bc

คนไข้ของหมอ

book_age18+
696
ติดตาม
7.1K
อ่าน
จบสุข
หมอ
คนใช้แรงงาน
หวาน
ชายจีบหญิง
ฉลาด
ออฟฟิศ/ที่ทำงาน
ความลับ
like
intro-logo
คำนิยม

“คนไข้ครับ”

“คะ เมื่อกี้คุณหมอว่าอะไรนะคะ”

“หมอบอกว่า เดี๋ยวนอนตะแคงหันหน้าเข้ากำแพงแล้วปลดซิปกางเกงหน่อยครับ”

“ฮะ”

“มาฮง มาฮะอะไร กลัวเข็มเหรอเรา หมอจะฉีดยาให้ครับ”

แล้วอยู่ๆ โลกของเธอก็ดับวูบลงในพริบตา เหมือนอาการป่วยกลายเป็นหายป่วยกะทันหัน คนตัวเล็กมองซ้ายมองขวา แล้วก็ไปหยุดอยู่ที่ร่างสูงของนายแพทย์หนุ่ม เห็นเขากำลังสวมถุงมือ

“หมอเหรอคะ”

“อืม” เธอถาม ส่วนคนถูกถามตอบรับในลำคอแต่ยังโฟกัสอยู่กับเรื่องของเขาไม่หันกลับมาอยู่ดี

แต่ไม่ได้นะ

“แล้วพี่พยาบาลล่ะคะ”

“เขาไม่ว่างน่ะ”

คนป่วยถามอีก แต่เขากลับหันมาตอบหน้าตาเฉย มือหนึ่งถือเข็มฉีดยาขึ้นมา

“เอ่อ…”

“เป็นอะไร ไม่อยากหายเหรอ”

“…”

“หรือว่ากลัวเข็ม”

“กลัวค่ะ กลัวมากๆ ด้วย ไม่ฉีดแล้วได้มั้ยคะ”

“ไม่ได้ครับ”

“เร็วสิครับ หมอมีคนไข้ต้องดูต่อนะ”

เธอก็เลยจำเป็นต้องหันหลัง เงาจากร่างสูงที่ทาบลงบนตัวเธอ ขอบกางเกงที่ถูกร่นลงมา หญิงสาวหลับตา กัดริมฝีปากใบหน้าร้อนเห่อ

บางครั้งเจ้ากรรมนายเวรก็มาในรูปแบบของหมอ ไม่แอบปลื้มแล้ว สองสามปีเจอกันที แต่กลับมาครั้งนี้ไม่ดีต่อใจเลย

chap-preview
อ่านตัวอย่างฟรี
ป่วยจนได้เรื่อง
โปรดเรียกฉันว่าคูโบต้า หรือถึกกว่าคูโบต้าก็นางสาวเกวลินนี่แหละ ผลการวิจัยบอกว่านักศึกษาปริญญาโทและปริญญาเอกมีความเครียดมากกว่าคนทั่วไปถึงหกเท่า และมันจะเพิ่มขึ้นคูณสิบถ้านักศึกษาคนนั้นตกอยู่ในสภาวะวิกฤติกำลังจะสอบ proposal อยู่พรุ่งนี้ มะรืนนี้ แต่ทำเล่มยันตีสอง ยังต้องลากสังขารตื่นตอนหกโมงเช้าไปรับตัวอย่าง แล้วถ่อมาทำเเลปต่อไม่ได้หยุดได้หย่อนอย่างเธอ!! เเถมเเลปเจ้ากรรมทีเดียวได้เลย ครั้งเดียวได้น่ะเคยมีบ้างมั้ย ประสบการณ์สองปีที่ผ่านมาบอกเลยว่าไม่มี อยากเทไปเลยแต่ก็ทำไม่ได้เพราะแต่ละตัวอย่างกว่าจะได้มาก็ช่างยากเย็น จากที่บอกตัวเองว่าสู้หน่อย เดี๋ยวสักห้าโมงเย็นก็ได้กลับไปนอนแล้ว แต่ตอนนี้ปาไปสามทุ่มครึ่งเกวลินเพิ่งได้ออกจากเเลปด้วยสภาพยังเป็นผู้เป็นคนหรือเปล่าตัวเธอเองก็ไม่แน่ใจนัก พอหลุดออกมาได้สิ่งแรกที่หญิงสาวคิดถึงก็คืออาหาร หิวข้าวจนจะเป็นลมอยู่เเล้ว เพราะอย่างนั้นสองขาจึงตรงดิ่งไปหาอาหารด้วยความหิวโซ ได้มาทั้งเกี๊ยวปลาเย็นตาโฟ ขนมเบื้อง แตงโม น้ำผลไม้ เธอจะกินรวบมื้อเช้า กลางวัน เย็น และก่อนนอน ให้สาสมกับที่ไม่ได้กินมาทั้งวันให้หมด ชีวิตในวันนี้อยู่ได้ด้วยฤทธิ์คาเฟอีนล้วนๆ ถึงว่าะถือว่าอนาถมาก ยิ่งอนาถมากๆ ในตอนที่ต้องมาทำอะไรพร้อมกันหลายอย่างแบบนี้ งานล้นมือจนจัดการไม่ถูก แม้จะมืดแล้ว แต่การได้ออกมาสูดอาการนอกห้องเเลป พื้นที่กว้างๆ พบเจอผู้คนก็ยังดีกว่าการอยู่แต่ในห้องเเคบๆ กับอุปกรณ์เครื่องมือสารพัดอย่างยากแก่การอธิบายให้คนอื่นเข้าใจ แตงโมคือหนึ่งอย่างที่ถูกจัดการไปเรียบร้อยระหว่างทางมาถึงคอนโด “กลับมาเเล้วเหรอน้องเกว” พี่ออยส่งเสียงทัก ตั้งแต่ยังไม่ทันจะได้เห็นหน้า แค่ได้ยินเสียงประตูห้องเปิดออก “กลับมาแล้วค่ะ พี่ออยกลับมานานแล้วเหรอคะ” “พี่ก็เพิ่งกลับมาเมื่อสักพักเหมือนกันค่ะ วันนี้ไปกินข้าวกับน้องที่เเลปแล้วก็กลับมานั่งทำผลนี่เเหละ พรุ่งนี้มีคุยกับอาจารย์ น้องเกวกินข้าวหรือยัง” “ยังเลยค่ะ หนูเพิ่งเลิกเมื่อสามทุ่ม พี่ออยสนใจมั้ยคะ ขนมเบื้องเจ้าหน้ามอ เกวเกือบไม่ทันเเน่ะ นี่กล่องสุดท้ายเลย” คนเพิ่งเข้ามาอวด พยายามทำเสียงสดใสทั้งที่เริ่มรู้สึกมาสักพักว่าข้างในไม่สดใส มันเวียนๆ คลื่นไส้ ยังไงก็ไม่รู้ แต่คงเป็นเพราะเหนื่อยเกินไป เดี๋ยวได้กินของอร่อย นอนพักหน่อยก็คงดีขึ้น พอคิดได้อย่างนั้น ขนมเบื้องครีมหนาๆ จึงถูกหยิบขึ้นมาเข้าปากตามกันไปสามชิ้นติด เธอชอบกินขนม และความหวานหอมของมันก็พอทำให้อาการที่เป็นอยู่ทุเลาลงไปได้บ้าง... อาจจะแค่สักห้านาที เป็นห้านาทีที่เกวลินเทเย็นตาโฟใส่ชาม กินเกี๊ยวปลาไปอีกสองชิ้น แล้วพบว่าไม่น่าเลย ปกติเธอชอบร้านนี้มาก แต่วันนี้กลับรู้สึกว่าคาว คาวเเตะจมูกจนทำให้ยิ่งเวียนหัวมากขึ้น เหมือนเส้นเลือดบนศีรษะเต้นตึ๊บๆ ตามจังหวะของหัวใจ ร่างเล็กเดินไปหยิบยาพารามากินสองเม็ดแล้วไปนอนพัก คิดว่ามันจะดีขึ้นเเต่ก็ไม่ มันปวดหัว การบีบรัดยิ่งรุนแรงจนหัวเเทบระเบิด ทรมาน ในท้องก็ปั่นป่วนไปหมด จนสุดท้ายต้องลุกขึ้นมาอาเจียน “เป็นอะไรหรือเปล่าน้องเกว” พี่ร่วมห้องตะโกนถามด้วยความเป็นห่วง “เวียนหัวค่ะ ปวดหัว คลื่นไส้เหมือนอาหารเป็นพิษ” เดินโซซัดโซเซกลับมาทิ้งตัวลงบนเตียง หลับตาแน่นตอนบอก เธอคิดว่าถ้าได้อาเจียนออกไปมันจะดีขึ้น แต่ก็ไม่เลย ยังปวดหัว ปวดเป็นวงเเหวนรอบศีรษะเหมือนโดนใครเอาอะไรมารัดบีบแรงๆ แล้วก็ปล่อย สลับกัน ลามไปถึงท้ายทอย สรุปว่าในครึ่งชั่วโมงเธอลุกไปอาเจียนสองรอบ หมดไส้หมดพุง ไม่มีเเรง ยังไม่หาย แต่ก็ยังไม่อยากกินอะไรอยู่ดี “ไปหาหมอดีกว่ามั้ยน้องเกว ไม่น่าใช่อาหารเป็นพิษนะพี่ว่า ไม่อย่างนั้นอาการต้องดีขึ้นเเล้ว ไปเถอะเดี๋ยวดึกกว่านี้แล้วจะลำบาก” ลำบากที่ว่าไม่ใช่แค่ตัวเอง แต่ถ้าเกิดเธอเป็นอะไรขึ้นมาก็จะลำบากพี่ออยไปด้วย ไปโรงพยาบาลอย่าน้อยได้ยากลับมากินก็คงดีขึ้น แม้ใจหนึ่งจะต่อต้านว่ายังทำเล่ม proposal ไม่เสร็จ แต่พอคิดได้อย่างนั้นหญิงสาวก็ยอมไปโรงพยาบาลแต่โดยดี จะสอบอยู่อีกสองสามวัน พาวเวอร์พ๊อยก็ยังไม่ได้เท่าไรเลย เอาเถอะเดี๋ยวดีขึ้นเธอจะได้กลับมาทำงานต่อ เกวลินคิดว่าอย่างนั้น แต่ความเป็นจริงที่อยู่ตรงหน้ากลับไม่ใช่อย่างนั้น เมื่อบุรุษพยาบาลพาเธอเข้ามาในห้องฉุกเฉินพยาบาลเข้ามาสอบถามอาการเบื้องต้น หญิงสาวพยักหน้าหลับตาเเน่นเพราะความปวดร้าวทั้งศีรษะลามไปจนชาทั้งตัว เธอได้ยินเสียงบอกให้รอสักครู่ หลังจากนั้นไม่นาน ประตูที่ถูกเปิดเข้ามา ความรู้สึกเหมือนมีคนมาหยุดยืนอยู่ข้างๆ ทำให้ต้องฝืนลืมตาขึ้นมามอง เพียงเพื่อพบว่า “คนไข้เป็นอะไรมาครับ”

สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook