ตอนที่ 10
ดูซิ ขนาดหนูก้อยยังรู้ คุณหญิงคิดในใจ
“เอ้อ เรื่องนี้ป้า ก็ไม่ค่อยได้รู้หรอก หนู แล้วอีกอย่างก็ ไม่ค่อยได้สนใจมันด้วย”
คุณหญิงบุรีมาศพูด ปัฐดาภรณ์ก็เลยเงียบ เพราะเห็นว่าไม่ควรสนใจเรื่องคนอื่นมาก อีกอย่างคุณหญิงพวงทิพย์ก็จ้องมองมาด้วย เธอจึงไม่อยากพูดเรื่องนี้อีก
เช้าวันรุ่งขึ้นอีกครั้งที่เปิดเรียนติวในการสอบ ในชั้นเรียน นามินีรู้สึกว่า วันนี้เธอเรียนก็ไม่รู้เรื่อง เพราะนึกง่วง เนื่องจากเมื่อสามวันก่อน ช่วยขายพวงมาลัยดึก มันเพลียสะสม แล้วยังต้องปะทะคารมกับชายหนุ่มแปลกหน้า ทำให้นอนหลับยาก และมีอิริภาเพื่อนรักคนหนึ่งถาม
“เอ๊ะ นา ทำไมหน้าตาดูเซียวๆอย่างนั้น เหมือนเธออดหลับอดนอนมาหลายคืนเลยนะ หนูนา ”
“ฮื่อ” นามินีพยักหน้า และยิ้มตอบเพื่อนอย่างอารมณ์ดี
“วิชาเรียนน่าเบื่อคณิต คำนวณ นี่ ฉันไม่ชอบเลย”
“ก็ทำไงได้วันนี้ตารางเรียนคณิตนี่กับอังกฤษด้วย“
“นั่นสิ ถ้าอังกฤษ ฉันก็พอไหวอยู่ ”
นามินีตอบเพราะชอบภาษาอังกฤษเหมือนกัน
ขณะเดียวกันนางสร้อยทองมารดาของนามินีอยู่บ้าน ช่วยร้อยพวงมาลัย และขายข้างแกงของตนเอง อยู่หน้าปากซอยนางสวนพี่สาวเดินเข้ามาบ่นในร้าน
“นี่ สร้อย ฉันคิดว่า ท่าทางหลานของฉันมีท่าทางแปลกนะ สร้อย เมื่อหลายวันก่อน”
นางสร้อยทองเงี่ยหูฟัง หลานสาวที่ว่า ก็คือลูกสาวของนาง เพราะว่า นางสวนหรือรำจวนมีแค่หลานสาวคนเดียว จึงเอ่ยตอบพี่สาว
“เป็นไงล่ะ พี่จวน ยายหนูนามันไปทำอะไร หรือ”
นางสวนทำท่าครุ่นคิดแล้วตอบออกมาว่า
“ไม่รู้สิ มันทำท่ามุบมิบซุบซิบ ทำยังกะมีลับลมคมใจกับป้าและลุงของมันเหลือเกินสร้อย”
สร้อยทองใจคอไม่ดีนัก
“เอ หรือ มันจะขโมยเงินพี่หรือไง เดี๋ยวมันมาฉันจะถามให้พี่เอง ”
“มันไม่ใช่อย่างนั้นหรอก และฉันไม่ได้โทษหลานมันขนาดนั้นหรอก รู้ว่า หนูนานะมันไว้ใจได้มากกว่าใคร”
นางสร้อยทองเลยถอนหายใจแล้วนางรำจวนก็กลับคำ
“แต่ก็ต้องสงสัยมันไว้ก่อน”
และนางสร้อยทองมองหน้าพี่สาวอย่างไม่เข้าใจเหมือนกัน ที่ตลบตะแลง จะเอายังไงกันแน่เดี๋ยวมาว่าลูกสาวของนางเหมือนเป็นคนไม่ดี มาแขวะโดยไม่พูดตรงๆ เอาแต่มิดเม้มคำไว้
“ตกลง ฉันจะไปพูดเรื่องนี้กับมันเอง”
“แต่ว่าเอ็งอย่าไปตีลูกดุลูกนะ ข้าเองก็เพียงแต่สงสัย ” ลงท้ายก็ว่าลูกสาวของนางผิด
“เอาล่ะ เดี๋ยวไปจัดการให้ พี่จวนไม่ต้องห่วง ”
สร้อยทองพูดออกมาเพื่อให้ทุกอย่างจบลงด้วยดี
เพราะไม่อยากจะมีเรื่องกับพี่สาวแท้ๆของตนเองนัก มันไม่ดีสักเท่าไหร่ ญาติพี่น้องกัน
แต่คิดอีกทีนั้น สร้อยทองรู้ว่า ที่พี่สาวห้ามอย่างนี้ คงเป็นเพราะกลัวไม่มีใครช่วยนั่งเฝ้าขายพวงมาลัยให้ตอนดึก ช่วยไปผลัดเปลี่ยนกับพี่เขยไปกินข้าวในบ้าน เพราะทั้งผัวและเมียก็ร้อยพวงมาลัยอยู่ที่บ้าน เนื่องจากเวลามันไม่มีทำอย่างอื่น เพราะมันเป็นเวลาเงินเวลาทอง ที่สองผัวเมียจะต้องรีบกอบโกยให้ได้มากที่สุด
ครั้นเวลานี้ใกล้เที่ยงคืนแล้วและเริ่มมีลูกค้าขาประจำพวกรถแท็กซี่ขับรถมาจอดซื้อทุกวัน เพราะร้อยดอกมะลิพวงมาลัยไม่ทันนี่แหล่ะ
สองผัวเมียจึงต้องจ้างคนและร้อยเองด้วย และบางครั้งก็ปลุกสร้อยทองมาช่วยร้อยด้วย ถ้าพวงมาลัยที่แขวนไปขายเหลือแค่ พวงสองพวง ขายหมดเร็ว เพราะมันขายดี แต่ว่าจะพึ่งพาน้องสาวบ่อยหนไม่ได้ เพราะนางสร้อยทองก็มีอาชีพของนาง คือ แม่ค้าขายข้าวแกง พอถึงเวลาก็ลุกตื่น เพื่อทำอาหารทั้งหวานคาวของตัวเอง เพื่อตั้งขายในเพิงกลางตลาด
และในเวลานี้ ของสายๆ ประมาณไม่เกินแปดโมงเช้า วินท์ ได้ตัดสินใจขับรถมาแถวนี้ และเขามีความสงสัยว่าแม่สาวน้อยตัวแสบบ้านต้องอยู่แถวนี้แน่ เผื่อว่าจะได้พบเจอหล่อนอีกครั้ง แต่ไม่มีวี่แววเสียเลย ช่วงเวลานี้ เห็นแต่แม่ค้าขายของต่างๆ ทั้งขายข้าวแกง ขนมหวาน ผักผลไม้ เกร่อไปทั่ว ในซอย แต่กลับไม่มีแผงร้านขายพวงมาลัยอย่างที่เห็น
หรือว่าจะขายเฉพาะตอนค่ำคืนอย่างเดียว วินท์คิด ไม่รู้เป็นไง ถึงอยากจะมาเจอหน้าหล่อน ใครๆก็รู้ว่า มาดของเขาต้องลูกเศรษฐี แม้แต่แม่ค้าแถวนั้นก็จับกลุ่มซุบซิบ ว่าลูกมหาเศรษฐีหลงเข้ามาในซอยของคนจน ซึ่งก็แปลกใจ และไม่เคยมีมาก่อน แล้วเขามาหาใคร? หลงทางหรือเปล่า
ทุกคนพากันขบคิด แม้แต่แม่ค้าขายข้าวแกงถุงละสิบบาทอย่างนางสร้อยทอง ก็เขม้นมองด้วยความแปลกใจ เพราะรูปพรรณสัณฐานการแต่งกายแล้ว เขาไม่ใช่คนแถวนี้ เขาเข้ามาถามนาง
“มีอะไรหรือจ้ะพ่อหนุ่มจะถามอะไรฉัน”
นางสร้อยทองเอ่ยถามเขา พร้อมกับขมวดคิ้ว เผื่อเด็กหนุ่มหลงทางเข้ามา
“คุณ น้าครับ” เขาเรียกนางว่าน้า เพราะ วินท์คะเนแล้ว มารดาของเขาอายุมากกว่า ห้าหกปีด้วยซ้ำ นางสร้อยทองแปลกใจ ที่เขาเรียกนางว่าน้า
ขณะที่เอ่ยถาม สายตาก็สอดส่ายหาอยู่ตลอดเวลา นางสร้อยทองสงสัย และยิ่งมีทีท่าไม่ไว้ใจ
“เมียงมองหาใครหรือพ่อหนุ่ม แล้วนี่จะพูดอะไรก็พูดมาสิ ฉันจะตอบให้ ถ้าอยากจะรู้เรื่องอะไร ”
ถึงอย่างไรนางก็มีมนุษย์สัมพันธ์กับคนแปลกหน้า นางสร้อยทองที่สวมผ้าคาดเอวสีขาวสะอาดแบบแม่ค้าอนามัยถามชายหนุ่ม เลยทำให้วินท์ต้องตอบ
“เอ้อคือว่า คุณน้าครับ เมื่อหลายวันก่อน ผมได้มาซื้อพวงมาลัยดอกมะลิ แถวนี้ ตรงใกล้สี่แยก แต่ราคาขายนี่แพงมากที่สุดในโลกเท่าที่ผมเคยพบมามีใครรู้จักบ้างไหม? ครับ แม่ค้าวัยรุ่น หน้าตาใช้ได้ แต่ปากจัดหน่อย ”
แม่ค้าที่ไหนจะปากจัดที่สุดแถมเป็นวัยรุ่น และแถวนี้มีอยู่คนเดียว เจ้าตัวยังไม่กลับจากโรงเรียนนางสร้อยทองอึ้ง แกมตกใจอีกต่างหาก ที่มีเรื่องแบบนี้
“แพงที่สุดในโลกเลยหรือ”
นางพึมพำอีกครั้ง รู้ว่าลูกสาวตัวดีของนางไปแผลงฤทธิ์อะไรใส่เขาเข้าอีก หากแต่นางก็เงียบ