ฉันนั่งดื่มข้างๆ เขามาสักพักใหญ่ๆ แต่ฉันไม่มีท่าทางที่จะเมาเลย เพราะฉันนั่งจิบแก้มเดิมมายังไม่ได้เทแก้วใหม่เลย ฉันไม่รู้ว่าอะไรที่มันติดอยู่ในใจฉัน ฉันไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้เลย ต่างจากคนข้างๆ ฉันที่นั่งดื่มจนแก้วจะท่วมร้านอยู่ล่ะ แต่จะไม่กินยังไงไหว ก็มีคนเดินมาชนแก้วที่โต๊ะไม่พักเลย ถ้าเป็นผู้หญิงคือ เป็นคนผู้หญิงที่บ้านหัวกะไดไม่แห้งเลยมั้ง
"มึงเป็นอะไรแอรีส แดกน้อยชิบหาย ไม่ต้องห่วงหรอก ไอ้ภีมมันเลี้ยง" ไอ้กัปตันพูดออกมาหลังจากที่มันเห็นฉันดูกินน้อยแปลกๆ แต่ปกติฉันก็ไม่ได้กินเยอะอยู่แล้วมั้ย มันพูดเหมือนฉันกินเก่งขนาดนั้นล่ะ
"ไม่ได้เป็นอะไร แค่กลัวเมาอ่ะ ขับรถมาเอง"
"จิ๊! เดี๋ยวกูไปส่งก็ได้ โอ๊ยยย!" เพี๊ย! เสียงตบหัวดังขึ้น
"พูดไปเรื่อยไอ้เหี้ย ดูสภาพมึงตอนนี้ดิ อย่าว่าแต่จะแบกให้แอรีสกลับเลย มึงแบกตัวเองกลับไหวหรือป่าว"
"แล้วจะทำไมๆๆๆ ห้ะ! มึงไปส่งกูป่ะล่ะๆๆ"
"แล้วถ้าไม่ใช่กู จะเป็นใคร" ฉันนั่งอมยิ้มมองสองคนนี้ทะเลาะกัน ตอนเจอกันครั้งแรกสองคนนี้ไม่ชอบหน้ากันสุดๆ เลย แต่พอได้เป็นเพื่อนกันกลับสนิทกันสุดๆ เลย ถึงแม้จะตีกันตลอดก็เหอะ
"เธอดื่มไปเถอะ เดี๋ยวฉันไปส่งเอง" แต่จู่ๆ ภีมก็ก้มลงมากระซิบข้างหูฉัน จนฉันจนสะดุ้งตกใจ เลยทำให้หน้าของเราสองคนใกล้กันมากโดยบังเอิญ กลิ่นน้ำหอมและเสียงที่คุ้นเคย ใบหน้าที่เคยมองทุกวัน เขาถึงได้บอกว่า อย่าได้เป็นเพื่อนกับแฟนเก่า เพราะมันอาจจะแวบนึงที่เผลอหวั่นไหว
"จะจ้องอีกนานมั้ย" เขาเอียงคอถามฉันด้วยท่าทีที่เจ้าเล่ห์ จะว่าพูดก็พูดเถอะ แต่เขานี่เจ้าเล่ห์ขึ้นเยอะจริงๆเลย จนฉันแปลกใจ ไอ้เด็กดื้อตาใสของคนนั้นของฉันหายไปไหนซะล่ะ
"จิ๊! กวนประสาท"
"กวนอะไร ที่ฉันช่วยเธอเมื่อกี้ ไม่เห็นขอบคุณเลยสักคำ ทำคุณบูชาโทษจริงๆเลย" ภีมผละหน้าออก ก่อนที่จะหันไปเทเหล้าลงแก้วอีกครั้ง ฉันจะกล้าเอาตัวเองไปฝากไว้กับเขาหรือไง กินไม่หยุดเลย
"ดื่มหนักขนาดนี้ ยังจะมีหน้าไปส่งคนอื่นอีก"
"ทำไมอ่ะ กลัวหรอ" เขาเลิกคิ้วถามฉัน
"กลัวสิย้ะ"
"ใครจะปล่อยให้เป็นอะไร กลัวอะไรไปเรื่อย" เขาพูดพึมพำออกมาเบาๆ แต่ฉันได้ยินนะ
"พูดอะไร"
"อะไร ใครพูดอะไร ดื่มๆ เข้าไปเหอะ มาเที่ยวนะครับ ไม่ใช่มานั่งปฏิบัติธรรม กินๆๆ อ่ะๆๆ อ้าปากๆๆๆ" เขาหันมาจิ๊ปากอย่างฉันด้วยท่าทีที่หงุดหงิด ก่อนจะยกแก้วขึ้นมายัดใส่ปากฉัน!
"ไอ้ภีม! ทำอะไร"
"เออเอาเหอะ! กินๆๆๆ" ฉันไม่รู้ว่า ฉันผ่านช่วงเวลาเหล่านั้นมาได้ยังไง รู้แค่ว่า มันมีความสุขมากที่ได้ใช่เวลาอยู่กับเขา แต่ก็คงเป็นเพราะเขายื่นแก้วให้ฉันดื่มไม่หยุดเลยอะสิ ทำให้ฉันจำอะไรไม่ได้เลยว่า มันเกิดอะไรขึ้นบ้าง จำไม่ได้แม้กระทั่ง ฉันกลับมาที่ห้องได้ยังไงเนี้ย!
"อื้อออ! ปวดหัวจังวะ" แต่ว่า ห้องฉันจริงๆ หรอเนี้ย ทำไมสีมันดูทึบๆ แปลกๆ แต่ว่านี่มันกลางดึก ฉันค่อยๆ ลุกขึ้นสายตาที่พร่ามัวแต่ก็เริ่มชัดเจน แต่ก็ยังไม่ทันได้สังเกตอะไรเท่าไร เพราะปวดหัวมากเลย
"เธอตื่นแล้วหรอ" หื้ม? ฉันพยายามหรี่ตามองผู้ชายตรงหน้า ภีมหรอ อืมคงใช่แหละ ห้ะ! ภีมหรอ แล้วเขามาอยู่ห้องฉันได้ยังไง
"เป็นอะไร ทำหน้าตาตื่น ตาโตเป็นไข่ห่านเลย"
"นาย ทำ อะไร ฉัน! และนายมาทำอะไรที่ห้องฉัน" ฉันไม่ได้อยู่ในชุดเดิมแล้ว ฉันอยู่ในชุดนอนแถมเหมือนรู้สึกว่า สบายตัว อาบน้ำหรอ เขาอาบน้ำให้ฉัน เปลี่ยนเสื้อผ้าให้ฉัน
"ห้องเธอหรอ"
"ก็ใช่! หน่ะ...สิ" ฉันกวาดสายตาไปรอบๆ ห้องสีขาวตัดดำ แต่โทนสีก็ไม่ใช่แล้ว นี่ไม่ใช่ห้องฉัน ฉันไม่ได้ใส่ชุดเดิม ฉันได้อาบน้ำ ภีมอยู่ที่ห้อง หรือว่าฉันกับเขา....
"เลิกทำหน้าเพ้อเจ้อ คิดเองเออเองเถอะ นี่ห้องแพรวเขา คิดอะไรอยู่ฮะ?" เขาพูดแทรกขึ้น หลังจากที่เห็นฉันเงียบไปนาน จิ๊! แล้วก็ไม่บอกตั้งแต่แรก
"แล้วนายจะให้ฉันมานอนห้องคนอื่นเพื่อ?"
"ก็ถ้าเธอพูดจารู้เรื่อง พูดมากเหมือนตอนนี้ ฉันก็ไม่ต้องมารบกวนคนอื่นหรอก" ฉันถอนหายใจออกมาอย่างแรง ทำเหมือนไม่รู้จักบ้านฉันอย่างนั้นแหละ
"ขอโทษคุณแพรวด้วยจริงๆนะคะ ที่มารบกวน" ฉันได้แต่ก้มขอโทษแล้วขอโทษ ต่างจากอีต้าบ้าที่ยืนพิงขอบประตูยิ้มเยาะเย้ยฉันอยู่นั้นแหละ มานอนห้องเขาแถมยังเป็นเขาที่เอาชุดไปซักรีดมาให้ฉันอีก แค่นี้ก็รู้สึกผิดจะตายอยู่แล้วเนี้ย
"ไม่เป็นไรค่ะคุณแอรีส แพรวอยู่คนเดียวอยู่แล้วหน่ะค่ะ ไม่ได้ลำบากอะไรเลยค่ะ" ใครจะกล้าพูดว่า ลำบาก ต่อหน้าท่านประธานใหญ่ล่ะ ต้องยกความผิดให้อีตาบ้านั้นแหละ
"ผมขอบคุณอีกครั้งนะแพรว เดี๋ยวผมให้โบนัสคุณแบบพิเศษเลย" เขาหันไปพูดกับเลขาคนสวยก่อนที่จะเดินออกนอกประตู ก่อนจะทำให้ฉันต้องโค้งขอโทษอีกครั้ง แล้วก็รีบเดินตามเขาออกไปทันที เอาแต่ใจจริงๆ นึกอยากจะทำอะไรก็ทำ
"นี่! เดี๋ยว ภีม ภีม!!!" หมับ! ฉันรีบวิ่งไปคว้าข้อมือของเขาเอาไว้ รีบเดินไปไหนวะ
"อะไร ฉันมีงานต้องทำต่อนะ"
"งานอะไร วันนี้มันวันเสาร์"
"ประธานเขาก็มีงานทุกวันนั้นแหละ ไปเร็วจะไปส่ง" เขารัวๆ ก่อนที่จะเดินออกไป ฉันอยากจะกรี๊ดออกจริงๆเลย
พรึ่บ! "นายจงใจแกล้งฉันใช่มั้ย นายรู้บ้านฉันอยู่แล้ว ทำไมไม่ไปส่งตั้งแต่เมื่อคืน จะพาฉันมานอนที่คอนโดเลขานายทำไมไม่ทราบ หรือว่า นายกับคุณแพรว เลขานาย......" ฉันเดินไปขวางประตูรถของเขาพร้อมกับเอ่ยถามออกไปจนเขาถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยใจ เขาเอามือท้าวสะเอวก่อนที่จะยื่นหน้ามาใกล้ๆ
"ถามๆเหอะ ถ้าฉันกับแแพรวจะมีบางอย่างขึ้นมาจริงๆ เธอเกี่ยวอะไรด้วย อีกอย่างที่ฉันไม่ได้ไปส่งเธอที่บ้าน เพราะว่าตอนนี้เราไม่ได้เป็นแฟนกันแล้ว จะให้ฉันเดินเข้าไปให้แม่เธอเข้าใจผิดเปล่าๆ หรือไง เลิกโวยวายสักที!" ฉันยืนหน้าชาเมื่อได้ยินเขาพูดออกมาแบบนั้น เพราะว่า ท่าทีและคำพูดที่เปลี่ยนไปของเขา มันเลยทำให้ฉันไม่ชินเลยแฮะ ฉันค่อยๆ ผละมือออกก่อนจะเดินออกมาอย่างตรงนั้น
"แล้วเธอจะไปไหนอีก"
"เดี๋ยวฉันกลับเอง"
"เดี๋ยวไปส่ง"
"ฉันกลับเองได้ นาย...ไปทำงานเถอะ" ฉันที่เคยมั่นใจว่า เราจะกลับมาเป็นเพื่อนกันได้ พอมาถึงตอนนี้ฉันเริ่มไม่มั่นใจแล้วล่ะ เพราะฉันเสียใจทุกครั้งที่เขาแสดงท่าทางออกมาแบบนี้ แต่อีกใจนึงก็คิดว่า คนเป็นเพื่อน มันก็ได้แค่นี้แหละ นี่...ฉันกำลังคาดหวังอะไรอยู่กันแน่