“จริงๆ พี่เองก็ไม่อยากพูดเรื่องนี้หรอกนะคะ แต่เกรงว่ายิ่งปล่อยเอาไว้นาน มันจะยิ่งไม่ดี…” อีกฝ่ายมีท่าทีลังเลอยู่ครู่ ก่อนจะเอ่ยขึ้นต่อเมื่อเห็นว่าเธอไม่ได้ขัดอะไร
”พี่รู้ว่าน้องพีชชอบแฟนพี่ ซึ่งเรื่องนี้พี่ไม่โทษน้องพีชหรอกนะคะ เพราะคนอย่างชิน…ไม่ว่าจะอยู่ตรงไหน ก็มักจะมีแต่ผู้หญิงพยายามเข้าหาเรื่อย นั่นเป็นเพราะว่าเขาชอบใจดีกับคนอื่นไปทั่ว จนบางครั้งก็อาจทำให้ใครต่อใครหลงเข้าใจผิด ซึ่งถ้าแค่ชื่นชมพี่ไม่ว่าหรอก แต่ถ้าน้องพีชคิดไปไกลมากกว่านั้น…พี่คงต้องขอร้องให้หนูหยุด อย่างน้อยก็เพื่อตัวของน้องพีชเอง ที่จะได้ไม่เจ็บปวดไปมากกว่านี้” นี่ถือเป็นคำพูดที่ตรงที่สุดเท่าที่ชีวิตนี้เคยได้ยินมาก็ว่าได้ แน่นอนว่าเธอไม่ได้ตอบอะไร นอกจากส่งผ่านความเงียบกลับไปให้
“พี่กับชินเราสองคนรักกันมากค่ะ หวังว่าน้องพีชคงเข้าใจ ขอตัวก่อนนะคะ…”เมื่อพูดไม่คิดจะพูดอะไร อีกฝ่ายจึงตัดบท ก่อนจะเดินเลี่ยงไปอีกทาง ทิ้งไว้แต่เธอ ที่ได้แต่ยืนนิ่งอยู่กับที่นานร่วมนาที
เที่ยวไปแอบรักคนที่ไม่คู่ควรว่าแย่แล้ว ดันมาถูกแฟนของเขาจับได้ยิ่งแย่ไปกันใหญ่ ซึ่งทั้งหมดที่ผู้หญิงคนนั้นพูดมา มันก็ไม่ได้ผิดไปจากความจริงที่เป็นอยู่เลยแม้แต่คำเดียว ไม่ว่าจะเรื่องที่เธอแอบรักดรัณภพ หรือแม้แต่เรื่องที่พวกเขาสองคนรักกันมาก และคงไม่มีวันที่ใครจะเข้าไปแทรกกลางได้เลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนอย่างเธอ!
อาการปวดหัวอย่างหนัก…คือสิ่งแรกที่พิณรวีรู้สึกทันทีที่ลืมตาตื่นขึ้น ทว่าภาพตรงหน้าที่ได้เห็นหลังจากนั้นต่างหาก ที่มันทำให้เธอแทบจะตื่นเต็มตา เมื่อพบว่าตอนนี้ตัวเองกำลังนอนอยู่บนเตียงพร้อมกับใครอีกคน ใครอีกคนที่กว่าจะรับมือกับคนเมาจนยอมสงบลงได้ เขาก็เหนื่อยจนไม่มีเรี่ยวแรงจะพาเธอไปส่งบ้าน สุดท้ายจึงตัดสินใจอุ้มเธอขึ้นมานอนด้วยกันบนเตียงในห้อง เพื่อจบทุกปัญหา
“เราลองมาคบกันดูไหม แบบไม่ผูกมัด” คำถามที่อยู่ๆ ก็ดังขึ้นทำให้เธอคนที่จนป่านนี้ก็ยังจับต้นชนปลายไม่ถูกกระพริบตาถี่ขึ้น บอกตามตรงว่าเธอไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่าตัวเองมานอนอยู่ในห้องนี้ได้ยังไง!
แล้วไหนจะคำถามเมื่อครู่นี้ของเขานั่นอีก!
“ไม่ผูกมัด เหรอคะ…”
“ใช่ ถ้าวันหนึ่งพี่หรือพีชเจอคนที่ใช่ เราจะหยุดความสัมพันธ์นี้กันทันที ตกลงไหมครับ” คนถูกถามถึงกลับเงียบไปนาน เพราะไม่รู้จริงๆ ว่าควรจะเลือกทางไหน แต่สุดท้ายเมื่อถามใจตัวเองเธอก็พบเพียงคำตอบเดียว นั่นคือเธอรักเขามากจริงๆ มากกว่าที่เคยรักใคร
หากนี่เป็นการเดิมพันครั้งสุดท้าย เธอก็อยากลองดูสักครั้ง ขอแค่ครั้งนี้ครั้งเดียว แล้วเธอจะไม่ขออะไรจากเขา หรือว่าใครอีกเลย!
“พีช…ตกลงค่ะ!”
การเป็นแฟนกับดรัณภพ ไม่ได้ทำให้พิณรวีอึดอัดเลยสักนิด กลับกัน…พอได้เปิดใจพูดคุยกันอย่างจริงจัง มันทำให้เธอสามารถมองเขาด้วยความรักได้อย่างเปิดเผย ในขณะที่เขาเองก็ยอมเปิดปากเล่าถึงความชอบของตัวเองให้รู้ เพื่อที่ว่าเธอเองจะได้ปรับตัวให้เป็นในแบบที่เขาชอบซึ่งก็เหมือนว่าเรื่องนี้หญิงสาวจะทำมันได้ดีเกินคาด
อย่างเช่นวันนี้ที่เขาเอ่ยปากชวนเธอออกมาพบลูกค้าที่หัวหิน แม้จะช่วยอะไรไม่ได้มาก แต่เธอก็พร้อมเป็นเพื่อนร่วมทางที่ดีจนกระทั่งเขาทำธุระเสร็จแล้ว ถึงได้แวะหาอะไรทานกันที่ริมชายหาด
“สั่งได้เต็มที่เลยนะ วันนี้พี่เลี้ยงเอง” หญิงสาวยิ้มรับก่อนจะสั่งเพียงแค่ของชอบของตัวเองมาสองสามอย่างเท่านั้น นอกเหนือจากนั้นคือของชอบของอีกคน ที่เธอยังจดจำได้ดีไม่เคยลืม
“เวลาที่เหลือพีชอยากไปไหนไหม บอกพี่ได้เลยนะ ตอนนี้พี่ว่างแล้ว เวลาที่เหลือเป็นของพีช พี่ไปเที่ยวกับเราได้ทุกที่เลย” เมื่อเขาเปิดโอกาสมาให้ คนที่เฝ้ารอโอกาสนี้อยู่นานก็ไม่คิดขัดข้อง ตัดสินใจเอ่ยบอกไปตามตรง ถึงสิ่งที่ตัวเองนั้นปรารถนาจะให้เป็นไป
“พีชไปไหนก็ได้ค่ะ ขอแค่มีพี่ชินไปด้วยก็พอ” ดรัณภพได้แต่ยิ้มรับต่อคำตอบที่ไม่คิดว่าจะได้รับ ก่อนที่เขาจะอาศัยจังหวะที่อีกคนไม่ทันตั้งตัว ขยับเข้าไปหอมแก้มเนียนฟอดใหญ่แล้วรีบผละออก
“พี่ชิน!”
“เป็นความผิดของพีชนะครับ ที่น่ารักเกินไป จนพี่อดใจไม่ไหว” ชายหนุ่มตอบหน้าตาย ก่อนจะเอื้อมมือไปกุมมือเล็กเอาไว้แน่น
การอยู่กับพิณรวีไม่ได้ทำให้เขาอึดอัดเหมือนอย่างที่นึกกลัว แม้จะอายุต่างกันอยู่หลายปี แต่น่าแปลกที่เธอมีความเป็นผู้ใหญ่ ไม่ก้าวร้าว ไม่ก้าวก่าย ไม่แม้แต่จะเรียกร้องในสิ่งที่เขายังคงให้เธอไม่ได้
นั่นคือความรัก…
ทั้งสองใช้เวลาที่เหลือแวะเที่ยวตลอดทางกลับ ก่อนที่จะเป็นพิณรวีที่ต้องตกใจ เมื่อพบว่ามีใครบางคนยืนรอกันอยู่บริเวณหน้าบ้านเมื่อกลับมาถึง ใครบางคนที่ไม่ได้แปลกใจเท่าไหร่กับภาพที่เห็น
“พี่รุต!” เพราะไม่บ่อยนักที่พี่ชายจะแวะมาเยี่ยมกันถึงบ้าน ส่วนใหญ่เธอกับเขาจะนัดเจอกันที่อื่นมากกว่า เพราะไม่อยากทำให้คนข้างกาย ที่จนถึงวินาทีนี้ก็เอาแต่ยืนนิ่งต้องลำบากใจหากบังเอิญต้องพบเจอกันในสถานการณ์ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
“ไปไหนมาพีช พี่มารอตั้งนาน แล้วนี่แก…” ดรัณภพเลือกที่จะตอบคำถามอดีตเพื่อนรักด้วยการเดินหายเข้าไปในบ้าน ไม่มีแม้แต่คำลา หรือคำทักทายใดๆ ให้ได้ยิน นั่นบอกให้รู้โดยไม่ต้องถามว่าอีกฝ่ายยังคงโกรธกันอยู่ ซึ่งนิรุตติ์ก็พอจะเข้าใจได้ จึงไม่ได้ว่าอะไร
“ว่าไง…มีอะไรจะเล่าให้พี่ฟังไหม หืม” ชายหนุ่มเปิดฉากถามขึ้น ทันทีที่เดินตามน้องสาวเข้ามาในบ้าน สายตาที่จับจ้องมองกันนั้นทำให้พิณรวีไม่กล้าที่จะโกหก สุดท้ายจึงสารภาพทุกอย่างให้อีกฝ่ายได้รับรู้ ซึ่งก็ดูเหมือนว่าพี่ชายของเธอจะไม่ได้ตกใจเท่าไหร่นัก ตอนที่เธอสารภาพความจริง ถึงเรื่องที่แอบรักเพื่อนสนิทของเขาออกไป
“แล้วเรื่องนั้น…พีชได้บอกมันรึเปล่า” เรื่องที่นอกจากเขาแล้ว ยังมีแค่พ่อกับแม่เท่านั้นที่รู้ จึงไม่แปลกที่มันจะกลายเป็นความลับระหว่างคนในครอบครัว อีกทั้งยังเป็นหลุมดำที่คอยดูดกลืนรอยยิ้มที่เคยเต็มไปด้วยความสดใสของน้องสาวเขาให้ค่อยๆหายไปอย่างช้าๆ
กว่าจะมายืนอยู่ตรงนี้พร้อมกับรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสดใสได้ขนาดนี้ใครเลยจะรู้ว่าพิณรวีเคยผ่านมาตัดสินใจที่ยากลำบากมาก่อน และเพราะเป็นหนึ่งในคนที่รู้เรื่องนี้ จึงไม่แปลกที่เขาจะรู้สึกเป็นห่วงน้อง จนต้องพาตัวเองแวะมาเยี่ยมอีกฝ่ายบ่อยๆ
“พีชว่าจะไม่บอกค่ะ” หญิงสาวตอบ ก่อนจะแสร้งยิ้มกลบเกลื่อน เพราะไม่อยากให้พี่ชายต้องรู้สึกลำบากใจถึงเรื่องบางอย่างที่มีเพียงแต่คนในครอบครัวเท่านั้นที่รู้ และแน่นอนว่าตัวแปรสำคัญของเรื่องก็ไม่ใช่ใครอื่นที่ไหน แต่เป็นเธอเธอที่ตัดสินใจทุกอย่างด้วยตัวเอง แม้พ่อกับพี่จะไม่เห็นด้วยแต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังยืนที่จะทำมัน
“พี่กำลังพยายามหาเงินอยู่ บางทีถึงตอนนั้นพีชอาจไม่ต้อง..”
“ไม่เอาค่ะ! พีชอยากให้พี่รุตเก็บเงินเอาไว้ให้หลานของพีชมากกว่า เราคุยเรื่องนี้กันหลายครั้งแล้วนะคะพี่รุต และพีชก็ยังยืนยันคำเดิมว่าพีชเต็มใจทำ” ท่าทีของน้องที่ได้เห็นยิ่งทำให้นิรุตติ์รู้สึกเกลียดตัวเอง ที่ท้ายที่สุดแล้ว… เขาก็ยังเป็นพี่ชายที่ไม่ได้เรื่องอยู่วันยังค่ำ!