“เดี๋ยวฉันช่วยเพาะฝากไว้ในท้องเธอสักคน”
“ไอ้คนบ้า” เดือนนาราร้องออกมาอย่างตกใจแล้วปัดมือเขาออกจากปลายคาง ไม่คิดว่าตัวจริงของเดวิด แบรดลีย์จะหยาบเถื่อนขนาดนี้
“ฉันไม่รับเพาะพันธุ์อะไรทั้งนั้น กรุณาให้เกียรติฉันด้วย แล้วฉันขอยืนยันตรงนี้ว่าฉันไม่มีพรรคพวก ไม่มีผัวอยู่ข้างนอก ฉันตัวคนเดียวเป็นโสด แล้วมาที่นี่เพราะมีธุระ ไม่งั้นไม่เหยียบเข้ามาหรอก” เธอตะโกนใส่หน้าเขาอย่างโมโห
เดวิดหรี่ตาแคบๆ ลงมอง “ไม่มีพรรคพวก ไม่มีผัวก็ดี ถ้าอย่างนั้นคิดจะมาหาผัวที่นี่ใช่ไหม”
ที่จริงเขาไม่ชอบต่อล้อต่อเถียงกับเพศตรงข้ามนัก เวลาที่เจอสาวสวยเขาใช้การกระทำนำคำพูด ถ้าสวยมากก็ออกแรงมากหน่อย แต่สโนวไวท์ตรงหน้าน่าหม่ำกว่าแอปเปิลอีก ยอมรับว่าอยากชิมดูเหมือนกัน แต่ก็ยังสงสัยในพฤติกรรม และที่มาที่ไป
“ฉันไม่ได้เข้ามาเพราะอยากมาหาผัว หรืออ่อยคุณ ฉันตอบชัดเจนแล้วนะ ฉันต้องการคุยกับคุณ เพราะฉันอยากได้หลานชายของฉันคืน”
“หลานของเธอ แล้วฉันไปเอาหลานของเธอมาตอนไหน ฉันว่าถ้าเธอไม่ได้เข้ามาหาผัว เดินยั่วคนงายในไร่ และไม่ได้คิดจะมาเป็นสปาย เธอเมายาแล้วล่ะ”
เดือนนารากลอกตามองบนมีใครกวนประสาทได้มากกว่านี้อีกไหม “ฉันไม่ได้เมายาค่ะ หลานของฉัน เด็กไทย-อเมริกัน วัยแปดเดือน ที่ผู้หญิงไทยคนหนึ่งส่งมาให้คุณ ผู้หญิงคนนั้นคือพี่สาวของฉันและเด็กคนนั้นก็เป็นหลานของฉัน แล้วก่อนฉันสลบลงไป ฉันเห็นแกมากับคุณ”
เดวิดรู้สึกว่าเรื่องนี้น่าสนใจขึ้นมาทีเดียว เขานั่งลงใกล้ๆ กับเธอ ยอมรับว่าพอมีคนมาบอกว่าจะขอดิโน่คืน น่าแปลกที่เขากับรู้สึกหวงขึ้นมาอย่างประหลาด ทั้งที่ตอนแรกเมื่อตัวภาระถูกจับยัดใส่มือ ตอนนั้นเขาอยากโยนไปให้ใครแต่ก็ไม่มีใครอยากรับจนต้องรับไว้เอง
“ถ้างั้นเราต้องคุยกันยาวแล้ว” เดวิดก้มมองหน้าเธอใกล้ๆ จนจมูกโด่งนั้นแทบจะชนใบหน้าสวยสดใส เดือนนาราผงะพาใบหน้าถอยห่าง
“ทำอะไรของคุณ”
“ก็อ้างว่าเป็นญาติดิโน่ เลยต้องจ้องชัดๆ ว่ามีส่วนคล้ายดิโน่หลานของฉันหรือเปล่า”
“หลานฉันต่างหาก” เดือนนาราค้านเสียงแข็ง
เดวิดก้มลงมาจดจ้องริมฝีปากแดงระเรื่อน่าบดขยี้ เห็นดวงตาสีนิลสุกใสมีแววตระหนกก็ขบขันในใจ “จะทำอะไรอีก” เดือนนาราถามอย่างไม่พอใจ
“ริมฝีปากไม่เห็นเหมือนกับดิโน่เลย”
“จะบ้าเหรอคุณ” เดือนนาราผลักอกแกร่งที่กลิ่นกายของเขาสร้างความรู้สึกปั่นป่วนได้อย่างประหลาดให้ออกห่าง “ฉันเป็นน้า ไม่ใช่แม่ของแก จะให้เหมือนกันขนาดนั้นได้ยังไง”
“เหรอ เชื่อดีไหม”
เดือนนารารับไม่ไหวกับผู้ชายตัวใหญ่ท่าทางมึนจัด “ช่วยถอยห่างออกไปหน่อยค่ะ อึดอัด หายใจไม่ออก วันนี้ฉันเจอเรื่องร้ายมามากพอแล้วเพราะคุณนั่นแหละ”
“เธอทำให้คนอื่นเข้าใจผิดเองนี่นา บุกรุกเข้ามาแบบนั้น แถมยังขโมยกินแอปเปิลอีก ต่อให้คนโลกสวยที่ไหนก็ต้องคิดร้ายไว้ก่อน”
“คิดร้ายถึงขั้นว่าฉันเป็นมิจฉาชีพ เป็นโสเภณี เป็นสปายเนี่ยนะคะ ฉันว่าพวกคุณมองโลกในแง่ร้ายเกินไปมากกว่า”
เดวิดขยับกายเข้าใกล้แม่สาวเอเชียหน้าสวยเข้าไปอีกนิด เขาชักติดใจความปากกล้าของหล่อนแล้วสิ แม่คนนี้บ้าดีเดือดไม่เบา เขาชอบม้าที่พยศ ปราบยาก เพราะมันสนุก ยิ่งขี่มันได้ เขายิ่งภูมิใจ แต่ว่าผู้หญิงตรงหน้าถ้าปราบได้ เธอจะยอมให้เขาควบขี่ด้วยหรือเปล่า แต่คนอย่างเขามีหรือจะไม่คิดลองดู หึ....
เดือนนาราไม่ไว้ใจสายตาวิบวับนั่นเลย ร่างบอบบางรีบลุกไปนั่งที่โซฟาอีกตัว หากไม่ติดว่าต้องการรับหลานชายกลับไปด้วย เธอจะย้ายก้นหนีไปจากที่นี่ทันที ไม่ขออยู่ต่อสักวินาที
ให้ตายเถอะ ที่นี่มีแต่คนโรคจิต
อ้อ หัวเป็นยังไง หางก็เป็นแบบนั้นลูกน้องหื่นก็เพราะสวนแห่งนี้มีคนหื่นเป็นเจ้าของ
เห็นสีหน้าท่าทางไม่ไว้ใจของเดือนนาราชายหนุ่มผุดยิ้มเล็กน้อย
“เธอพูดว่าเธอเป็นน้องสาวของแม่ดิโน่หรือ ตอนที่ฉันได้ดิโน่มา ผู้หญิงคนนั้นไม่บอกอะไรเลย บอกแค่ว่าเป็นผลผลิตของแดเนียลน้องชายฉัน แล้วเธอก็ร้องไห้วิ่งหนีไป ฉันไม่อยากเชื่อแต่ก็ไม่ใจร้ายพอจะทิ้งเจ้าตัวภาระนั่นให้ใคร เลยรับเลี้ยงไว้ ตอนนี้ดูแข็งแรง แล้วก็เรียกลุงได้แล้ว”
“น้องแดน หรือเด็กชายแดนไทย หลานชายของฉัน แค่แปดเดือนจะเรียกลุงได้ไง เด็กคนไหนๆ เขาก็เรียกพ่อ เรียกแม่ก่อนทั้งนั้น” เดือนนาราถามเขาด้วยสีหน้าประหลาดใจ
เดวิดเลิกคิ้วสูง “เจ้าอ้วนมันอ้อแอ้ ร้องแอ้ๆ และออกเสียงเหมือนอัง อัง ฉันคิดว่าอังเคิลที่แปลว่าลุง” เพราะเขาสอนดิโน่ทุกวัน ยังไงก็ต้องพูดคำว่าลุงได้ก่อนพ่อกับแม่
เดือนนาราอ้าปากค้าง “นั่นเด็กทารก ไม่ใช่นกขุนทอง คุณคิดไปเอง เอาหลานฉันคืนมาเลย” อีตาคนนี้เป็นอะไรเวลาพูดถึงหลานเธอดวงตาคู่คมดุวาววับขึ้นมาทันที
“จู่ๆ จะมาขอคืนง่ายๆ อย่างนั้นเหรอ ฉันจะเชื่อเธอดีไหมว่าเธอเป็นน้าของเจ้าอ้วนนั่นจริงๆ ”
เดวิดยังไม่อธิบายต่อว่าเขากำลังรอให้แดเนียลกลับมาเพื่อตรวจดีเอ็นเอกับดิโน่ก่อน หากว่าเป็นลูกของแดเนียลจริง เขาก็จะส่งให้หมอนั่นเอาไปเลี้ยง หากไม่ใช่ เขาก็จะเลี้ยงต่อไป
“จริงสิ ถ้าไม่ใช่ฉันจะรู้ได้ยังไงว่ามีผู้หญิงเอาเด็กมาให้คุณ” เดือนนารายืนยัน
“ฉันไม่คืนให้เธอหรอก เธอไม่ใช่แม่ของเด็ก แค่คำพูดของเธอไม่กี่คำไม่ทำให้ฉันเชื่อได้หรอก อีกอย่างน้องชายฉันยังไม่กลับมา ตอนนี้ดิโน่อยู่ในความดูแลของฉันแล้ว ใครหน้าไหนก็เอาไปไม่ได้ ยกเว้นแม่ของเด็ก”
เดือนนารานิ่งงันไปเพราะไม่เข้าใจว่าทำไม ‘อรนารา’ พี่สาวของเธอถึงได้ทอดทิ้งลูกชายให้คนอื่นง่ายๆ แบบนี้ ตอนนั้นที่อรนาราคลอดลูกออกมา เธอสมัครเป็นผู้เข้าร่วมโคงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม มีหน้าที่ดูแลลูกๆ ของโฮสแฟมิลี่ที่อาศัยอยู่ด้วย หรือเรียกสั้นๆ ว่าออแพร์ เธออยู่ที่นิวยอร์กก่อนจะย้ายมาที่รัฐโอเรกอนเธอมาเยี่ยมพี่สาวที่ยังนอนพักฟื้นจากการคลอดลูก พี่สาวของเธอบอกว่าพ่อของลูกคือแดเนียล แบรดลีย์ เธอรู้แค่นั้นและไม่ได้ซักถามอะไรอีก เพราะพี่สาวไม่ยอมบอกอะไร เท่าที่รู้พี่สาวเธอมีคนมาชอบมากมายแต่อรนาราหลงรัก คลั่งไคล้ แล้วพร่ำบอกเธอเสมอว่า
‘คนที่ฉันจะมอบพรหมจรรย์ให้ มีแค่เขา’
‘แดเนียล แบรดลีย์’
“พี่อรบอกว่าพ่อของลูกชื่อแดเนียล แบรดลีย์ ฉันก็ทราบเรื่องทั้งหมดแค่นั้น พอๆ กับคุณ พี่อรคงมีปัญหากับ เอ่อ...” เธอไม่กล้าพูดว่าน้องชายของผู้ชายตรงหน้าตรงๆ เพราะเขาดูเหมือนคนอารมณ์ขึ้นง่าย ดีไม่ดีถูกฆ่าหมกใต้ต้นแอปเปิล กลายเป็นปุ๋ยโดยไม่มีใครรู้ใครเห็นก็เป็นได้