บทที่ 6 ข้าว 2
รุ่งขึ้นชิงเหยียนมาที่หมู่บ้านอีกครั้งพร้อมทหารอีก 50 นายใช้เวลาเดินทางนานกว่าตอนที่มากับอาหนิงเมื่อเรามาถึงก็เจอหัวหน้าหมู่บ้านกับชาวบ้านคนอื่น ๆ
“ขอทรงเจริญหมื่น ๆ ปี พ่ะย่ะค่ะ” ชาวบ้านต่างคุกเข่าตอนที่หัวหน้าหมู่บ้านเล่าเรื่องให้ฟังพวกตนแทบจะไม่เชื่อหูรู้สึกตื่นเต้นอย่างเก็บสีหน้าไม่อยู่
“ยืนขึ้นเถอะ อย่าได้เกร็งเลย” ชิงเหยียนยิ้มพูดอย่างเป็นกันเองชาวบ้านค่อย ๆ ลุกขึ้น จากสายตาหมู่บ้านนี้มีวัยรุ่นประมาณ 10 คน คนอายุประมาณลุงเฟย 10 คนส่วนเด็กและผู้หญิงประมาณ 20 เขาคิดถูกจริง ๆ ที่เอาทหารมาช่วยด้วยอีกแรง
“เราขอแนะนำผู้นำในการทำคลองครั้งนี้ ทางนี้หัวหน้าหมู่บ้านชื่อลุงเฟย” ชิงเหยียนผายมือไปทางลุงเฟยเจ้าตัวโค้งคำนับ “ทางนี้หัวหน้าทหารกองนี้ชื่อท่านต้าต่าน” ทหารหนุ่มท่าทางแข็งแรงการได้ออกมาช่วยเหลือประชาชนถือเป็นเกียรติทั้งยังมีฮองเฮาเป็นคนดูแลสูงสุดนับว่าเป็นเรื่องที่ไม่ใช่ว่าจะมีโอกาสได้ง่าย ๆ
“เรามาเริ่มคุยแผนกันก่อนเถอะ” เมื่อชิงเหยียนพูดจบทหาร 2 นายก็กางแผนที่ขนาดใหญ่ออก อาหนิงส่งพู่กันและหมึกให้ผู้เป็นนาย ชาวบ้านต่างขยับเข้ามาใกล้อย่างตื่นเต้น
“ระยะห่างระหว่างหมู่บ้านและแหล่งน้ำใหญ่คือ 10 หลี่ (5 กิโลเมตร) เราจะขุดให้กว้างประมาณ 2 ผิง (6 เมตร) ” ระหว่างพูดชิงเหยียนก็วาดลงในแผนที่ให้เห็นภาพชัดเจน ชาวบ้านก็พูดเสียงเบาด้วยความตื่นเต้นถ้าเป็นแบบนั้นหมู่บ้านนี้ก็จะมีน้ำใช้ไม่ได้เดินไปไกลใช้รดพืชผักได้เยอะขึ้น
หลังจากคุยแผนงานเรียบร้อยแล้วทหารและชาวบ้านก็ถือจอบคนละเล่มเราจะเริ่มขุดกันตั้งแต่ทางหมู่บ้านก่อนป้องกันดินพังแล้วน้ำไหลเข้ามาระหว่างที่ขุด ดินที่ตอนแรกแข็งถูกชิงเหยียนทำให้อ่อนขุดง่ายขึ้น
ระยะเวลาผ่านมา 1 เดือนเต็มตอนนี้คลองก็เกือบเสร็จแล้วเหลือแค่รอให้น้ำใสตลอดทั้งเดือนทั้งชาวบ้านและทหารต่างก็ตั้งใจทำงานกันอย่างหนัก ชิงเหยียนพยายามจะไปช่วยขุดด้วยแต่ก็ถูกห้ามทุกครั้งสุดท้ายก็ไปอยู่ฝ่ายสนับสนุนสายลมเย็น ๆ พัดตลอดชิงเหยียนแอบใส่เวทรักษาในน้ำทำให้ทุกคนไม่เหนื่อยมากเกินไป ใบหน้าของทุกคนเปื้อนไม่ด้วยรอยยิ้มชาวบ้านต่างกอดกันอย่างยินดีกับความพยายามตลอดทั้งเดือน ทหารและชาวบ้านไม่ได้มีช่องว่างต่อกันเลยพวกเขาทำงานช่วงกลางวันกินเลี้ยงกันช่วงเย็นอย่างสนุกสนาน พอเห็นรอยยิ้มของทุกคนเขาก็พลอยมีความสุขไปด้วย
“ขอบคุณทุกท่านที่เหนื่อย เราดีใจจริง ๆ ที่คลองเสร็จแล้ว เดี๋ยวเราจะมาบอกวิธีปลูกข้าวเราอยากให้หมู่บ้านนี้เป็นหมู่บ้านต้นแบบคอยสอนคนจากหมู่บ้านอื่น ๆ ต้องรบกวนลุงเฟยทำงานหนักแล้ว” หลังจากที่ปลูกข้าวสำเร็จต้องมีหลายคนที่เข้ามาสอบถามแน่ ๆ ก่อนหน้านี้ทุกคนต่างเชื่อว่าจะปลูกไม่ได้เลยทำให้คนรุ่นหลังก็ไม่ปลูกกัน
“เรื่องเล็กน้อยขอรับ” ถ้าหมู่บ้านปลูกสำเร็จเป็นที่แรกตนก็ยินดีจะสอนให้ทุก ๆ คนที่เข้ามาถาม หลังจากคลองเสร็จงานเลี้ยงอำลาช่วงเย็นก็เกิดขึ้นเหล่าทหารและชาวบ้านต่างก็กินดื่มกันอย่างมีความสุขพรุ่งนี้ทหารจะกลับไปที่วังแล้วส่วนชิงเหยียนคงต้องกลับมาที่หมู่บ้านอีกสักพักตลอดทั้งเดือนชิงเหยียนและอาหนิงนอนที่วังไม่เหมือนทหารที่นอนที่หมู่บ้านเลย ถึงยังไงตนก็เป็นฮองเฮาและหมู่บ้านเองก็ไม่ไกลจากวัง
ช่วงค่ำชิงเหยียนกลับมาวังเดินเข้าไปดูฮ่องเต้ตลอดทั้งเดือนแม้ว่าจะพยายามรักษาแต่ก็ไม่มีท่าทีว่าจะฟื้นคืนสติเลย ใบหน้าหล่อยังคงนิ่งเหมือนเดิม
“เมื่อไหร่จะตื่น เราอยากฟังเสียงแล้วนะ อยากอย่างอื่นด้วย” สามีสุดหล่อถ้าเขาเผลอตัวเผลอใจปล้ำขึ้นมาจะทำอย่างไร! ไหนจะใบหน้าหล่อเหลา ไหนจะกล้ามหน้าท้อง!
เพราะชิงเหยียนรับหน้าที่เช็ดทำความสะอาดร่างกายของฮ่องเต้ร่างกายงดงามแข็งแกร่งเลยถูกแทะเล็มทุกเมื่อเชื่อวันอย่างไม่ละอายจนวิญญาณโปร่งแสงที่มองอยู่ส่ายหน้าแม้ตอนแรกตนจะไม่รู้จุดประสงค์ของภรรยาแต่พออยู่ด้วยกันนานเข้าผู้เป็นฮ่องเต้ก็มองออก
‘เจ้าช่างเป็นเกอที่มากราคะ’
หากตนไม่เป็นเพียงร่างวิญญาณร่างงดงามของภรรยาคงไม่แคล้วถูกตนจับมาปู้ยี่ปู้ยำให้สมกับทำหน้าหื่นกระหายใส่ร่างตน
“อู่วว จู่ ๆ ก็ขนลุก คงไม่ใช่ผีหรอกนะ” ชิงเหยียนเช็ดทำความสะอาดร่างกายของสามีพลางลูบแขนไปด้วยหลังจากเสร็จก็กลับไปนอนที่ตำหนักของตัวเอง
ชาวบ้านต่างมารวมกันด้วยความตื่นเต้นวันนี้ฮองเฮาทรงจะมาสอนวิธีปลูกข้าวที่ถูกต้องทุกคนต่างตื่นเต้นตื่นแต่เช้ามาเตรียมตัวฟัง
“ทุกคนพร้อมใช่ไหม เราจะเริ่มแล้วนะ ข้าวจะใช้เวลาประมาณ 4 เดือนในการเก็บเกี่ยวหรือประมาณ 120 วัน ข้าวเป็นพืชชอบน้ำและดินที่อุ้มน้ำแต่หากดูแลไม่ดีอาจจะมีหอยหรือแมลงตัวเล็ก ๆ มากัดกินได้ทำให้ต้นไม่แข็งแรงและถ้าออกรวงอาจจะทำให้ต้นล้มผลที่ตามมาคือรวงข้าวจะเน่า” มาถึงตรงนี้เพราะไม่มีตัวอย่างให้ดูชิงเหยียนเลยวาดรูปต้นข้าวให้ดู “นอกจากหอยและแมลงแล้วนกก็เป็นสัตว์ที่ต้องคอยไล่ออกไป” ชาวบ้านที่เคยทดลองปลูกข้าวต่างเบิกตากว้างพวกตนเข้าใจแล้วว่าทำไมถึงปลูกข้าวไม่สำเร็จพวกตนไม่ได้ทำอย่างคำแนะนำเลย น้ำอาศัยแค่การรดเอาไม่ใช่การใส่ทั้งแปลงการปลูกข้าวกับหัวมันเหมือนตรงข้ามกัน
ตลอดทั้งวันชิงเหยียนใช้เวลาแนะนำการปลูกข้าวอย่างละเอียดคอยตอบคำถามสิ่งที่ชาวบ้านไม่แน่ใจนอกจากเรื่องข้าวแล้วชิงเหยียนยังแนะนำการปลูกผักด้วยเมล็ดเองการดูแลอื่น ๆ อีกหลายอย่างชาวบ้านต่างตื่นเต้นมองเห็นเส้นทางในอนาคตถ้าได้ผลผลิตดีชาวบ้านธรรมดาก็สามารถกินข้าวได้ราคาข้าวก็จะถูกลง
“แม้ว่าจะรู้วิธีปลูกแล้วสิ่งที่ยังขาดคือเมล็ดพันธุ์สินะ” ชิงเหยียนพูดกับหัวหน้าหมู่บ้าน ข้าวที่มีราคา 5 ตำลึงทองนับว่าแพงเกินกว่าชาวบ้านธรรมดาจะซื้อได้
“ในเมืองนอกจากร้านเถ้าแก่เซียงก็ไม่มีร้านไหนขายข้าวอีกแล้วขอรับ” เถ้าแก่เซียงเรียกได้ว่าเป็นพ่อค้าที่ร่ำรวยไม่น้อยร้านที่ชิงเหยียนเคยไปถามราคาข้าว
“เดี๋ยวเราจะลองไปคุยดู ทางนี้ฝากลุงเฟยด้วยนะ” พื้นที่ของหมู่บ้านที่ใช้ในการทดลองปลูกข้าวใช้พื้นที่แค่ครึ่งเดียวแม้ว่าชาวบ้านจะอยากใช้เต็มเลยแต่ชิงเหยียนก็ห้ามไว้ก่อนเพราะการปลูกข้าวต้องใช้ระยะเวลาถ้าทำหมดระหว่างรอข้าวออกรวงคงจะขาดรายได้
ชิงเหยียนและอาหนิงมาในเมืองเดินไปที่ร้านข้าวเห็นเถ้าแก่กำลังเดินตรวจร้านพอดีชิงเหยียนทักขึ้นด้วยรอยยิ้ม
“เถ้าแก่เซียงเราอยากสอบถามเรื่องข้าวเปลือก”
“อ้าว เจ้าเองรึ เจ้าหมายถึงข้าวที่ยังมีเปลือกแข็งอยู่สินะ ส่วนมากไม่ค่อยมีใครซื้อแบบนั้นเจ้าเอาไปทำไมรึ” ขุนนางร่ำรวยนิยมซื้อแบบไม่มีเปลือกทำให้เถ้าแก่เซียงหลังจากที่รับซื้อข้าวมาแล้วต้องจ้างคนงานมาเอาเปลือกออก
“ข้าอยากได้ไปปลูก” เถ้าแก่ทำหน้าประหลาดใจก่อนจะเดินนำทั้งสองคนไปทางหลังร้าน
“ตามข้ามา ด้านหลังจะเป็นพื้นที่ ที่ข้าให้คนงานเอาเปลือกออก” เมื่อเดินออกมาก็เจอกับพื้นที่ขนาดใหญ่อยู่ติดกับป่ามีคนงานเกือบสิบคนกำลังตำข้าวบางคนกำลังเก็บเปลือกออก
“อันนี้เป็นกระสอบที่ยังไม่ได้แกะเปลือก กระสอบละ 20 กงจิน (20 กิโลกรัม) ราคา 10 ตำลึงทอง เจ้าไหวไหม” ชิงเหยียนทำท่าครุ่นคิดจากที่เขากะจากความกว้างของที่นาที่จะปลูกน่าจะใช้ประมาณ 10 กระสอบ
“ท่านมีถึง 10 กระสอบไหมข้าจะเอาไปปลูก”
“มี ๆ เจ้ารีบเอาหรือเปล่า”
“รีบถ้าท่านเตรียมได้เลยวันพรุ่งนี้เราจะเอารถม้ามาขนไป”
“ได้เลยขอรับ ไว้ใจข้าได้เลยแม่นาง แต่ท่านไม่ต้องลำบากก็ได้ถ้าซื้อเยอะร้านข้ามีบริการไปส่งถึงที่” บ่อยครั้งที่ต้องไปส่งถึงบ้านของเหล่าขุนนางหรือแม้แต่หน้าพระราชวัง
“ดีเลยรบกวนท่านแล้ว อันนี้ค่าใช้จ่ายทั้งหมด 100 ตำลึงทอง” อาหนิงยื่นถุงเงินไปให้เถ้าแก่เซียงอย่างรู้งาน แววตาของเถ้าแก่เป็นประกายลูกค้าคนนี้แปลกประหลาดกล้าลงทุนกับการปลูกข้าวด้วยเงินมหาศาลไม่กลัวว่าจะล้มเหลว
ช่วงบ่ายร้านข้าวก็เอาข้าวเปลือกจำนวน 10 กระสอบมาส่งที่หมู่บ้านชาวบ้านต่างก็วิ่งมาดูด้วยความตื่นเต้นเด็ก ๆ ถามผู้ใหญ่อย่างสงสัยแทบไม่มีใครในที่นี้เคยกินข้าวมาก่อน
“ขอบคุณพวกท่านมาก” ชิงเหยียนหันไปพูดกับลูกจ้างของเถ้าแก่เมื่อรถม้าออกไปแล้วชิงเหยียนก็หันมาคุยกับลุงเฟย “เดี๋ยวคนหนุ่ม ๆ ยกกระสอบข้าวไปเก็บก่อน เดี๋ยวพอเตรียมที่นาเสร็จก็เอาข้าวไปแช่น้ำ 1 วันตามที่เคยบอกแล้วค่อยเอาไปหว่าน” ชิงเหยียนย้ำอีกรอบกันชาวบ้านลืมทุกคนต่างขยับทำงานกันอย่างไม่ย่อท้อ ใบหน้างดงามยิ้มตามอย่างมีความสุขพอเห็นสิ่งที่ตัวเองทำมันสร้างความสุขให้คนอื่นก็รู้สึกมีความสุขตามไปด้วย
----------------------
ขณะที่น้องชิงเหยียนกำลังทำตัวหื่นกระหายไม่ได้รู้ตัวเลยว่าวิญญาณอิพี่ยืนมองอยู่ข้างๆ 5555