ผมนั่งถอนหายใจเป็นร้อยครั้งหลังจากวันที่ผมกับแอรีสเถียงกันวันนั้น เธอไม่ได้มาให้ผมเจออีกเลย จะบอกยังไงดีความรู้สึกตอนนั้นมันก็แค่คิดว่า เธอจะอยากรู้เรื่องราวในชีวิตผมไปทำไม การทำแบบนั้นก็ไม่ต่างจากการให้ความหวังว่า เธอกำลังเป็นห่วงผมอยู่ แบบนั้นมันยิ่งทำให้ผมมูฟออนเป็นวงกลมหรือป่าว
"เห้ออออ!"
แกร๊ด!
"เป็นอะไรคะบอส หน้าไม่รับแขกแต่เช้าเลย" ผมเหลือบตาทางแพรวเลขาของผม และก็ยังเป็นผู้หญิงที่แอรีสคิดว่า เป็นคนรักผมอีก คุณแพรวอยู่กับผมมาตั้งแต่บริษัทนี้เริ่มต้นใหม่ๆ นอกจากเธอจะเป็นเลขาแล้ว เธอก็ยังเหมือนเพื่อนของผมอีกคนด้วย
"เห้อออ! จะเรื่องอะไรล่ะ" เธอเดินมาวางเอกสารลงตรงหน้าผมก่อนจะถอยหลังไปทิ้งตัวลงบนโซฟา
"ขอพูดในฐานะเพื่อนได้มั้ยคะ" ผมพยักหน้ารับเบาๆ
"แพรวไม่เข้าใจเลยว่า คุณจะปิดบังความรู้สึกตัวเองไปทำไม เธออยู่ตรงหน้าแล้วนะ ไม่ใช่แบบนี้หรอที่คุณต้องการ" แพรวรู้เรื่องระหว่างผมกับแอรีส มาสักพักแล้วล่ะ ก็คงเป็นตั้งแต่วันที่ผมได้ยินไอ้กัปตันบอกว่า แอรีสกำลังจะกลับมาเมืองไทย
"แล้วคุณจะให้ผมบอกว่าอะไร ฉันยังรักเธอนะ กลับมาได้มั้ย แบบนี้อะหรอ"
"ก็แล้วถ้าเป็นแบบนั้น แล้วมันจะทำไมอ่ะ การเสียหน้ามันก็ดีกว่าการเสียเขาไปจากชีวิตป่ะ" ผมชะงักกับคำพูดของเธอ ก่อนที่จะเบนหน้าหนีไปทางอื่น มันก็จริงอย่างที่เธอพูดนั้นแหละ แต่ผมก็กลับนึกถึงคำพูดของไอ้กัปตันที่บอกว่า ถ้าเราสองคนไปได้ดี มันก็ดีแต่ถ้ามันไม่ใช่แบบนั้น แม้แต่ความเป็นเพื่อนก็อาจจะไม่เหลืออยู่เลยก็ได้
"มันไม่ใช่ว่ากลับไปแล้วจะสมหวังทุกคู่มั้ย แล้วอีกอย่างใช่ว่า แอรีสจะอยากกลับมาคบผมอย่างนั้นแหละ"
"ความรักมันก็แบบนี้ ถ้าไม่ลองเสี่ยงจะไปรู้ได้ยังไง อีกอย่างมันก็จริงที่จะบอกว่า ทุกคู่ไม่ได้สมหวัง แต่ทุกคู่ที่สมหวังก็ต้องผ่านการลองเสี่ยงมาก่อนทั้งนั้นแหละ"
"เข้าข้างกันจังเลยนะ" ผมบ่นพึมพำเบาๆ
"เพราะฉันรู้ว่า คุณหน่ะรักเขา หลงใหลเขาขนาดไหน และฉันก็ไม่เข้าใจอีกอย่าง ทำไมคุณต้องโกหกด้วยว่า นั้นคือคอนโดฉัน แทนที่จะได้คะแนนที่ช่วยเธอไว้ กลับทะเลาะกันซะได้ ผู้ชายนี่คิดอะไรแปลกจริงๆ" วันนั้นผมก็แค่ไม่อยากให้เธอรู้สึกไม่ดีที่มานอนคอนโดกับผม แล้วเธอก้เมาอยู่ด้วย ผมก็ขอให้แพรวมาช่วยแกล้งทำเป็นเจ้าของคอนโดให้หน่อย แต่ก็ไม่ได้คิดว่า เรื่องมันจะเป็นแบบนี้มั้ยล่ะ
"ผมตัดสินใจแล้ว ผมจะมองเขาเป็นแค่เพื่อนเท่านั้น" แพรวเลิกคิ้วขึ้นมองผมอย่างไม่ไว้ใจ
"ช่างเถอะ เดี๋ยวคุณก็รู้เองนั้นแหละ แล้วศุกร์นี้ยังไง จะควงใครมางาน คุณแอรีสหรอ" เธอกระตุกยิ้มมุมปากอย่างแซวๆ ผมพึ่งพูดไปเมื่อกี้ว่า ผมจะมองแอรีสแค่เพื่อน!
"อะไร ทำไมต้องทำหน้าแบบนั้นด้วย งานแบบนี้ควงเพื่อนไปก็ได้ป่ะ ทำไมต้องคิดลึกด้วย"
"บางทีผมก็สงสัยนะว่า คุณเป็นเลขาที่คอยดูแลผมหรือเป็นกล้องวงจรปิด จับผิดอยู่นั้นแหละ"
"ไม่เอาหรอก งานแบบนั้นก็ต้องควงคนที่รู้สึกดีไปหรือป่าว จะควงเพื่อนไปทำไมล่ะ" ผมตอบออกไปด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ เธอหยักไหล่ก่อนจะเปิดประตูเดินออกไป เป็นแค่เพื่อนหรอ มันก็น่าจะดีกว่าที่เป็นอยู่นั้นแหละ!
.
.
.
"เออไอ้แอรีสแกจะกกตัวอยู่สนามแข่งรถฉันอีกนานมั้ย ไม่ไปทำงานทำการหรือไงวะ" ฉันนั่งมองออกไปนอกหน้ากระจก ภาพที่ทุกคนกำลังดูสนุกกับการแข่งขันรถ โดยมีเจ้าของสนามเป็นไอ้กัปตัน
"ไม่มีงานให้ทำ"
"ไม่มีก็หาจ้าาา" ฉันถอนหายใจอย่างแรง ถ้ามันหาง่ายแบบนั้นก็ดีอะสิ ก็เพราะหาไม่ได้ไงเลยไม่มี
"จะว่าไปนะ กูถามจริงๆ เหอะ ตอนนี้แกกับไอ้ภีมคือยังไงวะ"
"ก็ไม่มีอะไร"
"เรอะ ดูท่าทางพวกแกกุ๊กกิ๊กๆ กันอยู่เหมือนกันนะ ทำไมวะ ยังหวั่นไหว?" ฉันไม่เข้าใจเลยว่า พวกมันจะมาเค้นถามอะไรฉันนักหนา ยังหวั่นไหวมั้ยอะหรอ ไม่รู้สิ คงเป็นความรู้สึกผูกพันมากกว่าล่ะมั้ง
"เฉยๆ"
"หัดยอมรับความรู้สึกตัวเองกันมั้งเหอะ ตอนกูถามไอ้ภีม แม่งก็พูดแบบนี้" ภีมก็พูดแบบนี้งั้นหรอ มันทำให้ฉันคิดถึงตอนที่เขาบอกว่า
' ความรู้สึกตอนนั้นก็ให้มันอยู่ตอนนั้นเถอะ ' มันก็คงแบบนั้นล่ะมั้ง ฉันเป็นคนทิ้งเขาไปนะ เขาคง...ไม่อยากกลับไปความรู้สึกเดิมล่ะมั้ง
"ก็แหงอะสิ ฉันเป็นคนทิ้งเขาไปนะ"
"หึ! ถ้าตอนนั้นพวกมึงสองคนเข้าใจกันเก่งแบบนี้นะ วันนั้นพวกมึงไม่เลิกกันหรอก" ฉันหันไปมองตาขวางใส่ไอ้กัปตันทันที ช๊อตฟิลตลอดเลย จะย้ำทำไมก็ไม่รู้!
"ก็มันจริงอ่ะ หรือว่าไม่จริง?"
"เออ! จิ๊ แกนี่สมควรไปอยู่ไอ้วอร์จริงๆ ย้ำเก่ง ตอกย้ำก็เก่ง อยู่ด้วยกันมากไปป่ะเนี้ย"
"พวกฉันสองคนพูดความจริง หัดยอมความรู้สึกตัวเองจริงๆ หน่อยสิวะ มึงไม่คิดว่า การเสียกันไปอีกครั้งมันเป็นเรื่องน่ากลัวหรอ แกคิดว่า คนเราจะวนกลับมาเจอกันเพื่อให้จากกันอีกรอบหรือไงวะ"
"ไหนแกบอกว่า ไม่อยากให้พวกฉันกลับไปคบกันไง นี่เขาเรียกว่า กำลังสนับสนุนนะ"
"ก็แค่ไม่อยากเพื่อนโง่อ่ะ"
"ไอ้กัปตัน!"
"เออๆ เอาเหอะ กูไม่บังคับล่ะ ถ้าวันนึงมันเปิดตัวแฟนขึ้นมา ไม่ปลอบนะเว้ย" แฟนหรอ คุณแพรวอะหรอ
"ภีมมีแฟนแล้วหรอ" ฉันตัดสินใจถามออกไป เพราะฉันพยายามถามภีมหลายรอบแล้ว เขาไม่บอก แล้วที่ทะเลาะกันล่าสุดก็เพราะเรื่องนี้แหละ ทีฉันยังตอบเลย จิ๊! ไม่น่าเผลอตอบเลยแฮะ
"ต่อให้ฉันไม่ได้รู้ทุกเรื่องในชีวิตมัน แต่ดูจากเป้าหน้ามันก็พอจะรู้ป่ะว่า คนเข้าหาอย่างเยอะ ระวังสักวันจะมีคนง้าบไปซะก่อน"
แกร๊ด!
"ไอ้กัปตัน!"
" *_* "
"เอ้าไอ้ภีม มึงมาได้ไงเนี้ย แล้วมึงจะตะโกนทำเพื่อ?" แต่ขณะที่ฉันกำลังนั่งคุยกับกัปตันอยู่ จู่ๆ ก็มีคนเปิดประตูเข้ามาโดยไม่ให้สุ่มให้เสียง แล้วเขาก็ช่างมาได้ถูกจังหวะจริงๆ จังหวะที่ฉันกำลังคุยเรื่องเขาเนี้ยนะ!
"ป่าว แค่จะถามว่า..." เขาพูดพร้อมกับเหลือบสายตามาทางฉัน จนฉันต้องเบนหน้าหนี
"ว่า..... ว่าอะไรครับ"
"จิ๊! มี PR ว่างสักคนมั้ย จะชวนไปงานอ่ะ" ที่แท้ก็มาหาผู้หญิงนี่เอง แล้วทำไมฉันต้องโกรธด้วยเนี้ย!
"อ้อออออออ PR อะหรอ" ต่อให้ฉันไม่ได้หันไปมองก็พอจะเดาได้จากน้ำเสียงว่า ไอ้กัปตัน ไอ้เพื่อนชั่วนี่มันกำลังเยาะเย้ยฉันอยู่ แต่ถ้าฉันโมโหแล้วลุกออกไปตอนนี้ เขาก็จะเข้าใจว่า ฉัน! ยังแคร์เขาอยู่!
"อืม"
"งืมมมมมมมม ไม่มีใครว่างอ่ะวันนี้ เอาไอ้แอรีสไปแทนก่อนล่ะกัน"