ไว้พรุ่งนี้พี่จะโทรหาตอนเที่ยงนะ ไปกินข้าวด้วยกัน

1897 คำ
หลังจากตั้งปณิธานว่ายังไงก็จะเอาคชามาเป็นรูมเมตให้ได้ ทุกครั้งที่ผมไม่มีคาบเรียนที่ชนกับคชา ผมก็ไปโผล่หน้าที่ห้องเรียนเขาทุกที ไม่ว่าจะเป็นห้องเรียนใหญ่ ห้องเรียนเล็ก ผมโผล่ไปหมด อ้างว่ามาซิตอินหรือทดลองเรียน อาจารย์ประจำวิชาก็ไม่ว่าอะไรแล้ว มีก็แต่คชานี่แหละที่เห็นผมทีไรก็ทำหน้าบูดทุกที ตบท้ายด้วยการลากออกมาด่าในที่ลับตาคนทุกครั้ง และจบลงด้วยการปฏิเสธที่จะเป็นรูมเมตผมเมื่อถูกผมชวนทุกรอบ ผ่านมาอาทิตย์นึง ทุกอย่างยังเหมือนเดิม ตอนนี้เหมือนว่าคชาจะได้แผ่นดีวีดีฮิคารุซามะลิมิเต็ดอิดิชันอะไรนั่นแผ่นใหม่มาแล้วด้วย บัตรสำคัญอะไรก็ไปทำมาใหม่แล้วเช่นกัน ผมเลยไม่มีข้ออ้างใดๆ ที่จะต่อรองอีกต่อไป คชาเลยเมินผมได้เต็มที่ ซ้ำตอนนี้เวลาไปไหนมาไหนก็พกเพื่อนไปเป็นไม้กันหมา ทำเอาผมเข้าถึงตัวได้ยากกว่าเดิมเป็นเท่าตัว เหนื่อยชะมัดเลยให้ตาย แม่กับพี่ก็มาเร่งๆ ให้หารูมเมตเร็วๆ เพราะใกล้จะถึงกำหนดที่จะต้องย้ายออกจากหอเก่าแล้ว เป็นแบบนี้แล้วผมจะทำยังไงดีล่ะ คิดหนักทุกวันและทั้งวัน คิดหนักแม้กระทั่งตอนเรียน หูนี่แทบไม่ได้ยินเสียงของอาจารย์สอนเลย รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ได้ยินเสียงเซ็งแซ่ของเพื่อนร่วมคลาสลอยเข้ามาในหู พอเงยหน้าขึ้นมองก็พบว่าตอนนี้ทุกคนพากันจับคู่ทำเปเปอร์อะไรสักอย่างที่อาจารย์สั่งไปก่อนหน้า วะ...เวรแล้ว สั่งงานอะไรวะ แล้วนี่จับคู่อะไรกัน ไหนคู่กูล่ะ มองซ้าย มองขวา รีบหาคู่ทำการบ้านด้วยทั้งที่ความจริงไม่น่าจะหวังว่าจะมีคนมาขอจับคู่ ก็ผมน่ะมักเป็นเศษของคลาสตลอด ถ้ากลุ่มไหนไม่ครบหรือมีสมาชิกเกินได้ ผมถึงจะได้ไปเข้าร่วม ผมถอนหายใจยาว ลุกขึ้นเตรียมจะเดินไปบอกอาจารย์ว่าเป็นเศษเกิน หากแต่ลุกไปยังไม่ทันจะได้พูดอะไร อาจารย์ประจำวิชาที่สอนผมมาตั้งแต่ปีหนึ่งเห็นหน้าผมปุ๊บก็พูดขึ้นมาปั๊บ “วันนี้คุณไม่ได้เป็นเศษค่ะ ไม่ต้องมาขออยู่กับคู่อื่น โน่น คู่ของคุณนั่งอยู่ตรงโน้น” ผมมองตามปลายนิ้วเรียวของผู้หญิงวัยกลางคนไปยังมุมในสุดของหลังห้อง พลันสายตาก็ปะทะเข้ากับนักศึกษาชายรูปร่างสูงคนหนึ่งที่หมอบอยู่บนโต๊ะ ก่อนจะถูกอาจารย์เรียกความสนใจไปอีก “ปลุกด้วยนะคะ เห็นนอนมาตั้งแต่เริ่มคลาสละ แล้วก็เขียนชื่อ เลขทะเบียนกับคณะมาส่งด้วย จะได้รู้ว่าใครคู่กับใคร เปเปอร์นี้เป็นงานยาว ต้องทำด้วยกันจนหมดเทอม เกาะกันไปดีๆ ล่ะ รายนั้นไม่เคยเข้าเรียน เพิ่งจะมาครั้งนี้ครั้งแรก ฝากดูแลด้วย” ผมพยักหน้า ตอบรับเสียงเบา ก่อนที่อาจารย์จะประกาศเลิกคลาสแล้วให้เอาใบรายชื่อไปส่งตามหลังที่ห้องพักอาจารย์ ผมเดินไปฉีกเอากระดาษสมุดบนโต๊ะตัวเองก่อนจะเดินไปหาผู้ชายคนนั้น ใจก็เบื่อหน่ายไปด้วยที่ต้องมาคอยหลบการสบตาผู้ชายด้วยกันอีกแล้ว แต่ก็เอาเถอะ มันกลายเป็นชีวิตประจำวันของผมไปแล้วล่ะ “นาย ตื่นได้แล้ว มาเขียนชื่อหน่อย” ผมยื่นมือไปสะกิดเรียกผู้ชายคนนั้น สะกิดอยู่สองสามทีกว่าเขาจะเงยหน้าขึ้นมา แถมเงยขึ้นมาแล้วก็ฟุบลงไปอีก ทำเอาหัวคิ้วผมย่นยู่อย่างไม่รู้ตัว อย่ามานอนตอนนี้สิ ง่วงก็กลับไปนอนที่ห้องสิเว้ย “นี่นาย ตื่นมาเขียนชื่อก่อน เราจะรีบเอาไปส่งอาจารย์” ผมสะกิดเรียกอีก คราวนี้ออกปากเรียกเสียงดังหน่อย คนตรงหน้าเงยหน้าขึ้นมาในสภาพงัวเงียขึ้นสุด ขยี้ตาสองสามครั้งก่อนจะว่า “เมื่อกี้ว่าอะไรนะ” ฟาดหน้ามันด้วยกระดาษแม่ง พูดไปสองรอบแล้วไม่รู้จักฟัง “ขอชื่อหน่อย เลขทะเบียนกับคณะด้วย เราจะเอาไปส่งอาจารย์” อีกฝ่ายพยักหน้ารับแบบไม่มองหน้าผม พลันยื่นมือมาเป็นสัญญาณว่าให้ส่งกระดาษมา พอผมยื่นให้ เขาก็จัดการเขียนรายละเอียดทั้งหมดลงไป ผมรับมาดูแล้วก็ต้องประหลาดใจขึ้นมา ชื่อชิณณ์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ เรียนคณะนั้นแต่มาเรียนวิชาเสรีของคณะนิติฯ แสดงว่าเลือกเป็นวิชาเลือกเสรีแหง แต่รหัสศึกษานี้มัน... พี่ปีสูงนี่หว่า นี่เรียนมาหกปีแล้วเหรอเนี่ย หกปีแน่นอน ถ้านับถอยจากรหัสนักศึกษาผมย้อนกลับไป เขาต้องเรียนจบไปเมื่อสองปีที่แล้ว แล้วไหงมานั่งหัวโด่อยู่ที่นี่ได้ กะจะเรียนเอาเต็มโควตาแปดปีเลยว่างั้น? อาจเป็นเพราะผมเอาแต่เงียบ คิดอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่คนเดียว เขาเลยหัวเราะขึ้นมาราวกับรู้ทันว่าผมคิดอะไรอยู่ พลางว่าเสียงยานคาง “พี่ดร็อปเรียนไปต่างประเทศมาน่ะเลยจบช้ากว่าเพื่อน ไม่ต้องงง” ผมร้องอ๋อ พลันเปลี่ยนเรื่อง “งั้นผมขอเบอร์หน่อยครับ จะได้เอาไว้ติดต่อกัน พอดีงานนี้มันเป็นงานยาว ต้องคู่กันจนกว่าจะหมดเทอม อาจารย์ฝากผมให้คอยดูแลพี่ด้วย ผมจะได้โทรตามเวลาพี่ไม่มาเรียน” เขาพยักหน้า ยกมือข้างหนึ่งขึ้นปิดปากที่กำลังหาว ส่วนมืออีกข้างยื่นมาขอโทรศัพท์จากผม พอยื่นให้ เขาก็จัดการกดเบอร์ตัวเองให้ แล้วส่งคืนมา “เมมไว้ว่าพี่ชิณณ์นะ ชื่อเล่นพี่เอง แล้วเราชื่ออะไร” ถามรอบนี้ก็ยังไม่มองหน้าผม ขยี้หูขยี้ตาไล่ความงัวเงียไปเรื่อย “มาวินครับ” “อืม ยินดีที่ได้รู้จักนะมาวิน” ผมพยักหน้ารับทั้งที่เขาไม่สนที่จะแลสายตามามองเลยสักนิด แต่ก็ดี ไม่ต้องมองหน้าอย่างนี้แหละดีแล้ว ผมไม่อยากจะสบตาเขาแล้วเห็นกระโป๊วเผี่ยวสักเท่าไหร่ เห็นว่าจบเรื่องแล้ว ผมเลยจะเอาใบรายชื่อไปส่งอาจารย์ หากแต่พอหันหลังให้เท่านั้น จู่ๆ แขนผมก็ถูกดึงไปด้วยฝีมือของใครบางคน ร่างกายหันกลับไปโดยอัตโนมัติ แล้วก็จ๊ะเอ๋! แม่งสบตากับไอ้พี่ชิณณ์เข้าจังๆ เลยเว้ย! มึงไม่มองหน้ากูมาตั้งนาน จู่ๆ มาทำอะไรของมึงเนี่ย! ชุดนักศึกษาที่อยู่บนตัวคนตรงหน้าหายวับไปทันที เหลือเพียงเนื้อตัวขาวๆ ที่ปรากฎให้เห็น ผมกลอกตามองบน พยายามจะคงระดับสายตาไม่ให้ตกลงไปอยู่ด้านล่าง และไอ้การมองบนนี่แหละที่ทำให้ผมเห็นหน้าของคนตัวสูงกว่าได้อย่างชัดเจน นี่มัน... ฮิคารุซามะนี่หว่า! ฮิคารุซามะ นักแสดงหนังโป๊เกย์ที่เห็นบนหน้าปกดีวีดีของคชาจริงๆ หน้าโคตรเหมือน ผิดกันเล็กน้อยก็แค่ทรงผมของพี่ชิณณ์ดูจะสั้นกว่า และเขาไม่ได้ย้อมผมสีน้ำตาลอ่อนเหมือนฮิคารุซามะตัวจริง เป็นผมสีดำตามธรรมชาติ ดูเผินๆ หน้าตาดีกว่าฮิคารุอะไรนั่นอีก ยิ้มทีนี่ มั่นใจได้เลยว่าสาวๆ เห็นมีละลายกันบ้างล่ะ หน้าอย่างหวาน แต่ก็ยอมรับเลยว่าหน้าตาเขาเหมือนกับฮิคารุอะไรนั่นอย่างกับแกะ ถ้าบอกว่าเป็นคนเดียวกัน ผมก็เชื่อ “ลืมไปเลย ขอเบอร์เราไว้ด้วยสิ เผื่อพี่มีธุระอะไรจะได้โทรหา แบบว่าชวนกินข้าวไรงี้ พี่ไม่ค่อยมีเพื่อนน่ะ มันจบกันไปหมดแล้ว บางทีมันเหงา อยู่มอแบบไม่มีใครรู้จักเนี่ย ไหนๆ เราก็ต้องทำงานร่วมกัน สนิทกันไว้แล้วกันเนอะ” ผมได้สติอีกครั้งหลังจากเอาแต่จ้องหน้าเขา แล้วก็สติหลุดไปอีกทีเมื่อริมฝีปากสีชมพูสวยนั้นยกยิ้มขึ้นมา หน้าหวานจริงๆ ด้วย แล้วก็น่าคบหาสุดๆ ดูโคตรเป็นมิตร แต่จะน่าคบหามากถ้ามึงไม่สบตากูแล้วเห็นไข่น่ะ! “เอ้าเงียบ ว่าไงเรา ตกลงโอเคไหม ถ้าโอเค พี่ก็ขอเบอร์ด้วยนะ” เห็นผมไม่พูดอะไร เขาก็มีท่าทางเก้ๆ กังๆ ขึ้นมา ผมไม่อยากจะตอบรับหรอก แต่ก็นะ ไม่รู้จะปฏิเสธยังไงเลยพยักหน้ารับไปอีกที แล้วก็ยื่นมือขอโทรศัพท์เขามากดเบอร์ตัวเอง เรียบร้อยแล้วก็ส่งคืนให้ “ค่อยยังชั่ว นึกว่าจะหูตึงซะแล้ว พูดอะไรไม่เห็นหือเห็นอือ ดูท่าทางเป็นคนเข้ากับคนยากนะเรา” “ผมแค่ไม่ค่อยชอบสุงสิงกับคนอื่นครับ ไม่ได้เข้ากับคนยากหรอก” ผมว่าไปตามตรง เหลือบมองไปยังมือเขาที่จับต้นแขนผมไม่ยอมปล่อยเล็กน้อย ก่อนจะพูดออกมา “จะให้ผมเอารายชื่อไปส่งอาจารย์ได้หรือยังครับ” “เอ้า ขอโทษที งั้นแยกกันเลยก็แล้วกัน พี่มีงานต้องไปทำต่อ ไว้เจอกันนะ” พี่ชิณณ์ปล่อยมือออก ยกมือขึ้นสูงในอากาศเป็นเชิงว่าลืมตัวเลยจับไว้ซะนาน ยิ้มให้ผมเล็กน้อย ก่อนจะหมุนตัวไปเก็บข้าวของลงกระเป๋าสะพายข้าง แล้วเป็นฝ่ายเดินออกจากห้องไปก่อนผมซะอย่างนั้น ผมมองตามแล้วถอนหายใจ ช่วงนี้ถอนหายใจบ่อยเหลือเกิน เจอคนแปลกๆ ก็บ่อย ไอ้บ้าคชานั่นก็คนนึงแล้ว ยังจะมาเจอพี่ชิณณ์อะไรนี่อีก นี่เรียนวิชานี้มาเกือบจะครึ่งเทอมละ เพิ่งจะเคยเห็นหน้าครั้งแรก ก็อย่างที่อาจารย์บอกว่าเขาเพิ่งมาเรียนครั้งนี้เป็นครั้งแรก แต่ทำไมมันต้องมาแจ็กพ็อตลงที่ผมพอดีด้วยล่ะ คิดไป ยังไม่ทันจะได้คำตอบ ร่างสูงที่เดินออกจากห้องไปแล้วก็เดินถอยหลังกลับมาร้องเรียกผมอีกครั้ง ให้ผมหันไปสบตา สบตารอบแรกไม่เห็นส่วนล่างเพราะผมไม่ได้มอง แต่มารอบนี้ไม่ทันได้ตั้งตัวไง โอ้โห! ก้นขาวโบ๊ะ ข้างหน้าก็วับๆ แวมๆ ห้อยต่องแต่ง ตาแทบบอดเลยพับผ่า! “ไว้พรุ่งนี้พี่จะโทรหาตอนเที่ยงนะ ไปกินข้าวด้วยกัน จะได้คุยเรื่องงานกันด้วย จะได้ทำแต่เนิ่นๆ ” แล้วเขาก็ยกมือขึ้นเป็นสัญลักษณ์โอเค ตกลงปลงใจเองทั้งที่ผมยังไม่ได้เอ่ยปากอะไรสักนิด ก่อนจะหายตัวไปจากหน้าประตูอีกครั้ง เป็นคนแปลกๆ จริงๆ ด้วย แต่ท่าทางจะไม่ใช่พวกโรคจิต ถ้าเป็นพวกโรคจิต ต้องสบตาแล้วไม่เห็นป๋องแป๋งเหมือนไอ้คชา แต่อย่าเลย แค่คชาคนเดียว ผมก็ปวดหัวจะแย่อยู่แล้วล่ะ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม