10
วันไนท์ ฟลาวเวอร์คือวันที่ทางผับจะมีการประมูลสาวบริสุทธิ์ ซึ่งงานนี้จะจัดในวันจันทร์ที่สองของทุกเดือน แล้วในคืนนี้จะมีหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่หลายวัยมาใช้บริการผับ แอลจิน่า กันมาเป็นพิเศษ แล้วพร้อมจะทุ่มเงินเป็นชายคนแรกของสาวที่ถูกประมูล สาเหตุที่ปรียานุชพล่ามไปทั้งหมดเป็นเพราะ กฎของผับแอลจิน่ามีอยู่ว่า หากใครหาสาวไร้มลทินไปประมูลได้ จะได้ค่านายหน้าหักจากราคาประมูลร้อยละสิบ เงินที่ได้มาฟรีๆ แม้จะไม่มาก แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้ไม่ใช่หรือ
ลักษณาวดีได้ยินวิธีหาเงินของปรียานุชแล้ว เธอเกิดความหวังที่จะหาเงินก้อนนั้นได้ขึ้นมาทันทีทันใด อีกทั้งยังมีเงินเหลือไว้ใช้จ่ายอีกด้วย แต่ทว่ามีบางอย่างฉุกใจเธอ
“ใช่ พี่เตยยังไม่เคยมีแฟน แล้วฉันก็มั่นใจว่า พี่เตยยังบริสุทธิ์อยู่”
“ถ้าอย่างนั้นยิ่งดีใหญ่ รับรองว่าเธอได้เงินไปซื้อตั๋วคอนเสิร์ตแน่ๆ”
“แต่พี่เตยจะยอมเหรอ ฉันกลัวพี่เตยจะไม่ยอมน่ะสิ” ข้อนี้เองที่ทำให้ลักษณาวดีคิดหนัก
“ก็ไม่เห็นยาก ทีพี่เอมยังขายตัวหาเลี้ยงครอบครัวได้เลย ตอนนี้พี่เอมทำไม่ได้ พี่เตยก็ต้องทำแทนมันก็ถูกแล้ว เรื่องที่จะทำให้พี่เตยยอมมันก็คงไม่ยาก เธอทำให้พี่เอมยอมทำตามเธอยังไงก็ทำกับพี่เตยอย่างนั้น แค่นี้สิ่งที่เธออยากได้ก็มากองตรงหน้าแล้ว ไม่ต้องเหนื่อยทำเอง แค่ใช้สมองเท่านั้น”
คนที่ไม่เคยหวังดีกับใคร นอกจากผลประโยชน์ของตัวเองร่ายต่อ ที่จริงแล้วปรียานุชต้องการให้ลักษณาวดีไปขายร่างกายมากกว่าจะให้ศิรินทิพย์ เพราะนึกหมั่นไส้กับความชื่นชอบจุนแจวอนจนเกินพอดี แล้วอีกฝ่ายยังมีความเห็นแก่ตัวอย่างเยี่ยมยอด น่าจะเป็นฝ่ายหาเงินเองมากกว่า แต่คิดไปคิดมาหากพูดให้ลักษณาวดีใจอ่อนยอมขายร่างกาย คงไม่มีประโยชน์กับเธอมากนัก
เนื่องจากรายได้สิบเปอร์เซ็นต์ที่ตนจะได้รับนั้น ได้รับทุกครั้งที่คนที่ตนจัดหาได้รับแขก นั่นหมายความว่า ทุกหนึ่งร้อยบาทปรียานุชจะได้สิบบาท ทางผับได้สิบห้าบาท มาลีน่าจะได้สิบบาท ส่วนที่เหลือหกสิบห้าบาทตกเป็นของสาวบริการ
หากพูดโน้มน้าวให้ลักษณาวดีขายร่างกาย ก็คงไม่ได้เงินมากเพราะอีกฝ่ายจะไม่มีความจำเป็นในการขายความสุขให้หนุ่มๆ ในครั้งต่อไป แต่ทว่าหากเป็นศิรินทิพย์ ซึ่งเวลานี้น่าจะเป็นหัวหน้าครอบครัวคนใหม่ ท่าทางจะดีกว่า มองเห็นหนทางที่จะขายตัวต่อไปเรื่อยๆ เพื่อหาเลี้ยงแม่ พี่สาวและน้องสาว คราวนี้รายได้ส่วนแบ่งก็ต้องเข้ามาในกระเป๋าของเธอ แล้วยังมีอีกข้อ สาวบริสุทธิ์ทั้งหลายจะต้องทำงานในผับแห่งนั้นเป็นเวลาสามปีตามสัญญา คิดดูและคำนวณเล่นๆ รายได้ส่วนนี้ที่ปรียานุชจะได้รับมันก็มากอยู่
ลักษณาวดียิ้มอย่างเยือกเย็น ทำไมเธอลืมคิดข้อนี้ไปได้นะ สินีนารถทำงานหาเงินไม่ได้ก็ยังมีศิรินทิพย์ พี่สาวคนที่สองอีกคน แล้วเธอก็คิดว่าไม่ใช่เรื่องยากที่จะทำให้พี่สาวคนนี้ยอมขายบริการทางเพศ เป็นเพราะเธอมีวาทะเด็ด และเหตุผลที่ศิรินทิพย์จะปฏิเสธไม่ได้ และไม่มีวันปฏิเสธด้วย
“ฉันจะลองพูดกับพี่เตยดู แต่คิดว่าไม่ยาก”
“ดีแล้ว อย่าเหนื่อยทำเอง ให้คนอื่นเหนื่อยแต่เราสบายดีกว่า รอใช้เงินอย่างเดียว” ปรียานุชพูดต่อ เพื่อกระตุ้นให้อีกฝ่ายพูดกับพี่สาวให้สำเร็จ
“ขอบใจมากนะที่ช่วยคิดให้ฉัน ถ้าฉันไม่เจอเธอก็คงหาทางออกไม่ได้”
“ไม่เป็นไรเรื่องแค่นี้เอง ถึงแม่เราสองคนจะไม่ค่อยสนิทกันเท่าไหร่ แต่ฉันก็ยินดีที่จะช่วยเธอเท่าที่ฉันจะช่วยได้” ปรียานุชพูดออกตัว
“แต่ปัญหามันติดอยู่ที่ว่า พรุ่งนี้ฉันจะเอาเงินไปให้เพื่อนแล้ว แต่ตอนนี้ยังไม่มีเงินเลย ฉันล่ะกลุ้มจริงๆ ถ้าไม่มีเงินไปให้เพื่อน ฉันขายหน้าตายเลย”
ลักษณาวดีไปพูดโอ้อวดว่า ตนเองเป็นลูกคนรวย มีเงินใช้ไม่ขาดมือ หากไปมหาวิทยาลัยในวันพรุ่งนี้ และไม่มีเงินไปให้ยลดา เธอจะหาเหตุผลใดไปอ้าง
“ไม่เห็นยากเลย เธอก็ไม่ต้องไปมหาวิทยาลัยสิ อ้างว่าไม่สบายแค่นี้ก็สิ้นเรื่อง”ปรียานุชแนะนำ “แล้ววันไนท์ ฟลาวเวอร์มันก็คือวันพรุ่งนี้ ฉะนั้นเธอต้องพูดกับพี่เตยให้รู้เรื่องภายในคืนนี้ เข้าใจไหมดรีม”
ลักษณาวดียิ้มกับคำพูดของปรียานุช ก็แค่ไม่ไปมหาวิทยาลัยในวันพรุ่งนี้ หรือจนกว่าจะได้เงิน อ้างว่าไม่สบาย แค่นี้เธอก็จะไม่ต้องหาคำแก้ตัวที่ดูดีและมีเหตุผลกับยลดาเรื่องเงินจำนวนนั้น
“งานประมูลมีวันพรุ่งนี้ แล้วฉันจะได้เงินวันไหน”
สาวชื่นชอบจุนแจวอนถามต่อ
“ได้อีกสองชั่วโมงต่อมา เพราะลูกค้าจะต้องโอนเงินก่อน แล้วค่อยพาผู้หญิงออกไปจากผับได้”
“อืมๆ ถ้าอย่างนั้นก็ตกลงตามนี้”
“เธอพูดกับพี่เตยเสร็จแล้วพี่เตยตกลง เธอโทรมาหาฉันนะ ต้องโทรก่อนพรุ่งนี้เที่ยงด้วย เพราะฉันจะได้เอารายชื่อไปให้เจ๊ที่ดูแลผับน่ะ เบอร์โทรเธอเบอร์อะไรฉันจะได้ยิงเข้าเครื่องเธอ แล้วเธอก็เมมเบอร์โทรฉันไว้ก็แล้วกัน”
ลักษณาวดีจึงบอกเบอร์โทรศัพท์ของตนให้อีกฝ่าย ที่กดตามคำบอกก่อนจะกดโทรออกเพื่อให้หมายเลขของตนขึ้นไปอยู่บนหน้าจอมือถือของอีกฝ่าย
“ฉันเมมเบอร์เธอไว้แล้วนะนุช” ลักษณาวดีเอ่ยบอก
“อย่าลืมทำให้สำเร็จล่ะ เพราะเงินจะเข้ากระเป๋าเธอมากกว่าที่พี่เอมขายตัวซะอีก พี่เตยทั้งสดทั้งใหม่ รับรองลูกค้าตรึม” ปรียานุชไม่วายพูดทิ้งท้าย
“ฉันทำได้แน่นอน พรุ่งนี้จะโทรบอกนะ” คนที่กำลังดึงศิรินทิพย์ก้าวเข้าสู่ขุมนรกตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
“โอเคจ้ะ ฉันไปก่อนนะ ว่าจะไปขัดตัวซะหน่อย บายจ้า” เมื่อตกลงกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ปรียานุชก็เดินปลีกตัวไปทำธุระของตน
“ถึงเวลาที่พี่จะต้องรับผิดชอบครอบครัวของฉันซะที...พี่เตย”
ผู้พูดมั่นใจเป็นนักหนาว่า ศิรินทิพย์จะต้องยอมรับในเรื่องที่ตนจะให้ทำ เพราะมีบางอย่าง เหตุผลบางประการที่เธอไม่เคยพูดให้ใครได้รับรู้ เป็นตัวชี้นำให้พี่สาวคนที่สอง ทำทุกอย่างตามที่น้องสาวคนนี้ต้องการ