“ไม่ดีกว่า ผู้หญิงสวย ๆ น่ารัก ๆ มีตั้งเยอะ ผมไม่มีทางจีบยัยนาราเด็ดขาด”
“จำคำพูดของตัวเองไว้ก็แล้วกัน อย่าให้เห็นว่าเดินตามตูดเขานะโว้ย”
“แน่นอน ผมจีบคุณมัดไหมดีกว่า ทั้งสวย ทั้งน่ารัก ดูยังไงก็ไม่เบื่อ”
แดเนียลส่ายหัวพรืดไม่เอาเด็ดขาด โดยไม่ได้หันมองทางประตูห้องที่ยังไม่ปิดสนิททำให้นาราที่กำลังยืนแอบฟังอยู่อดใจแป้วไม่ได้ ผู้ชายที่เธอแอบชอบมาตั้งหลายปีไม่มองตนเองเลยสักนิด ใบหน้าขาวใสจึงหมองลงทันตาเห็น ก่อนขยับตัวเดินออกไปพร้อมด้วยหัวใจที่หน่วงแปลก ๆ
“เมื่อกี้ประตูไม่ได้ปิดสนิท นาราได้ยินหมดแล้ว”
“ละ...แล้วยังไงครับ ก็ช่างเธอสิ ผมไม่สนใจ”
“แน่ใจเหรอ ลองกลับไปคิดให้ดี ๆ ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป”
เลขาหนุ่มไม่ตอบแต่พยักหน้ารับ ก่อนจะก้าวเท้ายาว ๆ เดินออกไป เมื่อพ้นประตูห้องทำงานของเจ้านาย ก็รีบวิ่งไปที่ลิฟต์แล้วกดทันทีอย่างไม่ลังเล รอไม่นานประตูลิฟต์ก็เปิดออกจึงวิ่งเข้าไปข้างใน แล้วกดชั้นของลานจอดรถอย่างลืมตัวราวกับสมองสั่งการโดยอัตโนมัติ เมื่อมาถึงก็เห็นหญิงสาวกำลังขี่รถสองล้อคู่ใจออกไปแล้ว
“ช่างเถอะ เธอจะรู้สึกยังไงก็ไม่ใช่เรื่องของเรา” ชายหนุ่มยักไหล่อย่างไม่แคร์ แต่ใบหน้าเต็มไปด้วยความกังวล เหมือนคนที่กำลังสับสนในความรู้สึกอย่างไรอย่างนั้น ก่อนจะสะดุ้งตกใจกับเสียงโทรศัพท์เพราะเลขาอีกคนของลูคัสโทร. ตามให้ขึ้นไปจัดการงานด่วน
ทางด้านของมัดไหมเมื่อกลับมาถึงบ้านหลังน้อยของตนเอง ก็รีบหอบเอกสารที่ลูคัสให้มาขึ้นไปบนห้องนอนทันที แม่บ้านที่ทำงานกันมานานหลายปีจึงขมวดคิ้วด้วยความงุนงง เพราะปกติเจ้านายสาวจะแวะทักทายตนเองเสมอ ก่อนจะขึ้นไปยังชั้นสองของบ้านหลังนี้
ทันทีที่ประตูปิดลงหญิงสาวก็รีบก้าวเท้าไปที่เตียงนอน จากนั้นก็วางของที่หอบหิ้วลงแล้วดึงเอกสารออกมาอ่านอย่างละเอียด เพื่อประกอบการตัดสินใจ ใบหน้าของเธอจึงยับยู่ยี่ในขณะทำความเข้าใจแต่ละข้อที่กำหนด ทั้งผลประโยชน์ เวลาของการทำงาน และอื่น ๆ อีกมากมาย
ลูคัสใจป้ำไม่น้อยนอกจากให้สเปิร์มแล้ว ยังมีเงินอีกจำนวนหนึ่งที่ใช้ทั้งชีวิตก็ไม่หมด หากเธอมีเหตุถึงแก่ชีวิตเขาจะมอบทรัพย์สินให้มัดมุกเป็นการชดเชยอีกเท่าตัว แต่การที่เธอจะไปเป็นสายลับจะต้องไม่มีใครรู้แม้กระทั่งน้องสาวคนเดียวเพื่อความปลอดภัย
“เอายังไงดีมัดไหม แกจะเอายังไงดี” หญิงสาวกลิ้งตัวไปมาบนเตียงนอนขนาดใหญ่หลังจากอ่านเอกสารครบทุกหน้า พร้อมกับขบคิดอย่างหนักเพราะตัดสินใจไม่ได้ อารมณ์อยากไปกับอารมณ์ไม่อยากไปกำลังตีกัน ก่อนที่เธอจะเด้งตัวจากเตียงนอน แล้วเดินไปหยิบเหรียญในกระเป๋าหนึ่งเหรียญเพื่อโยนหัวก้อย
“ถ้าออกหัวฉันไป ถ้าออกก้อยฉันไม่ไป”
สรุปเสร็จมัดไหมก็โยนเหรียญขึ้นไปกลางอากาศ เมื่อมันตกลงมาก็รีบเข้าไปดูพร้อมกับอ้าปากค้างตาโตเพราะเหรียญออกหัว แต่เธอไม่อยากเชื่อจึงลองเสี่ยงดวงอีกสองครั้ง ผลคือออกหัวหนึ่งครั้งออกก้อยหนึ่งครั้ง เท่ากับว่าหัวชนะนั่นคือเธอต้องไป
“เอาวะ ไปก็ไป ถือว่าไปหาประสบการณ์เขียนนิยายด้วยเลย”
คิดได้อย่างนั้นสมองของนักเขียนก็เริ่มทำงาน จึงเดินไปเปิดคอมพิวเตอร์แล้วเขียนข้อมูลลงใน Word ทันที ทั้งชื่อเรื่อง ทั้งพล็อตเรื่อง และตัวละครคร่าว ๆ อย่างจริงจัง จวบจนเวลาผ่านไปถึงเย็นของวันนั้นน้องสาวคนเดียวของเธอก็กลับมาจากทำงาน มัดไหมจึงบอกเรื่องทั้งหมดให้มัดมุกรู้
“อะไรนะคะ พี่ไหมจะไปรัสเซียกับคุณลูคัส” น้องสาวหันขวับมาจ้องพี่สาวด้วยความตกใจ หลังจากได้ยินเรื่องที่มัดไหมกุขึ้นมาว่า
ลูคัสต้องการเห็นพฤติกรรมของเธอก่อน ถึงจะยอมมอบสเปิร์มให้
เธอจึงต้องไปอยู่กับเขาที่รัสเซียเป็นการชั่วคราว โดยไม่ได้บอกเรื่องการเป็นสายลับตามที่ชายหนุ่มแจ้งในเอกสาร
“ใช่ เขาจะดูพฤติกรรมของพี่ก่อน”
“แล้วพี่ก็บ้าจี้จะทำแบบที่เขาบอกเนี่ยนะ”
“อืม ก็พี่ไม่มีทางเลือกนี่น่า”
“พี่ไหมหาคนอื่นเถอะ ผู้ชายในโลกนี้มีตั้งเยอะ ในประเทศของเราก็มากมาย”
“ไม่เอา พี่จะเอาคุณลูคัสคนเดียว มุกอย่าขวางพี่เลยนะ”
“มุกไม่ได้จะขวาง แต่มุกเป็นห่วงพี่เท่านั้นเอง เราเหลือกันสองพี่น้องจะให้มุกไม่เป็นห่วงพี่แล้วจะให้มุกเป็นห่วงใคร รัสเซียนะคะพี่ไหมนั่งเครื่องบินกี่ชั่วโมงกว่าจะไปถึง”
“มุกไม่ต้องเป็นห่วงพี่หรอก เอาไว้ว่าง ๆ พี่จะกลับมาหามุก สมัยนี้เทคโนโลยีไปไกลถึงไหนต่อไหนแล้ว ถ้ามุกคิดถึงพี่ หรือพี่คิดถึงมุกเราก็เฟซไทม์หากันได้ จริงไหม”
“เฮ้อ งั้นมุกแล้วแต่พี่ไหมค่ะ ถ้าพี่ไหมตั้งใจแล้ว มุกก็ยอมให้พี่ไหมไป”
“เย้ ๆ น่ารักจริง ๆ น้องสาวพี่ ขอบใจนะมุกที่ไม่เคยขัดขวางสิ่งที่พี่อยากทำเลย”
“มุกก็ขอบคุณพี่ไหมเหมือนกันที่คอยสนับสนุนมุกมาตลอด แล้วพี่ไหมจะไปวันไหน”
“ต้นเดือนที่จะถึงนี้”
“ต้นเดือนที่จะถึงนี้ ก็หมายถึงสัปดาห์หน้า”
“ใช่แล้วจ้ะ”
มัดไหมพยักหน้าหงึก ๆ ให้น้องสาวในขณะที่มัดมุกกำลังตกอยู่ในความรู้สึกตกใจจนพูดอะไรไม่ออก เพราะไม่คิดว่ามันจะเร็วขนาดนี้
ในเอกสารที่ลูคัสให้มาเขียนเอาไว้ว่า หากมัดไหมตอบรับการเดินทางจะเกิดขึ้นทันทีต้นเดือนหน้า ทำให้หญิงสาวเครียดไม่น้อยแต่เมื่อตัดสินใจแล้วเธอต้องยอมรับมัน