ตอนที่ 9
แต่หล่อนก็บอกกับมารดาว่า สามารถเอาตัวรอดได้
และก็เอาตัวรอดได้ทุกครั้ง ตะกี้นี้นามินียังได้ยินเสียงป้ากับลุงมาปลุกแม่ที่บ้านแต่เช้ามืด บอกว่าฝากบ้านไว้เป็นประจำเหมือนเคย เพื่อออกไปซื้อดอกไม้ร้อยพวงมาลัย จำพวกดอกมะลิตูม กุหลาบ จำปี เพื่อมาร้อยมาลัยขาย
หากแต่ฝ่ายของศักรินทร์แฟนหนุ่มที่เป็นนายทหารเรือประจำการอยู่ที่สัตหีบ เพิ่งขึ้นมากรุงเทพ มาหาหล่อน ด้วยความรักที่นัดพบปะกัน เช่นหนุ่มสาวคู่รัก แต่ แล้ว เมื่อถึงเวลา เขาก็กลับไปอีกครั้ง ก็เลยทำให้อัครณี รู้สึกเหงา เขาเยี่ยมหล่อนที่กรุงเทพในครั้งนี้ ดูเหมือนระยะเวลา สั้นนัก เขาเต็มใจมาหรือเปล่าล่ะ เหมือนไม่อยากมา ทำให้หล่อนนึกสงสัยในใจ หรือเขานั้นมีธุระอย่างอื่นที่ห่วงพะวง ถึงต้องรีบกลับ ไปชลบุรีอย่างเดียว
แต่เขาก็บอกเหตุผลแก่หล่อนในตอนหลัง ด้วยการโทรศัพท์มาสารภาพ แล้ว ทำไม ตอนอยู่กับหล่อน ไม่บอกเรื่องนี้ มันชักแปลกๆ
“เอ้อ นี ครับ ผมลางานได้แค่สามวันเท่านั้นเอง นะครับ” หล่อนเองก็เข้าใจเขาเมื่อเล่าจบ ดีแล้วล่ะ ที่เขายังมีเวลาให้ และสามารถปลีกตัวมาหาหล่อนได้อย่างวันนี้ ศักรินทร์แฟนหนุ่มของหล่อนเป็นคนที่ไม่ชอบเข้าไปสุงสิงกับใคร
แม้แต่กับเพื่อนๆที่สนิทของหล่อน อัครณีเห็นว่ามัน ก็เป็นปัญหาเหมือนกัน ที่คู่รักของหล่อน นั้น บางครั้ง เขาก็ไม่สามารถเข้ากับเพื่อนฝูงของหล่อนได
แต่หล่อนก็ได้พยายามปรับปรุงและแก้ไข
เพราะหากว่า ศักรินทร์รักหล่อน หล่อนเชื่อ แน่ว่า เขาจะต้องทำตามใจหล่อนแน่ เพราะหล่อนและเขาร่วมหวังในอนาคตที่จะอยู่ร่วมกัน มันมีเปอร์เซ็นต์สูง และหล่อนก็มั่นใจอย่างนั้น อีกอย่างหล่อนฝากชีวิตทั้งชีวิตของหล่อนเพื่อต้องการให้เขาดูแลตลอดไปเป็นสามีในอนาคต เพราะเท่าที่คบกันมา ส่วนไม่ดีของเขา นั้นมีบ้างเล็กน้อย แต่ว่าหล่อนก็รับได้ ในสิ่งเหล่านั้นไม่ได้เป็นปัญหา
ยิ่งอัครณีรู้สึกเหงา และก็คิดถึงเขาเหมือนกัน เมื่อเขาได้กลับไปที่ชลบุรีฐานทัพเรือสัตหีบแล้ว หลายครั้งที่เขาบอกว่า
“คอยก่อนนะจ้ะ คอยพี่ก่อน อีกไม่นานหรอก เดี๋ยวศักดิ์ ก็จะรีบให้เถ้าแก่มาสู่ขอ ณี กับพ่อแม่ ที่กรุงเทพ”
และเขาพูดคำนี้ ทำให้หล่อนรู้สึกปลื้มใจ มีความหวัง ว่า หล่อนนั้นกำลังจะร่วงหล่นจากคานทองแล้ว
แต่ว่า เขายังไม่ได้เอ่ยเรื่องสู่ขอหล่อนอย่างเป็นงานเป็นการ ก็ยังเฝ้ารอ เป็นครั้งนี้อีกครา ที่มาแล้ว ซึ่งหล่อนอยากให้เขาพูดถึงเรื่องหมั้น แต่แล้วเขากลับไม่ได้พูด
ทั้งๆที่หล่อนรอคำนี้ หล่อนจะทำอะไรได้ล่ะ เป็นผู้หญิงก็รู้จักรักนวลสงวนตัว
ใครหนอจะกล้ามาเปิดเผยตัวเอง ครั้งแรกว่า แอบรักและชอบผู้ชายก่อน อีกอย่างหล่อนยังโสดซิง ไม่เคยถูกเขาล่วงเกินข่มเหงภายในกายสาวที่หวงแหนที่สุดด้วย ก็แต่เพียงแค่ภายนอกเท่านั้น กับการ กอดจูบธรรมดา ตามประสา หนุ่มสาวคู่รักกัน
แม้เขาอยู่ไกลถึงเพียงนั้น ที่พัทยา ชลบุรีหรือสัตหีบ หล่อนก็อยากไป เพื่อไปเที่ยวที่บ้านของเขาบ้าง แต่เขา กลับปฎิเสธ บอก หล่อนว่าไม่มีเวลาพบเจอ
ทั้งๆที่หล่อน นั้นเป็นฝ่ายเต็มใจไปหาเขา และค่ารถค่าเดินทางก็ส่วนตัวที่หล่อนจะออกเอง หล่อนตั้งใจจะลางานไปด้วย เป็นการลาหยุดพักร้อนประจำปี หากแต่ได้รับคำปฏิเสธจากเขาเบาๆแล้ว มันเลยทำให้หล่อน รู้สึกเสียใจและน้อยใจเขาเหมือนกัน ที่ทำแบบนี้ เหมือนหล่อนไม่มีความหมาย เขาบอกคำสั้นแค่ว่า
“เอ้อ ศักดิ์ว่า ค่อยเอาไว้โอกาสหน้าก็แล้วกัน ถ้ามาแล้ว ผมจะชวนคุณไปเที่ยวให้ทั่ว เช่น บางสะเหร่ เกาะสีชัง จะพาไปให้ทั่วเลย ”
คำพูดของเขาก็จุดความหวังเช่นกัน
“จริงนะคะ ”
“ก็จริงสิครับ ผมจะโกหกคนดีของผม ไปทำไมกัน เอ้อ เพราะว่าใจของผมมีแต่ณี คนเดียวเท่านั้น”
เขาหยอดคำหวานอีกครั้งให้อัครณีเคลิ้มและลุ่มหลง และหล่อนก็เขิน จนสะเทิ้นเอียงอายออกมา
เพราะว่า ในเวลานี้ คุณหญิงบุรีมาศ ได้เข้ามาเดินช็อปปิ้งที่ห้างสรรพสินค้าหรูหราแห่งนี้ กับคุณหญิงพวงทิพย์เพื่อนสนิท ซึ่งนัดกันไว้ คุณหญิงพวงทิพย์ มีปัฐดาภรณ์ ลูกสาวตามติดมาด้วย ซึ่งเป็นคนที่คุณหญิงบุรีมาศหมายหวังในตำแหน่งลูกสะใภ้เหมือนกัน
แต่เมื่อทราบว่าหนูก้อย หรือ ปัฐดาภรณ์ต้องเดินทางไปเรียนหนังสือต่อ ที่ อังกฤษ ในอีกเดือนหน้า ก็เริ่มจะหมดหวัง ลูกชายของนางนั้นไม่เอาถ่าน วินท์ เอาแต่ตะลอนหาที่เที่ยวแทบจะทั้งวัน แล้วไม่กลับบ้านกลับช่อง พฤติกรรมอย่างนี้ นางกลัวฝ่ายหญิงจะยอมรับไม่ได้เหมือนกัน
เลยอยากให้บุตรชายปรับปรุงตัว แต่วินท์ ก็ไม่นึกแคร์ ยิ่งสองสามวันก่อนที่เขากลับมาบ้าน ลูกชายพูดแปลกๆ ประจบนางทำท่าว่าจะเจอเนื้อคู่อย่างนั้น ใครหนอจะแลลูกชายอย่างนาง ฮึ ลูกเต้าเหล่าใครกันล่ะ เลยอดหมิ่นเยาะไม่ได้
ปัฐดาภรณ์เจอหน้าคุณหญิงบุรีมาศ เลยยกมือไหว้ทัก
“สวัสดีจ้ะ หนูก้อย ”คุณบุรีมาศรับไหว้
ทั้งปัฐดาภรณ์นั้นเคยรู้จักวินท์มาแล้ว หล่อนเรียกเขาอย่างสนิทสนมว่าพี่วินท์ เพราะวินท์นั้นเป็นเพื่อนรุ่นพี่ของเพื่อนสนิทของหล่อนอีกคนด้วยเหมือนกัน ประกอบกับสองครอบครัว ไปมาหาสู่กันบ่อยหน
แต่ความรู้สึกของเธอกับวินท์ นั้น คบกันเหมือนเป็นพี่น้อง เขาเป็นพี่ชายมากกว่า จะคิดในแง่ชู้สาว
อีกอย่างเธอคิดว่า พี่วินท์ ไม่ใช่สเปกต์เธอ
ทั้งสองครอบครัวนั้นสนิทกัน เพราะเป็นเพื่อนรักกัน ทำให้ไม่ทิ้งกันและคุณหญิงบุรีมาศนางยังเอ็นดูปัฐดาภรณ์เหมือนเดิม เพราะจะว่าไป หล่อนก็ยังเป็น เช่นหลานสาวที่น่ารักของคุณหญิงอย่างไม่เคยเปลี่ยนแปลง
ปัฐดาภรณ์ เลยนึกถึงพี่ชายคนนี้
“เอ พี่วินท์ ล่ะคะ คุณป้า ไปไหนกันเอ่ย นี่ ก้อยมาทีไร ก็ไม่เคยเจอหน้าพี่เขาเลยทุกที ตั้งใจว่าจะอยู่ทัก พี่เขาสักหน่อย ”
“โอ๊ย อย่าไปพูดถึงเขาเลยลูก บ้านช่องเคยกลับเสียที่ไหนไม่รู้ว่าไปอาศัยบ้านใครหลับนอน ทำเหมือนพวกอนาถา” คุณหญิงประชดไปถึงบุตรชาย
“ตายจริง พี่วินท์เป็นถึงยังงั้นเลยหรือคะ คุณป้า แต่เท่าที่ก้อยได้ยินนี่ พี่วินท์ ก็ไม่ค่อยมีเพื่อนที่ไหนนี่คะ ที่เห็นสนิทกัน ก็มีอยู่ แค่สองคนเท่านั้น ที่ก้อยพอจะรู้ ”
อุทานออกมา เธอหมายถึงอัครณีและศุภฤทธิ์