หอประมูลไป๋หลง…
‘นี่หรือหอประมูลไป๋หลงช่างยิ่งใหญ่อลังการงานสร้างดีแท้ น่าอัศจรรย์จริง ๆ คนยุคลมปราณเนี่ย’ ครั้งแรกที่ไป๋ลี่หลินได้เข้ามาในเมืองที่มีแต่คนในยุคลมปราณแท้ ๆ ทุกอย่างมันดูตื่นตาตื่นใจเป็นที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการแต่งกายของผู้คนและบรรยากาศของเมืองหลงไม่น่าเชื่อว่านางได้มาสัมผัสแล้วจริง ๆ และหอประมูลนี่อีกมันทั้งงดงามและอลังมาก ๆ นางชักอยากจะรู้แล้วว่าหอประมูลนี้จะทำเงินได้มากน้อยแค่ไหนในแต่ละวัน
“ต้าฝูเราไปแลกเงินกัน”
“ทำไมไม่ไปเอาจากส่วนแบ่งที่หอประมูลล่ะขอรับ” ต้าฝูแนะนำผู้เป็นนาย เมื่อมีรายได้จากหอประมูลอยู่แล้วยังจะต้องไปแลกเงินทำไมให้ยุ่งยากและเสียเวลา
“ก็ข้ายังไม่อยากให้ใครรู้ว่าข้ามาอย่างไรเล่า นั่นไงมีจุดแลกเงินของหอประมูลด้วย” ลี่หลินชี้มือบอกกับต้าฝูทั้งยังลากอสูรหนุ่มตัวโตติดมือไปด้วย
“พวกเจ้าสองคนต้องการอะไร” เสียงกระแทกกระทั้นส่งออกมาจากด้านในด้วยความมั่นใจว่าตัวเองนั้นสวยทั้งยังมีพลังปราณถึงขั้นห้า ก็ถือว่าสูงทีเดียวสำหรับสาวน้อยวัยสิบสี่ปีในแดนมนุษย์ และด้วยเป็นถึงศิษย์สายในของสำนักมังกรสายฟ้าเจียอิงโดยเนื้อแท้ก็เป็นเด็กที่เอาแต่ใจอยู่แล้ววาจาของนางถึงได้สามหาวและไม่ใคร่จะไว้หน้าผู้ใด...
‘นั่นไงนางอิจฉาเห็น ๆ จิ ๆ พลังเทียบเท่าหางอึ่งช่างไม่ดูตาม้าตาเรือเสียจริงเสียชื่อโรงประมูลของข้าหมด’ แค่ได้ยินเสียงของสาวน้อยนางนั้นมันเกือบจะทำให้ลี่หลินปรี๊ดแตกเลยทีเดียว
“ข้าต้องการแลกเงิน เจ้าเป็นผู้ดูแลที่นี่รึ” ลี่หลินถามด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง
“ก็แค่แลกเงิน เจ้าจะถามหาผู้ดูแลทำไมกัน”.
‘เอ๊ะ! ยัยเด็กนี่วอนซะแล้ว’ ลี่หลินกำลังคิดจะตอบโต้วาจาสามหาวของเจ้าเด็กนั่น แต่แม่นางน้อยนิสัยเสียกลับมีระฆังมาช่วยพอดี ‘เฮอะ! โชคดีไปนะเธอ’
“เจียอิง!!” ‘ฮึ่ยย ใครส่งนางมากัน’ เถียนซาคือผู้ดูแลที่นี่ มาทันได้ยินวาจาของเด็กที่ทางสำนักได้ส่งมาให้เป็นผู้ช่วยของเขาพอดี
“ท..ท่าน ท่านผู้อาวุโสเถียน ข..ข้า”
“เจ้าไปซะ..รีบออกไปอย่ามาเกะกะข้า” เขาไล่นางก่อนจะหันมาคุยกับลูกค้า “ขออภัยนายท่าน ข้าน้อยเถียนซายินดีรับใช้นายท่านทั้งสอง ช่วงนี้เด็ก ๆ จากสำนักมังกรสายฟ้าถูกส่งออกมาช่วยทำงานมากมายหลายหน้าที่ในเมืองหลง พวกเขาไม่ได้ผ่านการอบรมมารยาทมาก่อน ข้าน้อยต้องขออภัยจริง ๆ ขอรับ”
“ทำไม? คนไม่พอหรือถึงต้องใช้งานเด็ก ๆ จากสำนัก” ลี่หลินถามอย่างใคร่รู้ เพราะที่ประตูเมืองนางก็เห็นเด็กหนุ่มหลายคน ที่สวมใส่ชุดเครื่องแบบคล้าย ๆ กัน แต่เด็กหนุ่มเหล่านั้นไม่ได้ไร้มารยาทเช่นเด็กสาวเมื่อครู่นี้ นางคิดว่ามันไม่ได้เกี่ยวกับการอบรมเสียทีเดียว คงเกี่ยวกับสันดานของคนมากกว่า
“อีกสามวันจะถึงงานประมูลใหญ่มีผู้คนทั่วสารทิศและคนต่างแคว้นพากันเดินทางมายังเมืองของเรา ทุก ๆ ที่เลยต้องใช้คนมากกว่าปกติ ศิษย์ของสำนักจึงเป็นตัวเลือกที่ดี และเด็ก ๆ ก็จะได้ทั้งประสบการณ์และมีรายได้ขอรับ”
“อืมข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นท่านช่วยแลกเงินให้ข้าที” ลี่หลินพยักหน้าเป็นเชิงบอกว่านางเข้าใจแล้ว พร้อมกับเรียกหินปรานระดับต่ำห้าก้อนและหินปรานระดับสูงอีกห้าก้อนออกจากแหวนมิติ พรึ่บบ! แกร็กก!
‘อาา มีหินปรานเยอะขนาดนี้เชียวและยังเป็นหินปรานระดับสูงถึงห้าก้อนหรือว่าจะเป็นกลุ่มอำนาจจากที่ไหนสักแห่ง’ เถียนซาตะลึงและอดคิดในใจไม่ได้ ก็หินปรานนั้นหายากพอ ๆ กับแกนอสูรที่ได้มาจากสัตว์อสูรเลยทีเดียว ไม่ว่าจะระดับต่ำหรือสูงก็ล้วนหายากทั้งนั้นสำหรับคนแดนล่าง ไม่แปลกที่มันจะเป็นที่ต้องการของผู้คน เพราะในแกนอสูรและหินปรานนั้นอัดแน่นไปด้วยพลังปราณมันจึงจำเป็นอย่างมากสำหรับผู้ฝึกปราณทั่วไป
“ที่นี่ไม่รับแลกหินปรานรึ”
“อ่อ..แลกขอรับเรารับแลกแน่นอน ว่าแต่ท่านต้องการแลกทั้งหมดนี่เลยหรือขอรับ”
“อืม..เร็วหน่อยนะข้าหิวข้าว” ลี่หลินเร่งผู้ดูแลให้เร็วขึ้น เพราะอยากออกไปหาของกินเต็มทน
“ได้ได้ขอรับ” ผู้ดูแลเถียนรีบเร่งทำงานทันที ถ้าเกิดลูกค้าเปลี่ยนใจ ขึ้นมาเขาจะแย่เอาได้
“ทั้งหมด 5,005,000 ตำลึงทองหรือว่าท่านจะรับเป็นตั๋วเงินก็ได้นะขอรับ”
“ข้าต้องการเป็น 5,004,000 ตำลึงทองกับอีก 100,000 ตำลึงเงิน ข้าไม่ต้องการตั๋วแลกเงิน” ลี่หลินตอบเพราะนางอยากจะเห็นตำลึงทองของจริงว่ามันจะเป็นทองจริง ๆ ไหม ในเมื่อมีแหวนมิติเก็บของตั๋วแลกเงินพวกนั้นจะเอามาทำไมกัน ของแบบนั้นมันดูไร้ค่าจะตาย
“รอข้าน้อยสักประเดี๋ยวขอรับ” ผู้ดูแลเถียนกล่าวพร้อมกับเดินเข้าไปเพื่อจัดการเรื่องเงิน
“นี่เจ้ายังไม่ไปอีกหรือ?” เถียนซาเอ่ยถามเด็กสาวที่เขาเพิ่งจะออกปากไล่ไปเมื่อครู่นี้
“โธ่..ท่านผู้อาวุโส กว่าข้าจะได้มาทำงานที่หอประมูลมันไม่ง่ายเลยนะเจ้าคะ แล้วพวกเขาเป็นใครกันข้าไม่เห็นจะจับสัมผัสพลังของพวกเขาได้เลย ชิ..ก็แค่คนธรรมดาละน่า” เด็กสาวกล่าวอย่างดูแคลน
ผู้อาวุโสเถียนมองหน้านางพร้อมกับส่ายหน้าอย่างระอาใจทำไมเขาจะไม่รู้ความหมายของนาง ศิษย์สำนักที่เป็นสตรีต่างก็แย่งชิงเพื่อที่จะมาทำงานให้กับหอประมูลด้วยกันทั้งนั้น นั่นเป็นเพราะเจ้าของหอประมูลอย่างไรเล่า ด้วยความที่เป็นบุรุษรูปงามและร่ำรวยทั้งยังมีพลังปรานสูงส่ง และที่สำคัญกว่านั้น นายท่านของที่นี่ยังไม่มีสตรีในดวงใจอีกจึงเป็นที่หมายปองของสตรีทั่วแคว้น ‘ท่านรีบแต่งภรรยาเสียทีเถอะนะนายท่าน สตรีเหล่านี้จะได้หยุดเพ้อเสียที’ เถียนซาได้แต่ภาวนา เขาไม่รู้หรอกว่าสิ่งที่เขาภาวนาไปนั้นมันจะสำแดงผลในเร็ววัน
“จะเป็นใครก็ใช่ว่าเจ้าจะไปแตะต้องได้ พลังน่ะถึงสัมผัสไม่ได้ก็ใช่ว่าจะไม่มี ข้าขอเตือนเจ้าหากอยากจะทำงานที่นี่ต่อก็อย่าได้ไปหาเรื่องพวกเขาจำเอาไว้” เถียนซากล่าวตักเตือนอย่างจริงจังก่อนจะเดินออกไปเมื่อได้สิ่งของที่ต้องการครบแล้ว
“เจ้าค่ะผู้อาวุโส” เจียอิงจำใจต้องรับคำด้วยความขัดใจ ไม่เช่นนั้นคงไม่ได้มาทำงานที่นี่ต่อ ก็ตั้งแต่มาทำที่นี่นางยังไม่ได้เจอหน้าคุณชายรองเลยนะ ต่อให้อยู่ในสำนักก็ใช่ว่าจะเจอคนผู้นี้ได้ง่ายดายเสียเมื่อไหร่
“ขออภัยที่ให้ท่านรอนาน ในแหวนนี้คือเงินของท่าน โปรดตรวจสอบดูได้ขอรับ”
“อืม ขอบคุณท่านมาก” ลี่หลินกล่าวพร้อมกับถ่ายโอนเงินเข้าสู่แหวนมิติของตนเอง…
“หากข้าจะส่งของเข้าประมูลจะต้องติดต่อกับผู้ใดหรือ” ลี่หลินถามเพราะนางอยากเข้าไปมีส่วนร่วมในการประมูลจริง ๆ นะ นางอยากจะเห็นบรรยากาศการประมูลของที่นี่ว่าจะคล้ายคลึงกับโลกเดิมของนางหรือไม่ มันจะอลังการแค่ไหนกันเชียว
“ท่านติดต่อได้เลยที่ชั้นสองและถามหาผู้ดูแลหยวนฟา แต่หากท่านจะให้ข้าน้อยพาไปก็ได้นะขอรับ”
“โอ้..ขอบคุณท่านมากไว้ข้าค่อยมาใหม่ เราไปกันเถอะต้าฝูไปกินข้าวกัน”
“ขอรับนายหญิง” เหมือนเหยี่ยวหนุ่มจะรอคำนี้มานานจึงได้ถอนหายใจอย่างโล่งอก
ยามอู่ [11.00-12.59 น.]
ที่เหลาอาหารอวี้หยางของตระกูลหยางบนชั้นสามภายในห้องส่วนตัวของคนตระกูลหลง ครอบครัวสายหลักของตระกูลหลงจะมาร่วมรับประทานอาหารด้วยกันที่นี่อาทิตย์ละครั้งเป็นอย่างน้อย
“ท่านแม่ลองทานนี่หน่อยขอรับ ข้าขอลงครัวเองแต่ไม่แน่ใจว่าจะถูกใจท่านแม่หรือไม่” สะใภ้ใหญ่เหยียนลู่ตักปลานึ่งบ๊วยดองให้กับแม่สามีอย่างเอาใจ
“ลู่เอ๋อร์ทำอะไรก็อร่อยทั้งนั้นแหละแม่ชอบทุกอย่างยกเว้นของเผ็ดๆ นั่น แม่กินกับพวกเจ้าไม่ได้เลย”
“ท่านแม่ไม่รู้อะไร จานนี้แหละแซ่บสุด ๆ เขาเรียกว่าอะไรนะเจ้าคะพี่สะใภ้”
“จานนี้เขาเรียกว่ายำรวมมิตรทะเล ส่วนจานนั้นปลาลุยสวน” เหยียนลู่ตอบน้องสามีอย่างคล่องแคล่ว
“สำหรับพี่นะ..พี่กินได้ทุกอย่างที่ลู่เออร์ทำ” เฟยหรงบอกภรรยาพร้อมส่งสายตาหวานเชื่อมให้กัน
โถ..คุณชายใหญ่ท่านช่างหวานกับภรรยาโดยไม่ดูหน้าของคุณชายรองเลยนะ
“อะแฮ่ม พี่ใหญ่ท่านก็เกี้ยวพาพี่สะใภ้ได้ทุกที่เลยนะเจ้าคะ เห็นใจพี่รองมั่งคนยังไม่ได้แต่งเมียน่ะ คิคิ”
“อันเอ๋อร์ เจ้าเด็กนี่พูดจาไม่น่าฟังเอาเสียเลย แค่คู่ครองพี่รองของเจ้าอาจจะยังไม่ทันเกิดก็เป็นได้จริงหรือไม่” ฮูหยินหลงกล่าวตำหนิพร้อมกับชายตามองลูกชายคนรองเล็กน้อย
“.......” เทียนหรงนั่งทอดถอนหายใจอย่างหน่ายแหนง ทุกครั้งที่ครอบครัวได้อยู่กันพร้อมหน้าก็จะเป็นดังเช่นตอนนี้เหมือนว่าเขาจะโดนรุมอีกแล้ว
ก๊อกก๊อก..ครืดดดด “ขออนุญาติขอรับ”
“มีอะไร” เทียนหรงถามออกไป เพราะรู้ว่าเป็นคนของตน
“มีการแลกหินปราณที่หอประมูลขอรับ”
“มันก็มีบ้างมิใช่หรือที่จะมีคนเอาหินปราณมาแลกเป็นเงินในยามนี้” มันคงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีคนเอาหินปราณมาแลกเป็นเงินในช่วงเวลาที่จะมีงานประมูลเช่นนี้ เทียนหรงไม่ได้ตื่นเต้นหรือแสดงอาการใด ๆ ออกมา
“แต่มีหินปราณระดับสูงถึงห้าก้อนเลยนะขอรับ”
“หืม..เป็นใครกันถึงกับมีหินปราณระดับสูงไว้ครอบครอง ตรวจสอบได้หรือไม่” นานมาแล้วที่เทียนหรงไม่ได้เห็นหินปราณระดับสูงมันนานมาแล้วจริง ๆ คงจะเป็นเวลาเกือบสิบปีเห็นจะได้ ก็ตั้งแต่ไป๋จวินไม่อยู่นั่นแล้ว ส่วนคนที่มีไว้ในครอบครองก็คงไม่เอามาแลกเป็นเงินง่าย ๆ หรอก
“ตรวจสอบไม่ได้ขอรับ รู้แค่เพียงเป็นหนึ่งสตรีและหนึ่งบุรุษขอรับ และพวกเขาก็อยู่ที่นี่แล้วขอรับ”
“อยู่ที่เหลาอาหารน่ะหรือ”
“ขอรับนายท่าน”
ที่ชั้นสองของเหลาอาหารอวี้หยาง...
“ที่นี่หรือที่มีอาหารแปลก ๆ และอร่อยที่สุดของเมืองหลง”
“ไม่ผิดขอรับ นายท่านโชคดีมากที่มาวันนี้ เพราะทุก ๆ ครั้งที่ครอบครัวของท่านประมุขหลงมาทานอาหารที่นี่ ก็จะมีอาหารแปลก ๆ และรายการอาหารพิเศษมากมายทุกครั้งขอรับ นายท่านจะรับเป็นอาหารพิเศษหรือไม่ขอรับ”
“อืม..เอามาทั้งหมดนั่นแหละ น้ำชาดี ๆ มาด้วยหนึ่งกากับสุราผลไม้ให้ข้าด้วยแค่ไหเล็ก ๆ ก็พอ เร็ว ๆ ด้วยล่ะหนุ่มน้อย”
“ร..รอสักครู่ ข้าน้อยจะจัดการให้เร็วที่สุดขอรับ” คำหยอกเย้าของหญิงสาวผู้ลึกลับทำเอาเสี่ยวเอ้อตัวน้อยเกือบเดินสะดุดขาตัวเองเลยทีเดียว
‘ฮิฮิ..เสี่ยวเอ้อน้อยเหล่านี้..ช่างน่ารักน่าชังเสียจริง’ ลี่หลินคิดในใจพลางก็กวาดสายตามองไปทั่วทั้งชั้น ‘มีแต่ละอ่อนทั้งนั้นท่าจะเป็นศิษย์จากสำนัก อาหารตามันเยอะเสียจริง เฮ้อ..ออกทะเลไปไกลแล้วเราคิก ๆ’
รอไม่ถึงสองเค่ออาหารจานพิเศษทั้งหมดก็ถูกลำเลียงมายังโต๊ะของนาง
“ทานให้อร่อยขอรับนายท่าน หากต้องการสิ่งใดเพิ่มให้เรียกใช้ข้าน้อยได้ทันทีขอรับ” เสี่ยวเอ้อตัวน้อยพูดก่อนจะก้มหน้างุด ๆ ออกไปอย่างเขินอาย
“อือ..ขอบใจ” ลี่หลินกล่าวพร้อมกับยื่นตำลึงทองใส่มือเจ้าเด็กน้อยหนึ่งกำมือ ‘บริการถูกใจนางก็จะทิปหนักเช่นนี้’
“.......” อาา..ตำลึงทองเยอะขนาดนี้เลย เสี่ยวเอ้อน้อยรับไว้แบบงง ๆ ทั้งตื่นเต้นดีใจก็พ้องกัน
“ข้าว่าคนบนโลกเก่าของข้ากำลังจะครองเมืองเป็นแน่ ดูนี่สิต้าฝู ท่านคิดว่าอาหารของที่นี่แปลกหรือไม่ มันเหมือนกับอาหารที่ข้าทำไม่ผิดเพี้ยนเลยสักนิด” ลี่หลินคิดว่าคงจะมีใครบางคนที่มาจากโลกเดียวกันกับนางเป็นแน่ ก็เพราะอาหารจานพิเศษที่ว่าแปลกแต่กลับไม่ได้แปลกสำหรับนางเลยสักนิด
“ไม่แปลกเลยขอรับ ที่นายหญิงทำให้ข้ากินแปลกยิ่งกว่า”
แน่นอนสิไม่แปลกก็บ้าแล้ว ส้มตำไก่ย่างไหนจะลาบก้อยซอยจู๊เอย เมนูท้ายสุดเป็นของโปรดพ่อเหยี่ยวหน้านิ่งเลยนะขอบอก
“รีบกินเถอะ เรายังไม่ได้ไปหาที่พักเลยนะ จานเนื้อมีแค่จานเดียวคือสเต็กเนื้อ งั้นสเต็กนี่ข้ายกให้ท่านแล้วกัน”
“มันเรียกสเต็กหรือขอรับ มันไม่ใช่เนื้อย่างหรอกหรือ” พ่อเหยี่ยวหน้าตายพูดพลางก็คีบเนื้อชิ้นใหญ่เข้าปาก
“ฮ๊ายย..นี่ท่านไม่เห็นอุปกรณ์เสริมที่เขาให้มาหรือยังไง มีดกับส้อมข้าก็เคยสอนให้ท่านใช้แล้วไม่ใช่หรือ นั่น ๆ เลอะเหมดแล้วตกลงว่าศิษย์พี่ให้ท่านมาดูแลข้าหรือให้ข้ามาดูแลท่านกันแน่เนี่ย”
“ก็ย่อมเป็นข้าดูแลท่านอยู่แล้วขอรับนายหญิงของข้า เพียงแต่ข้าไม่ถนัดใช้อุปกรณ์เสริมพวกนี้นี่ กลับไปท่านทำเนื้อย่างจิ้มแจ่วให้ข้าทานได้ไหมขอรับ อ้อ..แล้วท่านจะทานแค่จานนั้นหรือ” ก็ไหนบอกว่าหิวมากอย่างไรเล่าอาหารที่อยู่เต็มโต๊ะนี่ล่ะนางจะสั่งมาทำไมเยอะแยะหากจะกินแค่จานเดียว ตาฝูไม่เข้าใจนายของตนจริง ๆ ตกลงว่านางหิวหรือไม่หิวหรือไม่หิวกันแน่
“ข้ากินแค่เจ้ายำนี่แหละ ข้าไม่ชอบอาหารจืดชืด” หึ ๆ ช่างเรียกร้องเสียจริงพ่อเหยี่ยวหน้าตาย เครื่องปรุงน้ำจิ้มแจ่วของข้าจะหมดครัวอยู่แล้วนะ
‘นี่ถ้าฮูหยินน้อยมาได้ยินจะเกิดอะไรขึ้นนะ’ เสี่ยวเอ้อน้อยทียืนรอให้บริการอยู่ไม่ไกลก็ได้แต่คิด เมื่อหลีกเลี่ยงที่จะได้ยินการสนทนาของนายท่านทั้งสองไม่ได้