ดูเหมือนจะกลายเป็นเรื่องปกติแล้วเธอไปแล้วที่ต้องตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าตัวเองกำลังนอนหลับสบายอยู่ในอ้อมแขนของใครอีกคน พิณรวีจึงใช้โอกาสนี้นอนมองใบหน้าคมคายของคนที่อยู่ใกล้แค่เอื้อมมือถึงพักใหญ่ ชั่งใจอยู่นานจนในที่สุดก็รวบรวมความกล้าขยับเข้าไปขโมยหอมแก้มสาก แต่ยังไม่ทันจะได้รีบผละออก คนที่ตื่นก่อนนานแล้วกลับลืมตาขึ้น และไม่ทันจะได้ตั้งตัวเตรียมใจ รู้ตัวอีกทีเธอก็ถูกคร่อมไว้ ด้วยร่างสูงใหญ่ของคนที่แกล้งหลับได้อย่างแนบเนียน
“พี่ชิน…”
“ขโมยหอมแก้มคนอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษทั้งจำทั้งปรับนะครับ!” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้น ก่อนจะลงโทษคนดื้อเงียบด้วยการก้มลงไปจูบเบาๆ ที่แก้มซ้ายก่อนจะย้ายไปที่แก้มขวาเพื่อไม่ให้น้อยหน้า
“เย็นนี้พี่ไปรับเหมือนเดิมนะ” จนเมื่อกอดหอมจนพอใจแล้ว เสียงเข้มถึงได้เอ่ยขึ้น ด้วยไม่ค่อยชอบใจที่อีกฝ่ายนั่งแท็กซี่กลับบ้าน
“เย็นนี้พีชมีประชุมหลังเลิกงานค่ะ”
“ไม่เป็นไร พี่รอได้”
“แต่พีชไม่อยากให้พี่ชินรอนี่คะ ไว้เจอกันที่บ้านดีกว่า นะคะ พีชจะรีบกลับค่ะ สัญญา” เพราะความช่างอ้อนของคนตรงหน้าทำให้ดรัณภพไม่ทันได้สติ รู้ตัวอีกทีก็เผลอตบปากรับปากอีกคนไปแล้ว
“ก็ได้ครับ แต่เช้านี้ต้องให้พี่ไปส่งนะ ห้ามดื้อ” พิณรวียิ้มรับก่อนจะให้รางวัลคนน่ารักด้วยการขยับไปหอมแก้มเขาสองฟอดใหญ่
“พีชเคยดื้อกับพี่ชินด้วยเหรอคะ!” นี่ก็ดื้ออยู่…ดื้อที่ชอบทำให้เขาใจสั่นจนพาลจะทนไม่ไหวเผลอทำมากกว่าจูบ ซึ่งหากเขาจะทำก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะตอนนี้เขากับเธอไม่ใช่เป็นแค่เพื่อนบ้านกันอีกแล้ว แต่เป็นคนรัก คนรักที่แม้จะไม่มีการผูกมัดมาเกี่ยว
แต่เขาก็รู้สึกหวงแหนเธอมากขึ้นไปทุกวันอยู่ดี…
ตลอดทั้งวันพิณรวีทำงานอย่างใจลอย สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นหลังจากที่เธอได้รับข้อความจากใครบางคน ใครบางคนที่ทำให้เธอต้องรีบออกมาพบทันทีที่ประชุมเสร็จ ใครบางคนที่ถึงกับลอบยิ้มเมื่อในที่สุดคนที่เขาสู้อุตส่าห์นั่งรอเกือบชั่วโมงก็ปรากฏตัวลงตรงหน้ากัน
“คุณอา…มาถึงนานแล้วเหรอคะ พีชขอโทษค่ะ พอดีพีชเพิ่งประชุมเสร็จ” พิณรวีกล่าวขอโทษพร้อมทั้งทิ้งตัวลงนั่งทันทีเมื่อมาถึง
“อาเพิ่งมาถึงสักพักนี้เอง อาสั่งของโปรดของหนูพีชไปแล้วสองสามอย่าง แต่ถ้าหนูพีชอยากได้อะไรเพิ่มสั่งได้เต็มที่เลยนะครับ” เสียงเข้มตอบรับ ก่อนจะจ้องมองคนตรงหน้าด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรัก แม้จะรู้ดีอยู่เต็มอกว่าอีกฝ่ายนั้นไม่ได้รักตัวเอง แต่ก็เชื่อว่าเขาจะสามารถทำให้หนูพีชรักเขาได้ในที่สุด เหมือนอย่างที่ครั้งหนึ่ง เขาเคยทำให้อดีตภรรยารัก และยอมแต่งงานใช้ชีวิตคู่ด้วยกัน
“แค่นั้นก็พอแล้วค่ะ”
“พอดีอาขึ้นมาทำธุระที่กรุงเทพ เลยเอารูปห้องที่จัดไว้ให้มาให้หนูพีชดู เป็นแบบที่หนูพีชชอบทุกอย่างเลยนะ หรือถ้าไปดูแล้วไม่ชอบ หนูพีชอยากเปลี่ยนอะไรตรงไหนก็ได้ เดี๋ยวอาสั่งให้คนจัดการให้” ท่าทีของคนตรงหน้าทำให้พิณรวีเลี่ยงไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปรับเอาโทรศัพท์จากท่านมาดู พลันหัวใจเธอก็เจ็บเสียดขึ้นเมื่อพบว่าเวลาที่ตัวเองร้องขอจากคนตรงหน้านั้น ใกล้จะหมดลงเข้าไปทุกที
“ขอบคุณมากค่ะคุณอา พีชชอบทุกอย่างเลยค่ะ มันสวยมากจริงๆ ขอบคุณอีกครั้งนะคะ” แค่เธอชอบ เขาก็ดีใจมากแล้ว ไม่ได้ต้องการอะไรไปมากกว่า อยากเห็นว่าที่เจ้าสาวของตัวเองมีความสุข
ถึงแม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าคนที่เธอรักจะไม่ใช่ตัวเองก็ไม่เป็นไร…
สองชั่วโมงต่อมา
“ขอบคุณที่มาส่งพีชนะคะคุณอา ขับรถกลับดีๆ นะคะ” คนได้ฟังเพียงแต่ยิ้มรับ เข้าใจด้วยตัวเองว่าคงต้องใช้เวลาระหว่างกันมากกว่านี้อีกนิด จึงไม่ได้แสดงท่าทีใดๆ ออกไปเมื่ออีกคนไม่ได้มีทีท่าว่าจะเชิญเข้าไปในบ้านหลังน้อยซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนตัวจริงๆ ของเธอ
“ครับ ไว้อาจะมั่นโทรมาหาบ่อยๆ และ…อีกหกเดือนอาจะมารับ” เสียงเข้มตอบ ก่อนจะเอื้อมมือไปลูบเบาๆ ที่หัวของอีกคนอย่างห้ามใจไม่อยู่ ซึ่งพิณรวีก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะอีกฝ่ายมีสิทธิ์ทุกอย่าง
“เข้าบ้านเถอะ ดึกมากแล้ว อาไม่กวนพีชแล้วล่ะ” หญิงสาวยิ้มรับ ก่อนจะพาตัวเองเดินหายเข้าไปในบ้าน โดยมีสายตาอีกสองคู่จ้องมองจนลับตา หนึ่งในนั้นแอบมองอยู่ในบ้านส่วนอีกหนึ่งอยู่ในรถ
นพเหลือบมองไปยังบ้านอีกหลังที่อยู่ติดกันอย่างชั่งใจ ใช่ว่าจะไม่รู้ถึงหลายๆ สิ่งที่เกิดขึ้น แต่เพราะรู้ถึงได้พยายามที่จะไม่ก้าวก่าย ปล่อยให้เด็กคนนั้นได้ใช้ชีวิตอย่างอิสระตามเท่าที่เธอต้องการ
จนกว่าจะถึงเวลาที่ได้ตกลงกันเอาไว้
เขาจะยอมเอาหูไปนา เอาตาไปไร่ไปอีกสักหน่อยก็แล้วกัน…
หลังจากอาบน้ำเสร็จพิณรวีก็ใช้เวลาอยู่กับตัวเองพักใหญ่ เพื่อเรียกเอาความสดใสของตัวเองให้กลับคืนมา ก่อนที่เธอจะรีบเดินมายังบ้านข้างๆ เพื่อหวังจะทานข้าวเย็นกับเขาอย่างที่สัญญาเอาไว้
“เมื่อกี้ใครมาส่งครับ” ทว่ากลับกลายเป็นคำถามนี้เองที่มันส่งผลตรงต่อหัวใจคนฟังไปไม่น้อย เพราะไม่คิดว่าเขาจะเห็น แต่ไม่นานเธอก็ต้องซ่อนทุกสิ่งให้มิดจากสายตาที่กำลังมองมาอย่างจับผิด
“เพื่อนคุณพ่อน่ะค่ะ พอดีท่านมาทำธุระเลยแวะมาเยี่ยมพีช” เพราะไม่คิดว่าคนตรงหน้าจะเห็น เธอจึงไม่ได้เตรียมคำตอบที่ดีกว่านี้มาด้วย ไม่คิดด้วยซ้ำว่าเขาจะสนอกสนใจกับเรื่องแค่นี้ของตัวเอง
“พี่ไม่ชอบที่เขาลูบหัวพีชแบบนั้น ทีหลังอย่าให้ผู้ชายอื่นถึงเนื้อถึงตัวแบบนั้นอีกนะครับ พี่หวง” แม้จะเป็นเพื่อนพ่อ แต่ก็เป็นผู้ชาย ต่อให้จะเอ็นดูแฟนเขาสักแค่ไหน ก็ไม่ควรถึงเนื้อถึงตัวแบบนั้น ขนาดเขาเป็นคนรักจะกอดจะหอมทียังต้องระวัง แล้วไอ้เ*******ูนั่นมันเป็นใคร มีสิทธิ์อะไรมาลูบหัวพีชน้อยของเขาด้วยท่าทีแบบนั้น!
“หวงมากไหมคะ” เธอร้องถาม ก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาข้างๆ เขา พร้อมรอยยิ้มที่ยิ่งได้เห็น ดรัณภพก็เหมือนจะยิ่งหงุดหงิด
“พีชครับ พี่จริงจังอยู่นะ!”
“โอ๋ๆ พีชล้อเล่นหรอกค่ะ รับทราบค่ะคุณแฟน จากนี้ไปพีชจะไม่ยอมให้ใครแตะตัวอีก นอกจากพี่ชินคนเดียว แบบนี้ดีไหมคะ!” แทนคำตอบ ดรัณภพเลือกที่จะรั้งอีกฝ่ายให้ล้มลงมานั่งตัก ก่อนจะลูบหัวเบาๆ ราวกับต้องการจะลบสัมผัสจากชายอื่นออกไปก็ไม่ผิด
“พูดแล้วนะ ถ้าพีชทำไม่ได้ขอให้พระเจ้าลงโทษอย่างหนัก!”