คชาเดินจ้ำพรวดๆ นำหน้าผมมายังร้านกาแฟที่อยู่ด้านหน้าโรงอาหาร สั่งเครื่องดื่มเสร็จก็ตรงไปเลือกที่นั่งที่อยู่ในมุมอับ ตอนแรกผมก็หงุดหงิดนิดหน่อยที่คชาทำเหมือนกับว่าการมากับผมแล้วคนอื่นเห็นมันจะทำให้เสียชื่อเสียงอะไรแบบนั้น
ทำอย่างกับตัวเองหล่อมาก ถ้ากูสบตาด้วยแล้วเห็นเจี๊ยวมึง กูก็ไม่มาด้วยหรอกเว้ย!
หงุดหงิดได้ครู่เดียว แต่พอหันไปเห็นรูปโปสเตอร์เกี่ยวกับกิจกรรมอะไรสักอย่างของมหาวิทลัยที่เชิญชวนให้เด็กปีหนึ่งไปประกวดคัดเลือกทูตกิจกรรมของมหาวิทลัยโดยมีหนุ่มหล่อผู้ดำรงตำแหน่งพรีเซ็นเตอร์ที่ผ่านการคัดเลือกเมื่อปีที่แล้วยืนยิ้มพรายตรงเสาข้างโต๊ะ ผมก็ชะงักไปทันที สายตาไล่อ่านไปยังข้างใต้ของรูปที่ระบุชื่อจริง คณะที่เรียนและตำแหน่งที่ดำรงยาวเป็นหางว่าว
คชา คณะวารสารศาสตร์ ชั้นปีที่สอง ทูตกิจกรรมและเดือนมหาวิทยาลัย ปี 25xx
แค่นั้นแหละ ผมก็ประจักษ์ได้ทันทีว่าทำไมคชาถึงได้กลัวว่าคนอื่นจะมาเห็นว่าอยู่กับคนที่ถูกตราหน้าว่าโรคจิตอย่างผม ก็ไอ้รูปพรีเซ็นเตอร์นี่เป็นมันเองนี่หว่า
หูย โรคจิตอย่างมึงนี่เป็นถึงทูตกิจกรรมของมหาวิทยาลัยเลยเหรอวะ
มิน่าทำไมตอนที่เจอกันครั้งแรกถึงได้แต่งตัวถูกระเบียบเป๊ะๆ แถมมากับแก๊งเพื่อนหน้าตาดีอีก น่าจะเป็นพวกกลุ่มทูตกิจกรรมเหมือนกันล่ะมั้ง
แต่ตอนนี้ผมว่ามันคงไม่ได้กลัวว่าคนอื่นจะมาเห็นว่ามันอยู่กับโรคจิตอย่างผมแล้วล่ะ มันน่าจะกลัวว่าจะมีคนมารู้ว่าแท้ที่จริงมันเป็นโรคจิตที่บ้าหนังโป๊เกย์มากกว่าเพราะจู่ๆ คชายกมือขึ้นตบโต๊ะ เรียกความสนใจจากผมไป
“ตกลงมึงต้องการอะไร”
เข้าประเด็นโป๊ะเชะ ไม่มีอ้อมค้อมให้เสียเวลา ผมจับกล่องดีวีดีทีอยู่ใต้เสื้อไว้มั่น ก่อนจะเปิดปาก
“ก็ตามอย่างที่เราบอก เราอยากให้นายมาอยู่ด้วย มาเป็นรูมเมตกันน่ะ ถ้านายอยากรู้ว่าเพราะอะไร เราจะอธิบายเพิ่มเติมให้”
คิดขึ้นมาได้ว่าการที่จู่ๆ ก็ไปบอกมันว่าอยากได้มันมาอยู่ด้วยอะไรงี้ มันน่าจะไม่โอเค ซึ่งก็จริงเมื่อคชาว่าขึ้นมาอีก
“มึงบอกกูแล้วว่ามึงอยากเห็นเจี๊ยวกู ก็เลยอยากอยู่ด้วย ไม่ต้องอธิบายแล้ว รู้เรื่อง”
รู้เรื่องอะไรของมึง ไม่ใช่เว้ย!
เพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่าก่อนหน้านี้บอกมันไปว่ามันเป็นคนแรกและคนเดียวที่ผมสบตาด้วยแล้วไม่เห็นจู้ฮุกกรู้ แต่คงจะไม่ชัดเจน งั้นอธิบายแบบครบประเด็นไปเลยแล้วกัน
“ฟังก่อน คืองี้ ไอ้เรื่องที่เราบอกว่าเราสบตานายแล้วไม่เห็นจู๋นายอะเป็นเรื่องจริง มันเลยเป็นเหตุผลที่ทำให้เราอยากอยู่กับนายเพราะปกติแล้วเวลาเราสบตาผู้ชายคนไหน เราจะเห็นหมดเลย บางทีมันก็ไม่เจริญหูเจริญตาน่ะ แล้วที่เราต้องการให้นายมาอยู่ด้วยอีกเหตุผลนึงก็คือบ้านเรามีปัญหาเรื่องการเงิน เราเลยจำเป็นต้องแชร์ค่าห้องร่วมกับรูมเมต แต่หารูมเมตไม่ได้เพราะไอ้เหตุผลแรกนี่แหละ พอมาเจอนาย สบตาแล้วมองไม่เห็นจู๋ เราเลยอยากให้นายมาอยู่ด้วย ทั้งหมดก็แค่นั้น”
ตัดสินใจเล่าออกไปหมดเปลือก คชาย่นคิ้ว สายตาบ่งบอกชัดเจนว่าไม่เชื่อ ยังไงก็ไม่เชื่อ ผมก็รู้แหละว่ามันต้องไม่เชื่อ ใครจะไปเชื่อกันล่ะ เรื่องแบบนี้เชื่อยากจะตาย ขนาดเคยบอกแม่กับพี่ผมเรื่องที่ผมมีพลังวิเศษไป ทั้งคู่ยังไม่เชื่อเลย แล้วจะประสาอะไรกับคนอื่นกัน
“มึงนี่สงสัยอ่านการ์ตูนเยอะไปนะ มโนเป็นตุเป็นตะ”
ไม่ได้มโน กูพูดเรื่องจริง
พูดเรื่องจริง แต่ไม่มีอะไรไปพิสูจน์ เลยได้แต่คร่ำครวญออกมาอย่างเผลอตัว
“เราพูดจริงๆ นอกจากเรื่องนี้แล้ว เราก็ไม่ได้คิดอะไรเลย ขอร้องล่ะ เชื่อกันหน่อย”
มีความวิงวอนอยู่ในน้ำเสียงเล็กน้อย หวังให้มันใจอ่อน แต่คชาทำเพียงเอียงคอมองผม พลันว่าเนิบๆ
“มึง...ขอความรักจากกูอยู่สินะ”
กูจะอยากได้ความรักจากมึงไปเพื่ออะไร ใครสั่งใครสอนให้มั่นอกมั่นใจในตัวเองขนาดนี้!
กลายเป็นผมที่ระอาใจละ พ่นลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ปกตินิสัยของผมก็ไม่ใช่พวกที่จะตามตื๊อไม่หยุด หรือเป็นพวกชอบตอแยอะไรเท่าไหร่ พอต้องมาทำแบบนี้ก็อดเหนื่อยหน่ายไม่ได้ คชาเองก็คงจะเบื่อหน่ายกับสถานการณ์อย่างนี้เหมือนกัน ถอนหายใจออกมาเต็มแรงให้ผมรู้ชัดๆ ไปเลยว่าเบื่อ
“แล้วตกลงจะเอาไง” ถามมาอีกแล้ว
“ก็ไม่เอาไง เราแค่อยากให้นายมาอยู่ด้วย”
“กูว่ากูพูดไปชัดแล้วนะว่าไม่ นี่ถ้าไม่ติดว่าฮิคารุซามะฉบับลิมิเต็ดอิดิชันของกูอยู่กับมึงล่ะก็ กูคงไม่มาเสียเวลานั่งคุยกับมึงงี้หรอก แม่ง แผ่นนั้นรวมค่าส่งแล้วหลายพันเลยนะ”
มันก็เรื่องของมึงเว้ย ใครสั่งใครสอนให้ซื้อหนังโป๊แพงๆ ล่ะวะ โหลดเอาสิ โหลด!
แต่ผมไม่มีอารมณ์จะไปบอกมันละ เพราะหลังจากประโยคนั้น คชาก็เอาแต่ด่าผมพึมพำไม่หยุดปาก ผมก็ได้แต่ยืนยันคำเดิมว่าถ้าอยากได้กระเป๋าเงินกับแผ่นหนังโป๊เกย์คืนก็มาแชร์ค่าห้องอยู่กับผม ซึ่งก็แน่ล่ะว่าคชาไม่ยอมตกปากรับคำ สุดท้ายก็จบลงด้วย...
“มึงจะเอาเท่าไหร่ถึงจะยอมเอาท่านฮิคารุคืนมาให้กู”
คุยกันไม่รู้เรื่อง ต่อรองกันไม่ลงตัว คชาก็นั่งกอดอก ออกปากพูดเป็นนัยว่าจะเอาเงินฟาดหัวผมหน้าตาเฉย ผมไม่ชอบเลยนะคนนิสัยแบบนี้ แต่ก็ต้องทน ทนแล้วก็ทนอีก ทนวนไป มันช่วยไม่ได้ ดันอยากได้มันมาเป็นรูมเมตนี่นา แต่ก็อดคิดไม่ได้เลยนะว่ามันจะเอาเงินมาให้ผมทำไม ถ้ามีเงินขนาดนั้นก็ซื้อใหม่ก็ได้
แล้วก็ได้คำตอบโดยไม่ต้องเอ่ยปากถามเมื่อคชาบ่นขึ้นมา
“ถ้ามันไม่ผลิตแค่รุ่นนี้รุ่นเดียว ป่านนี้กูสั่งซื้อใหม่ไปแล้ว”
อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง งั้นก็เข้าทางผมเลย ใช้เป็นตัวประกันได้ยาว
“เราไม่เอาเงินหรอก” ในที่สุดผมก็พูดออกมา
คชาเลิกคิ้วสูงทันควัน “แล้วมึงจะเอาอะไร อย่าบอกนะว่า...ร่างกายกู?”
ขอถอนคำพูดว่าจะทน ไม่ทนแล้ว คว้าเก้าอี้ฟาดแม่งเลย มั่นหน้าเหลือเกิน!
“เราจะเอาร่างกายนายไปทำไมวะ”
ชักอารมณ์เสียขึ้นมาบ้างละ เริ่มขึ้นวะๆ โว้ยๆ คชาไม่มีทีท่าว่าจะสะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อย ทำลอยหน้าลอยตาแล้วว่าเนิบๆ
“ก็ไม่รู้สิ เห็นอยากอยู่กับกูหนักหนา กูเลยคิดว่ามึงอยากได้กูไปเป็นผัวอะไรงี้”
โอ้โหมึง! จะต้องมั่นหน้าเบอร์ไหนวะถึงกล้าพูดออกมาได้ขนาดนี้ ขนลุกเลยกู คิดผิดชะมัดที่มาขอร้องมันเนี่ย ถ้าแม่งสบตาแล้วเห็นแตงกวาล่ะก็ ผมคงไม่มาตามตื๊อมันอย่างนี้หรอก
ผมเงียบไป ไม่ใช่เงียบเพราะไม่รู้จะพูดอะไร แต่ระอามันเกินจะทนมากกว่า คล้ายกับว่าอีกไม่นานผมก็จะหมดความอดทนละ เพราะไม่ว่าจะพูดคำไหน มันก็วกเข้าเรื่องชวนหลงตัวเองทั้งนั้น
และเพราะผมเงียบ คชาที่นั่งกอดอกอยู่ก็ถอนหายใจออกมา ทำท่าเหนื่อยหน่ายเต็มประดาแล้วก็ว่าขึ้นมาลอยๆ
“กูต้องขอโทษด้วยว่ะ บอกแล้วว่านอกจากท่านฮิคารุ กูก็พลีกายให้ผู้ชายด้วยกันไม่ได้ ผิดหวังไปนะมึง”
ก่อนหน้านี้มึงบอกว่าไม่ชอบผู้ชายด้วยกันไม่ใช่เหรอ แล้วนี่มานอกจากท่านฮิคารุอะไรของมึง เป็นเกย์ก็บอกมา ไม่ต้องมาแอ๊บ!
แต่ก็ไม่แน่ใจว่าเป็นเกย์ มันอาจจะเป็นแค่หนุ่มวายที่ชอบเสพอะไรทำนองนี้ก็ได้ ความจริงจะเป็นอะไรก็ช่างหัวมันแล้วล่ะ ผมไม่อยากจะสนใจนักหรอกถ้ามันไม่คลายแขนที่กอดอกอยู่ ทำปากยื่นแล้วพูดราวกับว่าสงสารผมเสียเต็มประดา
“ปกติแล้วกูก็ทำคนอื่นอกหักมาเยอะนะ ซึ่งกูก็ไม่สนใจหรอก แต่เพราะมึงมีฮิคารุซามะรุ่นลิมิเต็ดอิดิชันอยู่ในมือ กูจะยื่นหมูยื่นแมวก็ได้”
กำลังจะถามเลยว่ายื่นหมูยื่นแมวอะไร แต่คชาก็คว้าเอาทิชชูบนโต๊ะมาปึกหนึ่งเสียก่อน สอดเข้าไปใต้เสื้อตัวเอง ถูทิชชูไปกับลำตัว ตามซอกรักแร้ ซอกหลืบด้านบนด้านล่างอะไรก็ไม่เว้น ผมมองแล้วก็เบ้หน้า อดออกปากถามไม่ได้
“ทำอะไรน่ะ”
“ยื่นหมูยื่นแมวไง”
ยังไม่ทันจะได้เข้าใจเลยว่ามันพูดถึงอะไร คชาก็ดึ0งทิชชูออกมาจากใต้เสื้อแล้ว ก่อนจะยื่นมาตรงหน้าผม
“อะ กลิ่นตัวกู จะเอาไปดมหรือเอาไปทำอะไรคนเดียวก็แล้วแต่ กูเสียสละตัวเองขนาดนี้แล้ว มึงเอาฮิคารุซามะของกูคืนมาด้วย”
บ้านมึงเถอะ นี่เห็นกูเป็นคนยังไง ไม่ได้เป็นพวกโรคจิตเหมือนมึงนะเว้ย!
ไอ้พลังวิเศษนี่...สบตาคนโรคจิตแล้วมองไม่เห็นป๋องแป๋งหรือไงวะ
“เอาไปสิ จะเอาไปปู้ยี่ปู้ยำอะไรก็ตามสบาย ส่งท่านฮิคารุลิมิเต็ดอิดิชันมาได้ละ”
ยังจะยัดเยียดทิชชูชื้นเหงื่อมาให้ผมอีก ผมไม่รับ มันก็เลยโยนลงมาบนโต๊ะตรงหน้าผม เท่านั้นแหละ เส้นความอดทนของผมก็ขาดสะบั้นทันที
“คชา! เราไม่ต้องการอะไรเลย เราแค่ต้องการนายมาแชร์ค่าห้องด้วย มาเป็นรูมเมตเราก็แค่นั้น แล้วนายอยากจะได้ของคืนจากเรา เราก็จะให้คืนหมด แค่มาเป็นรูมเมตเรา เข้าใจไหม”
ด้วยความที่เสียงดัง แม้จะแทบไม่มีลูกค้าแต่ก็เรียกสายตาของทุกคนในร้านให้หันมามองพวกเราเป็นตาเดียว อะไรไม่ว่า คนในร้านดันมีแต่ผู้ชายด้วย ผมเลยรีบก้มหน้างุดทันทีที่รู้สึกตัวว่าเผลอทำอะไรลงไป ส่วนคชาก็เอาแต่นั่งมองผมนิ่ง คล้ายกับครุ่นคิด แต่จนแล้วจนรอดก็...
“ขอปฏิเสธ แม่ง ทำไมกูต้องมาเสียเวลาคุยกับคนที่พูดไม่รู้เรื่องด้วยวะ ลาขาดเลยแล้วกัน รำคาญว่ะ”
แล้วก็ลุกไปหน้าตาเฉย ไม่สนใจฮิคารุซามะหรือกระเป๋าตังค์แม้แต่น้อย ทำเอาผมเบิกตาโต ร้องเรียกไว้แทบไม่ทัน
“เอ้า แล้วของล่ะ ไม่เอาแล้วเหรอ”
คชาชะงักมือที่กำลังคว้าแฟ้มเอกสารขึ้นเหน็บข้างลำคัว ว่าลอยหน้าลอยตา
“จะว่าอยากได้คืนก็อยากได้แหละ แผ่นดีวีดีนั่นราคาตั้งหลายพัน แถมมีจำนวนจำกัด กระเป๋าตังค์ก็มีแต่บัตรสำคัญ แต่ช่างแม่ง เดี๋ยวกูสั่งซื้อใหม่ก็ได้ ตอนนี้ยังมีเปิดพรีออเดอร์อยู่ ส่วนบัตร กูก็ไปทำใหม่ก็ได้ กูกับมึงจะได้ลาขาดกันสักที เห็นหน้ามึงแล้วประสาทจะกินกบาล”
ว่าแบบไม่แยแส ไม่สนใจความรู้สึกคนฟังเลยสักนิด ผมนิ่งงัน รู้ตัวทันทีว่าแผนการเอาของมาต่อรองใช้ไม่ได้ผล ผมก็เลยรีบคิดแผนใหม่ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
“ถ้าอย่างนั้น เราจะไปป่าวประกาศให้ทั่วเลยว่านายเป็นเกย์ ชอบสะสมแผ่นหนังโป๊เกย์”
มุมปากของคชาหยักยกขึ้นเล็กน้อยคล้ายยิ้มเย้ย ก่อนจะว่า
“ถ้ามึงคิดว่าคนอื่นจะเชื่อมึงก็ตามสบาย โนสน โนแคร์”
พูดจบ ก็เดินไปยังประตู ผลักออกไปโดยไม่สนใจจะหันมามองผมสักนิด ผมได้แต่มองตามหลัง ไอ้บ้านั่นนอกจากจะความอดทนต่ำโคตรๆ แล้ว ยังจะไม่สนใจโลกอีก แต่ก็อย่างว่า คชาเป็นทูตกิจกรรมของมหาวิทยาลัยอย่างนั้น คนรู้จักต้องเยอะ เพื่อนก็ต้องเยอะ เทียบกับผมที่แทบจะไม่มีเพื่อนแล้ว ถ้าผมพูดอะไรไป เดาได้เลยว่าคนต้องเข้าข้างคชามากกว่าแน่นอน และผมนี่แหละที่จะซวยเพราะถูกประณามว่ากลั่นแกล้งมันแทน ดังนั้นผมเลยได้แต่นั่งนิ่งราวกับยอมแพ้
...
...
...
ยอมแพ้แค่แป๊บเดียวเท่านั้นแหละโว้ย! พรุ่งนี้จะมาตามตื๊อใหม่ ยังไงมึงก็ต้องมาเป็นรูมเมตกูให้ได้!
ไฟมาทันใด ใจจริงอยากจะตามไปตื๊อมันซะเดี๋ยวนี้เลย ทว่าดูสถานการณ์แล้ว วันนี้ไม่เหมาะที่จะตื๊อต่อแล้ว ต้องเอาไว้คราวหน้า นี่ก็เป็นนิสัยเสียของผมล่ะ ถ้าอยากได้อะไรแล้วต้องได้แม้ว่าจะไม่ชอบตื๊อหรือตอแยใครสักเท่าไหร่ก็ตาม ถือคติว่าน้ำหยดลงหินทุกวัน หินมันยังกร่อน แล้วนับประสาอะไรกับใจคนล่ะ เห็นหน้าผมทุกวัน เดี๋ยวมันก็ใจอ่อนเองแหละ
...คิดว่างั้นนะ