เวลาเดียวกันที่ชั้นสามครอบครัวหลงก็ยังอยู่กันครบถ้วนทุกคน...
“หลุนคุนพวกเขายังอยู่ที่นี่หรือไม่” เทียนหรงเอ่ยถามองครักษ์คนสนิท
“ยังอยู่ขอรับนายท่านและพวกเขายังสั่งแต่อาหารจานพิเศษของฮูหยินน้อยเต็มโต๊ะเลยขอรับ”
“อาหารของข้าหรือแล้วพวกเขาชอบหรือไม่ล่ะ ประหลาดแท้คงแค่อยากชิมของใหม่ ๆ กระมัง” ฮูหยินน้อยเอ่ยถามอย่างกระตือรือร้น น้อยคนนักที่จะสั่งอาหารจานพิเศษของเขาทุกอย่างแบบนี้
“เอ่อ..คือว่า บุรุษผู้นั้นทานแค่เนื้อย่างส่วนสตรีนางทานแค่หยำและพวกเขายังบอกว่ามันธรรมดามากขอรับ” ‘นี่เขาพูดมากไปหรือไม่แล้วเผลอพูดสิ่งใดไปนี่ เขาคงไม่ได้ทำให้ฮูหยินน้อยเสียใจใช่หรือไม่’ แต่ก็ช้าไปแล้ว หลุนคุนพอได้พูดก็พูดเหมือนคนปากรั่ว
พลันเสียงช้อนก็หล่นกระทบจานจนเกิดเสียงดัง แกร๊งง!!!
“ท่านพี่อาหารของข้าไม่อร่อยหรือขอรับ ไม่เคยมีใครว่าอาหารของข้าสามัญเลยสักครั้ง หรือว่าที่ผ่านมาพวกท่านแค่พูดเอาใจข้ากัน แล้วอีกอย่างมันคือยำไม่ใช่หยำนะหลุนคุน ต่อไปใครเรียกผิดข้าไล่ออก” ‘ฮืออ..อะไรกันมีคนไม่ชอบอาหารของข้าด้วยหรือนี่’ เหยียนลู่แทบช็อคกับสิ่งที่ได้ยิน จบกันกับอาชีพเชฟของเขาและถ้วยรางวัลที่เคยได้รับมา
“.......” ‘พี่สะใภ้ หลุนคุน นั่นคนของข้านะ’ คุณชายรองได้แต่เอ่ยขึ้นภายในใจ เขาเองก็รู้สึกเห็นใจพี่สะใภ้อยู่หรอกนะ ที่ผ่านมาไม่เห็นมีลูกค้าคนไหนออกปากว่าอาหารจานพิเศษไม่อร่อยเลยสักครั้ง แต่ครั้งนี้กลับมีคนกล้าไม่กลัวตาย
“ลู่เอ๋อร์ อาหารของเจ้าอร่อยที่สุดพี่ไม่เคยโป้ปดเจ้าเลยนะ ใช่มั้ยขอรับท่านแม่”
“ใช่แล้วจ้ะลู่เอ๋อร์ อาหารของเจ้าขึ้นชื่อที่สุดในเมืองหลงแล้ว เหลาอาหารอวี้หยางของแม่ได้ขึ้นเป็นสาขาอันดับหนึ่งของแคว้นก็เพราะอาหารของเจ้านี่แล้ว ขนาดพ่อสามีของเจ้าที่เป็นคนเลือกกินยิ่งนักยังชื่นชอบอาหารของเจ้าเลย ใช่หรือไม่เจ้าคะท่านพี่”
“อืม...”
โธ่..ท่านประมุขหลงฉีฟาท่านจะพูดแค่อืมไม่ได้นะลูกสะใภ้ของท่านกำลังงอนอยู่
“อันอันคิดว่าพวกเขาคงมาจากแคว้นอื่นกระมัง คงจะไม่คุ้นชินกับอาหารของพี่สะใภ้แน่เลย”
“ขอบคุณทุกคนขอรับ คงจะเป็นอย่างที่อันอันว่า พี่สบายใจแล้วล่ะ”
“ขอบคุณอะไรกัน กำลังใจจากครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นที่สุดอาลู่อย่าคิดมาก” หลังจากที่ไม่ได้พูดมานานท่านประมุขฉีฟาก็ได้กล่าวยาว ๆ เช่นคนอื่นเสียที
“ท่านพ่อ ท่านแม่ ทุกคนข้าขอตัวกลับก่อนขอรับ” เทียนหรงกล่าวลาเสร็จก็รีบร้อนออกจากห้องไปทันที เขาต้องรีบเพียงแค่อยากจะเห็นหน้าสตรีนางนั้นสักนิดก็ยังดี
“.......” เขาจะรีบไปไหน? ทุกคนต่างก็คิดเหมือนกันที่เห็นเทียนหรงรีบร้อนออกไป
“นั่นคือนางใช่หรือไม่” เทียนหรงเอ่ยถามองครักษ์คนสนิท แต่สายตากลับไม่ละไปจากนางสักนิด แม้จะมีผืนผ้าบาง ๆ ปิดบังใบหน้าเขาก็รู้ว่านางนั้นงดงามจริง ๆ และช่างดูเย้ายวน แปลกจริงแปลกที่เขาให้ความสนใจกับสตรีผู้นี้เพียงแค่มองไม่กี่อึดใจ หรือว่าจะเป็นเพราะความลึกลับของนางกัน หัวใจที่เคยเย็นชากับรู้สึกร้อนวูบวาบอย่างประหลาด กว่าจะมีสตรีสักนางทำให้เขาสนใจได้มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่กับแม่นางคนนี้ทั้งที่ยังไม่ได้ทำสิ่งใดเลยสักนิดก็ทำให้เขาสนใจเสียแล้ว เทียนหรงแอบเห็นใบหน้านวลผ่องก็หลายครั้งเมื่อมีสายลมเข้าช่วยส่งเสริม การที่มีธาตุวายุอย่างเขามันก็ดีเช่นนี้แหละ
“ข้าสัมผัสพลังในตัวนางไม่ได้สักนิด แต่บุรุษผู้นั้นกลับมีกลิ่นกายเหมือนสัตว์อสูรมันจะเป็นไปได้อย่างไร สัตว์อสูรที่ใช้ร่างแปลงของมนุษย์ได้จะต้องตัดผ่านระดับเซียนได้เท่านั้นไม่ใช่หรือ แต่ในแผ่นดินนี้ก็ยังไม่เคยปรากฏให้เห็นเลย พวกเขาช่างน่าสนใจจริง ๆ”
“สัตว์อสูรยังงั้นหรือขอรับนายท่าน หรือว่านางจะเป็นผู้ทำพันธะสัญญากับสัตว์อสูรได้ขอรับ”
พูดถึงเรื่องการทำพันธะสัญญากับสัตว์อสูรนั้นมันไม่ง่าย สัตว์อสูรเป็นอสูรที่หยิ่งยโสและไม่ใคร่จะชอบมนุษย์สักเท่าใดนักจึงยากที่จะพานพบได้ทั่วไป การทำพันธะสัญญายิ่งแล้วต้องเป็นผู้ใช้อักขระเท่านั้นถึงจะเป็นผู้สร้างอักขระพันธะสัญญาขึ้นมาได้ ซึ่งหาได้ยากยิ่งในดินแดนนี้หรือต่อให้มีก็ใช่ว่าจะทำได้ง่าย ๆ ต้องมีการยินยอมพร้อมใจที่จะทำพันธะสัญญากันทั้งสองฝ่ายมันถึงจะสัมฤทธิ์ผล
“ก็อาจจะเป็นได้ คอยดูนางต่อไปแต่อย่าให้นางจับได้ล่ะ” เทียนหรงให้ความสนใจหญิงสาวอย่างเปิดเผย เพราะเขาอยากจะรู้ว่านางเป็นใครมาจากแคว้นใดกันแน่ ทำไมถึงได้ทำตัวลึกลับนัก
“อ่อ..อีกอย่าง หากนางหาที่พักไม่ได้ให้เปิดชั้นบนสุดของโรงเตี๊ยมฝูหยางให้นาง บอกหลงจู๊ว่าเป็นคำสั่งของข้า” เทียนหรงมั่นใจว่านางไม่มีทางหาที่พักในเมืองนี้ได้แน่นอน ก็คงมีแค่ห้องของเขาเท่านั้นที่ยังว่างอยู่ หึ ๆ (แหม ๆ ช่างเจ้าเล่ห์ไม่เบานะคุณชาย)
“ขอรับนายท่าน” นายท่านเจอว่าที่นายหญิงแล้วใช่หรือไม่ เรื่องนี้ต้องรู้ถึงหูของท่านประมุขและฮูหยินใหญ่ หลุนคุนกระหยิ่มในใจ
หนึ่งคนกับหนึ่งสัตว์อสูร...
“นายหญิง เราหาที่พักก่อนดีหรือไม่ขอรับ”
“ไม่..ยังมีเวลาเหลืออยู่ข้าจะกลับไปหอประมูลก่อน หรือท่านจะเข้าไปในมิติก่อนก็ได้ข้าอนุญาต”
“ข้าไปกับท่านนั่นแหละดีแล้ว” ใครจะกล้าให้นางไปคนเดียวเล่า ไม่ใช่ว่าเขากลัวนางจะโดนคนอื่นทำร้ายหรอกนะแต่กลัวนางจะเผลอไปแช่แข็งใครเขาเข้าแค่นั้นเอง
หอประมูลไป๋หลง…
“นายท่านทั้งสอ มีสิ่งใดให้ข้าน้อยรับใช้ขอรับ”
‘ยอดเยี่ยมนี่แหล่ะคือการบริการที่ดี อบรมได้ดี’ ไป๋ลี่หลินคิดพลางพยักหน้ารับอย่างพึงพอใจ
“ข้าอยากเอาของเข้าประมูล ข้าต้องคุยกับผู้ใด”
“เชิญด้านบนขอรับข้าน้อยจะพาไปพบท่านผู้ดูแล เชิญขอรับ”
เมื่อขึ้นมาถึงชั้นสอง...
ก๊อก ๆ “ท่านผู้อาวุโสหยวนฟา มีลูกค้าต้องการนำสินค้ามาประมูลขอรับ”
“เข้ามา”
ครืดดด...
“ท่านทั้งสองเชิญนั่ง ข้าน้อยหลงหยวนฟายินดีรับใช้”
“ท่านผู้อาวุโส ท่านเกรงใจเกินไปแล้ว ข้าเป็นเพียงผู้น้อยเรียกข้าแม่นางก็พอ”
“เช่นนั้นก็ได้แม่นาง ท่านต้องการนำสิ่งใดเข้าประมูลหรือ”
“แค่สมุนไพรสองสามชนิด” ลี่หลินตอบพร้อมกับเรียกหีบหยกใบเล็กชั้นดีถึงสามใบด้วยกันมาจากแหวนมิติ
“เชิญท่านผู้อาวุโสตรวจสอบ” นางกล่าวพร้อมกับเปิดหีบแต่ละใบ
“นิ..นี่มัน ข้าคงไม่ได้ตาฝาดใช่หรือไม่ โอ้ว...นี่มันท้ออัคคี ท้อทิพย์มรกตและก็ยังมีกล้วยไม้เหมันต์อีก มันไม่ใช่แค่หนึ่งแต่มีถึงอย่างละสองผลและสองดอก ท่านเป็นใครกันแน่? เอ่อ..ขออภัยแม่นางที่เสียมารยาท ข้าแค่ตกใจและไม่ควรถาม”
“ไม่เป็นไรข้าไม่ถือ ข้าก็แค่แม่ค้าขายสมุนไพรธรรมดา ๆ เท่านั้นเอง” ลี่หลินกล่าวเหมือนว่าสิ่งที่นางนำมาเป็นแค่สิ่งของธรรมดาจริง ๆ
“.......” ‘บัดซบ!!! สมุนไพรธรรมดาบ้านท่านสิ’ และนั่นก็คือความคิดของผู้ดูแลหยวนฟาและต้าฝูสัตว์อสูรหน้าตาย
“อีกสามวันจะเป็นวันประมูลใหญ่ ข้าขอแนะนำท่านว่าของวิเศษเช่นนี้ท่านควรประมูลแยก ทางหอประมูลจะหักหนึ่งส่วนจากสิบส่วนเต็มท่านยอมรับหรือไม่”
“ไม่มีปัญหา แล้วจากบันทึกของหอประมูลเคยมีสมุนไพรเหล่านี้หรือไม่ แล้วราคาที่จบประมูลอยู่ที่เท่าใดกัน”
“เคยมีแต่ก็นานมากแล้วล่ะแม่นาง ส่วนราคาประมูลจบอยู่ที่ 10,000,000 ตำลึงทองเห็นจะได้ แล้วนี่ป้ายห้องสำหรับการชมงานประมูลของท่านโปรดรับไว้ด้วยขอรับ”
‘โอ้มายก้อด...แทนจ๋าเรารวยแล้วลูก’ ลี่หลินดีใจจนเนื้อเต้นที่ได้ยินราคาของสมุนไพรที่นางนำออกมาประมูล ตอนนี้นางไม่ได้รู้สึกเสียดายเงินที่ฝากอยู่ในธนาคารของโลกโน้นแล้ว
“ขอบคุณท่านผู้อาวุโสและนี่ข้าขอฝากของสิ่งนี้ให้กับคุณชายหลงเทียนหรงด้วย” ลี่หลินหยิบเอาหยกสื่อสารยื่นให้กับ ผู้ดูแลหอประมูลแต่นางไม่ได้บอกว่าของสิ่งนี้มันคืออะไร หากมองด้วยสายตาก็จะเห็นว่ามันคือหยกที่มีรูปร่างที่แสนจะแปลกประหลาดยิ่ง