ณ.หมู่บ้านแห่งหนึ่งทางภาคกลางของไทย
แปะ แปะ
“แพรดาว แพรดาว”
มือใหญ่หยาบกร้านที่ผ่านการทำงานมาอย่างไม่น้อยตบลงไปที่แก้มเนียนนุ่มขาวละเอียดเบาๆ น้ำหยดลงมาตามผมที่เปียกโชก โดยปกติแล้วหญิงสาวที่ชื่อ แพรดาวจะมีผิวขาวอมชมพูเนียนละเอียดอมชมพูอยู่เป็นประจำ แต่เนื่องจากหญิงสาวคนนี้กระโดดลงมาในบ่อน้ำบ่อใหญ่ภายในหมู่บ้านและจมเป็นเวลานานจึงทำให้ใบหน้าซีดเผือก กองพล เจ้าของเสียงนุ่มทุ้มที่อยู่ในชุดเสื้อยืดแขนสั้นแบรนด์เนมสีขาวกับกางเกงยีนส์ขายาวที่มีใบหน้าหล่อเหลา ผิวหน้าเนียนละเอียดไร้สิวและริ้วรอย ดวงตาสองชั้นเรียวยาว มีขี้แมลงวันอยู่บนเปลือกตาทั้งสองจุด จมูกโด่งรับกับริมฝีปากหนา สูง 190 เซนติเมตร น้ำหนัก 69 กิโลกรัม ซึ่งชาวบ้านมักไม่ค่อยจะเห็นกองพลเท่าไหร่นัก เนื่องด้วยเขาเป็นคนเงียบขรึม พูดน้อย หน้านิ่ง จะพูดเยอะก็แค่กับเพื่อนหรือคนสนิท แต่เหตุผลที่ผู้หญิงคนนี้กระโดดน้ำก็พอจะรู้ เพราะวันนี้เป็นวันแต่งงานของไอ้ไบร์ทกับใบหม่อน
“ยัยผู้หญิงหัวสมองน้อย”
แค่ก แค่ก
ในขณะที่ฉันกำลังสำลักน้ำก็ได้ยินผู้ชายที่นั่งอยู่ไม่ไกลมากเอ่ยชมออกมา ฉันมองไปรอบๆ ก็เห็นเหมือนเป็นบ่อน้ำขนาดใหญ่ และเมื่อก้มมองตัวเองก็เห็นว่าตอนนี้ร่างของฉันอวบอัดจนแทบจะเรียกได้ว่าอวบระยะสุดท้ายก็ได้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าตุตะมากขนาดนั้น น่าจะ 70 กว่าๆ แต่มันก็อ้วนกว่าก่อนหน้านี้ ก่อนสายตาจะมาหยุดอยู่ที่ผู้ชายที่เป็นคนช่วยฉัน เขาหล่อมาก หล่อกว่าที่ฉันจิตนาการเอาไว้อีกนะเนี่ย นี่ฉันคงทะลุมิติเข้ามาในนิยายแล้วแน่ๆ ถ้ากระโดดน้ำ แสดงว่าวันนี้เป็นวันแต่งงานของพระเอกกับนางเอก ดีนะ ที่ทะลุมิติเข้ามาแต่นิยายที่อ่านมันเป็นนิยายปัจจุบัน ไม่ใช่ย้อนอดีตแบบนั้น ซึ่งบ้านของนางเอก พระเอก นางรองที่ฉันเข้ามาใช้ร่างกายนี้ และพระรอง ล้วนแล้วอาศัยอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้ แต่อยู่บนที่ของใครของมัน
“สติล่องลอยหรือไง ลุกขึ้น จะพาไปโรงพยาบาล”
“ไม่เป็นไร ฉันไม่ได้เป็นอะไร ไม่ต้องไปหรอก ขอบคุณที่ช่วยชีวิตฉันเอาไว้นะ”
“แล้วมากระโดดน้ำทำไม คิดว่าเป็นนางเอกละครเหรอ อกหักแค่นี้เหมือนจะตาย”
ผมถามยัยผู้หญิงสมองออกไป เพราะผมเองก็แอบชอบยัยตัวเล็กตรงหน้า แต่เพราะในสายตาของเธอไม่มีผมเลยตั้งแต่จำความได้ผมก็เลยมองอยู่ห่างๆ แล้วใครจะพอใจที่เห็นคนที่ชอบเอาชีวิตมาทิ้งกับเรื่องแค่นี้ แบบนี้จะไม่ให้ผมด่ายัยนี่ว่าเป็นผู้หญิงโง่เง่าได้ยังไง ไอ้ไบร์ทมันมีดีอะไรวะ สันดานก็แย่ ผมก็ไม่ได้หลงตัวเองหรอก แต่ผมดีกว่ามันเยอะ ถึงแม้จะมีสีเทาๆ ในชีวิตบ้างก็เถอะ
“ใครบอกว่าฉันมากระโดดน้ำฆ่าตัวตายเพราะอกหักล่ะ ฉันทำสร้อยข้อมือที่เป็นเพชรหล่นตกลงไปในน้ำฉันเบยรีบกระโดดลงไปเก็บ แต่อาจจะเพราะว่าตัวฉันอวบเกินไปเลยทำให้ตาคริวกินขาเลยจ่มลงไป”
ฉันรีบหาข้อแก้ตัวออกไปอย่างรวดเร็ว แล้วฉันจะไม่ยอมให้คนอื่นคิดว่าฉันฆ่าตัวตายเพราะพระเอกแน่ๆ พอฉันพูดจบสายตาน่ากลัวของผู้ชายตรงหน้าก็เริ่มเปลี่ยนไปนิดหน่อย อีกอย่างเขาอายุมากกว่าฉัน นางเอก และพระเอก เพราะนักเขียนบอกไว้ว่าผู้ชายคนนี้อายุ 26 ปี มีธุรกิจเป็นของตัวเอง ส่วนนางรองอายุ 20 ปี เพิ่งเรียนอยู่ปี 2 ในระดับมหาวิทยาลัย
“จริงเหรอ”
“จริงสิคะ ใครจะไปฆ่าตัวเพราะผู้ชายแย่ๆ แค่คนเดียว ว่าแต่นายคือใช่กองพลไหม”
“เห็นฉันแล้วหรือไง”
ผมถามผู้หญิงตรงหน้าที่มองผมตาแป๋วเหมือนลูกหมาออกไป เพราะก่อนหน้านี้ไม่ว่าเขาจะทำอะไรให้ไปยัยตัวอวบก็ไม่เคยเห็นผมอยู่ในสายตา ผมเลยมองอยู่ไกลๆ หลังจากที่เริ่มรู้ว่ายัยตัวแสบเหมือนจะชอบไอ้ไบรท์
“ก็นั่งมองอยู่นี่ก็ต้องเห็นแล้วสิ”
“ถ้าเธอยังชอบไอ้ไบร์ทอยู่อย่ามาพูดทำนองนี้ ฉันไม่ชอบ”
ฉันมองผู้ขายตรงหน้าก่อนจะแอบยิ้มออกมากับตัวเอง เพราะฉันว่าพระรองคนนี้น่าสนใจดีนะ หน้าตาหล่อแบบพระเอก แต่รังสีรอบตัวเหมือนมาเฟีย ดิบๆ เถื่อนๆ อีกอย่างเขาก็ดูน่าสนใจดีฉันเลยตอบเขากลับไปด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“แล้วใครบอกว่าฉันชอบไอ้ไบร์ท ฉันอาจจะคิดแบบนั้นเพราะหัวสมองมันสั่งมาตั้งแต่เด็ก แต่พอวันนี้ฉันรู้แล้วว่าฉันไม่ได้ชอบมัน แต่ฉันชอบนายนะ”
ใช่ค่ะ เรามันหญิงสาวเร็วและแรง ชอบก็บอกว่าชอบ เพราะฉันชอบผู้ชายสไตล์นี้จริงๆ ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตาและนิสัย อีกอย่างเขาก็ดีกับนางรองมาตลอด อีกอย่างลองมีแฟนกับเขาสักคนในชีวิตก็ไม่ได้แย่นะ ก่อนหน้านี้เคยคิดหาแต่เงิน ตอนนี้ขอลองใช้ชีวิตวันรุ่นเหมือนคนอื่นเขาดูบ้าง
ขวับ!
“ที่เธอพูด เป็นเรื่องจริงหรือแค่เอาฉันไปแทนไอ้ไบร์ท”
เมื่อได้ยินผู้หญิงตัวอวบอัดน่ากอดพูดออกมาก็ทำให้ผมหันมามองและถามออกไปอย่างรวดเร็ว เพราะถ้าเอาผมเป็นตัวแทนของใครผมไม่เอาแน่ แต่พอมองตาก็เห็นว่ายับตัวแสบตรงหน้าไม่ได้มีแววตาที่โกหก
“จริงๆ สิ”
ฉันพยักหน้าแล้วก็ตอบเขากลับไป แล้วเท่าที่จำได้ครอบครัวของผู้ชายคนนี้มีอิทธิพลไม่ใช่น้อย ที่สำคัญคือเขาก็รักนางรองมานานแล้ว เราควรจะรักคนที่รักเรา ความรักของเราถึงจะดูมีค่า แล้วตอนแรกเห็นเขานิ่งๆ แต่ทำไมตอนนี้รู้สึกว่าเขาเหมือนหมาป่าเจ้าเล่ห์ตัวหนึ่งหลังจากได้ยินเขาพูดว่า
“ฮึ เราเป็นคนเริ่มเองนะ เริ่มแล้วก็ห้ามหยุดเด็ดขาด แล้วก็ต้องรับผิดชอบพี่ด้วย แล้วถ้าเป็นของพี่แล้วแอบคิดถึงไอ้ไบร์ทพี่ก็คงจะต้องลงโทษเราให้ลืมมันไปซะ”
“ทำไมหนูรู้สึกว่าพี่น่ากลัวจังเลยอะ”
“หึหึ ไป ยับสมองน้อย พี่จะไปส่งเราที่บ้าน”
”แต่รถหนูก็จอดอยู่นั่น”
“กระเป๋าเราน่าจะจมน้ำหายไปแล้ว จอดมันไว้นี่แหละ เดี๋ยวพี่โทรบอกลูกน้องให้เอารถมายกให้”
ผมแอบยิ้มที่มุมปากก่อนจะช่วยพยุงร่างอวบอัดให้ลุกขึ้นแล้วก็ขับรถมาส่งหญิงสาวที่บ้าน พอขับรถเข้ามาจอดในรั้วบ้านโดยที่มีคนงานในบ้านของยัยตัวแสบมาเปิดประตูให้ เมื่อดับเครื่องรถยนต์เสร็จแล้วผมก็เดินตามร่างบางเข้ามาในบ้านด้วย
“ยัยแพร ทำไมตัวเราเปียกขนาดนี้ล่ะลูก”
ฉันที่เดินเข้ามาในบ้าน ไม่ใช่บ้านสิ มันใหญ่เหมือนวัง ปลูกอยู่บนที่ดินเกือบ 100 ไร่ มีที่ดินว่างๆ ด้านหลังที่บ้านที่ทำสวนผลไม้ แต่ล้อมรั้วบ้านเอาไว้เพื่อแบ่งสัดส่วนระหว่างสวนและตัวบ้าน สวนหน้าบ้านถูกจัดและตกแต่งอย่างสวยงาม พอเข้ามาในบ้านมันก็หรูหราเต็มไปด้วยข้าวของราคาแพง ในนิยายเขาก็บอกไว้แล้วแหละว่าครอบครัวของนางรองนั้นร่ำรวย แต่ไม่คิดว่ามันจะขนาดนี้ แต่ก็นะ นักเขียนเขียนบอกว่าชีวิตนางรองดีเกือบทุกอย่าง ไม่ดีแค่นิสัยที่เอาแต่ใจและแย่ในบางเรื่องกับเรื่องของความรักที่ไม่สมหวัง เมื่อได้ยินเสียงเรียกถามฉันเลยหันไปแล้วก็เห็นผู้หญิงวัยกลางคนผิวขาวใบหน้าสวย อวบเล็กน้อย แต่สวยสมวัย นี่คงเป็นแม่สินะ มีผู้ชายสองคนที่กำลังนั่งอยู่บนโซฟาและส่องพระหันมามอง น่าจะเป็นพ่อและปู่ นี่ฉันกำลังมีครอบครัวที่สมบูรณ์เหมือนกับคนอื่นเขาแล้วสินะ ที่สำคัญ ฉันยังเป็นลูกสาวคนเดียวของบ้าน ไม่มีพี่น้อง
“สวัสดีครับ”
“ไหว้พระเถอะลูก มาๆ มานั่งก่อน แล้วไปไงมาไงถึงมากับเจ้าแพรลูกสาวของลุงได้ล่ะ”
ผมยกมือไหว้ทักทายกับผู้ใหญ่ในบ้านก่อนจะยิ้มเล็กๆ และตอบคุณลุงกลับไป ซึ่งครอบครัวของผมทั้งสองคนสนิทกันมานาน ผมถึงเห็นยันตัวแสบมาตั้งแต่เด็ก
“พอดีผมเห็นน้องตกน้ำน่ะครับ เลยลงไปช่วยแล้วก็ขับรถมาส่งน้องที่บ้าน”
“คุณคะ เดี๋ยวค่อยคุยดีกว่าค่ะ ยัยแพร เราขึ้นไปอายน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนเถอะลูก เดี๋ยวจะไม่สบาย พ่อพลด้วยนะ ไปอาบน้ำที่ห้องรับแขกก่อน ส่วนเสื้อผ้าพวกนี้เราถอดแล้วส่งให้แม่บ้านนะลูก เขาจะได้เอามาซักอบแห้งให้ ขอบใจที่ช่วยน้องนะลูกนะ”
“ครับคุณป้า”
“แหวน แหวนเอ๊ย”
“คะแม่ใหญ่”
“ตามพ่อพลขึ้นไปรับเสื้อผ้ามาซักอบให้ทีนะ”
“ได้เลยค่ะ”
เมื่อสรุปทุกอย่างได้ฉันกับคนตัวสูงก็เดินขึ้นมาชั้นบนโดยที่มีแม่บ้านเดินตามมาด้วย จากนั้นฉันก็เข้ามาอาบน้ำในห้องของตัวเอง ส่วนคนตัวสูงก็เข้าไปอาบน้ำที่ห้องรับแขกข้างๆ พออาบน้ำสระผมเสร็จเรียบร้อยฉันก็เดินมาหน้ากระจกแล้วก็เห็นใบหน้าของตัวเองที่มีโครงหน้าสวยมาก ตาสองชั้นกลมโต ปากอวบอิ่มรูปทรงกระจับ จมูกหน่อย ขนตางอนยาว ผิวขาวมาก มือนุ่มนิ่มนิ้วเรียวแต่อวบเนื่องจากไขมันเหมือนไม่เคยสัมผัสอะไรมาก่อน ตอนอวบยังขนาดนี้ ถ้าผอมลงกว่านี้จะเด็ดแค่ไหน ฉันจะเผ็ชจนเข็ดฟันเลยคอยดู ฉันหยิบเครื่องสำอางแบรนด์ดังขึ้นมาแต่งหน้าโทนชมพูเบาๆ เพราะผิวขาวอยู่แล้วไม่ต้องแต่งมากมาย โดยที่ชุดที่ใส่อยู่ตอนนี้เป็นชุดเดรสสีน้ำตาลแบบเอิร์ธโทนแขนตุ๊กตา ช่วงเอวเป็นสม็อกยาวลงมาถึงหน้าขา แล้วจากที่ดูฉันน่าจะสูงแค่ 150 กว่าๆ เพราะเตี้ยมาก น้ำหนัก 70 กว่าๆ เลยดูตันไปหมด พอแต่งตัวเสร็จฉันก็เลยเดินลงมาด้านล่าง แล้วก็เห็นคนตัวสูงนั่งคุยกับพ่อแม่ของฉันอยู่ก่อนแล้ว และตาของฉันก็ต้องเบิกกว้างเมื่อได้ยินเสียงของคุณพ่อพูดขึ้นมา
“พี่พลเขาบอกว่าเราคบกับพี่เขาเหรอ ดีๆ รอบนี้พ่อไม่ห้าม พี่เขาเป็นคนเก่งแล้วพ่อก็ชอบพี่เขา อีกอย่างพี่เขาก็พูดคุยกับพ่อแม่แล้ว รอบนี้พ่อไฟเขียว ไม่เหมือนไอ้ไบร์ท จนก็จน เราแต่งงานกันกับมันไปพ่อคงจะต้องเจ็บใจแน่ๆ ดีนะ มันไปแต่งกับยัยใบหม่อนเพื่อนของลูกแทน”
“คุณคะ”
“ไม่เป็นไรค่ะแม่ ที่พ่อพูดก็ถูกแล้วค่ะ พี่พลดีกว่าไอ้ไบร์ทเยอะเลยค่ะ”
“ฮ่าๆ ต้องแบบนี้สิลูก มาๆ มานั่ง รอสักเดี๋ยว พ่อบอกให้แม่บ้านเขาเตรียมอาหารแล้วก็ให้คนออกไปซื้อเป็ดอบน้ำผึ้งมาให้หนูแล้ว ตาพล เดี๋ยวอยู่กินข้าวกับลุงแล้วก็น้องก่อนนะลูก”
“ครับคุณลุง ขอบคุณนะครับ ที่คุณลุง คุณป้า แล้วก็คุณปู่ให้โอกาสผมคบกับน้อง”
“เราก็ลูกหลานของลุง น้องคบกับเราลุงก็สบายใจ”
ผมยิ้มให้กับผู้ใหญ่ทุกคนที่ต้อนรับและเอ็นดูผม เพราะใครๆ ก็รู้ว่าครอบครัวของคุณลุงรักและหวงน้องขนาดไหน ตอนแรกก็แอบหวั่นใจกลัวคุณลุงจะไม่เห็นด้วยกับความสัมพันธ์ครั้งนี้ แต่เมื่อเห็นแบบนี้ก็ทั้งดีใจทั้งสบายใจที่เริ่มต้นความรักครั้งนี้ได้อย่างราบเรียบ