Episode-๑๔ อดีตคนรัก

1869 คำ
ตอนนี้เป็นเวลาห้าโมงเย็นค่ะ ฉันถูกเฮียไกด์ลากมาตลาดด้วย อันที่จริงบ้านพักเขามีบริการให้นะ แต่อีเฮียเขาอยากดื่มด่ำธรรมชาติด้วยการปิ้งย่างเอง โอเค!! เอาที่สบายใจเลย “อยากได้อะไรอีกไหม?” เฮียหันมาถามฉันซึ่งตอนนี้เราได้ของที่ต้องการครบทุกอย่างแล้ว “ไม่ดีกว่า หนูรอกินฝีมือเฮีย” “ฮ่า ๆ แนนมึงว่าจะได้กินดีไหม” ไอ้ฟลุ๊คมันว่าพลางหัวเราะออกมาเสียงดังลั่น “ทำไมอ่ะ” ฉันเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ ก็แค่ปิ้งย่างมันจะยากอะไรนักหนา “เข้าครัวทีไรบรรลัยทุกที” “ฮ่า ๆ ” พี่พีชกับพี่นายเสริมขึ้นมาบ้างแถมพวกเขายังหัวเราะออกมาราวกับว่ามันเป็นเรื่องน่าขบขันอีกด้วย “เฮียทำกับข้าวไม่เป็นเหรอ?” ฉันหันไปถามเขาด้วยน้ำเสียงปกติ “เป็น แต่ไม่เก่งเท่าพวกมันไง” “คิกคิก ไม่เป็นไร หนูทำเก่งมากเดี๋ยวหนูจะทำให้กินเอง” “พี่จะฝากชีวิตไว้ที่เราได้ใช่ไหมแนน” “โธ่! พี่คิวอย่าพูดแบบนี้สิคะ แนนทำเป็นจริง ๆ แต่กินได้คนเดียว” “อ้าว...” “ฮ่า ๆ ๆ ” พี่องุ่นถึงกับส่ายหน้าให้เลยค่ะ ฉันก็พูดกวนประสาทไปอย่างนั้นเอง จริง ๆ แล้วฉันทำเป็นค่ะ “ไกด์มันทำเป็น แต่ติดนิสัยใครบางคนเคยทำให้ไง” “หนิงแกก็พูดมากเกินไป” “โทษทีฉันพลั้งปาก” “...” ยัยพี่หนิงอะไรเนี่ยเป็นแฟนพี่พีชค่ะ ส่วนแฟนพี่นายชื่อพลอยมั้ง ได้ยินเขาเรียกกันอยู่ “พลั้งบ่อย ๆ ระวังกูจะไม่ไว้หน้าให้ด้วย” เฮียไกด์พูดขึ้นมาลอย ๆ ก่อนจะกอดคอฉันแล้วพาเดินแยกมาอีกโซนหนึ่งโดยไม่รอให้พวกเขาได้พูดอะไรต่อเลยสักคำ “หนูถามได้ไหม?” “อืม” “แฟนเก่าเฮียกับพี่หนิงเขาเป็นเพื่อนกันหรือเปล่า” ก็ไม่ได้จะอยากรู้อะไรขนาดนั้นหรอก แต่พอเห็นปฏิกิริยาการต่อต้านของพวกเขาแล้วมันทำให้ฉันอดอยากรู้ไม่ได้เลย ไหนจะคำพูดที่แสนจะยียวนกวนประสาทรวมไปถึงสายตาที่มองอย่างกับฉันเป็นศัตรูเบอร์หนึ่งของเขาอีก “อืม...” “เฮียดูหนักใจเนอะ” ฉันไม่ได้ประชดแค่พูดไปตามสิ่งที่เห็นเท่านั้นเอง “หนักใจตรงที่พามึงมาเจอพวกมันนี่แหละ ไม่ต้องคิดมากนะ มันไม่มีอะไรมากไปกว่านี้เลย” “ถ้ายังไม่เลิกกวนประสาทอีก หนูจะสวนกลับจริง ๆ แล้วนะ” เห็นแก่หน้าเฮียหรอกฉันถึงต้องทำเป็นเรียบร้อยเหมือนผ้ายับที่พับไว้ “ตามสบายแต่อย่าถึงขั้นทำให้ตัวเองเจ็บตัวก็พอ” “ไม่ห้ามหน่อยเหรอ?” ฉันว่าพลางแหงนหน้ามองเขา “ไม่อ่ะ มึงมันดื้อ! ห้ามไปก็ไม่ฟังหรอก ยอมคนเป็นก็ดีสิ” “ทำไมต้องยอมก็คนเหมือนกัน ขนาดเฮียหนูยังเถียงขาดใจเลยนับประสาอะไรกับคนอื่น” “หึ! ไม่รู้แหละ กูบอกแล้วว่าอย่าทำให้ตัวเองต้องเจ็บตัวก็พอ” “หนูไม่ทำใครก่อนอยู่แล้ว...” ได้ของกินติดไม้ติดมืออีกนิดหน่อยก็กลับบ้านพักค่ะ มาถึงพวกพี่ ๆ เขากำลังจุดเตาพอดีฉันก็แยกตัวมาหาพี่องุ่นกับน้องเอมแฟนไอ้ฟลุ๊คมัน “อย่าถือสาหนิงกับพลอยเลยนะ” พี่องุ่นพูดขึ้นทั้งที่ฉันยังไม่ได้ถามอะไร “หนูเข้าใจพี่ หนูไม่คิดมากหรอก ว่าแต่พวกเขาสนิทกันมากเลยเหรอคะถึงขนาดต้องออกตัวแทนกันขนาดนี้” “เขาเป็นเพื่อนรักกัน หนิงกับคนนั้นเขาซี้กันมาตั้งแต่อนุบาลโน่นแหละ ก็เลยเป็นอย่างที่เห็น ส่วนเรื่องอื่นถ้าแนนอยากรู้พี่อยากให้แนนถามไกด์เองดีกว่านะ” พี่องุ่นยังคงเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม “ไม่หรอกพี่ รู้เยอะมันไม่ดี รู้แค่นี้ก็น่าจะพอแล้วมั้ง” “เชื่อใจมันหน่อย อะไรก็ตามที่ลั่นออกมาจากปากมันแล้วมันไม่คืนคำหรอก ลูกผู้ชายคำไหนคำนั้น โดยเฉพาะไกด์” “อันที่จริงหนูกับเขายังไม่ได้เป็นอะไรกันด้วยซ้ำ แค่มีเหตุผลบางอย่างที่ทำให้หนูต้องทำงานกับเขาเท่านั้นเอง” “แต่แววตาที่มันมองเราพี่ว่าไม่ใช่นะ ไม่เชื่อลองดูสิ” เงยหน้าขึ้นก็ปะทะเข้ากับสายตาของเฮียไกด์พอดี ไม่รู้เหมือนกันว่าเขามองมาตั้งแต่เมื่อไหร่ “มีแค่เราแหละที่ได้สัมผัสมุมอบอุ่นของมัน” ไม่ได้สนใจที่พี่องุ่นพูดเลยเพราะมัวหันไปแลบลิ้นปริ้นตาใส่อีเฮียอยู่ ฮ่า ๆ แถมเขายังเล่นหูเล่นตาใส่ฉันกลับด้วยนะ “แล้วเฮียไกด์กับแฟนเก่าเขาเลิกกันนานหรือยังคะ ทำไมพี่หนิงถึงยังตามแยกเขี้ยวแทนเพื่อนอยู่” “...” “ขอโทษค่ะ เอมอาจจะถามมากไป” น้องมันว่าพลางเหลือบมองฉันเล็กน้อย ซึ่งฉันเองก็อยากรู้เหมือนกันว่ามันนานแค่ไหนแล้ว จะห้าปีอย่างที่เฮียไกด์บอกหรือเปล่า “เลิกกันนานแล้ว และก็คบกันนานเหมือนกัน พี่พูดได้แค่นี้... ไม่ได้เข้าข้างใคร แต่ไกด์มันเป็นคนเด็ดขาด ถ้าเลิกก็คือเลิก ไม่ต้องกลัวนะว่ามันจะกลับไปอีกเพราะมันไม่มีวันนั้นหรอก” ฉันไม่ซีเรียสนะ ก็อย่างที่บอกตราบใดที่ยังไม่มั่นใจฉันก็จะไม่ตกลงปลงใจอะไรกับเขาเด็ดขาด ถึงแม้ว่าจะถูกดูแลอย่างดีก็เถอะ ถ้าในหัวใจยังมีคนอื่นอยู่ ฉันขอบายดีกว่า พอช่วยกันทำอาหารเสร็จฉันก็แยกตัวมาอาบน้ำเนื่องจากเขม่าควันติดเต็มตัวเลย เดินไปทางไหนก็มีแต่กลิ่นปิ้งย่างโชยตาม ใช้เวลาทำธุระส่วนตัวแค่ไม่นานก็ออกมาสังสรรค์กับพวกเขาค่ะ ซึ่งตอนนี้เป็นเวลาสี่ทุ่มแล้ว บรรยากาศกำลังดีเลยเพราะพวกเขาตั้งวงกันหน้าบ้านพัก ซึ่งมันติดชายหาดพอดี “กินข้าวสิ” เฮียไกด์เอ่ยพร้อมกับวางข้าวผัดทะเลลงตรงหน้าฉัน “เฮียกินหรือยัง? กินกับหนูก็ได้” “ไม่ได้ กูแพ้กุ้ง” “ว้า...น่าเสียดายดันกินของอร่อยไม่ได้” ฉันว่ายิ้ม ๆ ก่อนจะตักข้าวใส่ปากอย่างกวนอารมณ์เขา “เรื่องง่าย ๆ ยังไม่รู้ เหอะ! แล้วหวังจะเป็นอย่างอื่น ตลกฉิบหาย!” “หนิง!!” “...” พี่พีชดุแฟนเขาค่ะ ส่วนเฮียแค่มองหน้านิ่ง ๆ เท่านั้นเอง “รู้แบบนี้กูไม่มาซะก็ดี เจอแบบนี้แล้วหมดอารมณ์” เขายังคงพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจแถมยังแสดงออกชัดเจนว่าไม่ชอบฉัน “ดูพี่มีปัญหากับแนนเหลือเกินนะคะ ทำไมเหรอ? มันต้องดิ้นขนาดนั้นเชียวเหรอคะ?” “น้องเก็บปากไว้กินข้าวเถอะค่ะ” “บอกตัวเองเถอะค่ะ!! อดีตคือเรื่องที่มันผ่านไปแล้ว จะโวยวายให้ได้อะไร นี่ถ้าไม่บอกแนนคิดว่าพี่เป็นแฟนเก่าเฮียซะอีก” บอกตามตรงว่าความอดทนไม่มีเหลือแล้วค่ะ จิกกัดอยู่ได้น่ารำคาญ ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบเมื่อทุกคนได้ยินฉันพูดแบบนั้น โดยเฉพาะยัยพี่หนิงที่เอาแต่มองพี่พีชกับเฮียสลับกันไปมา “มึงควรจะหยุดได้แล้วหนิง กี่ครั้งแล้วที่คนอื่นเข้าใจแบบนี้ คราวนี้มึงจะพูดอีกไหมว่ากูคิดมากไปเอง ... มึงรักเพื่อนกูเข้าใจ!! แต่นี่มันชีวิตไอ้ไกด์ มันจะรักใครเลือกใครก็เรื่องของมัน!! น้องมันก็พูดถูกทุกอย่าง อดีตมันผ่านไปแล้วแก้ไขอะไรไม่ได้แล้วและเพื่อนมึงก็เป็นฝ่ายเลือกที่จะไปเองเพราะฉะนั้นวันนี้มึงควรหยุด!!” “มึงไม่รู้อะไรมึงอย่าพูดดีกว่าพีช” “งั้นมึงรู้อะไรมึงก็พูดมาสิ!! กูเบื่อที่จะทะเลาะเพราะเรื่องของคนอื่นเต็มทนแล้วเหมือนกัน พวกมันจบกันไปห้าปีละ แต่มึงยังไม่จบเลย” จากที่คิดว่าจะเป็นสงครามประสาทระหว่างฉันกับพี่หนิง กลายเป็นพวกเขาทะเลาะกันซะเองค่ะ พวกเราย้ายมานั่งอีกมุมหนึ่งแล้วปล่อยให้พวกเขาเคลียร์กันเอง “กูไม่รู้หรอกนะไกด์ว่าระหว่างมึงกับน้องแนนคืออะไร แต่ในเมื่อมึงเลือกแล้วกูก็ไม่ติด” พี่พลอยพูดขึ้นมาบ้างและแน่นอนว่าฉันก็ยังไม่เข้าใจ “กูเลือกนานแล้ว... เพียงแต่เพิ่งเจอคนที่ใช่เท่านั้นเอง” “..” “พี่ขอโทษแทนพลอยด้วยนะ ที่ก่อนหน้านี้พูดไม่ดีกับเรา” ประโยคนี้พี่นายหันมาพูดกับฉันค่ะ “ไม่ต้องขอโทษหรอกพี่ ปกติของคนเรามันต้องมีบ้างแหละที่ไม่ค่อยถูกชะตาตั้งแต่แรกเห็น” ฉันตอบอย่างไม่คิดอะไรมากนัก ยิ่งได้รู้แบบนี้ยิ่งทำให้สัมผัสกับอดีตของเฮียมากขึ้นไปอีก เขาคงรักกันมาก... หลังจากนั้นไม่นานทุกอย่างก็กลับมาเป็นปกติราวกับว่าก่อนหน้านี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น พี่พีชขอโทษฉันกับเฮียยกใหญ่ส่วนพี่หนิงแยกตัวไปนั่งคนเดียวค่ะ ไม่รู้เหมือนกันว่าพวกเขาเคลียร์กันเข้าใจไหม “คิดอะไรอยู่” เฮียไกด์เอ่ยถามเมื่อเห็นฉันเอาแต่เงียบ “คิดว่า...การเป็นผู้หญิงของเฮียมันวุ่นวายดีเนอะ” “...” “ทั้งถูกด่าถูกว่าสารพัด นี่ขนาดยังไม่ได้เป็นอะไรกันนะเนี่ย” ฉันพูดออกไปตามความคิด “ขอโทษนะ จะไม่ให้มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก” “หนูรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนอื่นเลยอ่ะ ทั้งที่เฮียบอกอยู่ตลอดว่าที่ตรงนั้นมันว่างเปล่า แต่ทำไมหนูรู้สึกว่าตัวเองเข้าไม่ถึงมันเลย” ฉันไม่ได้กำลังน้อยใจแต่เหตุการณ์มันบังคับให้ต้องรู้สึกแบบนั้น เหมือนถูกพามาหน้าประตูแต่ก็ไม่ยอมเปิดประตูให้เข้าไป หมับ! “มันไม่มีอะไรจริง ๆ ... ไม่มีมานานแล้ว” เขาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนพร้อมกับฝ่ามือหนาลูบแผ่นหลังฉันไปด้วยคล้ายเป็นการปลอบประโลมไม่ให้คิดไปไกลมากกว่านี้ “ไม่ต้องเชื่อที่พูดหรอก เดี๋ยวพี่ทำให้เห็นเอง” “...” การถูกโอบกอดด้วยความรัก ความรู้สึกมันเป็นแบบนี้หรือเปล่านะ... “หมดกัน! เฮียไกด์ฉบับฮาร์ดคอ” “กลายเป็นลูกแมวไปแล้วครับ” “หลงเด็กมันเป็นแบบนี้นี่เอง” “เงียบปากน่า...” ทุกอย่างเกิดขึ้นท่ามกลางสายตาของทุกคน ถามว่าเฮียแคร์ไหม? ไม่ค่ะ ไม่สนใจสิ่งรอบข้างเลยด้วยซ้ำ รู้สึกดีนะคะที่เขาพยายามจะอธิบายให้ฉันเข้าใจ แน่นอนว่าทุกคนย่อมมีอดีต รวมถึงฉันก็ด้วย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม