เมื่อครบกำหนดสามวันมัดไหมก็ไปหาลูคัสที่บริษัทพร้อมเอกสารสัญญาที่ตนเองได้ลงนามเอาไว้ ชายหนุ่มจึงยิ้มด้วยความพึงพอใจ ก่อนจะจรดปลายปากกาลงนามด้วยคน โดยมีเลขาหนุ่มเป็นพยาน
จากนั้นหญิงสาวก็ขอตัวกลับ เพราะมีธุระอีกหลายอย่างที่ต้องทำ แต่ชายหนุ่มขอร้องให้เธออยู่ต่อ เพราะมีคนที่จะแนะนำให้รู้จักก่อนไปรัสเซีย สักพักใหญ่ประตูห้องทำงานของลูคัสก็ถูกเปิดออกด้วยฝีมือของเลขาพร้อมกับการปรากฏตัวของนารา
“นี่นารา คนที่จะเข้าไปช่วยคุณสืบหาข้อมูล” ลูคัสผายมือไปทางนาราเพื่อแนะนำให้มัดไหมได้รู้จัก เด็กสาวจึงยกมือขึ้นไหว้อย่างมีมารยาทพลางใช้สายตากลมโตของตนเองสำรวจใบหน้าของมัดไหมไปด้วย และไม่ลืมที่จะบอกว่าตนเองนั้นอายุน้อยกว่า
“สวัสดีค่ะ พี่มัดไหม นาราอ่อนกว่าพี่สามปี”
“สวัสดีค่ะ น้องนารา อายุเท่ากับน้องสาวพี่เลย” มัดไหมยิ้มรับด้วยความยินดี รู้สึกถูกชะตากับผู้หญิงตรงหน้าเป็นอย่างมาก อาจเป็นเพราะนาราอายุเท่ากับน้องสาวของเธอก็ได้ทำให้คลายกังวลเรื่องที่จะไปเป็นสายลับไม่น้อย
“งั้นนาราขอฝากเนื้อฝากตัว เป็นน้องสาวพี่มัดไหมอีกคนนะคะ”
“ได้เลยค่ะ เรียกพี่ไหมก็ได้นะ”
“ค่ะ พี่ไหม” คนอยากมีพี่น้องรีบพยักหน้าหงึก ๆ ด้วยความเต็มใจ แดเนียลที่จ้องมองอยู่จึงส่ายหัวเล็กน้อย คล้ายเอ็นดูก่อนจะตีหน้าขรึมเหมือนเดิม เมื่อหันไปเจอเจ้านายกำลังมองมา ลูคัสจึงหัวเราะเบา ๆ ในลำคอก่อนเอ่ยกับมัดไหมอย่างเป็นการเป็นงาน
“ในเมื่อทำความรู้จักกันแล้ว ผมจะบอกให้คุณมัดไหมรู้ ในทีมของเรามีคนที่รู้เรื่องภารกิจนี้ด้วยกันสี่คน คือ ผม คุณมัดไหม นารา แล้วก็แดเนียล ผมส่งนาราให้เข้าไปช่วยคุณมัดไหมในการสืบข้อมูลพร้อมกับปกป้องคุณไปด้วย หวังว่าคุณมัดไหมจะสบายใจขึ้นนะครับที่ได้ทำงานนี้”
“ดิฉันไม่มีปัญหาค่ะ มีคนเข้าไปช่วยก็ดีจะได้หายใจหายคอสะดวก”
เธอยิ้มด้วยความจริงใจทำให้ลูคัสตาพร่าไปชั่วขณะ เหมือนคนต้องมนตร์สะกดแต่เพียงครู่เดียวเท่านั้นจึงไม่มีใครสังเกตเห็น ยกเว้นเลขาคู่ใจที่แอบอมยิ้มตรงมุมปาก และอดคิดไม่ได้ว่าอีกไม่นานเจ้านายต้องมีข่าวดีแน่ เพราะเขาไม่เคยเห็นลูคัสมองสาวที่ไหนด้วยสายตาอย่างนี้มาก่อน
“โอเค งั้นวันเดินทางผมจะให้คุณเดินทางไปพร้อมกับนารา ส่วนผมกับแดเนียลจะเดินทางล่วงหน้าไปก่อน เพื่อไม่ให้มีคนสงสัย คุณมีอะไรจะถามผมไหม”
“มีค่ะ แล้วคุณลูคัสจะให้ดิฉันเข้าไปสืบข้อมูลยังไง” ถามพร้อมกับขมวดคิ้ว ไม่ใช่แค่มัดไหม นาราเองก็พยักหน้าสงสัยเหมือนกัน เนื่องจากเธอยังไม่รู้อะไรเลยนอกจากว่า ตนเองต้องไปเป็นสายลับที่บริษัทของลูคัสซึ่งอยู่รัสเซีย
“ผมจะให้คุณกับนาราเข้าไปเป็นพนักงานใหม่ของฝ่ายบัญชี ผมให้
แดเนียลจัดการปลอมแปลงประวัติของคุณเรียบร้อยแล้ว รวมถึงนาราด้วย จำเอาไว้ว่าคุณทั้งสองคนคือญาติห่าง ๆ ของเฟรียาภรรยาของพี่ชายผม กำลังหางานทำพอดี เฟรียาก็เลยฝากคุณทั้งสองมากับผม”
เพราะบริษัทใหญ่กำลังขาดคน ในฐานะรองประธานลูคัสจึงใช้จังหวะนี้เสียบสองสาวเข้าไปเป็นพนักงานพร้อมกับให้สืบข้อมูลเสียเลย
“แล้วนารากับพี่มัดไหมต้องไปพักที่ไหนคะบอส”
“เพนต์เฮาส์ของเจ้านาย” แดเนียลเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ เขาได้รับมอบหมายให้จัดการที่หลับนอนของสองสาวจึงตอบแทน
ลูคัสสั่งให้เลขาจัดหาห้องที่อยู่ไม่ห่างจากบริษัทมากนักเพื่อความสะดวกในการเดินทาง
สายลับทั้งสองจึงได้เข้าไปอยู่ในบ้านสุดหรูของเจ้านายหนุ่ม ที่ทั้งชั้นมีเพียงสองห้องเท่านั้น อีกอย่างไม่มีใครรู้ด้วยว่าเป็นบ้านของลูคัสเพราะก่อนหน้านี้เป็นของเฟรียาที่โลแกนซื้อให้เป็นของขวัญ ซึ่งลูคัสได้ขอซื้อต่อเพื่อใช้ในการนี้โดยเฉพาะ
“ใช่ ที่เพนต์เฮาส์ของผม คุณมัดไหมกับนาราจะได้อยู่กันคนละห้องเพื่อความเป็นส่วนตัว มีอะไรจะถามอีกไหม”
“แล้วจะไม่มีใครสงสัยดิฉันกับนาราจริง ๆ เหรอคะ ที่อยู่ ๆ ก็เข้าไปทำงานที่บริษัทยักษ์ใหญ่แบบนั้น”
“ก็อาจจะมีบ้าง แต่คุณก็ทำเนียน ๆ เข้าไว้ ไม่รู้ไม่เห็นไม่ได้ยินก็พอ”
“ไม่ต้องกังวลไปนะคะพี่ไหม นาราจะดูแลพี่ไหมเอง”
“ขอบใจจ้ะ ถ้าไม่มีอะไรแล้วดิฉันขอตัวกลับนะคะ อ้อ น้องนาราพี่ขอเบอร์หน่อยจะได้ติดต่อกันสะดวก”
“ได้เลยค่า”
จากนั้นสองสาวก็ทำการแลกเบอร์ติดต่อกัน ก่อนที่มัดไหมจะขอตัวกลับเพราะมีธุระต้องไปทำต่อ นาราเองก็ขอตัวเหมือนกันเนื่องจากตนเองได้รับงานฟรีแลนซ์งานสุดท้ายเอาไว้ ก่อนไปรัสเซียจึงต้องทำให้สำเร็จภายในสัปดาห์นี้
เมื่อสองสาวหายออกไปจากห้องทำงาน ลูคัสก็สั่งให้เลขาเปิดกล้องวงจรปิดเพื่อดูว่ามัดไหมออกไปถึงไหนแล้ว
แต่เรื่องที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อในจอสี่เหลี่ยมปรากฏภาพ ที่หญิงสาวกำลังโดนรถมอเตอร์ไซค์เฉี่ยวตรงหน้าบริษัทพอดี ทำให้เธอล้มลงไปอยู่บนพื้นในขณะที่กำลังจะก้าวไปยังรถของตนเองที่จอดห่างออกไปไม่กี่ก้าว ลูคัสจึงพุ่งตัวออกไปจากห้องทำงานอย่างรวดเร็ว โดยมีแดเนียลวิ่งตามไปติด ๆ