‘เจ้าอ้วน หน้าตานาย ดูไปดูมาก็คล้ายๆ พวกฉันตอนเด็ก แต่ฉันและน้องๆ ของฉันไม่มีใครอ้วนเท่านายสักคน อ้วนผิดเผ่าพันธุ์ เด็กอะไรวะ มีหัวแล้วตัวเลย’
‘ถ้าอยากใช้นามสกุลแบรดลีย์ หน้าตาพอได้ แต่รูปร่างนายต้องปรับปรุงบ้างนะอ้วน’
เดวิดลืมตัวไปว่าตอนเขาได้ดิโน่มาอยู่ เจ้าหนูนี่ไม่ได้ตัวใหญ่แลดูเป็นทารกยักษ์เท่าเวลานี้ เขาเลี้ยงมาเดือนเศษไม่คิดว่าเด็กจะโตขึ้นมาก เขาปลูกแอปเปิลเก่ง สงสัยว่าจะเลี้ยงเด็กเก่งด้วย ถึงสมบูรณ์ โตไว ท่าทางฉลาดอีกด้วย
ที่จริงเดวิดไม่ใช่สายรักเด็ก ออกจะไม่ชอบ ค่อนข้างรำคาญมากด้วยซ้ำ ไม่เคยฝันว่าอยากจะมีลูกหรือหลาน เพราะเจ้าสิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆ ที่เรียกว่า ‘เด็ก’ มักจะมีอารมณ์แปรปรวนคล้ายๆ กับพวกผู้ป่วยไบโพลาร์ เดี๋ยวยิ้ม เดี๋ยวหัวเราะ ไม่พอใจก็ร้องเสียงดัง บางทีก็อออกอาละวาดกว้างข้าวของ อารมณ์เอาแน่เอานอนไม่ได้เลย ดูน่ากลัวพิกล ผิวก็ยังดูบอบบาง ไม่ได้กร้านแดดเหมือนเขา บางครั้งต้องหาครีมมาโชลมให้ตั้งแต่หัวจรดเท้า พวกเด็กนี่เรื่องแยะจริง งานก็ทำยังไม่ได้ แต่ร้องหม่ำ หม่ำ กันทั้งวัน ใช้เงินกันก็เก่ง ค่าตัวแพงเวอร์
ถ้าให้คนอย่างเดวิดเปรียบเทียบคำว่าเด็กกับอะไรสักอย่างเขาคิดว่าเด็กคือตุ๊กตามีชีวิตราคาโคตรแพงหนึ่งเดือนที่รับเจ้านี่มาเขาต้องเรียกช่างมาตกแต่งภายในให้บรรยากาศเหมาะสมสำหรับเด็กทารก เฟอร์นิเจอร์ทุกอย่างต้องเข้ากับเด็ก เสื้อผ้า อาหาร ทุกอย่างต้องดีที่สุดเหมาะสมกับเด็ก เจ้าภาระตัวน้อยผลาญเขาไปหลายแสนดอลลาร์ นี่เขาขายแอปเปิลไปกี่ผลถึงได้เงินขนาดนี้
‘เขาไม่ได้งก แค่เป็นมหาเศรษฐีที่รู้จักใช้เงิน’
คนที่ต้องทำงานในฟาร์มม้า และยังต้องดูแลสวนแอปเปิลซึ่งมีคนงานนับพันทำให้เขาต้องเจียดเวลาอันน้อยนิดมาคอยดูแลไอ้อ้วนไปด้วย เพราะไม่ค่อยไว้ใจคนอื่น
เจ้าดิโน่จึงเป็นปัญหาอยู่ไม่น้อยในระยะหนึ่งเดือนที่ผ่านมา แต่เขาจะทำอย่างไรได้ ถึงจะไม่แน่ใจว่าใช่หลานหรือไม่ แต่เพื่อมนุษย์ธรรมอันน้อยนิดที่เขามี และอีกอย่างความบังเอิญไอ้อ้วนนี่ดันมีหน้าตาเข้าเค้าว่าจะเป็นหลานชายแท้ๆ ของเขาอย่างมาก เหมือนออกจากเบ้าเดียวกันเลย แต่ผิดตรงรูปร่าง เขาและน้องๆ ตอนเด็กตัวผอมแห้ง แต่หน้าตาหล่อๆ แบบดิโน่นี่แหละ
เขาจะเอามันไปไปโยนเป็นภาระให้ใครต่อได้นอกจากเลี้ยงเอาไว้เองแล้วรอจนกว่าจะเจอไอ้น้องชายตัวแสบ เมื่อนั้นจะจับตรวจดีเอ็นเอให้รู้เรื่อง
“เอาละ เจ้าอ้วนไม่ต้องมามองหน้าฉันแบบนี้ ยังไงซะกว่าจะเจอแดเนียลแด๊ดดี้ไร้ความรับผิดชอบของแก ฉันสัญญาว่าจะดูแลนายอย่างดี แม้ว่าฉันจะต้องอดออกไปแฮงก์เอาต์ทุกศุกร์ และอด...กับสาวๆ ก็เถอะ” อย่างหลังนับว่าโหดสำหรับเขา
ที่ต้องเลิกแฮงก์เอาต์และอดไปคลุกวงในกับสาวสวย เพราะสองสามวันแรกที่เขาพาเจ้าดิโน่กลับมาที่วอชิงตัน เขาเพิ่งรู้ว่าเจ้าสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าเด็กเลี้ยงยากกว่าม้าพันธุ์ดีตั้งเยอะ หากเขาไม่เลิกดื่มแอลกอฮอล์ทุกวันหลังเลิกงาน เจ้าอ้วนเด็กน้อยคนนี้อาจจะได้ชิมนมรสบรั่นดี หรือวิสกี้ เข้าไปแทน ถึงตอนนั้นไม่อยากจะคิดว่าถ้าลุงกับหลานต้องเมาไปพร้อมกัน
‘นรกแน่’
‘เพราะฉะนั้นลุงจึงต้องยอมเลิกเหล้าเพื่อหลาน’
‘แต่ขอย้ำว่าชั่วคราวเท่านั้นนะ จนกว่าแด๊ดดี้ตัวจริงของมันจะกลับมา’
กร๊อบ กร๊อบ
เสียงกัดแอปเปิลดังมาแว่วๆ เป็นเสียงที่แสดงถึงความสดกรอบแบบที่เจ้าพ่อแห่งวงการแอปเปิลเดาได้ทันทีว่าเป็นการกัดคำโตๆ ลงบนผลแอปเปิลกาล่าที่กัดคำเดียวไม่เคยพอ
กร็อบ กร๊อบ
เสียงกัดคำโตๆ ยังดังต่อเนื่อง ทำให้เดวิดส่งสัญญาณให้เจ้าแสบดิโน่ที่เวลานี้ถูกเดวิดยัดกลับเข้าไปในเป้อุ้มเด็กซึ่งทำจากผ้าเนื้อดีซึ่งเป็นชนิดเดียวกับที่ทำเครื่องสนามของทหาร เขาเช็กสายล็อกว่าแน่นหนาเรียบร้อยดี แล้วยกนิ้วชี้จรดริมฝีปากส่งสัญญาณให้ดิโน่หุบปากซะ
“ดิโน่อย่าร้องนะ เดี๋ยวฉันจะพานายไปไล่จับหนูที่มาแอบกินผลผลิตในสวนของเรา” เขาจะไม่แปลกใจหรอกว่ามีคนแอบมาขโมยผลผลิต เพราะวันนี้เป็นวันหยุดของทางสวน ไม่มีคนมาทำงาน ยกเว้นคนงานที่ประจำอยู่ที่คฤหาสน์ซึ่งอยู่อีกด้านหนึ่งของ Wonder Orchard แห่งนี้
เมื่อดิโน่เป็นใจไม่ส่งเสียงร้อง ไม่ชี้ไม้ ชี้มือ ทำเพียงตาโตใส่สิ่งที่เดินผ่านด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“เออ แบบนี้ค่อยน่ารัก น่าเลี้ยงหน่อย” เดวิดกระซิบเบาๆ ข้างหูเล็กๆ แล้วเดินลัดเลาะห่างมาไม่ไกลซึ่งมีแอปเปิลกาล่า ปลูกเรียงเป็นแนวยาว
“อร่อยจัง หวาน กรอบ ไม่เคยกินแอปเปิลอร่อยขนาดนี้มาก่อนเลย”
‘เดือนนารา’ กัดอีกคำอย่างเอร็ดอร่อยบวกกับความโหยหิวที่ไม่มีอาหารตกถึงท้องมาตั้งแต่เมื่อวานจึงทำให้กินหมดไปจวนหมดผลโดยไม่รู้ตัว เธอกินโดยไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกสายตาคู่คมมองอย่างประณามราวกับว่าเธอคือ อีฟ ผู้ผิดคำสัญญาต่อพระเจ้า ขโมยกัดกินแอปเปิลในสวนอีเดน แต่เขาก็จ้องเธออย่างทึ่งๆ ตาไม่กระพริบจนกระทั่ง ไอ้อ้วนฟาดฝ่ามือมาที่แก้มของเขาอย่างแรง
“ไอ้อ้วน ตบหน้าฉันทำไม”
เขาก้มลงไปดุเหลานเบาๆ แล้วมองตรงไปด้านหน้าเห็นหัวขโมยพร้อมหลักฐานคามือ
น้ำเสียงเข้มจัดของเดวิดดังขึ้น “ยัยหัวขโมย! ฉันจะจับเธอส่งตำรวจ”
เขาไม่ได้หวงแอปเปิลเพียงผลเดียวถ้าจะไปกินผลอื่น นั่นมันเป็นผลผลิตรุ่นแรกของโลก ใช้เวลาเพาะพันธุ์สิบครั้งกว่าจะได้ต้นกล้า และออกลูกมาแค่สิบผล แล้วเธอเป็นใคร มาจากไหน การบุกรุกเข้ามาแบบนี้จะให้เรียกว่าอะไรถ้าไม่ใช่ขโมย
ผลไม้สุดอร่อยที่เหลือไม่ถึงครึ่งผลหล่นจากมือเล็กขาวสะอาด หญิงสาวที่หันกลับมาเป็นลมล้มพับไปต่อหน้าเดวิด ทำให้เจ้าของ Wonder Orchard สวนแอปเปิลที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกาไม่คิดว่าตนเองจะได้เจอสโนวไวท์ขี้ขโมย ตัวเป็นๆ
“เฮ้! เธอจะมานอนตายตรงนี้ไม่ได้นะ เพราะตำรวจจะเข้าใจว่าแอปเปิลของฉันมีสารพิษตกค้าง ทั้งที่ Wonder Orchard เป็นสวนแอปเปิลออร์แกนิก”
‘เขาไม่กลัวยัยนี่ตาย กลัวถูกกล่าวหาว่าแอปเปิลมีพิษต่างหาก’
เดือนนาราค่อยๆ ปรือตาตื่นขึ้นมาช้าๆ หลังจากเป็นลมหมดสติไปหลายชั่วโมง ดวงตากลมโตกวาดมองรอบด้านแล้วขมวดคิ้วมุ่นด้วยความสงสัยปนระแวงว่าเธออยู่ที่ไหน เมื่อมองสำรวจจึงพบว่าภายในห้องที่เธออยู่มันเป็นห้องสี่เหลี่ยมขนาดไม่ใหญ่มากนัก แต่มีเฟอร์นิเจอร์ที่จำเป็นอยู่ครบ กลางเก่ากลางใหม่ลักษณะเหมือนเป็นบ้านพักคนงาน “บ้านของใครกัน แล้วใครพาเรามา” เดือนนาราพึมพำในลำคอ ตอนนี้เธอรู้สึกหิวน้ำมากเหลือเกิน