ตอนที่ 1 เรื่องมันมีอยู่ว่า

1506 คำ
วันจันทร์ เวลา 16.35 นาที ณ.บ้านเช่าแห่งหนึ่งในจังหวัดจันทบุรี {คนนิสัยน่ารังเกียจแบบเธอ ต่อให้ที่บ้านของเธอเองเงินมากองตรงหน้าฉันก็ไม่สนใจเธอหรอกนะ แพรดาว ไปกันเถอะครับวิเวียน ผมบอกแล้วว่ารักคุณคนเดียว ทีนี้คุณเชื่อผมหรือยังครับ} {ค่ะ แพรดาว ยังไงเราก็ยังคงเป็นเพื่อนกันนะ} ฉันที่กำลังอ่านนิยายเรื่องหนึ่งเป็นนิยายไทยย้อนยุคที่นักเขียนเพิ่งอัพเดทเมื่อกี้ก็รู้สึกโมโหขึ้นมาทันที เพราะถึงแม้นางรองจะใจจืดใจดำแต่มันก็มีเหตุผลปะ แต่พระเอกกับนางเอกนี่สิที่ทำให้รู้สึกหมั่นไส้ นางเอกก็ชอบทำตัวน่าสงสาร ส่วนพระเอกยังไงก็ต้องเข้าข้างนางเอก พออ่านต่อมานักเขียนเขาก็บรรยายว่านางรองในนิยายที่เปรียบเสมือนนางร้ายกำลังจะกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย แต่ก็นะ นางรองจะเอาอะไรไปสู้กับนางเอกล่ะ ตัวอวบอ้วน นิสัยไม่ดี ชาวบ้านกว่าครึ่งหมู่บ้านนักเขียนก็เขียนเอาไว้ว่าทุกคนเกลียดนางรองไปครึ่งหนึ่งแล้ว อ่อ ขออนุญาตแนะนำตัวก่อนนะ สวัสดีค่ะ ฉัน นางสาวพาขวัญ เกียรติหาญ ชื่อเล่นก็ พาขวัญ ชื่อเดียวกับชื่อจริง อายุ 26 ปี เรียนจบด้านนิเทศศาสตร์ ฉันไม่มีพ่อ ไม่มีแม่ เป็นลูกกำพร้า พ่อแม่ไม่มี ญาติก็ไม่มีเหมือนกัน พ่อแม่ฉันเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ตั้งแต่ฉันอายุได้สามขวบ จากนั้นชีวิตของฉันก็ได้มาอยู่ที่สถานสงเคราะห์แห่งหนึ่งในจังหวัดตั้งแต่อายุน้อยๆ จนโตรู้เรื่อง พออายุ 18 ปี ฉันก็พยายามหางานทำด้วยใช้วุฒิมอสาม ทำงานพนักงานเข้ากะในโรงงานแล้วก็ส่งตัวเองเรียนต่อในมหาวิทยาลัยเปิด จนเรียนจบปริญญาตรีมาได้ พอเรียนจบก็มีพี่ที่รู้จักชวนมาทำงานในโรงงานผลิตกระเบื้องแห่งหนึ่ง เป็นบริษัทในเครือของบริษัทยักษ์ใหญ่ เพราะที่นี่เขาจะออกแบบและผลิตเพื่อส่งให้บริษัทแม่ หน้าที่หลักๆ ของฉันก็ออกแบบลายกระเบื้องในแต่ละเดือน ออกแบบโฆษณาทาง Offline และ Online ดูแลและอัพเดทข้อมูลทางเพจ หัวมันก็หมุนๆ หน่อย ปวดหัวกับงาน ปวดหัวกับคน แต่ทำไงได้ ยังไม่ร่ำรวยก็ต้องสู้ชีวิตต่อไป อ่อ ส่วนแฟน ไม่มี ไม่เคยมี ถึงแม้หน้าตาจะสวยมาก แต่ฉันคิดแต่เรื่องหาเงิน มีหลายอย่างที่ต้องทำ คนคุยก็พอมี แต่ไม่ได้จริงจัง ตอนนี้ฉันก็เช่าห้องเช่าแถวๆ ใกล้โรงงาน มีรถเก๋งที่เพิ่งออกมาได้หนึ่งคัน สีขาว ส่วนบ้านที่ใช้อาศัยอยู่ตอนนี้ก็เป็นบ้านเช่าที่ฉันเช่าอยู่ ส่วนเงินเก็บก็มีอยู่ประมาณ 250,000 บาท ถามเยอะไหม ในยุคสมัยนี้ถ้าใช้จ่ายตามใจมันก็ไม่เยอะหรอก แต่สำหรับฉันมันเยอะมาก เพราะในชีวิตมีเงินเก็บขนาดนี้ก็ดีใจแล้ว เนื่องจากฉันทำงานเก็บเงินมาตั้งแต่อายุน้อยๆ เลิกเรียนก็รับล้างจานที่ร้านอาหารที่เขารับฉันไปทำตั้งแต่อายุ 10 ขวบ บางวันก็ไปทำงานถอนขนไก่ ไปกับเพื่อนๆ ที่เจอกันในสถานสงเคราะห์นั่นแหละ แล้วมันมีเงินเยอะตอนที่เริ่มทำงานเป็นกะ ทำโอแทบจะทุกครั้งที่มีโอ ทำกะต่อกะ ที่สำคัญฉันใช้เงินประหยัดแบบมากๆ เดือนหนึ่งจะกินอาหารที่ชอบ อย่างหมูกระทะสักหนึ่งครั้ง นอกนั้นข้าวสวย ปลาทอด น้ำพริก อาหารที่ทานบ่อยที่สุดก็คือ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เลิกงานก็วันละสองห่อจากนั้นก็นอนพักเพื่อเก็บแรงไปทำงานในวันถัดไป ตอนนี้สั่งเครื่องปริ้นส์และเครื่องตัดสติกเกอร์มาเพื่อมาทำสติ๊กเกอร์รูปแบบต่างๆ ขายทางออนไลน์ แต่เพิ่งเริ่มทำ ออเดอร์ที่ลูกค้าสั่งเลยได้ไม่เยอะ หวังว่ามันจะเยอะในสักวัน เพราะฉันสู้ชีวิตมาเยอะแล้ว มันเหนื่อย อยากมีเงิน อยากเป็นนายของตัวเองไม่ใช่ลูกน้องของคนอื่นแบบที่ผ่านๆ มา นี่แหละข้อมูลเบื้องต้นของฉัน ฟังแล้วก็อยากจะถอนหายใจออกมาดังๆ ใช่ปะ ขนาดฉันยังถอนหายใจวันละพันครั้งเลย ฉันอาบน้ำสระผมโดยที่ใช้เวลาเวลาไม่นาน จากนั้นก็เช็ดตัวและเป่าผมจนแห้งจากนั้นก็หยิบชุดนอนสีชมพูผ้าลื่นสายเดี่ยวความยาวประมาณเท่าหัวเข่า จากนั้นฉันก็หยิบโทรศัพท์ของแบรนด์ผลไม้รุ่นท็อปที่สุด ก็เกือบห้าหมื่นกว่าบาท ถามว่าซื้อสดหรือผ่อน ผ่อนจ้ะ นี่ก็เพิ่งผ่อนได้สองงวด แล้วในขณะที่ฉันกำลังอินกับนิยายที่ฉันชอบอ่านเพื่อคลายเครียด แต่ตอนนี้แอพมันล่ม ทำอะไรไม่ได้เลย ก่อนจะเบิกตากว้างขึ้นมาเมื่อเห็นข้อความที่แสดงขึ้นมาในหน้าจอคล้ายๆ กล่องข้อความว่า ติ่ง! [สวัสดีครับคุณพาขวัญ ทางเราเป็นระบบใช้ชีวิตเพื่อความสุข เป็นระบบที่ถูกคิดค้นขึ้นมา เพื่อตอบสนองความต้องการภายในจิตใจลึกๆ และทางเราได้เลือกคุณ ชีวิตบนโลกนี้ของคุณขวัญหมดลงแล้วครับ” ฉันยิ้มที่มุมปากหลังอ่านข้อความที่เด้งขึ้นมาบนหน้าจอและพูดออกไปแบบไม่ใส่ใจ แต่แล้วก็ต้องได้อ้าปากค้างเมื่อเห็นข้อความตอบกับมาอย่างรวดเร็ว “เหอะ ไอ้พวกคอลเซ็นเตอร์แน่ๆ เดี๋ยวนี้คิดค้นคำพูดมาใหม่สะด้วย ไม่ได้กินอิขวัญหรอกค่ะ” [ทางเราเป็นระบบจริงๆ ครับ หากไม่เชื่อคุณขวัญลองเปิดเงินในบัญชีดูสิครับ ทางเรามอบเป็นของขวัญให้คุณ 10 ล้านบาท ตอนนี้อยู่ในบัญชีของคุณขวัญแล้วครับ เอาไว้ให้คุณขวัญติดตัวและเอาไว้ซื้อและการดำเนินชีวิตหากคุณขวัญตอบตกลงกับข้อของทางเรา] พรึ่บ! “เงินสิบล้าน นี่มันเรื่องจริง” ฉันหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองขึ้นมาจากนั้นก็กดเข้าแอพธนาคารเพื่อเช็คยอดเงิน จากนั้นก็เห็นเงินจำนวนสิบล้านบาทอยู่ในบัญชีจริงๆ ถ้าบอกว่าฉันฝันฉันก็ไม่อยากตื่นเลย เพราะในชีวิตนี้คนธรรมดาๆ แบบฉันไม่รู้ว่าจะใช้เวลาอีกเท่าไหร่ที่มีเงินเก็บสิบล้าน แต่ฉันต้องตายนี่หว่า [ทางเราบอกแล้วครับ ว่าไม่ได้โกหกคุณขวัญแต่อย่างใด] “ฉันจะไม่ตายใช่ไหมถ้าฉันตอบตกลง” [ถ้าคุณขวัญตอบรับข้อเสนอของทางเราครับ หากคุณขวัญไม่รับคุณขวัญก็ต้องเสียชีวิต ส่วนของของขวัญเราก็เก็บคืนและจะหาคนอื่นๆ ต่อไป] ฉันขมวดคิ้วเพราะมันก็ต้องใช้ความคิด ไปก็ไม่รู้จะไปอยู่ไหน แต่มันก็ยังดีกว่าตายแหละนะ อะไรก็ไม่สำคัญเท่าชีวิต ฉันยังใช้ชีวิตไม่คุ้ม ความฝันก็ยังไม่ทันได้เกิดขึ้นด้วยซ้ำ เอาเถอะ จะไปไหนขอแค่มีชีวิตฉันก็ไม่กลัวหรอก สู้มาขนาดนี้แล้ว สู้อีกสักรอบจะเป็นอะไรไป ฉันเลยเอ่ยถามกับระบบออไปโดยที่ระบบนี้ก็ให้คำตอบผ่านข้อความที่เด้งขึ้นมาที่หน้าจอโทรศัพท์เหมือนเดิม “แล้วฉันต้องไปอยู่ที่ไหนเหรอ“ [ในนิยายที่คุณเพิ่งอ่านไปเมื่อสักครู่นี้ครับ] ”หา! ในนิยาย” [ใช่แล้วครับ ส่วนทรัพย์สินทางต่างๆ ที่เราจะเก็บใส่ในมิติเอาไว้ให้คุณขวัญโดยที่คุณขวัญไม่ต้องลงมืออะไรเลยครับ ทางเราจะดำเนินการทุกอย่างให้เอง สรุปแล้ว คุณขวัญตอบตกลงกับข้อเสนอของทางเราไหมครับ] “อืม ฉันตอบตกลง ยังไงก็ยังดีกว่าตายไปเฉยๆ” [หากคุณขวัญพร้อมใช้ชีวิตที่ได้เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง เพื่อให้ไม่เป็นการเสียเวลาอย่างนั้นเราก็เดินทางกันเถอะครับ คุณขวัญนอนหลับตาเหมือนนอนหลับเลยนะครับ หลังจากนั้นปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผม ส่วนทุกอย่างบนโลกนี้ผมจะจัดการให้เรียบร้อยครับ คุณขวัญไม่ต้องห่วง ขอให้คุณขวัญมีความสุขกับชีวิตใหม่ที่กำลังจะดำเนินขึ้นอีกครั้งนะครับ] ฉันอ่านข้อความจบก็นอนลงและหยิบผ้าห่มขึ้นมาห่ม จากนั้นค่อยๆ หลับตา ถามว่าตื่นเต้นไหม ตื่นเต้นมากๆ หัวใจมันเต้นรัวแบบห้ามไม่ได้ จากนั้นมันเหมือนฉันกำลังจะหลับลึกมากๆ แต่มันมีความอึดอัด ทำไมมันเหมือนจะตายเลยอะ ตาก็ลืมไม่ได้ แขนขาก็ขยับไม่ได้ มันรู้สึกเย็นมากจนเริ่มจะหนาว นี่เขากำลังจะทำอะไรเนี่ย มันเหมือนจะตายเลยอะ พรึ่บ!!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม