รักอุ่นใจนายเย็นชา 2

1329 คำ
รักอุ่นใจนายเย็นชา 2 “ไม่มีเรียนแต่ต้องส่งงาน ไปด้วยกันหน่อยสิ” เขาบอกเสียงเรียบแต่แววตาเขาไม่เรียบด้วยเลยมันดูเหมือนคาดหวังอะไรสักอย่าง ที่คนอย่างฉันก็ไม่เข้าใจและอาจจะไม่มีวันเข้าใจเลยด้วย “เพื่อนอยากเจอ ไปทานข้าวด้วยกัน” “ไม่อายเพื่อนเหรอทั้งที่จะต้องแต่งงานกับอีปลวกคนไหนไม่รู้ ไม่กลัวโดนล้อหรอ?” ฉันถามไปตามตรงเพราะไม่อยากจะไปทนรับสายตาเย้ยหยันจากเพื่อนของเขาที่อาจจะรู้ว่าที่ต้องแต่งงานเพื่อธุรกิจของผู้ใหญ่ “ชอบหรอจิกกัดตัวเองเนี่ย” เวลวางมือฉันศีรษะฉันก่อนจะโยกไปมาฉันปัดออกไม่ทันเมื่อมีลูกน้องเข้ามารายงานความเสียหาย เยอะอยู่เหมือนกันนะแต่ก็ช่างเถอะถือว่าให้เด็กในร้านได้พักระหว่างที่ซ่อมแซมปรับปรุงแล้วกัน “ไปได้แล้วเดี๋ยวส่งงานไม่ทัน” “ไม่อยากไป นายไปเถอะ” “ทับทิม ลุกได้แล้ว” เขาไม่รอฟังคำตอบฉันแต่ดึงมือฉันให้ลุกขึ้นก่อนจะพาออกจากร้านไปที่รถเขา ความเงียบคลอบคลุมรถอีกครั้งเมื่อเขาออกรถ พอถึงมหาลัยที่เขาเรียนอยู่ฉันแอบตกใจเล็กน้อยเพราะฉันก็เรียนที่นี่เหมือนกันและที่น่าแปลกใจไปมากกว่านั้นคือเขาจับมือฉันแน่นแล้วพาเข้าไปในคณะอย่างไม่แคร์สายตาใคร กลับไปฉันซะเองที่ต้องหลบหน้าหลบตาคนอื่นที่มองมา “รออยู่ตรงนี้นะ เดี๋ยวมาอ่ะนี่เอาไว้หน่อย” เขาดันไหล่ฉันให้นั่งบนม้านั่งไม้ตัวยาวๆ รอบๆก็มีโต๊ะไม้แบบชุดที่ฉันนั่งอยู่วางเต็มไปหมด มีนักศึกษานั่งจับกลุ่มกันอยู่บางคนชำเลืองมองมาที่ฉันอย่างเปิดเผยแต่บางคนก็มองแอบๆ คือฉันมันแปลกอะไรขนาดนั้นเลยเหรอแค่ใส่เสื้อยืดกางเกงยีนมานั่งท่ามกลางนักศึกษาเท่านั้นเอง มันไม่ได้แปลกเลยนะ “อะไรกันอีก วุ่นวายจริง” ฉันบ่นกับตัวเองเบาๆมื่อมือถือที่เวลฝากไว้มันสั่นพอไม่รับสายก็ตัดไปแต่เบอร์เดิมก็กระหน่ำโทรมาเหมือนเดิม ฉันเลยตัดสินใจรับ ขอโทษน๊า ไม่ได้อยากจะรับจริงๆนะ (สัส!! มึงอยู่ไหนพวกกูรอส่งงานอยู่นะ) “เอ่อ...” ใบ้กินเลยแฮะคำแรกมันสะเทือนใจจริงๆ (เฮ้ย! ใครน่ะ มารับโทรศัพท์เพื่อนฉันได้ไง) “คือว่า” (ไม่ต้องมาแก้ตัวเลยนะ! ไม่รู้หรือไงว่ามันมีเมียแล้ว) มีเมียแล้วงั้นหรอ ถ้างั้นเขาจะมาแต่งงานกับฉันทำไม ปฏิเสธก็ได้นิถ้าเขาจะปฏิเสธจริงๆเพราะเขามีสิทธิ์คัดค้านมากกว่าฉัน (ใครมีเมียวะ?) น้ำเสียงคุ้นหูดังมา มันคุ้นๆยังไงชอบกลแฮะ (ก็มีใครไม่รู้รับโทรศัพท์มึงกูเลยบอกแล้วว่ามึงมีเมียแล้ว//ห่า!! โทรศัพท์กูอยู่กับเมีย) ฉันตัดสายทิ้งเพราะไม่แน่ใจว่าเขายังต้องการจะถามอะไรต่อมั้ย แต่ว่าฉันโง่นะว่ามั้ยรู้ทั้งรู้ว่าเขามีเมียแล้วแต่ก็ยังโง่นั่งรอตามที่เขาบอก ไม่นานเขาก็กลับมาพร้อมกับผู้ชายกลุ่มใหญ่คือยังไงดีล่ะ ฉันไม่ค่อยรู้สึกตื่นเต้นอะไรหรอกเพราะในร้านส่วนมากก็มีแต่พนักงานผู้ชาย ซึ่งคนพวกนั้นให้ฉันเกียรติฉันมากเกินกว่าเจ้านายเลยล่ะ “รอนานมั้ย?” เวลเดินมาใกล้พร้อมถามเสียงนุ่ม รอยยิ้มหวานถูกส่งมาจากผู้ชายตรงหน้าเรียกเสียงโห่จากคนที่อยู่ข้างหลังเขาได้อย่างดี “ไปเถอะ หิวแล้ว” เวลยื่นมือมาจับมือฉันไว้แน่นพอจะดึงออกเพราะร้อนๆหนาวๆกับสายตาที่เพื่อนเขามองมา แต่ก็เหมือนมันจะไร้ประโยชน์เมื่อเขาจับมือฉันไว้แน่น “เวลกูไปด้วยไม่ได้เอารถมา” ผู้ชายหน้าหวานๆบอกเจ้าของรถแต่เหมือนจะไม่รอคำตอบเพราะเขาก้าวขึ้นไปนั่งบนรถเรียบร้อย ก่อนจะมีผู้ชายอีกคนหนึ่งเดินเข้ามานั่งในรถข้างๆกับผู้ชายหน้าหวาน “เวล ไม่คิดจะแนะนำให้พวกกูรู้จักหน่อยหรอ” หนึ่งในสองคนที่นั่งข้างหลังท้วงขึ้นท่ามกลางความเงียบ นั่นยิ่งทับให้ฉันเงียบเข้าไปใหญ่ “เออๆ นี่ทับทิม คนที่กูจะแต่งงานด้วย” “คนนี้หรอ?” หึหึ ทำไมทำเสียงผิดหวังกันจัง ฉันนั่งเงียบทำตัวเหมือนธาตุอากาศไปแล้วล่ะ “เราจะไปร้านหมูกระทะกันนะ โอเคมั้ย” โดนลากมาขนาดนี้ถ้าไม่โอเคเขาจะให้ฉันกลับมั้ยล่ะ “...” “เออ กูลืมบอกไปเมียกูเป็นใบ้นะ โอ๊ย!!” ฉันยกมือฟาดที่ต้นขาเขาทันทีเมื่อได้ยินเขาบอกว่าฉันเป็นใบ้ ถึงเขาจะร้องโอดโอยแต่ใบหน้ากับเปื้อนรอยยิ้มไหนจะเสียงหัวเราะของเพื่อนเขาอีก ฉันมันตลกมากนักหรือไง!! “กว่าจะถึง พวกมึงทำอะไรอยู่” คนที่ยืนพิงรถอยู่ถามเวล แต่สายตามองมาที่ฉันอย่างจับผิด “ผัวเมียตีกัน ฮ่าๆๆๆ” ผู้ชายสองคนหัวเราะร่าออกมา ไม่อายสายตาคนรอบข้างเลยแต่อย่างว่าคนหน้าตาดีทำอะไรก็ไม่ผิด ลองเป็นฉันสิแค่หายใจยังผิดเลย “มึงหยุดเลยไอ้คิส เดี๋ยวงอนกูอีกไปเถอะกูแม่งหิวมากอ่ะ” “เออๆไปๆ” “เออ พวกมึง! แยกกระทะหนึ่งห้ามอาหารทะเลนะเมียกูแพ้” “รับทราบ!!” “กี่ที่คะ” พนักงานของร้านเดินมาต้อนรับด้วยรอยยิ้ม แหงสิก็ผู้ชายพวกนี้หล่อนี่ “หกครับ” “เชิญทางนี้ค่ะ” เราได้นั่งโต๊ะที่อยู่มุมร้าน สายตาสาวๆในนี้ต่างเมียงมองมาที่โต๊ะพวกเราแล้วผู้หญิงอย่างฉันมันก็อึดอัดกับสายตาที่มองมา เวลขยับมานั่งชิดกับฉันเขาวางแขนพาดพนักเก้าอี้ ฉันไม่อยากรับรู้จริงๆว่าคนรอบข้างหรือแม้กระทั่งเพื่อนของเขามองฉันด้วยสายตาแบบไหน “แนะนำหน่อย กูอย่างรู้จัก” “ทับทิม คนที่กูจะต้อแต่งงานด้วย ทิม...” ฉันเงยหน้าเมื่อคนข้างๆเอ่ยเรียกเสียงนุ่ม “นี่เพื่อนฉัน ไอ้คิส ไอ้เมิร์ท เป็นหนึ่ง ยูยะ” ฉันยกมือไหว้พวกเขาทุกคนเยอะถ้าเป็นเพื่อนเวลนั่นคืออายุมากกว่าฉันแน่นอนฉันเลยยกมือไหว้ไว้ก่อน พวกเขารับไหว้ยิ้มๆ ไม่มีแววตาเย้ยหยันหรือดูถูก “อ่ะนี่ กินเยอะๆจะพาไปผับ” คนข้างๆคีบเนื้อสามชั้นที่สุกแล้วมาวางให้แต่เหมือนเขาจะคีบมาใส่จานฉันอย่างเดียวไม่ยอมทานเลย “กิน” ฉันคีบเนื้อต่างๆที่วางอยู่ในจานไปใส่จานเขาแล้วบอกเขาสั้นๆ เขายิ้มบางๆก่อนจะคีบเนื้อเข้าปากสลับกับคีบมาป้อนฉันด้วย แต่ฉันส่ายหน้าปฏิเสธเพราะเกรงใจ ไหนจะแฟนเขาที่อาจจะมาเห็นอีก ฉันไม่เอาด้วยหรอกนะ ฉันเกลียดฉันกลัวการนอกใจที่สุดฉันรู้ว่าคนที่ตกอย่าในสถานการณ์แบบนั้นมันชอกช้ำทรมานขนาดไหน “เออใช่ ทับทิม ฉันเองนะที่โทรไปหาไอ้เวลแล้วเธอรับน่ะ” จู่ๆคิสก็บอกพร้อมทำหน้าจริงจัง ฉันคิดอย่างไม่เข้าใจก่อนที่คิสจะอธิบายต่อ “ที่บอกว่ามันมีเมียแล้วน่ะ ฉันหมายถึงเธอนะอย่าคิดว่ามันมีคนอื่นล่ะ” ฉันเหรอ? ตลกแล้วพวกเขาจะพูดแบบนั้นได้ไงในเมื่อพวกเขาไม่รู้จักฉันด้วยซ้ำไป “หึหึ เธอเชื่อเรื่องรักแรกพบมั้ยทับทิม”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม