วันจันทร์ เวลา 07.35 นาที
ครืดดดดด~~
ฉันกำลังแต่งตัวสวมชุดนักศึกษา ซึ่งฉันใส่กระโปรงทรงเอ เอว 32 ยาว 26 ผ่าหลัง ความที่ตัวเตี้ยมันก็เสมอเข่าพอดีคู่กับเสื้อนักศึกษาที่พอดีตัว จากนั้นก็ดัดผมเป็นลอนใหญ่ๆ แต่งหน้าสีชมพูช่ำวาว แบบสาวสุขภาพดี เตรียมไอแพดหน้าจอใหญ่และโทรศัพท์เครื่องใหม่เอี่ยมแบรนด์เดียวกับไอแพดความจำของเครื่องแบบสูงสุดที่ไปซื้อมาเมื่อวานพร้อมกัน แล้วไม่ใช่ที่บ้านซื้อให้หรอก แฟนหมาดๆ ของฉันเป็นคนซื้อให้ แล้วก็พาไปทำบัตรเครดิตบัตรเดบิตใหม่ใช้เวลาไปเกือบทั้งวัน วันนี้เป็นวันจันทร์ฉันเลยต้องเข้าสู่โหมดการเป็นนักศึกษาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ต่างกันที่ฉันจะได้เข้าไปใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยแบบคุณหนูตัวน้อยบ้านรวย พอได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นฉันเลยหยิบขึ้นมาก่อนจะยิ้มและกดรับสาย
“ฮัลโหลค่ะ”
“พี่มาถึงบ้านแล้ว เดี๋ยวพี่นั่งรออยู่ที่ห้องรับแขกนะ”
“ค่ะ หนูกำลังลงไปแล้วค่ะ”
“ครับ”
ผมยิ้มที่มุมปากน้อยๆ ก่อนจะลงจากรถแล้วก็เดินเข้ามาในบ้านตรงไปที่ห้องรับแขก แล้ววันนี้ผู้ใหญ่ในบ้านของแฟนผมไม่มีใครอยู่บ้าน เดินทางไปเยี่ยมหลานที่เพิ่งคลอดลูกที่จังหวัดใกล้เคียง คุณลุงกับคุณป้าบอกไว้ตั้งแต่เมื่อวาน ซึ่งผมนั่งรออยู่ไม่นานก็เห็นคนน่าฟัดเดินเข้ามาหาพอดี
“แพรเสร็จแล้วเราไปกันเถอะค่ะ”
“ครับ”
“คุณแพรกับคุณกองพลจะไม่รับข้าวเช้าสักหน่อยหรือคะ”
อืม พอป้าแม่บ้านถามความหิวก็เริ่มจะทำงาน หรือจะกินข้าวไปก่อนดี แต่พอได้ยินคนตัวสูงพูดฉันก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วย
“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมพาน้องไปทานข้างนอก”
“อ่อ ค่ะๆ”
ผมตอบป้าแม่บ้านก่อนจะจับมือนุ่มนิ่มของยัยตัวแสบจากนั้นก็พากันเดินออกมาจากตัวบ้านตรงมาที่ ผมเปิดประตูฝั่งข้างคนขับพร้อมปิดประตูให้ก่อนจะเดินอ้อมมานั่งฝั่งคนขับจากนั้นผมก็ขับรถออกจากบ้านพร้อมถามคนที่นั่งอยู่ข้างๆ ออกไป
“แล้วหนูอยากทานอะไร พี่จะพาแวะกินก่อนแล้วค่อยไปส่งหนูที่มอ”
“หนูอยากกินก๋วยเตี๋ยวเป็ด”
“ได้เลย เดี๋ยวพี่พาหนูไป”
“พี่ใจดีจัง”
“แค่กับหนูคนเดียว”
“ง้วววว”
ฉันหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ รู้สึกว่ามีแฟนคลั่งรักมันเหมือนชีวิตดีมากเลยอะ ดีกว่าตอนอยู่คนเดียว พี่เขาตามใจและใส่ใจมาก ไม่ว่าจะเรื่องอะไร แต่จากที่ดูเขาก็ขี้หึงมากเหมือนกัน ไม่ชอบให้มอง ชม หรือพูดถึงผู้ชายคนอื่น จากที่ฉันสังเกตพี่เขาวันนี้วันที่สอง แล้วไม่ใช่แค่พี่เขาคลั่งฉันหรอก ฉันก็คลั่งพี่เขาเหมือนกัน คิกๆ จากนั้นไม่นานคนตัวสูงก็พาฉันมาจอดที่ร้านก๋วยเตี๋ยวเป็ดแห่งหนึ่ง ร้านใหญ่มากพอสมควร ดีนะที่จังหวัดที่ฉันอยู่มีมหาวิทยาลัยในจังหวัดแล้วก็อยู่ไม่ไกลบ้านเลยไปกลับสะดวก เมื่อมาถึงร้านฉันก็พากันลงจากรถโดยที่ฉันคล้องแขนพี่เขาเอาไว้แล้วก็เดินมาในร้าน แล้วโลกมันก็กลมเหลือเกิน เพราะขณะที่กำลังจะเลือกโต๊ะนั่งก็เห็นไอ้คนที่ชื่อไบรท์และเพื่อนนิสัยนางเอกแสนดีอย่างนางใบหม่อนมากินก๋วยเตี๋ยวร้านนี้เหมือนกัน ฉันเลยแอบเบะปากอยู่ภายในใจแล้วก็ทำทีเป็นมองไม่เห็น เพราะไม่อยากจะใส่ใจ
“พี่ว่าเรานั่งตรงนี้ดีกว่านะ มันเหนือลม แล้วก็มีพัดลมหนูจะได้ไม่ร้อน”
“ค่ะ”
ผมยิ้มและใช้มือลูบศีรษะคนตัวเล็กก่อนจะพาดันลงที่โต๊ะที่อยู่เหนือลม แล้วผมก็เห็นว่าไอ้ไบร์ทกับเมียมันมานั่งกินก๋วยเตี๋ยวเหมือนกัน แต่พอเห็นว่าคนตัวเล็กข้างๆ ไม่ได้สนใจผมก็แอบยิ้ม เพราะดูแล้วคนตัวเล็กเหมือนจะเกลียดไอ้ไบร์ทมากกว่าชอบด้วยซ้ำ คนขี้หึงแบบผมเห็นแบบนี้ก็รู้สึกชอบใจ เมียผมไม่สนใจผมเองก็ไม่จำเป็นต้องใส่ใจ ผมนั่งลงฝั่งเดียวกับยัยตัวแสบก่อนจะหยิบเมนูขึ้นมาดูกับคนตัวเล็ก โดยมีพนักงานที่เขามารอจดเมนู
“พี่เอาเป็นข้าวหรือก๋วยเตี๋ยวคะ”
“พี่ว่าจะกินทั้งสองอย่างเลย”
“โอเค หนูเอาเส้นหมี่ขาวเป็ดพิเศษ เอาแต่เนื้อเป็ดอย่างเดียวค่ะ เครื่องในกับเลือดไม่เอา พี่ล่ะคะ”
“ผมเอาเป็นบะหมี่เป็ด 1 เอาทุกอย่างได้ครับ แล้วก็ข้าวหน้าเป็ดพิเศษ 1”
“ได้เลยค่ะ เครื่องดื่มรับเป็นอะไรดีคะ”
“เอาน้ำแข็งสอง น้ำเปล่าขวดเล็กสอง แล้วก็โค้กหนึ่งขวดค่ะ”
“แล้วรับของทานเล่นไหมคะ ขนมหวานก็มีนะคะ”
”หนูเอาเป็นเป็ดย่างกับเป็ดตุ๋นแยกมาอย่างละจานด้วยค่ะ ส่วนของหวานเดี๋ยวหนูค่อยสั่งเพิ่มค่ะ”
“ได้เลยค่ะ รอสักครู่นะคะ”
“ค่ะ”
ฉันยิ้มให้พี่พนักงานที่มารับเมนูต่างๆ จากนั้นก็ได้ยินคนตัวสูงถามและหันหน้าจอโทรศัพท์มาให้ดู ซึ่งสิ่งที่พี่เขาเปิดให้ดูก็เป็นรถยนต์ซุปเปอร์คาร์ของแบรนด์ดังสีแดง
“หนูว่าสีไหนสวยกว่ากัน”
“อืม หนูว่าสีแดงสวย พี่จะซื้อเหรอคะ”
“ครับ พี่มีบริษัทนำเข้ารถยนต์มาขายอยู่แล้ว แต่คันนี้พี่ว่าจะซื้อให้หนูคันหนึ่งด้วย”
“พี่จะซื้อให้หนู”
“หึหึ ก็ใช่สิครับ พี่ไม่ซื้อให้หนูจะให้พี่ซื้อให้ใครล่ะ”
ผมมองคนตัวเล็กที่นั่งอยู่ข้างๆ ก่อนจะใช้มือลูบศีรษะของคนตัวเล็กที่ทำหน้าตาน่ารักและมองมาที่ผมก่อนจะเลื่อนมือลงมาโอบเอวของคนข้างๆ เอาไว้
“โดนเปย์ไม่ไหว เดี๋ยวพี่ก็ล้มละลายหรอกค่ะ”
“พี่ว่า พี่น่าจะล้มละลายยากนะ เปย์หนูมากกว่านี้พี่ก็เปย์ไหว”
“งื้อออ ขอบคุณนะคะคุณแฟน ที่เอ็นดูหนู”
ฉันยิ้มให้คนตัวสูงจนตาหยีก่อนจะพากันหัวเราะออกมาเบาๆ สายตาฉันสุดยอดจริงๆ ในขณะที่บรรยากาศรอบกายกำลังมีหัวใจล่องลอยทุกอย่างก็ต้องหยุดไปเมื่อ
“แพร สวัสดีจ้ะ มีทานข้าวเหรอจ๊ะ ว่าแต่ ทำไมถึงมากับพี่กองพลได้ล่ะ แถมยังกอดกันด้วย”
ขวับ!
ผมหันไปมองผู้หญิงที่ชื่อใบหม่อน เป็นเพื่อนสนิทกับคนตัวเล็กมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วผมเองก็ไม่เคยถูกชะตาเลย รู้สึกว่านิสัยที่แท้จริงของผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ดีเหมือนที่กำลังแสดงออกให้ทุกคนเห็น ส่วนไอ้ไบร์ทผมก็เกลียดขี้หน้ามันมาตั้งแต่สมัยไหนแล้ว ผมเลยมองผัวเมียคู่นี้ที่เดินเข้ามาทักเหมือนจะเป็นมิตรนิ่งๆ ก่อนจะเอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“โทษทีนะครับ พอดีผมไม่มีน้อง ไม่สนิทกรุณาอย่ามาเรียกเหมือนสนิท รบกวนเรียกผมว่าคุณกองพลจะดีกว่าครับ หากไม่นับถือก็เรียกชื่อผมอย่างเดียวก็พอครับ”
เมื่อได้ยินดังนั้นใบหม่อนก็ถึงกลับหน้าเสีย เพราะแต่ไหนแต่ไรพี่ผู้ชายคนนี้ที่ชื่อกองพลก็ไม่เคยเอ็นดูเธอเลย เอ็นดูและตามใจแต่แพรดาว ซื้อของแพงๆ ดีๆ ให้แพรดาวอยู่ตลอดเวลา ทั้งๆ ที่บ้านของแพรดาวก็ร่ำรวยมากอยู่แล้ว ผิดกับเธอที่เป็นลูกพ่อค้าแม่ค้าจนๆ แต่ไม่เคยได้รับของดีๆ จากพี่ผู้ชายสุดหล่อและร่ำรวยระดับมหาเศรษฐีคนนี้เลยสักชิ้น ทั้งๆ ที่เธอดูน่าสงสารกว่าแพรดาวเป็นไหนๆ และก่อนหน้าที่เธอจะเดินเข้ามาทักก็เห็นว่ากองพลพูดคุยและยิ้มแย้มกับแพรดาว แถมสายตาก็มีแต่ความเอ็นดู พอหันมามองเธอสายตากลับมีแต่ความว่างเปล่า ตั้งแต่จำความได้เธอก็แพ้แพรดาวมาตลอด ไม่ว่าจะเรื่องอะไร มีชนะในเรื่องเดียวก็คือเรื่องของไบรท์ มันเลยยิ่งทำให้ความเกลียดชังภายในใจที่แอบเก็บเอาไว้ค่อยๆ เพิ่มขึ้น ใบหม่อนจึงยิ้มและพูดออกไปด้วยน้ำเสียงที่แสดงออกอย่างน่าสงสาร
“ค่ะ ขอโทษด้วยนะคะ”
“ไม่เป็นไรนะหม่อน ไบรท์บอกแล้วว่าไม่ต้องมายุ่งกับพวกเขาหรอก”
ฉันมองสองผัวเมียที่น่าระเหี่ยใจ เหมือนมาเล่นละครให้ดูยังไงยังงั้นเลยแหละ แต่ก็นะ พูดแค่นี้ฉันกับคนตัวสูงก็เป็นคนร้ายในทันที ฉันเลยพูดออกไปแบบไม่ใส่ใจและไม่พอใจเล็กน้อย เดินมาทักเอง ทำเป็นนอยอ่า~ เอง แล้วใครอยากให้มาทักคะ ฉันอุส่าห์ปล่อยเบลอไปแล้วนะ
“นั่นน่ะสิ ถ้าจะมาทำท่าทางที่แสนจะหนักใจแบบนี้ไม่ต้องมาทักก็ได้นะ ไม่ทักทายฉันกับพี่พลก็ไม่เอาใส่ใจหรอก เพราะฉันเองก็ยังทำเป็นไม่เห็นเธอสองคนเลย ถ้าอยากจะทักฉันคงทักไปนานแล้วแหละ”
“แพร ทำไมแพรถึงพูดกับเราแล้วก็ไบรท์แบบนี้ล่ะ เราตั้งใจมาทักทายนะ ยังไงเราก็เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม หรือแพรยังโกรธเราเรื่องไบรท์อยู่”
“หม่อนไม่ต้องร้องไห้นะ ไบรท์บอกแล้วว่าไม่ต้องทนคบกับผู้หญิงใจดำแบบนี้เป็นเพื่อนหรอก”
ไบรท์หันไปมองภรรยาของตนเองพร้อมพูดให้กำลังใจ และยิ่งทำให้เขารู้สึกเกลียดแพรดาวมากขึ้นเป็นล้านเท่า เป็นผู้หญิงนิสัยแย่ที่แก้ไขไม่ได้แล้วจริงๆ ยิ่งเห็นน้ำตาคลอเบ้าที่ดวงตาของใบหม่อนยิ่งทำให้ความอดทนของเขาหมดลง ดีแล้วที่เขาไม่เคยคิดชอบจับผู้หญิงนิสัยแย่ ตัวอวบอ้วน มีดีแค่บ้านรวย มองตรงไหนก็น่าเกลียดมากกว่าน่ารัก
“เธอมันน่าเกลียดทั้งนิสัยและหน้าตา มีดีแค่รวยอย่างเดียว ดีแล้วที่ฉันไม่ชอบหรือรักเธอเลย”
“ไบรท์ อย่าพูดแบบนี้สิ เดี๋ยวแพรจะเสียใจ หม่อนไม่ได้เป็นอะไร”
“โอ๊ะ ตายละ เหมือนกำลังดูละครน้ำเน่ามาก เดินมาหาเอง ไม่มีคนเชื้อเชิญ ฉันพูดตรงๆ ก็ทำเป็นรับไม่ได้ แถมยังด่าฉันด้วย แล้วคิดว่าฉันชอบไอ้ผู้ชายสันดานชายแท้แบบมึงมากเหรอคะ ตายละ หลงตัวเองไม่ไหว ความหล่อไม่มีแถมยังจน”
“ไอ้ไบร์ท เงินที่แม่มึงมากู้ยืมกูสามแสนแล้วเอาที่ดินมาค้ำ กูให้เวลามึงสองอาทิตย์ ถ้ามึงหาเงินมาคืนกูไม่ได้ก็พากันย้ายออกจากที่ดินนั้นไป เพราะมันก็ใกล้ถึงเวลาที่ครอบครัวของมึงต้องเอาเงินมาคืนกูแล้ว”
ผมขบกรามแน่นเมื่อได้ยินไอ้ไบร์ทกับเมียมันพูดเหมือนดูถูกแฟนผม อีกอย่างมันมีสิทธิ์อะไรมาพูดทำร้ายจิตใจคนตัวเล็กที่นั่งอยู่ข้างๆ ตอนแรกก็สงสารครอบครัวมันผมก็เลยไม่ทวง แต่เห็นมาทำสันดานแบบนี้ใส่คนรักของผมจะให้ผมยอมมันทำไม ผมบอกแล้วว่าผมไม่ใช่คนดีอะไรมากมาย มาแบบไหนก็ไปแบบนั้น แล้วไอ้ความสงสารใครจนใจอ่อนถ้าไม่ใช่คนที่ผมรักผมไม่มีความรู้สึกนั้นหรอก