บทนำ
“นี่พริ้งเย็นนี้เธอไปไหนหรือเปล่า ไปกินข้าวที่บ้านเราไหม” พลอยหวานหันมาถามเพื่อนสาวคนสนิทอย่างพริ้งพราวสาวสวยเข็ดฟันขยี้ใจชายหนุ่มให้ใจแตกสลายหลังจากได้เวลาเลิกเรียน
“พ่อเธออยู่บ้านหรือเปล่าล่ะ ถ้าอยู่ฉันจะไป” เอ่ยถามถึงหนุ่มใหญ่เมียเสียชีวิตไปได้หลายปีอยู่กับลูกสาวอย่างเพื่อนเธอสองคนในบ้าน ผู้ชายที่เธอตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็นและอยากได้เขามาครอบครองทั้งตัวและหัวใจ แม้ตั้งเเต่วันเเรกที่เห็นจนมาถึงวันนี้ จะผ่านมาเเล้ว 3 ปีก็ตาม ก็ยังไม่ได้เห็นขาอ่อนพ่อของเพื่อนเเต่อย่างใด อย่าว่าแต่ขาอ่อนเลยที่ไม่ได้เห็น แค่พูดคุยกันก็นับว่ายากหนักหนา เธอพูดไปสิบเขาตอบมาหนึ่ง
“อยู่สิ ทำกับข้าวรออยู่ที่บ้าน” รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นในทันที
“งั้นไป แต่ฉันไม่เอารถไปนะ ขากลับจะอ้อนให้พ่อแกมาส่ง แกโอเคใช่ปะ ไม่ว่าอะไรนะ”
“ตามใจเถอะจ๊ะแม่สาวสวย อยากทำอะไรก็ทำ แต่ระวังได้นั่งแท็กซี่กลับแล้วกัน” พลอยหวานไม่ได้คัดค้านอะไร หากเพื่อนสนิทของเธอจะมอบความสุขให้พ่อเธอ เพราะพ่อของเธอนั้นวันๆ เอาแต่ทำงานเธอไม่เคยเห็นพ่อจะมีเวลาไปหาความสุขใส่ตัวบ้างเลย
พริ้งพราวและพลอยหวานเดินเข้ามาในห้องครัวที่มีหนุ่มใหญ่วัยสี่สิบปีกำลังตั้งโต๊ะรออยู่ พริ้งพราวมองร่างสูงในชุดเสื้อยืดกับกางเกงขาสั้นด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเสน่ห์หาและอยากครอบครอง ยิ่งเห็นใบหน้าคมเข้มสวมใส่แว่นสายตาก็ยิ่งทำให้เธอใจสั่นและวูบวาบในช่องท้องติ่งเนื้อในร่มผ้าก็สั่นสะริกราวกับถูกลิ้นชื้นตวัดลงลิ้นทักทาย เผลอตัวขมิบขับน้ำหวานออกมาจนเปียกเฉย เพียงเเค่เห็นหน้าเขาเธอก็รัญจวนวาบหวามเสียเเล้ว
“สวัสดีค่ะคุณพ่อ” พริ้งพราวยกมือไหว้ตามมารยาท ทั้งที่จริงเธอไม่อยากเรียกพ่อให้เสียเวลาอยากเรียกผัวเลยจะดีกว่า แม้คนที่เธอกล่าวทักทายจะตีหน้าขรึมเพียงแค่พยักหน้ารับตามารยาทเท่านั้นก็ตามที
แต่ใครเลยจะรู้ว่าภายใต้ใบหน้าที่เรียบเฉยนั้น ด้านในใจกำลังเต้นแรงที่เห็นหญิงสาวตรงหน้า ยิ่งเห็นว่าชุดนักศึกษาที่สวมใส่ทั้งสั้นทั้งรัด โดยเฉพาะเสื้อนักศึกษาที่กระดุมแทบหลุดกระเด็นออกมาเพราพความใหญ่โตคู่นั่น ก็ยิ่งเกิดความรู้สึกเหมือนร่างกายตื่นตัว เลือดลมในกายสูบฉีดพลุ่งพล่านอยากจะกระชากชุดนั้นออกจากตัวหญิงสาว และจับขาเรี่ยวถ่างออกกว้างๆ มุดหน้าลงลิ้นตรงรูสวาทและติ่งเนื้อเน้นไปให้หญิงสาวดิ้นเร่าๆ อยู่ใต้ร่าง
“คุณพ่อคะ พลอยพาพริ้งมาทานข้าวด้วย คุณพ่อไม่ว่าอะไรนะคะ ทานหลายคนสนุกดีค่ะ”
“ตามใจหนูสิคะ” แม้จะเฉยชาไม่สนใจคนอื่นแต่กับบุตรสาว ไทม์กับอ่อนโยนไม่เคยเปลี่ยน ตั้งแต่ภรรยาจากไปร่วมเจ็ดปี ไทม์ก็ทำหน้าที่ทั้งพ่อและแม่ในเวลาเดียวกัน มอบความรัก ความอบอุ่นในบุตรสาวไม่เคยขาด
“คุณพ่อนี่ใจดีจังเลยนะคะ จริงไหมพริ้ง”
“ใช่จ๊ะ ทั้งหล่อ ทั้งใจดีเลยล่ะ” พริ้งพราวเอ่ยเสียงหวานพร้อมทั้งยิ้มให้ไทม์อย่างมีความหมาย แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือใบหน้าเรียบเฉย
“งั้นแกอยู่กับพ่อก่อนนะ ฉันขอเอาของไปเก็บบนห้องก่อน และว่าจะอาบน้ำสักหน่อย พอดีเหนียวตัวน่ะ กว่าจะลงมาก็คงอีกนาน” พูดทิ้งท้ายเปิดทางให้ จากนั้นก็เดินยิ้มและขยิบตาให้เพื่อนสาวเป็นอันรู้กัน
หากชื่นชอบในภาษาและบทความ อย่าลืมกดเข้าชั้นเเละกดหัวใจให้ไรท์ด้วยนะคะ
เรื่องนี้เป็นเรื่องสั้นประมาณ 10 ตอน เเละจะเปิดให้อ่านฟรี พร้อมทั้งติดเหรียญค่ะ