Chapter 4
รักสนุกแต่ไม่ผูกพัน (2)
รักสนุกแต่ไม่ผูกพัน…
นั่นคือคำที่เธอใช้กับเขาก่อนจากลา หรัณย์พยายามสลัดความคิดรกสมองนั้นออกไป แต่สลัดเท่าไหร่มันกลับวิ่งย้อนกลับมาให้ต้องคิดวกวนอยู่เรื่องเดิมซ้ำไปซ้ำมา
‘อืม…อ๊า…’
ชายหนุ่มเผลอกัดริมฝีปากตัวเองเมื่อเสียงครางกระเส่าดังก้องอยู่ในหัว ภาพในจิตใต้สำนึกเขากำลังออกแรงขยับโยกลงไปบนร่างขาวโพลนอย่างเอาเป็นเอาตาย ความกระสันในสัมผัสจากหญิงสาวแปลกหน้าที่มาจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ทำให้เขาพลาดพลั้งมีสัมพันธ์รักกับเธออย่างง่ายดาย
‘อ๊า…’
เสียงของเธอ
‘อา…’
เสียงของเขา
‘อื๊อ…โอววว…’
เสียงของเขา…เสียงของเธอ…เสียงของเธอและเสียงของเขาผสานกันดังลั่นห้องวีไอพีที่เปลี่ยนเป็นสนามรักชั่วคราว เสียงหลอกหลอนมาพร้อมภาพร่างเปลือยเปล่าที่ปล่อยให้เขากระแทก กระทั้นเพื่อไปให้ถึงฝั่งฝันจนสัมผัสได้ถึงเส้นทางแสนรักร้อนเร่า เสียงลมหายใจกระเส่าของเธอยังคงติดอยู่ข้างใบหู รสสัมผัสจากปลายลิ้นเล็กที่หยอกเย้าจากจูบเผ็ดร้อนมันยังคงติดตราตรึงอยู่ในใจ แม้เขาจะใช้กระแสน้ำชะล้างสัมผัสแสนเร่าร้อนนั้นออกไป แต่ก็ไม่อาจทำให้ลืมมันได้ในชั่วข้ามคืน
“เฮีย…”
“…..”
“เฮีย….”
“…..”
“เฮีย เป็นอะไร!”
หรัณย์สะดุ้งโหยงเมื่อถูกเขย่าแรงๆ ก่อนจะละล่ำละลักออก มา “ห๊ะ! อะไร เรียกฉันเหรอ”
“ผมเห็นนั่งเหม่อแล้วก็กัดปากตัวเอง อย่าบอกนะว่าเฮียกำลังนึกถึงหนังโป๊”
“จะบ้าเหรอ!”
หรัณย์ทำเสียงดังกลบเกลื่อน เสมองไปทางอื่นเมื่อเห็นแววตาจับผิดถูกส่งมาจากน้องชาย
“มีพิรุธนะเนี่ย”
ธชาหรี่ตามองท่าทีแปลกๆ ของคนตรงหน้า ช่างดูเหมือนคนไปทำความผิดอะไรมา สายตาของเขาทำให้เจ้าตัวฮึดฮัดฟึดฟัด
กลบเกลื่อนพิรุธในแววตา
“อะไรไอ้หมอ มองหน้าฉันทำไม แต่ถ้าฉันจะนึกถึงหนังโป๊จริงๆ แล้วมันแปลกตรงไหนน่ะ ฮึ!”
“เอ๊า ผมยังไม่ได้ว่าอะไรเลยนะ มองหน้าก็ไม่ได้อีก”
หรัณย์กำลังจะอ้าปากโต้กลับ แต่ต้องหยุดเมื่อเสียงคุ้นๆ ดังมาก่อนตัว “ตามหาตั้งนาน ที่แท้ก็มาแอบเล่นน้ำกันสองคนแล้วไม่ชวนเค้า มีพิรุธนะเนี่ย”
‘เอาอีกคนนึงล่ะ สมองไม่ได้คิดเรื่องอื่นกันบ้างเล้ย’
หรัณย์เหลือบตามองคนที่ถือแก้วบลูฮาวายตรงมาทางตน มาในสภาพเตรียมพร้อมแค่สลัดเสื้อคลุมบางๆ ออกก็พร้อมจะโดดลงสระได้ทันที
“อะไรน้องริน มีพิรุธอะไร”
“ก็เฮียกับพี่หมอชอบแอบมาอยู่ในที่ลับตาคนสองต่อสอง ทำตัวลับๆ ล่อๆ แบบนี้ไม่ได้แอบมุ้งมิ้งกันจริงๆ ใช่มั้ย”
หรัณย์ถึงกับหัวเราะออกมา ที่น้องสาวตัวจินตนาการไปจนไกลถึงดาวอังคาร
“นี่ คิดกับพี่ชายตัวเองแต่ละอย่าง สงสัยอ่านนิยายวายมาก
จนสมองไปหมดล่ะ คนในบ้านตัวเองก็ไม่เว้นนะเราน่ะ”
“นั่นสิเฮีย ทำไมเราสองคนต้องมีน้องโรคจิตแบบยายรินด้วยนะ เที่ยวจับคู่ให้เขาไปทั่ว”
ธชาและหรัณย์กลับมาแทคทีมกันในทันใด มันเป็นเรื่องปกติของทั้งสองที่ชอบรวมหัวกันแกล้งน้องคนเล็กของบ้าน เพราะเวลาเธองอนนั้นมันดูน่ารักน่าเอ็นดูดี
ด้านธารินหันไปแลบลิ้นใส่หน้าคนพูด ก่อนเปลี่ยนมาจับจ้องหน้าหรัณย์อย่างคาดคั้น
“เมื่อคืนเฮียไปไหนมา โทรไปไม่รับ โทรกลับก็ไม่เคย”
“ไปไหน ก็อยู่บ้านพัก”
“อย่าเลย ต้องแอบไปไหนแน่ๆ”
“เมื่อคืนพี่เข้านอนเร็ว รู้สึกไม่ค่อยดีก็เลยกินยาแก้ไข้เข้าไป นู่น หลับยาวยันเช้าแน่ะ”
“เหรอออ”
หรัณย์ลุกหนีด้วยขี้เกียจตอบคำถาม ชายหนุ่มถอดเสื้อยืดพอดีตัวออกให้เหลือแต่กางเกงว่ายน้ำ โยนมันไว้บนเตียงริมสระ คิดว่าการหนีไปว่ายน้ำจะช่วยให้ธารินเลิกซักไซร้ไปเอง
ธารินหรี่ตามองอย่างจับผิด ไล่มองไปตามท่อนบนที่เปลือยเปล่าก่อนจะไปสะดุดยังร่องรอยแดงจางๆ ตามแผงอก หญิงสาวยื่นหน้าเข้าไปสำรวจใกล้ๆ มันเหมือนรอยเล็บของผู้หญิงไม่มีผิด เพียงเท่านั้นดวงตากลมโตก็เบิกกว้างคล้ายเจออะไรที่น่าตกใจ
“แล้วนี่รอยอะไร โอ้โห มีแต่รอยข่วน นี่เฮียไปผ่านสมรภูมิ
รบที่ไหนมาคะเนี่ย”
“ไหนๆ รอยอะไรน้องริน”
ธชาเปลี่ยนข้างทันที เขายื่นหน้ามาแจมด้วยอยากรู้ว่าพี่ชายตัวแอบหิ้วใครไปขึ้นเตียง
“โอ้โหเฮีย ไปฟัดกับใครที่ไหนมาครับเฮีย เขาไม่พอใจอะไรเฮียถึงฝากรอยเล็บไว้ให้ดูต่างหน้าแบบนี้”
“จุ้นไม่เข้าท่า เป็นเด็กเป็นเล็กทำเป็นอยากรู้”
หรัณย์เดินหนีไปที่ขอบสระเพราะเขายิ่งไม่อยากจะนึกถึงเซ็กส์แบบวันไนท์สแตนด์เมื่อคืน โดยมีสองคนเดินตามเขามาเหมือนฝูงเป็ดเพื่อล้อเลียนต่อ
“สาวคนไหนกล้าทำร้ายพี่ชายน้องรินจนเจ็บตัวแบบนี้ บอกมาซะดีๆ”
“ถึงว่าสิ ท่าทีมีพิรุธ สงสัยซุกใครไว้แล้วก็ไม่บอกพวกเรา”
หรัณย์ขี้เกียจจะอธิบาย เพราะงานข่าวที่เขาปลอมตัวเองไปสมัครงานในบาร์โฮส ไม่มีใครในบ้านรู้ถึงภารกิจนี้แม้กระทั่งบิดา นอกจากผู้ที่เกี่ยวข้องและคนที่ทำเอกสารปลอมให้เขาใช้ในภารกิจนี้เท่านั้น
ชายหนุ่มหันกลับไปเผชิญหน้ากับสองคนที่เดินตามหลัง รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดพราวขึ้นบนใบหน้าคมคร้ามคล้ายกับนึกอะไรสนุกๆ ขึ้นมาได้
“อยากเล่นน้ำนักใช่มั้ยเราน่ะ”
“ว้าย!”
ธารินร้องลั่น เมื่อหรัณย์คว้าข้อมือเธอแล้วกระชากให้โดดลงมาในสระพร้อมๆ กับที่เขากระโจนลงไปในนั้น เรียกเสียงหัวเราะขบขันจากธชาที่ยืนมองคนถูกแกล้งอยู่ตรงขอบสระ
“ไอ้พี่กายบ้า หัวเปียกหมดเลย ฮืออออ”
หญิงสาวทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ ก่อนวักน้ำใส่คนที่ว่ายหนีเธอไปลอยคอหัวเราะชอบใจอยู่ที่กลางสระ ความที่จะเอาชนะทำให้เธอรีบโผร่างตามไปทันที
“ธชา มาว่ายน้ำแข่งกันมั้ย ใครแพ้คืนนี้ต้องเลี้ยง”
หรัณย์ตะโกนท้าขณะที่ธารินตามมาทันแล้วโผเข้าไปเกาะบ่ากว้างเอาไว้เพื่อพยุงกาย หญิงสาวกวักมือเรียกธชาเพื่อให้มาเล่นน้ำด้วยกัน
“ท้ากันแบบนี้น้องรินเตรียมควักตังค์ได้เลย”
“ดูถูกกันเกินไปแล้ว”
ธชาถอดเสื้อโยนทิ้งไปบ้าง ชายหนุ่มกระโจนลงไปในสระโผทีเดียวก็ไปถึงจุดที่ทั้งสองคนรออยู่ สักพักหรัณย์ก็ร้องลั่นออกมา
“ทำอะไรไอ้หมอลามก มาจับของฉันทำไม!”
ธชาทำหน้างง เพราะเขาไม่รู้เรื่องด้วยสักนิดว่าจับอะไร
“ใครจับของเฮีย จะบ้าเหรอ!”
“ฉันชักไม่ไว้ใจนายแล้วล่ะ น้องรินเห็นไหมว่าหมอนี่ไว้ใจไม่ได้ เผลอเป็นแอบจับกันทุกที แน่ะ แล้วยังจะไม่หยุด”
“หยึยย ทำไมพี่หมอเป็นคนบ้ากามแบบนี้”
ธชาชักเริ่มจะหมั่นไส้คนขี้แกล้ง ชายหนุ่มจึงยื่นมือควานไป
ในน้ำเพื่อทำจริงๆ
“ไหนๆ ก็ไหนๆ ขอจับอีกทีดิเฮีย…เฮียขา”
หรัณย์ขนลุกซู่เมื่อได้ฟังเสียงนั้น เขาว่ายน้ำหนีไปตั้งหลักจนไกลเพราะเชื่อว่าอีกฝ่ายทำได้จริงๆ“ทะลึ่งล่ะ มาจับส่งเดชได้ไง”
“เฮีย…เฮียขา”
“ไอ้บ้าหมอ ตามมาทำไม ฉันล้อเล่นเว้ย!”
“ขอจับหน่อยเฮีย ที่รักของชา ผัวขา…”
ธชายังคงแกล้งไม่หยุด เขาว่ายน้ำตามหรัณย์ที่หนีตนไปจนทั่วสระ ธารินมองสองคนเล่นกันแล้วต้องหัวเราะออกมาด้วยความขบขัน เธอหัวเราะจนท้องแข็งเมื่อเห็นท่าทางธชา ถ้าเธอเป็นคนอื่นที่มาเห็นภาพนี้ ก็อดที่จะจิ้นไม่ได้ว่าสองคนนี้ต้องเป็นอะไรกันมากกว่าเพื่อนแน่นอน
สามพี่น้องว่ายน้ำแข่งกันมาถึงบาร์เล็กๆ ที่อยู่อีกมุมหนึ่งของตัวโรงแรม เนื่องจากสระน้ำของโรงแรมหรัณย์นั้นออกแบบให้เป็นลักษณะล้อมรอบตัวอาคารเอาไว้ ไม่ว่าจะโดดลงสระที่มุมไหนของโรงแรมก็ตาม จะสามารถว่ายน้ำเล่นเป็นวงรอบถึงกันถ้าหากมีแรงพอ
หรัณย์ว่ายนำคนอื่นไปยังบาร์ที่อยู่กลางน้ำ เขาคิดว่าสั่งเครื่องดื่มสักคนละแก้วเพื่อพักเหนื่อยนั่นคงจะดี
“อะไรเฮีย แค่นี้ก็พักซะแล้ว ยังไปไม่รอบโรงแรมเลยนะ”
ธชาคุยข่ม ทั้งที่ตัวเองก็คอแห้งเต็มทน
“งั้นนายก็ไปก่อน ฉันจะหาอะไรดื่มสักแก้ว”
“ไม่เป็นไรเฮีย ผมกลัวเฮียเหงาขอดื่มเป็นเพื่อนละกัน เฮีย…เฮียข…” หรัณย์ยกมือชี้หน้าคนพูด เพราะรู้ทันว่าอีกฝ่ายจะแกล้งตน “หยุด! หยุดเลย ไม่ต้องมาเฮียขา เห็นแก่หน้าฉันบ้าง ไปไหนกับนายมีแต่เรื่องขายขี้หน้า เลิกทำให้ฉันอายวันนึงจะได้มั้ย”
ธารินหัวเราะออกมา ก่อนจะเข้ามานั่งแทรกกลางทั้งสองเอาไว้ “หยุดทะเลาะกัน สั่งอะไรดีคะ สั่งเลยค่ะ น้องรินหิวแล้ว”
ทั้งหมดทยอยสั่งเครื่องดื่มมาคนละแก้ว นั่งแช่น้ำคุยกันรอให้เครื่องดื่มหมดแล้วคิดว่าว่ายเล่นจนครบรอบคงจะพอ ทันใดนั้นสายตาของธชาก็ไปสะดุดเข้ากับคนคุ้นหน้าที่เดินออกมาหน้าห้องพักที่อยู่ติดขอบสระ อยู่ในชุดที่พร้อมจะโดดลงสระได้ทันที
ชายหนุ่มยื่นมือข้ามตัวธารินไปสะกิดพี่ชาย พยักพเยิดไปทางคนที่กำลังค่อยๆ แช่กายลงมาในสระ “เฮียๆ ดูนั่นดิ”
หรัณย์มองไปยังทิศทางที่น้องชายบอก ก่อนเขาจะหันกลับมาที่เดิม เบ้ปากใส่คนข้างๆ ไปหนึ่งที
“นายให้ราคาเธอด้วยเหรอ”
“เปล่า แค่ชี้ให้ดูเฉยๆ”
“ใครคะ”
ธารินมองหน้าสองคนสลับกันไปมา เมื่อหัวข้อสนทนาเปลี่ยนเป็นหญิงสาวที่เหมือนกำลังจะมองมาทางตนพอดี
หรัณย์ไม่ตอบ แต่ตอนนี้เขาอยากเขกกะโหลกน้องชายขึ้นมาทันที “เห็นมั้ยไอ้หมอ เพราะนายคนเดียวที่ไปมองเธอก่อน
เธอเห็นพวกเราเลยเห็นมั้ย จะปลีกตัวยังไงล่ะทีนี้”
“แหมเฮีย ทำอย่างกับว่าตรงที่เรานั่งมันที่ลับ ไม่เห็นก็แปลกล่ะ”
“รีบไปเถอะ ฉันสังหรณ์ใจยังไงพิกล เหมือนงานจะเข้า”
หรัณย์กระดกเบียร์ดำลงคออึกใหญ่ แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้เคลื่อนไหวร่างกาย อัญรินทร์ก็ว่ายน้ำตรงมาทางเขาพอดี
“หวัดดีค่ะคุณหมอ หวัดดีค่ะผู้กอง มาพักที่นี่เหมือนกันเลยเหรอ บังเอิญจังเลยนะคะ”
การที่อัญรินทร์จะไม่รู้ว่ากำลังคุยอยู่กับเจ้าของโรงแรมนั้นไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะเธอเองก็เพิ่งย้ายมาประจำการที่สัตหีบได้ไม่นาน ที่จริงเธอรู้จักกับหรัณย์และธชาตั้งแต่ปฏิบัติงานอยู่นราธิวาสแล้ว เพียงแต่ตอนนี้แค่ย้ายมาอยู่คนละกองร้อยกันเท่านั้น ซึ่งหรัณย์เองก็เพิ่งย้ายกลับมาบ้านเกิดได้ไม่นานเช่นเดียวกัน
หรัณย์รีบคว้ามือเล็กมากอบกุม ก่อนยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ ธารินแล้วกระซิบข้างใบหูให้ได้ยินกันแค่สองคน
“น้องริน ช่วยพี่หน่อย คงรู้นะว่าต้องทำยังไง”
อัญรินทร์ปรายตามองไปยังสองมือที่กอบกุมกันเอาไว้จนแน่น เธอมองหน้าธารินแล้วหันไปทางหรัณย์ ก่อนแค่นยิ้มถามออกมา
“วันนี้มากับใครคะ”
‘มีสิทธิ์อะไรมาถามพี่ชายฉันแบบนี้’
ธารินถึงกับไม่พอใจกับคำถามที่แสนจะไม่รื่นหู เธอรู้สึกว่า
หญิงสาวแปลกหน้ากำลังทำตัวเหมือนสนิทสนมกับพี่ชายตนเสีย
นักหนา สายตามันฟ้องว่าฝ่ายนั้นกำลังไม่ชอบใจที่เห็นเธอมาด้วยกัน คิดดังนั้นถึงถามขึ้นมาบ้างทันที
“เฮียรู้จักเธอเหรอคะ” หรัณย์ได้แต่พยักหน้าเบาๆ สายตามองเลยไปยังธชาที่ทำหน้าปั้นยากไม่ต่างกัน
“คุณคงเป็นแฟนผู้กอง ใช่มั้ยคะ”
“ไม่ใช่แฟนค่ะ แต่เป็นเมียของเขา”
ธชาแทบหลุดขำ กับการที่ธารินโพล่งออกมาแบบนั้น สมแล้วที่เป็นพี่น้องกันเพราะช่างรับมุกกันได้ดีเหลือเกิน
“อ๋อ…ใช่คนที่ผู้กองเคยบอกหวานมั้ยคะ วันนั้นที่เราแชทคุยกันน่ะค่ะ”
ครอบครัวร้าวฉานคืองานถนัด คำถามชวนให้ตีกันจึงหลุดออกมาจากปากของอัญรินทร์ นี่ถ้าหากว่าเปลี่ยนจากธารินเป็นคนรักของเขา คงจะมีเรื่องเพราะคำพูดประโยคนี้แน่นอน หรัณย์คิดพลางมองหน้าอัญรินทร์อย่างไม่พอใจ
“ผมขอตัวก่อนนะ” หรัณย์รีบตัดบท ก่อนหันมาทางธาริน “เราขึ้นจากสระกันดีกว่า ผมอยากเล่นน้ำในอ่างบ้าง เราไปต่อกันในอ่างดีกว่าไหม”
ธารินแสร้งทำเป็นเขินอาย ขณะหันไปมองอัญรินทร์
“ผู้กอง พูดอะไรหัดอายบ้าง เพื่อนผู้กองมองอยู่นะคะ”
“เฮียครับ ลืมไปแล้วเหรอครับว่าผมอยู่ด้วย ช่วยเกรงใจกระผมหน่อยเถอะครับ ขอร้อง”
ธชาแทรกขึ้นมาอย่างเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย จนหรัณย์หัวเราะออกมาเบาๆ แล้วจุ๊บแก้มคนข้างกายโชว์ความหวานให้คนมองเห็นว่าหัวใจเขาไม่ว่างสำหรับใครอีกต่อไป
“ถ้านายไม่อยากมานั่งอิจฉาใคร ก็หาเมียเข้าสิ”
ชายหนุ่มย้ายก้นลงจากเก้าอี้บาร์อย่างไม่ใยดีความรู้สึกของอัญรินทร์ เขาไม่ยอมปล่อยมือธารินเมื่อละครยังไม่จบลง อัญรินทร์มองตามแผ่นหลังกว้างที่กำลังแหวกว่ายไปในสายน้ำสีฟ้าครามหนีตนไป ความอยากได้ในตัวเขายิ่งเพิ่มพูนเมื่อความอิจฉากำลังทำงาน ภาพสวีทหวานคือพลังกระตุ้นให้เธอยิ่งไขว่คว้าอยากที่จะทำให้เขามาเป็นของตนในสักวัน…ผู้กองหรัณย์คือคนที่เธอพยายามไขว่คว้ามานาน แต่เขาไม่ยอมลดตัวลงมาเล่นด้วยกับเธอเสียที
นฤบดินทร์นั่งนิ่งอยู่ปลายเตียงน้องสาวตนมาได้พักใหญ่แล้ว ความเครียดจากการได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตรักของมาลารินทำให้สองมือกำเข้าหากันแน่นอย่างแค้นเคือง ชายหนุ่มเหลือบตามองคนที่เพิ่งหลับไปพร้อมคราบหยาดน้ำตา เขาเพิ่งรู้เรื่องราวในวันนี้ว่างานวิวาห์ที่มีแผนจะเกิดขึ้นนั้นมันล่มลงจากน้ำมือผู้ชายที่ได้ชื่อว่าเคยรักกันปานจะกลืนกิน
เขานึกโทษตัวเองที่ให้เวลากับน้องน้อยเกินไป จนในวันนี้ที่ใจของเธอบอบช้ำอย่างหนักจนถึงขนาดอาการป่วยทางกายรุมเร้า
เขาจึงได้มานั่งคิดว่าตัวเองเป็นพี่ชายที่ไม่เอาไหนเอาเสียเลย
ร่างที่ขยับยุกยิกพร้อมผงกหัวขึ้นมา ทำให้ชายหนุ่มรีบขยับ
กายเข้าไปใกล้แล้วดันให้เธอนอนลงตามเดิม
“นอนเถอะ ตื่นมาทำไม”
“แล้วทำไมพี่ภูมิถึงยังไม่นอน”
“ไม่ได้ ต้องนั่งเฝ้าเพราะเดี๋ยวมีคนบางคนแอบฆ่าตัวตาย”
“ถ้ารักจะทำ คงทำไปนานแล้ว”
ความหมายในถ้อยคำทำให้คนฟังถึงกับสะอึก เขายื่นมือไปลูบศีรษะเล็กแทนคำปลอบโยน
“พี่ขอโทษนะ ที่ปล่อยให้เผชิญปัญหาเพียงลำพัง”
มาลารินหลับตานิ่งเมื่อใจประหวัดไปถึงค่ำคืนนั้นอีกครั้ง เซ็กส์แบบวันไนท์สแตนด์เป็นฝันร้ายตามมาหลอกหลอนให้นอนไม่หลับ มันคอยแต่จะย้ำเตือนว่าเธอใช้เงินซื้อผู้ชายแลกกับความสุขเพียงชั่วคราว ไม่ต่างอะไรกับผู้ชายที่ใช้เงินซื้อบริการผู้หญิงเพื่อแลกกับเซ็กส์ แต่เธอกลับรู้สึกว่ามันน่าอดสูกว่ากันมากนัก ยามนี้เธอคงเป็นผู้หญิงไร้ค่าในสายตาผู้ชายกลางคืน…เขาคนนั้นที่หยิบยื่นเซ็กส์แสนร้อนแรงในคืนช้ำรัก ค่ำคืนที่เธอจะต้องจำไปอีกนานแสนนาน…คำว่ารักสนุกแต่ไม่ผูกพันที่เธอนำมาใช้กับเขานั้น มันกำลังย้อนมาทำร้ายตัวเองเมื่อได้รู้ว่าความจริงแล้วไม่ง่ายเลย กับการที่จะไม่คิดถึงเขาในยามเหงาใจ