“ปีนี้เราจะไปออกค่ายแพทย์อาสากันที่จังหวัดเชียงรายเป็นเวลาสองสัปดาห์...” แกรี่บอกกับไข่มุกซึ่งก้มลงอ่านเอกสารอีกครั้ง จากนั้นระหว่างที่เขาพูด เธอก็พยักหน้าเป็นระยะๆ
“คุณหนูไข่มุกคะ น้ำมะนาวค่ะ” เขมอัปสรค้อมตัววางน้ำมะนาวให้ประธานในที่ประชุม
“ขอบคุณค่ะ” ไข่มุกกล่าวกับเลขาฯ ของแกรี่ เธอยกน้ำมะนาวขึ้นมาจิบไปด้วยฟังไปด้วย
“ชุมชนนี้ห่างไกลจากการคมนาคม พื้นที่ติดเขา ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวก ต้องเดินเท้าขึ้นไปสามกิโลเมตร มีประชากรประมาณ 60 หลังคาเรือน มีเด็กทั้งเล็กทั้งโตราวๆ 100 คน ส่วนเรื่องแพทย์เฉพาะทางที่ต้องการเป็นพิเศษจะได้คำตอบจากทางนั้นประมาณต้นเดือนหน้า” แกรี่มองหน้าหมอมิ้นต์เชิงตำหนิสำหรับความล่าช้าในเรื่องนี้
“เมื่อวานฉันได้ติดต่อไปอีกครั้ง แต่ทางนั้นยังให้คำตอบไม่ได้ อีกอย่างเมื่อปีที่แล้วเราก็ไปที่นั่น นอกจากรักษาและให้ความรู้ เรายังนำยาสามัญไปให้กับทางชุมชนเป็นจำนวนมาก จึงอาจยังไม่มีความต้องการมากเท่าไร” หมอมิ้นต์รายงานความคืบหน้า
ไข่มุกมองหมอมิ้นต์ก่อนจะเลื่อนสายตาไปมองแกรี่ หญิงสาวถอนใจเล็กน้อยแล้วหยิบโทรศัพท์มือถือมาไถไปเรื่อยๆ หูก็ฟังไปด้วย หมอมิ้นต์ลอบมองเหยียดคนที่ไม่รักษามารยาทก่อนจะพูดต่อ
“ตอนนี้มีชุมชนหนึ่งในจังหวัดน่านได้ยื่นเรื่องมาที่โรงพยาบาลว่าต้องการความช่วยเหลือ เพราะเห็นว่าเรามีการนำหน่วยแพทย์อาสาไปลงพื้นที่ต่างจังหวัดทุกปี อยากให้เราไปที่นั่นบ้าง หมอต้าร์จะลองเปลี่ยนมายังพื้นที่ที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนกว่าไหมคะ”
“แล้วทางนั้นได้บอกมาไหมว่าต้องการแพทย์เฉพาะทางด้านไหน ต้องการให้เราไปช่วยอะไรบ้าง มีประชากรกี่หลังคาเรือน” แกรี่ไล่ถามหมอมิ้นต์
“เขาแจกแจงรายละเอียดมาแล้วค่ะ” หมอมิ้นต์หันไปส่งสายตาบอกแกมแก้วให้แจกเอกสารให้กับทุกคน
“30 หลังคาเรือน เด็กเล็กกับเด็กโตประมาณ 60 คน ต้องการทันตแพทย์ ยากำจัดเหา ต้องการให้ตรวจโรคความดัน เบาหวาน และอยากให้จัดบุคลากรไปให้ความรู้ทางด้านสาธารณสุข” แกรี่สรุปตามเอกสารพลางพยักหน้า “ที่ประชุมเห็นว่ายังไงมั่งครับ”
“จำนวนประชากรและความต้องการที่ทางนั้นแจ้งมา ถือว่ากลางๆ ไม่มากไม่น้อย ใช้เวลาลงพื้นที่ไม่ถึงสัปดาห์ ถ้าแบบนั้นตอนนี้เรามีทีมอาสาเพียงพอแล้วครับ” เจ้าหน้าที่ที่คร่ำหวอดเรื่องค่ายอาสาประเมิน
จากนั้นที่ประชุมก็พากันลงมติเป็นเสียงเดียวกัน
“งั้นทุกฝ่ายก็รวบรวมตัวเลขที่ต้องใช้ให้กับฝ่ายบัญชี เพื่อนำเสนอไปยังคุณวศิน” แกรี่สั่งทุกคน
“สรุปว่าเปลี่ยนไปจังหวัดน่าน?” ไข่มุกเพิ่งจะถามหลังจากแกรี่มอบหมายงานเสร็จสิ้น มิ้นต์กลอกตาใส่ประธานในที่ประชุมที่ทำตัวเหมือนเด็กหลังห้อง
“ครับ” แกรี่ตอบ “ทางฝ่ายบัญชีของโรงพยาบาลจะทำแผนงาน รวมทั้งรายละเอียดสำหรับเงินสนับสนุนที่ต้องใช้ไปให้กับคุณวศินโดยเร็วที่สุด”
“มุกมองว่ามันไม่ถูกต้องที่เราจะตีความเองว่าการที่เชียงรายยังไม่สรุปอะไรมาให้เรา เขาจะไม่ต้องการความช่วยเหลือ และถึงแม้ปีที่แล้วเราจะนำยาสามัญไปให้เขาเอาไว้ใช้เป็นจำนวนมาก มันก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะไม่เจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรังอื่นๆ และจำนวนประชากรของที่นี่ก็เยอะกว่าที่น่านเท่าตัว” ไข่มุกสรุปความทั้งหมดบ้าง
“หมายความว่าคุณไข่มุกจะให้เราปฏิเสธอีกที่” หมอมิ้นต์มองหน้าหญิงสาวอย่างขบขันสำหรับบทสรุปแสนเอาแต่ใจ โดยไม่แคร์มติในที่ประชุม
“หมอมิ้นต์มีนิสัยชอบสรุปแทนคนอื่นเหรอคะ ถ้าใช่ เลิกได้เลิกนะคะ เพราะมุกไม่ได้หมายความแบบนั้น”
“แล้วยังไงล่ะคะ ในเมื่อเราต้องเลือกที่ใดที่หนึ่ง” หมอมิ้นต์แบมือสองข้างเสมอไหล่ ใช้ภาษาท่าทางกวนกลับไป
“ไม่ได้ดูข่าวเหรอคะว่าเมื่อเช้าวานเชียงรายโดนหางพายุที่พัดมาทางพม่า มุกคงไม่เอาความไว้วางใจของพ่อมาทำลายด้วยการนั่งเล่นมือถือในที่ประชุมหรอก มุกแค่รีเช็กว่าพายุเข้าวันไหนถึงวันไหน ถ้าคุณโทร.ไปเมื่อวาน คุณไม่ได้คำตอบแน่นอนค่ะ และหลังจากพายุสงบ มุกคิดว่าเราต้องจัดกองทัพแพทย์และอาสาสมัครไปเลยละค่ะ”
ไข่มุกพลิกหน้าจอมือถือและยื่นให้แกรี่กับหมอมิ้นต์ดูข่าวที่เธอเปิด รวมถึงคนอื่นๆ ด้วย
“มุกมาทำหน้าที่ ‘ฟัง’ การประชุมแทนคุณวศินเสร็จแล้ว ตอนนี้มุกจะทำหน้าที่แทนท่านประธานเอเดรียนบ้าง มุกขอฝากการบ้านไว้นะคะว่า...” ไข่มุกกวาดตามองทุกคนก่อนเอ่ยต่อ “มุกไม่เลือกที่ใดที่หนึ่ง แต่มุกยินดีที่จะให้เงินทุนสนับสนุนทั้งสองจังหวัด ไม่แปลกมั้งที่ปีนึงจะจัดบุคลากรทางการแพทย์ไปลงสองพื้นที่ หรือหลายๆ พื้นที่ก็ได้ เพราะเรามีงบไม่จำกัด”
“แล้วงานในโรงพยาบาลล่ะคะ มันก็ต้องได้รับผลกระทบกับคนไข้ที่รอรับการรักษาเป็นจำนวนมาก” หมอมิ้นต์แย้งอย่างไม่เห็นด้วย
“หมอมิ้นต์กับหมอต้าร์ก็จัดทีมสลับกันไปสิคะ” ไข่มุกแบมือเสมอไหล่บ้าง “หมอมิ้นต์ไปน่าน ส่วนหมอต้าร์ไปเชียงราย ง่ายจะตาย แล้วก็จัดลูกทีมให้เหมาะสม น่านพร้อมก็ไปก่อน ส่วนเชียงรายคงต้องรอสักพัก”
“แต่ฉันกับหมอต้าร์ทำงานเข้าขา...”
ไข่มุกยกมือห้ามหมอมิ้นต์ “ไม่ต้องกังวลค่ะ นี่เป็นแค่ความเห็นของมุก คุณกับหมอต้าร์จะเข้าขาหรือเข้าอะไรกัน มุกไม่ก้าวก่ายทั้งเรื่องส่วนตัวและเรื่องการทำงานของพวกคุณ แต่ให้คำนึงถึงว่าเรามีเป้าหมายเดียวกัน เรากำลังทำประโยชน์ให้กับผู้ด้อยโอกาสในพื้นที่ทุรกันดารที่ต้องการความช่วยเหลือ ถ้าทางโรงพยาบาลสามารถจัดสรรบุคลากรทางการแพทย์และอาสาสมัครไปทั้งสองที่ได้ ก็สรุปตัวเลขไปให้ที่คุณวศินได้เลยค่ะ”
ไข่มุกลุกขึ้นยืน เท้ามือกับโต๊ะชะโงกหน้าไปทางหมอมิ้นต์ “เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา แต่มีปัญหาที่หาคนมาเอาเงินไปใช้ทำประโยชน์ไม่ได้นี่ละค่ะ”
พูดจบก็หันหลังจะเดินออกจากห้อง แกรี่เห็นท่าทางการทรงตัวที่ดูย่ำแย่ของเธอจึงพยักหน้าให้กับทุกคน บ่งบอกว่าปิดการประชุม และรีบเดินไปประกบไข่มุกที่กำลังก้าวออกจากห้อง
“ไหวไหม”