสียงหวานแล้วก็พยายามผูกมิตรให้ได้มากที่สุด
เกื้อยิ้มแหยๆ “ผมจำคุณได้ คุณเป็นนักท่องเที่ยวนี่ครับ”
“เมื่อหกชั่วโมงก่อนใช่ค่ะ ฉันมาในฐานะนักท่องเที่ยว แต่เวลานี้เปลี่ยนไปแล้ว ฉันมาทำงานที่นี่ ในฐานะบาร์เทนเดอร์”
“อ้อครับ คุณเคยทำงานแบบนี้มาก่อนไหมครับ งานไม่ยาก แค่เสิร์ฟเครื่องดื่มตามที่ลูกค้าสั่ง พอบาร์ปิดก็หมดหน้าที่” เกื้ออธิบายด้วยความใจเย็น
“ฉันเคยทำมาก่อนค่ะ แต่ไม่ค่อยแน่ใจว่าฉันจะจำเมนูเครื่องดื่มได้ทั้งหมดตอนนี้”
“ผมอยู่ตรงนี้กับคุณครับ ถ้าไม่เข้าใจคุณถามผมได้ ผมชื่อเกื้อนะ คุณละครับชื่ออะไร?” เกื้อถามกลับ
“พบูค่ะ เรียกบูก็ได้ ยินดีนะคะที่ได้ร่วมงานกัน”
เกื้อเปิดประตูเตี้ยๆ ให้พบูเดินเข้ามาด้านใน จากนั้นเขาก็อธิบายคร่าวๆ เกี่ยวกับเครื่องดื่มที่วางไว้ด้านหลัง กับการผสมเครื่องดื่มที่ลูกค้าส่วนใหญ่ชอบ พบูใช้เวลาไม่นานสำหรับการทำความเข้าใจ เธอเตรียมสมุดโน้ตมาด้วย เพื่อจะได้ไม่รบกวนเพื่อนร่วมงานบ่อยครั้ง เกื้อเลิกหัวคิ้วขึ้นสูง เขาเคยผ่านการมีบัดดี้มาหลายคน แต่ทุกครั้งหากเป็นผู้หญิง เขาจะต้องทำงานหนักมากขึ้น เพราะผู้หญิงส่วนใหญ่ที่มาถึงตรงจุดนี้ หล่อนไม่ได้ต้องการทำงานหนัก ส่วนใหญ่มาเพราะอยากจับลูกค้ารวยๆ ซึ่งเกิดขึ้นบ่อย จนเกื้อระอา
ครั้งแรกที่เขาเห็นพบู เกื้อถึงกับกลอกตา
คืนนี้เขาคงเหนื่อยหนักกว่าเดิม แต่แล้วพบูก็ทำให้เขาแปลกใจ เธอจดรายละเอียดแบบไม่มีตกหล่น ท่าทางตั้งใจจริงจนอคติในใจของเขาค่อยๆ ลดลง
“ทำไมถึงมาทำงานนี้ได้ละครับ?” เกื้อถามตอนที่บาร์เปิดไปได้สักพัก