ม่านฟ้าลงจากท้ายรถมอเตอร์ไซค์ แล้วเดินถือปิ่นโตกลับเข้าบ้าน จากนั้นก็เดินเข้าไปในห้องนอนหยิบกระเป๋าใบใหญ่ หมวกแล้วก็กล้องถ่ายรูปออกมาวางเอาไว้บนโต๊ะหินอ่อนหน้าบ้าน
โรเบิร์ตที่จอดรถเสร็จก็เดินเข้าบ้าน แต่ต้องชะงักเท้าค้างอยู่หน้าบ้าน เมื่อเห็นม่านฟ้าถือกระเป๋าใบใหญ่ หมวกและกล้องถ่ายรูปออกมาวางบนโต๊ะหินอ่อน นัยน์ตาคู่สีฟ้าเข้มก้มมองของที่วางอยู่บนโต๊ะอย่างสงสัย
“จะไปไหนหรือแพม”
“ไปเที่ยว”
“เที่ยวไหน พรุ่งนี้คุณต้องทำงานไม่ใช่หรือไง”
“เจ้าของร้านต้องเดินทางไปเยี่ยมลูกสาวที่ญี่ปุ่น เค้าเลยปิดร้านหนึ่งอาทิตย์ ฉันเลยวางแผนจะไปเที่ยว”
“เที่ยวไหน?”
‘จะไปเที่ยวทั้งที่ไม่ชวนเขาไปด้วย ผู้หญิงคนนี้ใจดำชะมัด’
นัยน์ตาคู่สีฟ้าเข้มสบตามองใบหน้าสวยหวานอย่างตัดพ้อ ก่อนนั่งลงบนม้าหินอ่อน หยิบกระเป๋าเป้ขึ้นมาเปิดดู เขาก็พบชุดว่ายน้ำพร้อมกับเสื้อผ้าอีกชุดหนึ่ง
“คุณจะไปเล่นน้ำที่ไหนน่ะแพม ผมไปด้วยสิ”
“คุณก็ไปเที่ยวเองสิ ตอนนี้ร่างกายคุณก็หายเป็นปกติแล้ว คุณบอกเองไม่ใช่เหรอว่าแผลหายเมื่อไรคุณจะออกไปจากบ้านฉันทันที”
“ผมยังไม่หายเสียหน่อย ผมยังรู้สึกปวดแปลบๆ ที่แผลเลย”
“มารยาล่ะสิไม่ว่า”
ม่านฟ้าต่อว่าเสียงเขียว เธอมั่นใจว่าแผลของเขาต้องหายเป็นปกติแล้ว แต่ที่ไม่เข้าใจก็คือ เพราะอะไรเขาถึงไม่ยอมออกไปจากบ้านเธอเสียที
“ผมไม่อยากเถียงกับคุณแล้ว ตกลงคุณจะไปเที่ยวที่ไหน”
“ฉันจะไปดำน้ำที่หาดปลายแหลม”
“ผมไปด้วย รอผมแปบนะ”
โรเบิร์ตพูดแค่นั้นก็เดินเข้าบ้าน และไม่ลืมที่จะหยิบตัวประกันในการไปเที่ยวของเขากลับเข้าไปในบ้านด้วย
“นั่นคุณจะเอากล้องฉันกลับเข้าไปในบ้านทำไม”
ม่านฟ้าร้องถามอย่างตกใจ เมื่อโรเบิร์ตหยิบกล้องถ่ายรูปสุดรักสุดหวงของเธอติดมือไป แล้วใบหน้าสวยหวานบึ้งขึ้นทันทีกับคำตอบที่หลุดออกมาจากปากหยักได้รูปนั้น
“ตัวประกัน”
********
หลายชั่วโมงต่อมา...
โรเบิร์ตกับม่านฟ้าก็มายืนอยู่หน้าชายหาดปลายแหลม หน้าหาดเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ นัยน์ตาคู่สีฟ้าเข้มมองหาดทรายสีขาวที่สลับกับโขดหิน บรรยากาศดูครึกครื้นไม่น้อย อาจเพราะช่วงนี้เป็นหน้า High season นักท่องเที่ยวจึงมากกว่าปกติ
ตามข้อมูลในโบชัวร์ที่คนสนิทเคยนำมาให้เขาอ่าน รู้สึกว่าหาดปลายแหลมมีความงามเป็นอันดับต้นๆ บนเกาะพะงัน เพราะมีสภาพแวดล้อมที่เป็นธรรมชาติ มีการก่อสร้างบังกะโลที่มีระบบการป้องกันอย่างมาก และดูเหมือนว่าที่นี่จะมีบรรยากาศที่เงียบสงบ เหมาะแก่การหลบความวุ่นวายมานอนพักผ่อนและอาบแดด
ในช่วงน้ำลงนักท่องเที่ยวสามารถเดินไปยังชายหาดปลายแหลมจากอ่าวในวก หากอยากยลโฉมความงามของท้องทะเลให้มากขึ้น ก็สามารถปีนโขดหินข้ามผ่านเหนือพุ่มไม้ ก็จะสามารถมองเห็นมุมมองใหม่และความสวยงามของหาดปลายแหลม
ชายหนุ่มมองชายหาดที่ยาวสุดลูกหูลูกตา ตลอดหาดมีร้านอาหาร บังกะโล บาร์เล็กๆ หรือแม้แต่รีสอร์ตราคาแพงสร้างเอาไว้เพื่อ เตรียมรองรับบรรดานักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติกันแน่นไปหมด ดูเหมือนว่าร้านอาหารและบังกะโลที่อยู่ติดชายหาด
ตอนนี้ก็มีนักท่องเที่ยวแวะเข้ามาพักและทานอาหารไม่ขาดสาย จนเขาไม่แน่ใจว่าจะมีที่ให้เขากับม่านฟ้าลงเล่นน้ำบ้างไหม เพราะเกือบทุกตารางเมตรแออัดไปด้วยนักท่องเที่ยว
“แน่ใจหรือแพมว่าจะลงเล่นน้ำที่นี่ ผมว่านักท่องเที่ยวเยอะไปไหม?”
“ก็ช่วงนี้มันเป็นหน้า High season นี่นา นักท่องเที่ยวก็ต้องเยอะกว่าปกติสิ ถ้ามาช่วง Low season ก็ว่าไปอย่าง”
“แล้วทำไมคุณถึงเลือกมาดำน้ำที่หาดปลายแหลมล่ะแพม”
“คุณนี่ถามมากจริงๆ”
ม่านฟ้าตอบเสียงสะบัด ใจจริงเธออยากไปดำน้ำที่เกาะเต่ามากกว่า แต่เพราะคืนนี้มี ‘ฟูลมูน ปาร์ตี้’ เธอเลยวางแผนจะพาเขาไปเที่ยวเสียหน่อย แผนการเดินทางไปดำน้ำที่เกาะเต่าก็เลยถูกเลื่อนไป
หญิงสาวยื่นกระเป๋าเป้ใบใหญ่ให้ชายหนุ่มขี้สงสัย ก่อนเดินลงไปยังชายหาดที่มีร้านอาหารของญาติเจ้าของร้านที่เธอทำงานอยู่ เจ้าของร้านอาหารและบังกะโลที่เธอรู้จักและสนิทสนมด้วย ส่วนใหญ่จะเป็นญาติกันทั้งนั้น พวกเขารวมตัวกันเปิดร้านอาหารในหาด โดยใช้ชื่อต่างกัน และทุกจุดที่เปิดร้าน ล้วนเป็นแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อของบนเกาะทั้งนั้น
โรเบิร์ตแบกเป้พร้อมกับสะพายกล้องถ่ายรูปของม่านฟ้าเดินลงชายหาดไปติดๆ คิ้วเข้มเริ่มขมวดเข้าหากันเมื่อเห็นร่างระหงเดินตรงไปยังร้านอาหารที่อยู่ไม่ไกลจากจุดที่เขาจอดรถมอเตอร์ไซค์นัก
********
ม่านฟ้าเดินเข้ามาในร้านอาหาร พร้อมกับยกมือไหว้เจ้าของร้านสาวใหญ่วัยสี่สิบแปดอย่างสุภาพ ตามด้วยรอยยิ้มที่เธอมั่นใจว่าจะสามารถทำให้คนพบเห็นรู้สึกรักและเอ็นดูเธอได้เสมอ
“สวัสดีค่ะป้านา”
“ดีจ้ะหนูแพม วันนี้พาใครมาด้วยล่ะเนี่ย หน้าตาหล่อเชียว”
จินตนา หรือ พี่ใหญ่แห่งครอบครัวถนัดศรี ทักแม่ครัวคนเก่งของน้องสาวอย่างเอ็นดู เวลาร้านอาหารของเธอขาดแม่ครัว ก็ได้สาวน้อยหน้าหวานผู้นี้แหละมาคอยช่วย ที่สำคัญฝีมือการทำอาหารก็ถือว่ายอดเยี่ยม สามารถทำอาหารได้หลายเชื้อชาติ ไม่ว่าจะเป็นอาหารอเมริกัน จีน ญี่ปุ่น หรือแม้แต่อิตาเลี่ยน เธอก็ทำได้หมด
“เพื่อนของแพมเองค่ะป้า เค้าชื่อ ‘เฮนรี่’ ค่ะ”
“สวัสดีจ้ะเฮนรี่”
“สวัสดีครับ”
โรเบิร์ตทักทายเจ้าของร้านอาหารที่ม่านฟ้าแนะนำให้เขารู้จัก เขาไม่ได้แปลกใจที่เธอแนะนำเขาด้วยชื่อนั้น เพราะรุ่นน้องข้างบ้านของเธอก็รู้จักเขาในชื่อเฮนรี่เหมือนกัน
นางจินตนาเลิกคิ้ว แปลกใจเล็กน้อยกับคำตอบที่ชายหนุ่มหน้าตาดีคนนี้ตอบกลับมา ตอนแรกนึกว่าเป็นคนไทยเสียอีก เพราะเขาผมดำ ตาสีดำเหมือนกับม่านฟ้า เลยคิดว่าเป็นคนไทยหรือไม่ก็ชาวเอเชีย ที่ไหนได้หนุ่มหล่อคนนี้กลับเป็นฝรั่ง ก่อนหันไปล้อแม่ครัวคนเก่งของน้องสาว
“เพื่อนหรือแฟนเนี่ยหนูแพม”
“เพื่อนค่ะป้านา”
“แน่นะ”
นางไม่เชื่อหรอกว่าแม่ครัวหน้าหวานคนนี้ของน้องสาวจะไม่มีแฟน นางเคยฟังน้องสาวบ่นให้ฟังอยู่บ่อยๆ ว่ามีหนุ่มๆ แวะเวียนมาขายขนมจีบที่ร้านไม่ขาด แต่ก็ไม่เคยเห็นแม่ครัวคนเก่งสนใจหรือให้ความสนิทสนมกับผู้ชายคนไหนเลยสักคน
จนกระทั่งวันนี้ที่นางได้เห็นหนุ่มหล่อคนนี้ นางก็เลยมั่นใจว่าที่แม่ครัวคนเก่งของน้องสาวไม่เคยสนใจผู้ชายที่แวะเวียนมาขายขนมจีบ ก็เพราะมีเจ้าของหัวใจเป็นหนุ่มหล่อคนนี้นี่เอง
“แน่สิคะ แพมจะไปโกหกป้านาทำไม”
ม่านฟ้ารีบปฏิเสธคำพูดของพี่สาวเจ้านายสาวทันที เธอกับโรเบิร์ตไม่ได้เป็นแฟนอย่างที่ใครๆ เข้าใจเลย ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิตช่วงนี้ ก็เพราะดวงของเธอไม่ดีต่างหาก
ถูกตัวอันตรายบุกรุกบ้านด้วยสภาพโชกเลือด แถมยังถูกปืนจ่อศีรษะ ต้องยอมทำตามคำสั่งแกมขอร้องอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ สุดท้ายความซวยก็มาเยือน เพราะไม่เพียงไม่ออกไปจากบ้าน แต่เขายังทำตัวเป็นเจ้าชีวิตของเธออีก พอนึกถึงสาเหตุที่เธอต้องอาศัยอยู่บ้านเดียวกับโรเบิร์ต อารมณ์ก็เริ่มเสียขึ้นมาเล็กน้อย
“งั้นป้าไม่กวนหนูแพมแล้ว ป้าจองที่เอาไว้ให้หนูแพมแล้ว เดี๋ยวป้าให้สายใจพาไปนะ”
“ขอบคุณมากนะคะป้า”
“ไม่เป็นไรหรอก หนูแพมเคยมาช่วยป้าตั้งหลายครั้ง ขอแค่นี้ไม่มากไปหรอกนะ ป้าไปดูลูกค้าโต๊ะโน้นก่อนนะ อยากทานอะไรก็สั่งได้เลย ป้าคิดค่าอาหารกับหนูแพมและแฟนไม่แพงหรอก”
นางจินตนาบอกแม่ครัวคนเก่งของน้องสาว แล้วเดินไปทักทายลูกค้าที่เดินเข้ามานั่งกลุ่มใหม่ด้วยรอยยิ้มอบอุ่น ช่วงนี้เป็น High season นักท่องเที่ยวที่แวะมาทานอาหารและเล่นน้ำทะเลที่หาดปลายแหลมจึงมากกว่าปกติหลายเท่า นางจึงต้องลงมาดูแลและบริการลูกค้าด้วย
...โปรดติดตามตอนต่อไป...