ความรู้สึกตอนนั้น (5)

1159 คำ
หลายอาทิตย์ต่อมา ฉันนั่งๆ นอนๆ ที่บ้านมาสักพักนึงแล้ว ไม่ได้ไปไหนเลย แล้วก็ไม่รู้จะไปไหนด้วย อีกอย่างฉันหน่ะอยากทำงานจะตายอยู่แล้วแต่พอสมัครไปก็ไม่มีใครเรียกฉันไปสัมภาษณ์สักคน ฉันพึ่งเข้าใจวันนี้แหละว่า งานมันหายากจริงๆเลย ตอนอยู่ที่อเมริกาไม่เห็นจะหายากขนาดนี้เลย . ตื้ดดดดด ตื้ดดดดด! "ฮาโล มีราย" (เสียงมึง พึ่งตื่นหรือไง) "อื้อออ มีไรอ่ะ" ฉันตอบออกไปด้วยงัวเงีย ชีวิตของการอยู่เฉยๆ มันน่าเบื่อจริงๆ เลย (คืนนี้มาเที่ยวกันป่ะ!!!) แต่พอฉันได้ยินแบบนั้น ชีวิตที่แสนน่าเบื่อของฉัน ก็กลับดูมีสีสันขึ้นมาทันทีเลย ไม่มีใครรู้ใจฉันเท่าไอ้กัปตันอีกต่อไปล่ะ เพื่อนรัก เพื่อนเลิฟ เพื่อนตลอดกาล "เลี้ยงป่ะล่ะ" ฉันแกล้งพูดหยอกล้อออกไป (ไม่ต้องห่วงหรอก มื้อนี้มีคนเลี้ยงแน่นอน อย่าลืมมานะ ตอน 1 ทุ่มที่ร้านเดิม) ไอ้กัปตันว่าเสร็จก็กดวางสายเลยทันที มีคนเลี้ยงหรอ หรือว่าวันนี้มันวันเกิดใครกันนะ ช่างเถอะ มีคนเลี้ยงก็พอแล้ว ฉันควรไปหาเสื้อผ้าดีกว่า แต่จะว่าไปแล้วคืนนี้ภีมจะมาด้วยหรือป่าวนะ เพราะตั้งแต่วันนั้นฉันกับเขาก็ไม่ได้คุยกันเลย ถึงฉันจะคิดว่า ที่ผ่านมาเขามีชีวิตที่ดีเลยแต่กว่าจะเป็นแบบนี้ได้ เขาก็คงเจ็บปวดมากนั้นแหละนะ ไม่ใช่แค่เขาหรอกที่เป็นแบบนั้น ฉัน...ก็ไม่ต่างกันหรอก มันก็ไม่ได้ง่ายเหมือนกัน . @ผับ J ทันทีที่ฉันเดินเข้ามาในผับคือ ความวุ่นวายมาก ขนาดยังไม่ดึกมากนะเนี้ย ก็ไม่คิดว่าคนจะเยอะขนาดนี้ แล้วไอ้กัปตันก็จองโต๊ะไว้ซะไกลเลย แล้วฉันต้องเดินฝ่าผู้คนมากมายเข้าไปข้างในด้วยชุดเดรสกับรองเท้าส้นสูงแบบนี้เนี้ยนะ ลำบากชะมัด! พรึ่บ! "โอ๊ยยย!" "นี่! เดินระวังหน่อยสิ" ฉันโดนเดินชนไหล่จนเซไปโดนผู้หญิงที่กำลังเต้นอยู่อย่างแรง ฉันก็เลยรีบพยักหน้าขอโทษทันที ไม่งั้นมีหวังโดนตบหน้าเละตั้งแต่ยังไม่ได้เที่ยวแน่ "จิ๊! มันจะจองโต๊ะใกล้ทางเข้าหน่อยไม่ได้หรือไงวะ" ฉันพึมพำออกมาอย่างหงุดหงิด "ขอโทษนะคะ ขอทางหน่อยนะคะ ขอโทษค่ะๆๆๆ" ฉันพยายามแหวกว่ายไปทีละนิด เดินแบบนี้ 3 ทุ่มถึงโต๊ะหรือป่าวเหอะ แต่จะให้ทำไงได้ล่ะ เดี๋ยวก็ได้โดนแบบนี้อีกพอดี "เดี๋ยวสิ คนสวย จะไปไหน มากินโต๊ะพี่ก่อนสิ" แต่ยังไม่ทันไร ฉันก็โดนรั้งข้อมือเอาไว้ ผู้ชายที่ดูเหมือนจะหน้าตาดีแต่ดูหื่นกามชะมัด ประมาณ 3-4 คนกำลังมองมาที่ฉัน ฉันพยายามบิดข้อมือแต่เขาก็ยังจับให้แน่นขึ้นไปอีก "ขอโทษด้วยค่ะ พอดีนัดเพื่อนไว้แล้ว" "ไม่เห็นเป็นอะไรเลย คุยด้วยกันก่อนสิ ยังไม่ดึกเลย" ฉันถอนหายใจก่อนจะพยายามบิดข้อมือออก แต่มันก็เป็นผลเลย เสียงดนตรีก็ดัง คนก็เยอะ วุ่นวายไปหมดเลย "นี่ปล่อยสักทีจะได้มั้ย" หมับ! "มีอะไรกับแฟนผมหรือป่าวครับ" ฉันไปมองตามเสียง ภีม... "ไม่มีอะไร แค่เห็นเธอมาคนเดียว ก็เลยชวนคุยเฉยๆ" ผู้ชายคนนั้นรีบผละมือออกจากข้อมือของฉันทันที แล้วก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ภีมก็สอดมือเข้ามาประสานกับมือฉัน ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเความกลัวหรือความเคยชิน ฉันก็กลับ...ประสานมือเขากลับทันที "อ้อ พอดีเธอแค่งอนผมเฉยๆ เลย เดินมาคนเดียว ขอโทษนะครับ ที่ รบกวน" พอพูดจบภีมก็จูงมือฉันออกมาเลย ไม่ว่าจะนานแค่ไหน ฉันก็ยังรู้สึกว่า การเดินตามหลังของผู้ชายคนนี้ ทำให้แันปลอดภัยตลอดเลยแฮะ "โห้ววววว!!! นัด 1 ทุ่ม นี่มันกี่โมงแล้วเนี้ย ไอ้แอรีส" แค่แปปเดียวภีมก็สามารถพาฉันมาถึงโต๊ะได้เลย โอ๊ยยย! เกือบไปแล้วมั้ยล่ะ "เกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยอ่ะ คนก็เยอะ วุ่นวายชะมัด" "ไอ้อุบัติเหตุที่ว่าเนี้ย ใช่สาเหตุที่ทำให้มึงสองคนเดินจับมือกันมาป่ะ" ฉันมัวแต่หันไปตอบไอ้กัปตันโดยที่ลืมมือที่จับอยู่กับภีมไปเลย จนไอ้วอร์พูดโดยที่สายตาจดจ้องมาที่มือของเราสองคนอย่างสงสัย จนฉันต้องรีบผละมืออกทันที "จิ๊! เออ ช่างเถอะ" ฉันทำท่าจะไปนั่งข้างไอ้กัปตัน แต่กลับโดนไอ้วอร์พูดดักไว้ซะก่อน "หยุดๆ หยุดเลย ที่มึงคือฝั่งนู้นครับ ไปนั่งข้างไอ้ภีมนู้น มาช้าและยังจะมาแย่งที่คนอื่นอีก ยัยนี้ไม่ไหวเลย" ฉันเหลือบสายตาไปมองภีมที่กำลังนั่งเทเหล้าใส่แก้วตัวเอง อย่างไม่สนใจใยเยื่อคนรอบข้างเลย "ทำไม หรือมึงเห็นไอ้ภีมเป็นแฟนเก่า ไม่ใช่เพื่อนเลยไม่กล้านั่ง" "จิ๊! ไอ้วอร์ จะพูดทำเชี้ยไร" "เพื่อนย้ะ" พรึ่บ! ฉันทิ้งตัวลงนั่งข้างภีมอย่างแรง ไอ้วอร์มันชอบพูดแบบนี้ตลอดเลย เพราะว่า ตอนที่เราสองคนจะตัดสินใจคบกัน มันไม่เห็นด้วยแบบสุดๆ เพราะด้วยเหตุผลที่ว่า ถ้าเกิดเลิกกันแล้วความเป็นเพื่อนก็จะหายไป แต่ฉันก็ยังยืนยันว่า ต่อให้เลิกกัน เราก็ยังสามารถเป็นเพื่อนกันได้ "กูถามจริงๆ พวกมึงสองคนไม่ได้กลับมาคบกันจริงๆ ใช่มั้ยวะ" "ถามทำไม" หลังจากที่เงียบไปนาน ภีมก็ตอบออกไปด้วยเสียงเรียบๆ ไม่รู้ว่า เขาจะเป็นคนที่ดื่มเหล้าเก่งขนาดนี้ พอมานั่งก็กระดกเอาๆ และดูไม่มีท่าทางจะเมาเลย "ก็แค่สงสัย เห็นพวกมึงเดินจับมือกันมาแบบนั้น ไหนจะวันไปรับที่สนามบิน มึงก็เอาแอรีสไปกกไว้บริษัททั้งวันอีก มึงยังรู้สึกเหมือนเดิมใช่มั้ย" ฉันเหลือบสายตาหันไปมองภีมที่ก็เหลือบสายตามาทางฉันเหมือนกัน แต่สายตาของเขากลับดูว่างเปล่า จนฉันเดาไม่ออกว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ "ความรู้สึกตอนนั้นก็ให้มันอยู่ตอนนั้นเถอะ" เขาพูดพร้อมกับกระดกเหล้าเข้าปากทันที ใช่...ความรู้สึกของตอนนั้น ก็ให้มันอยู่ตอนนั้นเถอะ อย่าเอามันกลับมา...อีกเลย ตอนแรกที่เจอกันฉันก็มีแอบคิดว่า ถ้าวันนั้นเราไม่ได้เลิกกัน ตอนนี้เราสองยังไงกันนะ ตอนนี้ได้คำตอบแล้วล่ะ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม