"นังหนูๆ นังหนูเอ้ย" เสียงเรียกที่ดังขึ้นทำให้ลี่อิงฮวาค่อยๆลืมตาขึ้นมา
สิ่งแรกที่ปรากฏแก่สายตาเธอก็คือหมู่มวลเมฆสีขาวพิสุทธิ์ที่ลอยละล่องไปมาอย่างสวยงาม
ดวงตาดอกท้อกวาดมองสิ่งรอบๆด้วยความตื่นตาตื่นใจจนไปสะดุดเข้ากับคนคนหนึ่ง
เขาคนนั้นคือหลวงจีนที่วัดนั่นเอง...
ใช่ อิงฮวามั่นใจว่าเป็นคนเดียวกันแน่ๆแค่คนตรงหน้าเธอหัวไม่โล้นแค่นั้นเอง
เอ๊ะ!หรือหลวงจีนคนนี้กำลังสวมวิก?
"เพ่ย นังหนูนี่ ข้าไม่ได้สวมวิก! นั่นมันร่างจำแลงต่างหากเล่า!"
"อุ๊ย ได้ยินความคิดอิงด้วยเหรอคะ"
"ก็ได้ยินน่ะสิ ข้าเป็นเทพเซียนเชียวนะหึ!"
"แหะๆ ขอโทษค่ะ แล้ว...อิงตายแล้วใช่ไหมคะถึงได้มาอยู่ที่นี่" อิงฮวาค่อนข้างมั่นใจว่าที่นี่ต้องเป็นสักที่ในสวรรค์แน่ๆ
"ยังไม่ตาย แต่เจ้าก็เดาถูกแล้วล่ะ เพราะนี่คือส่วนหนึ่งในสวรรค์ของข้า" ท่านเทพพูดกับอิงฮวาพลางกอดอกยืดอกประหนึ่งคนขี้อวด
แต่อิงฮวานั้นหาได้สนใจกับพฤติกรรมอันแปลกๆของท่านเทพไม่ สิ่งที่เธอสนใจคือ ในเมื่อตัวเธอยังไม่ตายแล้วเหตุใดถึงมาอยู่ตรงนี้ได้ต่างหาก?!
ใช่! เธอยังไม่ตายแต่มาอยู่ที่สวรรค์? 'เฮลโล่วววนี่มันก็แปลว่าตายแล้วไม่ใช่เรอะ!' อิงฮวาคิดในใจแต่เธอคงลืมกระมังไปว่าท่านเทพสามารถอ่านใจเธอได้..
"เพ่ย! นังหนูนี่สงสัยมากจัง บอกว่าไม่ตายก็คือไม่ตายสิก่อนมาที่นี่เจ้าขอสิ่งใดไว้เล่า!"
"หืม...พรนั่นเหรอคะ?"
"ก็ใช่น่ะสิ! อะแฮ่ม..ข้าจะให้ทางเลือกเจ้า ฮวาเอ๋อร์ เอ๋ยจงฟังตา"
อิงฮวาสะดุดกับคำว่าตาเป็นอย่างมากก่อนจะเก็บความสงสัยไว้ในใจแล้วฟังสิ่งที่ท่านเทพกล่าวต่อไป
“สองทางเลือกเลือกเพียงหนึ่งเดียว”
วาบ~
พอเสียงพูดจบ บนพื้นเมฆที่เธอนั่งอยู่ก็ปรากฏภาพขึ้นมา..
ภาพนั้นเป็นภาพในห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งที่มีเธอนอนอยู่บนเดียงด้านในใส่สายระโยงระยางเต็มไปหมดโดยมีหมอและพยาบาลคอยล้อมรอบไว้
ส่วนด้านนอกนั้นเป็นภาพพ่อที่กำลังปลอบแม่ที่กำลังร้องไห้และน้องชายของเธอที่เดินกระวนกระวายใจไปมาตรงหน้าห้องนั่น
ทำไมแม่กับพ่อถึงร้องไห้กันนะ ? เธอได้แต่สงสัยเพราะตั้งแต่เกิดมาจนจำความได้นั้นพ่อและแม่แทบไม่ได้ให้ความรักกับเธอเลยเรียกได้ว่าเราทั้งสามคนแทบไม่มีช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกัน ไม่ว่าจะงานวันเกิด งานจบปริญญา งานด้านความสำเร็จต่างๆ จะมีเพียงแค่ตัวแทนของพวกท่านที่มาร่วมเท่านั้น
ความทรงจำของเธอนั้นไม่มีภาพที่ได้รับความอบอุ่นจากครอบครัวเลย...
อิงฮวามองภาพเหล่านั้นด้วยความสับสนอย่างเหม่อลอยแต่กลับต้องละสายตาจากภาพทั้งหมดเมื่อได้ยินเสียงท่านเทพดังขึ้น
"นังหนูเอ๋ย...ไม่มีพ่อแม่คนไหนไม่รักลูกหรอกนะ"
"งั้นเหรอคะ" อิงฮวายิ้มตอบด้วยสายตาเศร้า
"แล้วทางเลือกที่ว่านี่คืออะไรคะ?" อิงฮวาที่ละสายตาจากหมู่เมฆที่ฉายภาพครอบครัวเธอพลางเอ่ยถามท่านเทพข้างๆ
"ทางแรกเจ้าจะฟื้นและใช้ชีวิตของเจ้าจนหมดอายุขัย"
"..."
"ส่วนทางที่สอง พรที่เจ้าปรารถนานั้นจะสัมฤทธิผล เจ้าจะได้ไปยังดินแดนอีกมิติที่ไกลโพ้นไม่อาจกลับมาหาครอบครัวเจ้าได้อีก"
"พร...มีลูกหรือคะ?"
"ใช่ เจ้าจะเลือกทางไหนล่ะ" อิงฮวาครุ่นคิดในใจ ในโลกเดิมนั้นสุขสบายเป็นอย่างมากก็จริงแต่ครอบครัวนั้นไม่เคยที่จะอบอุ่นแถมการมีลูกสำหรับเธอช่างอยากเย็นเหลือเกินเพราะสามีนั้นล้วนล้มหายตายจากไปหมด....
"ทางเลือกที่สองนั้นอิงจะมีลูกใช่ไหมคะ"
"ใช่ เป็นดังที่เจ้าปรารถนา"
"ท่านตาคะ อิงอิงขอเลือกไปทางที่สองแล้วก็ขอพรวิเศษไปด้วยได้ไหมคะ" อิงฮวากะพริบตาปริบๆให้ดูน่าสงสารเรียกท่านเทพว่าตาเพราะดูแล้วท่านเทพน่าจะเอ็นดูเธออยู่เหมือนกันก็เพราะว่าในคราแรกเห็นท่านเทพแทนตนเองว่าตานี่นา
ทางด้านไป๋หลงนั้นถึงกับหางคิ้วกระตุก ' นังหนูนี่ไม่ว่าจะกี่ภพกี่ชาติก็เจ้าเล่ห์แสนกลตลอดเลยนะ' เซียนเทพได้แต่คิดในใจ
"ย่อมได้" ไป๋หลงเสกกำไลที่ร้อยลูกประคำสีนิลขึ้นมาก่อนจะยื่นให้อิงฮวา
"นี่คืออะไรคะ?"
"ก็พรวิเศษอย่างไรเล่า จงสวมมันไว้หากเจ้าไม่ถอดออกก็จะไม่มีผู้ใดนำมันออกไปจากตัวเจ้าได้"
"..."
"จำไว้ฮวาเอ๋อร์ กำไรนี้มีประคำวิเศษ9เม็ดหากเจ้าขอพรไปแล้วมันจะกลายเป็นสีขาว"
"..."
"ดังนั้นจำคำตาไว้ให้ดีใช้พรอย่างรอบคอบเจ้ามีโอกาสเพียงเก้าครั้งเท่านั้น หากลูกประคำกลายเป็นสีขาวหมดเมื่อใดมันจะกลายเป็นกำไลธรรมดาทันที"
"อิงอิงจะคิดให้ดีก่อนใช้ค่ะ"
"เอาล่ะเจ้าเห็นอุโมงค์ที่ส่องแสงตรงนั้นหรือไม่ จงเดินเข้าไปแล้วมันจะพาไปยังที่ที่เจ้าต้องการ"
"ขอบคุณนะคะท่านตา" อิงฮวายิ้มขึ้นก่อนจะบอกลาท่านเทพตรงหน้าแล้วเดินเข้าไปยังอุโมงค์ที่ท่านตาเทพบอกด้วยในใจที่อบอุ่น
อิงฮวาเดินมายังทางที่ท่านตาเทพบอกจนถึงปลายอุโมงค์ก็พบเข้ากับฉากกั้นที่เป็นม่านน้ำตกก่อนจะตัดสินใจเดินทะลุเข้าไปทันที
'ลาก่อนค่ะ พ่อแม่ ลาก่อนนะ อิงเฉิง ฝากดูแลพ่อแม่ต่อพี่ด้วยนะ'
เมื่อก้าวผ่านม่านน้ำตกเข้าไปแล้วเธอก็มีความรู้สึกเหมือนกับว่ากำลังได้เล่นเครื่องเล่นหวาดเสียวในสวนสนุกแบบผาดโผนชวนเวียนหัวก่อนที่ทุกสิ่งจะดับวูบไป