ท่ามกลางแสงไฟสว่างจ้าจากหลอดนีออนที่เจ้าของห้องนั้นคงจะเปิดไว้ ปรากฏร่างของชายหนุ่มยืนหันหน้ามาทางเธอ แสงไฟที่ส่องสว่างทำให้เธอเห็นรายละเอียดบนเรือนกายนั้นอย่างแจ่มชัด เขาสูงใหญ่กำยำมีกล้ามเนื้อไปทั้งตัว ไม่ได้ออกไปทางนักกล้ามอะไรอย่างนั้น แต่เป็นกล้ามเนื้อเด่นชัดกำลังสวย เรือนกายลีนไร้ไขมัน เธอตวัดไปขึ้นไปมองใบหน้าเจ้าของร่างก็มองเห็นไม่ชัดนัก เพราะใบหน้าบิดเบี้ยวเหยเก กล้ามเนื้อหนั่นแน่นไปหมดทั้งตัวนั้นกำลังขมวดเกร็งจากการทำกิจกรรมบางอย่าง บางอย่างที่กระแทกกระทั้นเป็นจังหวะ ยิ่งใกล้อย่างนี้ ยิ่งได้ยินเสียงชัดเจนในระดับเซอราวด์ นอกจากเสียงครวญครางแล้ว ยังมีเสียงจังหวะดังตั้บ ๆ เพิ่มขึ้นมาอีกด้วย
ด้วยความที่ด้านล่างนั้นปิดทึบเธอจึงไม่เห็นสิ่งที่ชายหนุ่มนั้นทำได้ถนัดชัดเจนนัก เมษากลืนน้ำลายลงคอฝืด ๆ กำมีดในมือแน่นแล้วสาวเท้าเดินเข้าไปจนชิดระแนงไม้แล้ว แนบสายตาลงตรงช่องว่าง และสิ่งที่เธอเห็นก็ยิ่งทำให้ดวงตาที่เบิกโพลงอย่างตกใจในทีแรกมันยิ่งเบิกกว้างออกอีกเป็นเท่าตัว
เจ้าหนุ่มนั่นกำลังกระแทกกระทั้นสัญลักษณ์แห่งเพศชายเข้ากับเรือนร่างขาวโพลนร่างหนึ่งที่เมษามองไม่เห็นใบหน้า เพราะเจ้าหล่อนอยู่ในท่ายืนโก้งโค้งหันสะโพกให้ชายคนนั้น สิ่งที่ผลุบเข้าผลุบออกตรงกลีบกลางระหว่างแก้มก้นนั้น มันทั้งอวบอ้วน ใหญ่ยาว ความใหญ่ของมันพอ ๆ กับท่อนแขนเด็กอนุบาลได้ล่ะมั้ง ถึงว่าสิ เสียงครางของเจ้าหล่อนอย่างกับคนจะขาดใจตาย ใหญ่ยาวซะขนาดนั้นสงสัยจะทะลวงไปถึงตับไตไส้พุง
เมื่อสถานการณ์ที่สงสัยว่าจะเป็นฆาตกรรมกลับกลายเป็นภาพกีฬามันส์ ๆ ที่ผู้หญิงอย่างเมษาตั้งแง่ว่ารังเกียจเดียดฉันท์เป็นยิ่งนัก เพราะปมในชีวิตก็เกิดขึ้นจากการยินยอมพลีกายใจให้ผู้ชายไปง่าย ๆ เธอเลยรีบถอยหลังหวังจะกลับเข้าห้อง แต่อารามรีบร้อน แข้งขามือไม้มันพาลสั่นไปหมดจึงถอยหลังไปชนกับประตูที่เปิดค้างไว้ดังตึ้ง ! มีดในมือหล่นลงกระทบกับพื้นดังเคร้ง !
สองหนุ่มสาวที่กำลังทำกิจกรรมเข้าจังหวะหยุดมันทันทีที่ได้ยินเสียงขัดจังหวะ หญิงสาวที่ก้มลงโก้งโค้งรีบลุกขึ้น ก่อนที่ ทั้งสองจะมองมายังเมษาที่ยืนตะลึงทำอะไรไม่ถูกอยู่ตรงนั้น
อย่างไม่คาดคิด ผู้หญิงคนนั้นเบิกตากว้าง พลางชี้มือมายังเมษาแล้วตะโกนออกมาเสียงดังว่า
“ ผีหลอก ! ” แต่ชายหนุ่มกอดร่างของเธอไว้ก่อนที่จะเตลิดหนีไปด้วยความตกใจ
“ ผีที่ไหนเล่า ”
“ แต่ธันบอกว่าห้องข้าง ๆ ไม่มีคนอยู่ไม่ใช่เหรอ ” เธอถามปากคอสั่น เขาพยักหน้า
“ ก่อนหน้านั้นไม่มี แต่เขาอาจจะพึ่งย้ายเข้ามาก็ได้ ไปรอผมในห้องก่อน ” เธอพยักหน้าก่อนหันมามองเมษาที่ยังยืนงงอยู่อีกฝั่งด้วยสายตาหวาดระแวง ก่อนที่จะเปิดประตูเดินหายไปในห้องของชายหนุ่ม
ไอ้หนุ่มจอมกระแทกยืนนิ่งอยู่อึดใจ ก่อนสาวเท้าเข้าใกล้ระเบียงไม้ฝั่งห้องของเมษา เพื่อต้องการจะมองแขกไม่ได้รับเชิญที่บังอาจขัดขวางกิจกรรมเข้าจังหวะอันเพลิดเพลิน อะไรที่มันยังแข็งยังใหญ่ยาว มันก็ยังคงโด่เด่อยู่อย่างนั้น เขาเอื้อมมือไปรูดบางสิ่งบางอย่างที่สวมคลุมความยิ่งใหญ่นั้นออก หญิงสาวตกใจ สบถด่าออกไปอย่างไม่ทันยั้งคิด
“ ไอ้บ้า ไอ้โรคจิต ! ”
เจ้าหนุ่มนั่นไม่ได้มีทีท่าอับอายหรือรู้สึกผิดใด ๆ ทั้งสิ้น ตรงกันข้าม มุมปากนั้นถูกยกยิ้มอย่างขำ ๆ ก่อนจะพูดขึ้นมาบ้าง
“ ใครโรคจิตกันแน่ อยู่ ๆ ก็มาแอบดูคนอื่นเขา นี่เข้ามาอยู่ใหม่เหรอ ” เมษาเชิดหน้าเถียงคอเป็นเอ็น
“ เออ พึ่งมาวันนี้ แล้วฉันไม่ได้ตั้งใจจะแอบดูเว้ย ฉันแค่.. แค่ได้ยินเสียงผิดปกติ ก็นึกว่ามีคนจะถูกฆ่า ” มันหัวเราะร่วนราวกับเป็นเรื่องน่าขำเสียเต็มประดา
“ ผมขอโทษละกัน ผมไม่รู้ว่ามีคนมาอยู่ใหม่ เลยไม่ได้ระวัง ผมชื่อธันวานะ คุณล่ะ ”
ธันวา ไอ้ธันวาโรคจิตที่เจ๊ดอกไม้บอกนี่นา ใช่เลย มันรูปร่างหน้าตาดีจริง ๆ ด้วย สูงใหญ่กล้ามแน่น ใบหน้ายาว คิ้วเข้มพาดขวางอยู่บนดวงตาคม ขนตามันยาวงอนอย่างกับผู้หญิงด้วยนะ จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากบาง ใบหน้ายาวได้รูป ล้อมกรอบไปด้วยไรเคราเขียวครึ้มบาง ๆ ที่ส่งให้ใบหน้านั้นหล่อเข้มขึ้นไปอีก เมื่อบวกกับรูปร่างสูงใหญ่ มันก็คงไม่ยากที่จะทำให้ได้เหยื่อมาง่าย ๆ
แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาจะมาชื่นชมความหล่อล่ำของผู้ชาย โดยเฉพาะผู้ชายที่ซ่อนความโรคจิตไว้หลังรูปร่างหน้าตาที่ดูดีเหลือเกินอย่างนายธันวาคนนี้ !
คิดได้ดังนั้นเมษาก็รีบวิ่งหนีเข้าห้องแล้วปิดประตูอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้ไอ้โรคจิตยืนงงอยู่ลำพัง
“ อ้าวเฮ้ย ถามก็ไม่ตอบ คุยด้วยก็ไม่คุย คนอะไรไม่มีมารยาท ” ก่อนจะนึกได้ว่าตัวเองไม่ได้สวมเสื้อผ้า แล้วไอ้น้องชายก็ยังยาวใหญ่โด่เด่อยู่อย่างนั้น เลยหัวเราะพรืดอย่างขำ ๆ แล้วล่าถอยเข้าห้องไป
เมษายืนพิงประตูอยู่อย่างนั้นเสียเนิ่นนาน เพื่อระงับอารมณ์ให้กลับมาเป็นปกติ หัวใจมันเต้นรัวราวกับจะทะลุออกมานอกหน้าอก ลมหายใจถี่กระชั้น มือไม้มันสั่นไปหมด เมื่อได้เห็นภาพอุจาดนั้นต่อหน้าต่อตา จริงอยู่ เธอเองเคยผ่านเรื่องอย่างว่ามาในครั้งที่อยู่มหาวิทยาลัยกับชายที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อของลูก แต่ก็เพียงสี่ห้าครั้งแล้วเธอก็ท้อง พอท้องมันก็ทิ้งไป เปรียบไปแล้วเธอเองก็เหมือนกับสาวไม่มีประสบการณ์นั่นแหละ เมื่อได้มาเห็นอะไรแบบนั้นต่อหน้าต่อตาก็เลยตกอกตกใจขวัญผวาเสียยกใหญ่
“ ทุเรศ ทุเรศ ทุเรศ ! ”
เมษาส่ายศีรษะสะบัดภาพนั้นให้ออกจากความคิด เดินไปหยิบน้ำเปล่ามาหนึ่งขวดแล้วยกกระดกอั้ก ๆ ทีเดียวแทบจะหมด ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนข้าง ๆ เพื่อนรักที่ยังคงกรนสม่ำเสมอ หลับสนิทอย่างสุนทรี