“ผู้หญิงคนนั้นมองผมแปลกๆ นะแพม”
โรเบิร์ตก้มหน้ากระซิบถามม่านฟ้าอย่างสงสัยจนเก็บเอาไว้ไม่ได้ เพราะสายตาของเจ้าของร้านยามมองเขามันดูแปลกและไม่ธรรมดา เรียกว่าตรวจสอบพิจารณาทุกรายละเอียดเลยก็ว่าได้
“จะไม่แปลกได้ยังไง ในเมื่อป้านาคิดว่าคุณเป็นแฟนของฉัน”
“แฟน” โรเบิร์ตแปลกใจกับความคิดของเจ้าของร้านอาหาร
“ใช่ ป้านาคิดว่าคุณเป็นแฟนฉัน” ม่านฟ้าตอบ
“พี่แพมคะ”
สายใจเดินเข้ามาขัดบทสนทนาระหว่างสองหนุ่มสาว นัยน์ตาคู่สีดำสนิทหันมามองเจ้าของเสียงพร้อมกัน
“มีอะไรหรือสายใจ”
“ป้านาบอกให้สายใจพาพี่แพมกับแฟนไปนั่งโต๊ะที่ป้านาเตรียมเอาไว้ให้พี่แพมนะคะ”
“โอเค งั้นพวกเราไปกันเถอะ”
“เชิญทางนี้ค่ะ”
สายใจบอกแล้วเดินนำม่านฟ้ากับแฟนหนุ่มตรงไปยังโต๊ะที่เจ้าของร้านยอมขาดทุน แล้วยกโต๊ะให้ทั้งสองนั่งฟรีๆ
โรเบิร์ตกับม่านฟ้าเดินตามสายใจไปยังจุดที่นางจินตนาจองเอาไว้ให้ เพียงไม่กี่นาทีพวกเขาก็เดินมาถึงโต๊ะ
“โต๊ะนี้แหละค่ะพี่แพม”
“ขอบใจมากนะสายใจ”
“มีอะไรก็เรียกใช้ได้เลย สายใจขอตัวก่อนนะคะ”
ม่านฟ้าวางของลงบนโต๊ะ หลังจากที่สายใจเดินกลับไปร้านอาหาร ขณะที่โรเบิร์ตเองก็นั่งลงบนเก้าอี้ผ้าใบอีกตัว วางกระเป๋าเป้และกล้องถ่ายรูปลงบนโต๊ะไม้เล็กๆ ระหว่างเก้าอี้ผ้าใบ แล้วเงยหน้าขึ้นมามองใบหน้าสวยหวานซึ่งระบายไปด้วยรอยยิ้ม
“ลงไปเล่นน้ำกันไหมคุณโรเบิร์ต หรือคุณจะไปดำน้ำชมปะการัง”
“ผมก็แล้วแต่คุณ”
ในเมื่อม่านฟ้าเป็นคนวางโปรแกรมเที่ยวในวันนี้ เขาก็ต้องทำตัวเป็นลูกทัวร์ที่ดี เจ้าถิ่นพาไปเที่ยวไหน เขาก็ตามไปแต่โดยดี ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาทำงานหนักไม่เคยได้หยุดพักอย่างจริงๆ จังๆ เลย เคยแต่ออกคำสั่งกับลูกน้อง คราวนี้เขาปล่อยให้ม่านฟ้าเป็นคนออกคำสั่งกับเขาบ้าง ก็ถือว่าไม่เลว
“งั้นก็ไปดำน้ำกันดีกว่า”
“ทำไมคุณไม่ไปดำน้ำที่เกาะเต่าล่ะแพม”
“ฉันจะไปเกาะเต่าพรุ่งนี้ เพราะคืนนี้ฉันจะพาคุณไปฟูลมูน ปาร์ตี้”
“ฟูลมูน ปาร์ตี้”
ชายหนุ่มเลิกคิ้ว หรี่ตา หันหน้ามามองคนวางโปรแกรมเที่ยวในวันนี้ ก่อนนี้ก็สงสัยอยู่เหมือนกันว่าเพราะอะไรม่านฟ้าถึงไม่ไปดำน้ำที่เกาะเต่า ที่แท้ก็เพราะมีโปรแกรมรอบค่ำให้เขานี่เอง
“ใช่แล้ว ที่นี่มีแนวปะการังน้ำตื้นที่สวยไม่แพ้หาดอื่นๆ ตอนเย็นก็นั่งชมพระอาทิตย์ตกที่นี่ จากนั้นก็กลับบ้านไปอาบน้ำแล้วค่อยไปหาดริ้น”
“ไปกันกี่คน”
“ประมาณหกหรือเจ็ดคนนี้แหละ ถ้าคุณจะดำน้ำก็เดินไปที่ร้านนั่นนะ เพราะเขาให้เช่าอุปกรณ์ดำน้ำ เดี๋ยวฉันมา...”
“คุณจะไปไหน”
โรเบิร์ตถามเมื่อเห็นม่านฟ้าเตรียมลุกขึ้น หยิบกระเป๋าเป้ขึ้นจากโต๊ะ นัยน์ตาคู่สีฟ้าเข้มที่ถูกปิดทับด้วยคอนแทกต์เลนส์สีดำสบตามองใบหน้าสวยหวานอย่างต้องการคำตอบ
“เปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วจะไปเช่าอุปกรณ์ดำน้ำ”
ม่านฟ้าอธิบายแค่นั้น ก็หยิบกระเป๋าเป้ขึ้นสะพายแล้วเดินลัดเลาะไปตามพุ่มไม้เตี้ย เพื่อเข้าห้องน้ำในร้านอาหาร จัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วไปรับอุปกรณ์ดำน้ำที่เธอโทรศัพท์มาจองเอาไว้ก่อนหน้านี้
หลังม่านฟ้าเดินออกไปได้ไม่นาน โรเบิร์ตก็ตัดสินใจหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาโทร. หาน้องชาย และบอกโปรแกรมที่เขาจะไปในค่ำคืนนี้ ก่อนตัดสายแล้วลุกไปรอม่านฟ้าที่ร้านให้เช่าอุปกรณ์ดำน้ำ
**********
19:15 นาฬิกา
หลังกลับมาจากเล่นน้ำทะเลดำน้ำดูปะการัง ม่านฟ้าก็กลับมาอาบน้ำแต่งตัวรอบงกชและเพื่อนสนิทของเธออีกสี่คน คืนนี้พวกเธอตกลงที่จะไปฟูลมูนปาร์ตี้กันที่หาดริ้น
รถมอเตอร์ไซค์สามคันขับตรงเข้ามาจอดหน้าบ้านม่านฟ้า ก่อนที่บรรดาสาวๆ จะลงจากรถแล้วพากันเดินเข้าไปในบ้าน แล้วพวกเธอก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อเจอผู้ชายนั่งอยู่บนโซฟาหน้าทีวี
“ใครวะไอ้เพ็ญ หรือจะเป็นแฟนของพี่แพม”
“ฉันจะไปรู้ได้ยังไงล่ะ ฉันก็เข้าบ้านพี่แพมพร้อมแก”
เพ็ญ หรือ เพ็ญแข สาวเสิร์ฟร้านริมหาดซีฟู๊ดหันมาโวยวายเพื่อนสนิท เธอไม่ได้สนิทกับม่านฟ้านัก เลยไม่รู้เรื่องส่วนตัวของอีกฝ่ายเท่าไร สิ่งที่เธอรู้ก็คือ ม่านฟ้าไม่ใช่คนบนเกาะพะงัน และใช้ชีวิตอยู่ในบ้านหลังนี้คนเดียว
“แล้วแกล่ะไอ้จันทร์ รู้หรือเปล่าว่าผู้ชายหน้าตาดีคนนี้เป็นใคร”
เมื่อเพ็ญแขไม่รู้ว่าหนุ่มหล่อที่นั่งอยู่หน้าทีวีเป็นใคร เปรมใจจึงหันมาถามมณีจันทร์ เพราะมณีจันทร์ก็เป็นสาวเสิร์ฟอยู่ที่ร้านริมหาดซีฟู๊ดเหมือนกับเพ็ญแขและเจ้าของบ้านหลังนี้
“แกอยากจะรู้ไปทำไมวะนังเปรม”
มณีจันทร์ย้อนถามเปรมใจ รู้สึกไม่ชอบนิสัยสอดรู้สอดเห็นของผู้หญิงคนนี้นัก เธอไม่ได้สนิทกับเปรมใจเหมือนที่เพ็ญแขสนิท เธอเลยไม่ชอบพฤติกรรมที่เปรมใจแสดงออกมา
“เถอะน่า”
เปรมใจพูดออกมาไม่เต็มเสียงนัก สายตาเหลือบมองหนุ่มหล่อที่นั่งดูทีวี ไม่สนใจพวกเธออย่างสนอกสนใจ ก่อนจะแปลกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นชายหนุ่มลุกจากโซฟา เดินตรงเข้าไปในห้องนอนของเจ้าของบ้านสาว
“ตอนนี้รู้หรือยังว่าผู้ชายหน้าตาหล่อเหลา หุ่นน่าฟัดคนนี้เป็นใคร”
เพ็ญแขเป็นคนถามเพื่อนสนิท อยากรู้นักว่าผู้ชายหน้าตาหล่อเหลาคนนี้เป็นใคร ตอนนี้ก็ได้รู้แล้ว ที่จริงเปรมใจน่าจะรู้คำตอบดีอยู่แล้ว ไม่เห็นจะต้องค้นหาความจริงเลย
“เออ...ฉันรู้แล้ว”
เปรมใจตอบเสียงสะบัดนิดๆ รู้สึกเสียดายความหล่อของผู้ชายคนนี้ไม่น้อย คิดได้ยังไงถึงคบกับม่านฟ้าเป็นแฟน ใครๆ ก็รู้ว่าม่านฟ้าเย็นชาและร้ายกาจแค่ไหน ผู้ชายหลายคนที่เข้ามาจีบต้องหนีเตลิดไปทุกราย เพราะทนความเรื่องมากและความเย็นชาของม่านฟ้าไม่ไหว
“พี่แพมมีแฟนหล่อขนาดนี้เลยเหรอ? มิน่า...ผู้ชายแวะมาขายขนมจีบ พี่แพมถึงไม่สนใจ”
มณีจันทร์พึมพำ แล้วหันไปยิ้มให้กับเพ็ญแข ก่อนหันหน้ามามองเปรมใจ ก็รู้อยู่หรอกว่างานที่เปรมใจทำคืองานอะไร แต่คิดจะอ่อยแฟนของเพื่อนในกลุ่ม นิสัยคงไม่น่าคบเท่าไร เธอไม่ได้รังเกียจที่เปรมใจทำงานอย่างว่า แต่การคิดแย่งแฟนเพื่อน มันไม่ใช่เรื่องที่น่าพิสมัยนัก
บงกชที่เดินเข้ามาหาหลังเพื่อน เลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัยกับบทสนทนาที่เธอได้ยิน โดยเฉพาะเปรมใจที่แสดงอารมณ์เสียออกมา พอรู้ว่าผู้ชายที่อยู่ในบ้านของพี่สาวข้างบ้านเป็นใคร
“กำลังคุยเรื่องอะไรกันอยู่น่ะ”
“จะเรื่องอะไรเสียอีก นอกจากเรื่องผู้ชาย”
เพ็ญแขตอบ นอกจากเรื่องผู้ชายแล้วไม่มีเรื่องอะไรที่สามารถทำให้เปรมใจทะเลาะกับพวกเธอได้หรอก นิสัยเสียแบบนี้ของเปรมใจ แก้ยังไงก็แก้ไม่หายเสียที เห็นผู้ชายหน้าตาหล่อ หุ่นดีๆ ไม่ได้ ชอบยั่ว ชอบอ่อย ระวังเถอะจะโดนดีเข้าสักวัน
“สนใจพี่เฮนรี่กันเหรอ?”
“ชื่อเพราะจัง พี่เฮนรี่เป็นลูกครึ่งเหรอบุษ”
“เปล่า เป็นชาวอิตาลี ของนอก...อิมพอร์ตเข้ามาเลย ที่สำคัญพี่เฮนรี่เป็นแฟนพี่แพม พวกแกอย่าคิดทำอะไรบ้าๆ เชียวล่ะ”
“บ้าเหรอไอ้บุษ ใครจะบ้าไปแย่งแฟนพี่แพมกัน”
มณีจันทร์ร้องโวยขึ้นมาเมื่อบงกชพูดเตือน แล้วดูเหมือนคำพูดของบงกชจะแทงใจดำใครบางคนอย่างจัง ใบหน้าที่เติมแต่งด้วยเครื่องสำอางบิดเบี้ยวอย่างไม่พอใจ
‘แกพูดถูกใจฉันมากเลยว่ะไอ้บุษ สะใจจริงๆ’
...โปรดติดตามตอนต่อไป...