บทที่ ๑ คนไม่มีใจ(๓)

2011 คำ
คุณมนฤดีมองพิมาลาอย่างเวทนา “วันนี้ป้าได้ยินว่าหนูไปขอหย่ากับเจ้าเชษฐ์ แล้วทำไมเจ้าลูกชายของป้าถึงไม่ตกลงล่ะ” “คุณเชษฐ์คงไม่อยากทำให้คุณป้ากับคุณลุงเสียใจ” “แล้วหนูอยากหย่ากับลูกชายของป้าจริงๆ หรือ” “เพียงอยากได้ชีวิตคืน คุณป้าให้เพียงได้ไหมคะ บุญคุณความเมตตาที่คุณลุงคุณป้ามีต่อเพียง...เพียงขอทดแทนด้วยวิธีอื่นนะคะ เพียงแบกรับตำแหน่งลูกสะใภ้ไม่ไหวอีกแล้ว” คนถูกขอร้องได้แต่เช็ดน้ำตาออกจากแก้มนุ่มไม่หยุด สีหน้ากับแววตาล้วนเผยให้เห็นความเจ็บปวด ความสงสารชัดเจน “ได้ ในเมื่อการแต่งงาน การเป็นภรรยาตามกฎหมายของเจ้าเชษฐ์ทำให้หนูเพียงของป้าไม่มีความสุขขนาดนี้ ป้าจะเป็นคนดับความทุกข์ร้อนให้หนูเอง” “คุณป้า” “อีกเจ็ดวัน ป้าจะให้หนูหย่ากับเจ้าเชษฐ์” “คุณป้า” พิมาลาก้มกราบแทบตัก “แต่หลังจากหย่ากันแล้ว หนูต้องสัญญากับป้าข้อหนึ่ง” แววตาของท่านยังเต็มไปด้วยความรักความเมตตาเสมอ “ถึงเราจะไม่ใช่แม่สามีกับลูกสะใภ้กันแล้ว ไม่ว่าหนูจะไปอยู่ที่ไหน ทำอะไร หนูต้องบอกป้านะลูก อย่าหายหน้าหายตาไป ต่อจากนี้ขอให้คิดว่าลุงกับป้าเป็นพ่อแม่ของหนู...หนูคือลูกสาว ไม่ใช่ลูกสะใภ้ ถ้าหนูจะกลับมาที่นี่ หนูก็ต้องกลับมาในฐานะลูกสาวของบ้านนี้” “คุณป้า” พิมาลาได้แต่พึมพำเรียกด้วยตาแดงก่ำ เมื่อถูกดึงรั้งเข้าสู่อ้อมกอดก็ได้แต่ขอบคุณออกมาซ้ำๆ “จำไว้นะหนูเพียง จำไว้ว่าป้ารักหนู ดังนั้นยกโทษให้ป้าด้วยนะ ที่ป้ากับลุงทำให้หนูต้องเป็นทุกข์แบบนี้ ในเมื่อลุงกับป้าเป็นคนทำร้ายหนู เราก็จะช่วยหนูเอง” “หมายความว่ายังไงหรือคะ” คุณมนฤดีลูบหน้าลูบไหล่ของเจ้าของร่างเล็กบางเบาๆ “ป่านนี้คุณลุงคงคุยกับเจ้าเชษฐ์เรื่องหย่ากับหนูแล้วล่ะ อดทนแค่ไม่กี่วันเท่านั้น” พิมาลาได้แต่พยักหน้าหงึกหงักอยู่ในอ้อมอกของคุณมนฤดีอย่างดีใจ ท่าทางยิ้มแต่ร่างสั่นเทิ้มนั้นทำเอาคนกอดต้องกลั้นน้ำตาเอาไว้ “เป็นเพราะป้าเอง ป้าขอโทษนะลูก” “ไม่ค่ะ คุณป้าไม่ผิด เพียงผิดเอง...เพียงเป็นคนผิดเอง คุณป้าอย่าร้องไห้อย่าเสียใจเลยนะคะ เพียงรู้ว่าคุณป้าหวังดีกับเพียง...เพียงรู้ว่าคุณป้ารักเพียง ดังนั้นคุณป้าอย่าโทษตัวเองเลยนะคะ” “โธ่...เด็กดีของป้า” ว่าพลางกอดพิมาลาไว้แน่น ปากก็บ่นพึมพำออกมาไม่หยุด “ต้องโทษที่ลูกชายของป้ามันโง่เขลา เจ้าเชษฐ์คงไม่มีตา ถึงได้มองไม่เห็นความดีงามของหนู” “อย่าว่าคุณเชษฐ์เลยค่ะ ใจของคนเราบังคับกันไม่ได้นี่คะ” “จริงจ้ะ ป้าเห็นด้วย ดังนั้นถ้าหนูเจอผู้ชายดีๆ คนที่เขารักหนูด้วยใจจริง อย่าลังเลที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่นะลูก หนูยังสาวยังสวย ป้าเชื่อว่าหนูต้องได้เจอคนรักดีๆ แน่นอน” “คุณป้า” พิมาลากอดรัดร่างของคนเป็นป้าไว้แน่น แม้ว่าการแต่งงานกับเชษฐ์จะทำให้ทุกข์ใจจนแทบทนไม่ไหว ทว่าอ้อมกอดของป้า ความเมตตาของคุณลุง เป็นสิ่งที่เธอรู้ว่าชาตินี้อาจไม่มีวันพบเจออีก พวกท่านมอบสิ่งดีๆ ให้เธอ แม้กระทั่งยกลูกชายที่ท่านรักให้เธอดูแล แต่เธอผิดเอง ไม่ดีเอง เพราะไม่สามารถรักษาการแต่งงานนี้ไว้ได้จริงๆ การที่มีเธออยู่ตรงนี้ สร้างความทุกข์ใจให้กับเขา เธอก็ควรเดินออกไปไม่ใช่หรือ สิ่งที่ทำได้มีแคเพียงกราบขอโทษคุณลุงกับคุณป้าด้วยใจจริงเท่านั้น เพียงขอโทษ...ขอโทษนะคะ...ได้โปรดยกโทษให้เพียงด้วย บรรยากาศในห้องทำงานของเชษฐ์มีสภาพแตกต่างจากเดิม เพราะตอนนี้ความอึดอัด น่ากลัวกำลังอบอวลไปทั่วทั้งห้อง สองพ่อลูกแห่งนามวรพันธ์กำลังนั่งเผชิญหน้ากัน ปกติตั้งแต่ไหนแต่ไรมา ทั้งคู่ไม่เคยปิดห้องคุยกันด้วยสีหน้าคร่ำเคร่งมาก่อนเลยสักครั้ง “เมื่อกี้พ่อพูดอะไรนะครับ ผมได้ยินไม่ชัด” เชษฐ์ใช้สายตาคมกริบจ้องหน้าบิดาเขม็ง ยิ่งพอนึกย้อนกลับไปเมื่อห้านาทีก่อนก็แทบไม่เชื่อว่าพ่อที่เคยขอร้องให้เขาแต่งงานจดทะเบียนกับผู้หญิงที่ไม่เคยพบกันมาก่อน จู่ๆ วันนี้ก็มาขอให้เขาทำอีกเรื่องที่ตรงกันข้ามกับเจตนาเริ่มต้น นี่มันไม่ย้อนแย้งกันไปหน่อยหรือ คุณเชิดมองลูกชายด้วยสายตาเรียบเฉย ท่าทางของท่านสุขุมไม่ได้สะทกสะท้านกับแววตาเกรี้ยวกราดของลูกชายที่มักทำเอาคนเป็นลูกน้อง พนักงาน และคนในบ้านหวาดกลัวเลยสักนิด “ก็อย่างที่พ่อพูด ให้ทนายทำเรื่องหย่ากับหนูเพียงซะ แกไม่ต้องให้อะไรหนูเพียง เอาแค่ใบหย่ามาก็พอ ชีวิตของหนูเพียงหลังจากนั้นพ่อกับแม่จะเป็นคนดูแลเอง” เชษฐ์ถึงกับยกยิ้มมุมปาก เขากำลังมองว่าเรื่องที่พ่อพูดนั้นเป็นเรื่องตลกที่สุด “สองปีก่อน พ่อขอร้องให้ผมจดทะเบียนกับยัยนั่น พอมาวันนี้ก็สั่งให้ผมหย่าขาด ตกลงพ่อจะเอายังไงกับชีวิตผมกันแน่” คนเป็นพ่อถอนใจทิ้งยาวๆ “เอาเป็นว่าพ่อกับแม่ผิดเอง คิดผิด เลือกผิด แกจะโกรธจะเกลียดยังไงก็แล้วแต่เถอะ ในเมื่อแกไม่ได้รักหนูเพียงก็อย่าทรมานกันอีกเลย ต่างฝ่ายต่างไป พ่อว่าทางเลือกนี้ดีต่อทุกคนแล้ว” “พ่อ!” “ไม่ว่ายังไง พ่อขอ...แกหย่าให้หนูเพียงเถอะนะ ทำแบบนี้ชีวิตของแกกับหนูเพียงจะได้ไม่เป็นทุกข์อีก แล้วแกอยากแต่งงานกับใครก็ตามสบาย พ่อกับแม่จะไม่เข้าไปยุ่งวุ่นวายกับชีวิตของแกอีก” เชษฐ์คลึงขมับเล็กน้อย พอเอนหลังได้ก็ขบกรามตอบ “พ่ออยากให้ผมหย่ากับยัยนั่นมากนักหรือ” “ใช่ พ่อกับแม่ไม่อยากทำร้ายหนูเพียง ไม่อยากทำลายความสุขของแกอีกแล้ว นี่คงเป็นทางที่ดีที่สุด” “ดีหรือ...” เชษฐ์ดุนลิ้นไปยังกระพุ้งแก้มบ่งบอกความไม่พอใจ “พ่อกับแม่ทำให้ผมต้องแต่งงานทั้งที่ผมไม่อยากแต่ง พ่อกับแม่ทำทุกอย่างให้ผมยอมรับการเป็นสามีตามกฎหมายของยัยนั่น แล้วตอนนี้อยากให้ผมหย่า จะปล่อยให้ยัยนั่นไปมีความสุขกับสิ่งที่ต้องการ” พูดออกมาแล้วก็หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง เมื่อถูกสายตาเยียบเย็นของพ่อมองมา ชายหนุ่มก็ได้แต่ยิ้มบอก “ทำไมผมต้องทำด้วยละพ่อ ในเมื่อผมยอมตกนรกด้วยการแต่งงานกับลูกสาวเพื่อนพ่อที่พ่อกับแม่รักนักรักหนา ผมก็ควรทำให้ให้ยัยนั่นตกนรกไปกับผมตลอดชีวิตสิ มันถึงจะถูก” “เชษฐ์” “ผมไม่หย่า ไม่ว่าพ่อกับแม่จะพูดยังไง ผมก็ไม่หย่า” “เชษฐ์...ทำไมแกถึง..” “พ่อรู้เอาไว้นะครับ พ่อกับแม่สั่งผมไม่ได้ ถ้าผมจะหย่าผมจะคิดเอง ทำเอง แต่เสียใจด้วยนะครับเพราะคงไม่ใช่เร็วๆ นี้แน่ ยิ่งพ่อกับแม่รักและสงสารยัยนั่นมากเท่าไร ผมก็ยิ่งจะทรมานให้มากขึ้นเท่านั้น” “เจ้าเชษฐ์ นี่แกบ้าไปแล้วหรือไง ในเมื่อแกไม่รักไม่ชอบหนูเพียงแล้วจะยื้อไว้ทำไม” “ก็แล้วตอนแต่งงาน ผมบอกพ่อกับแม่ว่าผมไม่รักไม่ชอบยัยนั่น ผมมีผู้หญิงที่ผมอยากแต่งงานด้วยอยู่แล้ว พ่อกับแม่เคยฟังผมบ้างไหม คำตอบคือไม่ พ่อกับแม่ทำทุกอย่างเพื่อให้ผมแต่งงาน ทำให้ผมเสียคนที่ผมรักไป แล้วพอวันนี้ทำไมผมต้องปล่อยคนที่ทำให้ผมต้องตายทั้งเป็นไปมีความสุขด้วย” “นี่แกทำทุกอย่างก็เพื่อผู้หญิงคนนั้น” “ครับ ผมรักดารา...ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ผมก็ยังรัก” “แกมันบ้า” คนเป็นพ่อตะคอกลั่น “ยัยดารานั่น แต่งงานมีผัวไปแล้ว แกยังอยากจะอยู่กับยัยนั่นอีกหรือ” “ก็ถ้าผมไม่แต่งงานกับลูกสาวเพื่อนพ่อ ดาราก็คงไม่แต่งงานกับไอ้แก่นั่น” “ไม่ใช่” คนเป็นพ่อส่ายหน้า “แกมันโง่ แกรักแกหลงยัยนั่นจนมองไม่เห็นความจริง แกคิดว่าผู้หญิงคนนั้นจะรักแกอย่างนั้นหรือ ไม่ใช่หรอก ยัยนั่นรักแค่เงินของแกเท่านั้น แล้วที่ยอมแต่งงานกับคนแก่คราวพ่อก็เป็นเพราะหวังสมบัติจากบ้านสามี ตอนนี้แกไม่ได้ข่าวหรือว่าสามีของคนรักแกกำลังจะตายแล้ว พอตายสมบัติทั้งหมดก็ตกเป็นของแฟนเก่าแกไง” “พ่อ” คุณเชิดลุกขึ้น ตบบ่าลูกชายเบาๆ “ตั้งแต่เล็กจนโตแกเป็นคนฉลาดนะเจ้าเชษฐ์ ฉะนั้น อย่าให้ความรักมันบังตาจนมองไม่เห็นความจริง แล้วก็อย่าเลือกมองในสิ่งที่อยากเห็น หัดลืมตาให้กว้างๆ มองทุกสิ่งทุกอย่างตรงหน้าให้ชัดๆ แล้วแกจะรู้ว่าอะไรคือความจริง อะไรคือหลอกลวง พ่อคงบอกแกได้แค่นี้” กล่าวจบคุณเชิดก็เดินหันหลังจากไป ทิ้งให้เชษฐ์ได้แต่มองตาด้วยสีหน้าท่าทางไม่ยินยอมเท่านั้น เมื่อคนเป็นพ่อคล้อยหลัง ชายหนุ่มก็ก้าวยาวๆ ออกจากห้องทำงานทันที เปิดประตูออกมาได้ก็ต้องสอดมือล้วงเข้ากระเป๋า พลางจับจ้องไปยังพ่อกับแม่ที่เพิ่งจูบมือกันออกไป ดูท่าทางทั้งสองคนจะเป็นห่วงภรรยาตามกฎหมายของเขาไม่น้อย ถึงได้พากันมาที่นี่ ละสายตาจากพ่อกับแม่ เชษฐ์ก็เห็นใครบางคนนั่งนิ่งอยู่บนโซฟา ท่าทางยกมือปาดป้ายเช็ดน้ำตานั้นไม่ได้ดูน่าสงสารเลยสักนิด เพราะเขารู้สึกว่าน่าสะอิดสะเอียน แต่การเห็นเธอทุกข์ทรมานมันก็เป็นเรื่องดีเหมือนกัน มันทำให้เขารู้สึกว่าควรจะทรมานเธอให้เพิ่มมากขึ้นไปอีก มุมปากหยักได้รูปของเชษฐ์ค่อยๆ โค้งขึ้น ขณะที่สายตานั้นไม่ได้ละไปจากแผ่นหลังบอบบางของภรรยาตามกฎหมายเลยสักนิด เขามองเธออยู่นานถึงได้พึมพำออกมา “ยินดีต้อนรับสู่นรกที่แท้จริงนะพิมาลา” เอ่ยแค่นั้นก็หมุนกายกลับเข้าอาณาเขตส่วนตัวด้วยแววตากับสีหน้าเยียบเย็นขึ้นเรื่อยๆ ขณะเดียวกันพิมาลากำลังนั่งกัดปากขบฟันระงับความรู้สึกที่เกิดขึ้น เธอไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วอยากหย่ากับเขาไหม อยากหย่าเพราะอะไร พอคุณป้ามนฤดีตกปากรับคำว่าจะให้เธอหย่าขาดจากลูกชายของคุณป้า ก็รู้สึกจุกอกจนแทบหายใจไม่ออก ต่อให้จิกเล็บจนเลือดเต็มฝ่ามือก็ยังไม่รู้สึกเจ็บเท่ากับต้องหย่ากับเขา ต้องปล่อยให้เขากลับไปหาผู้หญิงที่เขารัก พิมาลานั่งตัวแข็งอยู่บนโซฟานิ่งนาน กระทั่งเริ่มกลับมาหายใจคล่อง ความอัดอึดในโพรงอกเบาบางลงนั่นแหละ ถึงได้ค่อยๆ ประคองร่างกายอ่อนเพลียเดินกลับเข้าห้องไปพักผ่อน แต่ไม่รู้ว่าทำไม แค่บานประตูปิดลง แข้งขาที่เคยยืนหยัดได้เมื่อครู่กลับอ่อนแรงจนทรุดลงไปกองกับพื้น น้ำตาที่เหือดแห้งมาสักพักนั้นกลับมาร่วงหล่นอาบแกมมนลงมาไม่ขาดสาย ต่อให้พยายามเช็ดทิ้งยังไงมันก็ยังไหลออกมาอยู่ดี สุดท้ายก็ได้แต่กอดเข่า ซุกหน้าร้องไห้อย่างน่าเวทนาเท่านั้น
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม