9

1274 คำ
9 “ทำไมถึงเข้าโรง’ บาลล่ะ” “เจอคนวิตถารน่ะ” “ยังไงเหรอ” ปรียานุชยังไม่เข้าใจ “ก็ประมาณว่า...” คนตอบกระซิบบอกข้างใบหูของคนอยากรู้ สีหน้าของปรียานุชเต็มไปด้วยความตกใจ และรู้สึกสงสารสินีนารถ หญิงสาวนิสัยดีจับใจ “โธ่ พี่เอม น่าสงสารจังเลย” “จะไปสงสารพี่เอมทำไม สงสารฉันสิ ฉันยังไม่รู้เลยว่าจะหาเงินจากที่ไหนไปให้เพื่อน ถ้าหาไม่ได้มีหวังฉันไม่ได้ไปกินข้าว ไม่ได้เจอหน้าพี่แจวอนแน่ๆ เลย กลุ้มๆๆๆ” ลักษณาวดีไม่มีความห่วงใยสินีนารถเลยแม้แต่นิด ใจของเธอห่วงแต่เรื่องค่าตั๋วคอนเสิร์ตอยู่ทุกลมหายใจ ปรียานุชได้ยินแล้วถึงกับสะอึก ไม่คิดว่าลักษณาวดีจะแล้งน้ำใจ นึกถึงแต่ตัวเองสุดโต่งขนาดนี้ ชั่วขณะนั้นหัวสมองปรียานุชคิดอะไรดีๆ ขึ้นมาได้ เธอยิ้มก่อนพูดกับเพื่อนคลั่งศิลปิน “เธออยากได้เงินไปซื้อตั๋วมากเลยใช่ป่ะ ฉันมีวิธีนะ แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่า เธอจะสนใจหรือเปล่า” คนที่กำลังต้องการเงิน ได้ยินดังนั้นก็รีบตอบทันควัน “สนใจสิ” ลักษณาวดีตอบกลับแบบไม่ต้องคิด “แล้วทำยังไงล่ะนุช” “ก็ทำอย่างฉันไงล่ะ เธอดูสิฉันเพิ่งซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่มา ราคาสองหมื่นกว่าๆ แล้วยังมีไอแพดมินิที่ฉันซื้อมาพร้อมกันด้วย” พูดไปก็อวดของที่ตนมีให้อีกฝ่ายดู “เธอหาเงินยังไงนุช” คนที่อยากได้เงินไปซื้อตั๋ววีไอพีถามต่อ มองของที่อยู่ในมือและในกระเป๋าของปรียานุชด้วยความตื่นเต้น ลักษณาวดีไม่ได้ดูถูกดูแคลนอีกฝ่าย แต่เธอกำลังคิดว่าครอบครัวของปรียานุชไม่ได้ร่ำรวย หาเช้ากินค่ำก็แทบจะไม่พอ แม่ของเธอมีอาชีพขายข้าวแกงซึ่งรายได้ที่คิดเป็นกำไรไม่เกินหนึ่งพันบาท ส่วนพ่อก็ไม่ได้ทำงานทำการ เป็นนักดื่มสุราตัวยงของชุมชน น้องชายวัยสิบแปดปีก็ติดยา หนังสือหนังหาไม่เรียน ลักเล็กขโมยน้อยอยู่เป็นประจำ นั่นหมายความว่า เสาหลักของครอบครัวคือมารดาของปรียานุช พูดถึงปรียานุชก็ไม่มีรายได้อะไร ไม่ได้เรียนหนังสือ มีหน้าที่ช่วยมารดาขายของ เนื่องจากขาของมารดาไม่ดี ยืนมากไม่ได้จะเกิดอาการปวดทันที แล้วรายได้เพียงเท่านี้ประกอบกับสภาพของครอบครัว คงไม่อาจมีเงินไปซื้อของใช้ราคาแพงนี้ได้ แล้วเพื่อนคนนี้จะนำเงินจากที่ใดมาซื้อของฟุ่มเฟือยเหล่านี้ “ฉันขายตัว” ปรียานุชเอ่ยบอกอาชีพของตนให้ลักษณาวดีฟังอย่างไม่อาย ลักษณาวดีอึ้งไปชั่วขณะกับอาชีพของเพื่อน “แต่ฉันไม่อายใครหรอกนะว่าตัวเองเป็นโสเภณี เพราะอย่างน้อยอาชีพนี้ก็ทำให้แม่ฉันสบายขึ้นกว่าเมื่อก่อน พ่อไม่ต้องตบตีแม่เพื่อขอเงินไปกินเหล้า พอฉันกลับมาบ้านตอนเช้าฉันก็ยื่นเงินให้พ่อ ส่วนไอ้โตมันก็ไม่ต้องไปขโมยของใคร เพราะฉันมีเงินให้มันใช้ แล้วถ้าแกอยากได้เงินไปซื้อตั๋วคอนเสิร์ตฉันก็จะช่วยแกเอง” ปรียานุชไม่อายใครหากจะบอกว่าตนประกอบอาชีพใด เพราะถือว่าอาชีพนี้ทำให้ครอบครัวสุขสบาย และเธอเองก็คงไม่ยึดอาชีพนี้ไปตลอด หากมีช่องทางทำมาหากินที่ดีกว่านี้ ปรียานุชก็พร้อมที่จะเปลี่ยนงาน และตอนนี้เธอยังสาวและสดอยู่ก็ต้องรีบโกยเอาไว้ให้เยอะที่สุด “ฉันไม่ขายตัวเหมือนเธอหรอกนะ ไม่เอาหรอก” ลัษณาวดีโวยยกใหญ่ “ฉันไม่มีวันขายตัวเด็ดขาด เพราะฉันมีคนหาเงินให้เรื่องอะไรจะไปทำงานอย่างว่าเองล่ะ นั่งกินนอนกิน อยากได้อะไรก็บอกพี่เอม แค่นี้ก็หมดเรื่อง” วาจาเห็นแก่ตัวและความรู้สึกไม่สนใจใครยังมีอย่างเต็มเปี่ยมในจิตใจของลักษณาวดี สตรีที่ไม่เคยคิดจะทำอะไรเพื่อครอบครัว นอกจากตัวเองและศิลปินจุนแจวอน “แล้วตอนนี้เธอมีพี่เอมคอยหาเงินให้เธอหรือเปล่าล่ะ ถ้าไม่มีเธอก็ต้องคิดใหม่ทำใหม่ เพราะเงินตั้งสี่หมื่นไม่มีใครเขาให้เธอยืมง่ายๆ หรอกนะ” คำพูดของปรียานุชโดนใจลักษณาวดีไม่น้อย ใช่เวลานี้เธอไม่มีคนหาเงินจำนวนนี้ให้ แต่จะให้เธอไปขายร่างกาย ลักษณาวดีไม่เอาด้วยเด็ดขาด เธอกำลังคิดว่าจะไปโป้ปดมารดาเรื่องเรียน อ้างนั่นอ้างนี้ว่ามีค่าใช้จ่ายรวมสี่หมื่นบาท หากไม่มีมาจ่ายภายในวันจันทร์ ทางมหาวิทยาลัยจะไม่ให้สอบ นั่นหมายความว่า เธอจะไม่จบการศึกษา รับรองว่ามารดาต้องรีบไปหากู้เงินแน่นอน “จะให้ฉันไปขายตัวล่ะก็อย่าได้หวัง ฉันมีทางออกของฉันเหมือนกัน กะว่าจะโกหกแม่ให้แม่ไปกู้เงินมาให้” ลักษณาวดีเอ่ยบอกในแผนการที่ตนคิดไว้หมาดๆ “แล้วถ้าแม่เธอกู้เงินไม่ได้ล่ะ อย่าลืมสิว่า เงินตั้งสี่หมื่นไม่ใช่สี่พันที่จะเดินไปยืมใครได้ง่ายๆ อีกอย่างแม่เธอมีอะไรไปค้ำประกันให้เจ้าหนี้เชื่อใจล่ะว่าจะได้เงินคืน ยิ่งพี่เอมมาป่วยอย่างนี้ ใครล่ะจะหาเงินมาใช้หนี้ พี่เตยหรือว่าเธอ ฉันว่านะเรื่องที่จะให้แม่เธอไปกู้เงินน่ะลืมไปได้เลย ไม่มีทางได้แน่ๆ” ปรียานุชพูดให้ลักษณาวดีเดินตกหลุมพราง แล้วดูเหมือนว่าสาวเห็นแก่ตัวกำลังตกหลุมพรางที่ว่านั้นจริงๆ เพราะคำพูดของปรียานุชก็มีส่วนถูก เงินมากขนาดนี้ไม่มีหลักทรัพย์ไปค้ำประกัน ยากนักที่จะได้ “เธอจะให้ฉันทำยังไงล่ะนุช ฉันบอกไว้ก่อนนะว่าฉันไม่ขายตัว” ลักษณาวดียืนกรานคำเดิม เธอไม่มีวันทำอาชีพชั้นต่ำแบบสินีนารถและปรียานุชทำ ชีวิตและอนาคตของเธอจะต้องสดใส สวยงาม มีคุณค่าในสายตาของทุกคน ไม่ใช่ถูกเหยียดหยามและประณามทางสายตา “เธอไม่ขายตัวก็ให้คนอื่นขายแทนสิ” ปรียานุชบอกแผนเด็ด แผนที่จะทำให้เธอได้รับค่านายหน้ามากโข หากทำให้ลักษณาวดีทำตามที่ตนบอก “ยังไงนุช” ลักษณาวดีถามกลับทันควัน ไม่เข้าใจความหมายมากนัก “เธอไม่อยากขายตัว แต่อยากได้นั่นได้นี่ทั้งที่ฐานะไม่อำนวย พี่เอมที่ขายตัวเลี้ยงดูครอบครัวแล้วปรนเปรอสิ่งที่เธออยากได้ใคร่มี ตอนนี้ก็ทำงานไม่ได้หาเงินมาให้เธอไม่ได้” ปรียานุชพูดโน้มน้าว “แต่พี่เตยหาให้เธอได้ไม่ใช่เหรอ พี่เตยยังไม่มีแฟนคงยังไม่เคยนอนกับผู้ชาย ยังสดๆ ซิงๆ อยู่ ถ้าเอาไปขายในวันไนท์ ฟลาวเวอร์ ในผับที่ฉันทำงานอยู่ รับรองว่าค่าตัวพี่เตยอย่างต่ำก็ต้องห้าหมื่น แล้วถ้าราคาประมูลสูงก็อาจจะได้เป็นแสน คราวนี้แหละเธอก็ได้ทั้งค่าตั๋วคอนเสิร์ตแล้วยังจะมีเงินไปถลุงเล่นๆ อีกเป็นหมื่นๆ เป็นไงล่ะวิธีนี้เธอโอเคเปล่า”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม