“นี่เป็นห้องทำงานนะคะ ถ้าเกิดอยากได้อะไรเพิ่มเติมก็แจ้งอรได้เลย เดี๋ยวอีก 10 นาทีอรจะมาพาไปที่ห้องประชุม เชิญทุกคนตามสบายค่ะ”
อิงอรที่เป็นคนเดินออกมาต้อนรับแขกของเจ้านายบอกขึ้นพร้อมกับแจ้งเวลาการประชุม ก่อนจะเดินกลับออกไปปล่อยให้แขกทั้งสามได้พักผ่อนก่อนจะต้องเข้าประชุมกับเจ้านายของเธอ
“ว๊าวววว ดูห้องทำงานของเราสิ บ่งบอกการเงินของบริษัทนี้ได้เป็นอย่างดี...”
เควิน หนุ่มหล่อช่างวางแผนแถมมีความรู้รอบตัวอย่างหาคนเทียบยาก เขามองไปรอบๆห้องที่ต้องใช้ทำงานชั่วคราวอย่างเริ่มประเมินบริษัท ไม่ต่างจากแครอล เมื่อพวกเธอต้องมาประเมินความสามารถของบริษัทนี้เพื่อวางแผนการก่อตั้งบริษัทใหม่ที่อเมริกาตามที่เจ้าของขอมา
“สตาร์เรียลเอสเตทอย่างนั้นเหรอ...ทำไมเหมือนเคยได้ยิน...”
ทางด้านอลิสาที่ได้รับงานอย่างกะทันหันกำลังมองไปยังเอกสารตรงหน้าพร้อมกับมองชื่อบริษัทอย่างรู้สึกคุ้นหูเหมือนเธอเคยได้ยินมาก่อน แต่จำไม่ได้ว่าได้ยินที่ไหนกัน
“ได้ยินว่าเดวิดให้ความสำคัญกับบริษัทนี้มาก เราคงต้องทุ่มเทกันสักหน่อยแล้วล่ะ”
แครอลบอกขึ้น เพราะปกติเธอแทบไม่ได้แยกห่างจากเจ้านายอย่างเดวิดเลย เขาไปที่ไหนเธอต้องอยู่ที่นั่นเหมือนเงาตามตัว แต่ครั้งนี้กลับต่างออกไป เมื่อเธอถูกส่งมาช่วยงานโดยไร้เงาของเจ้านาย
จากนั้นทั้งสามก็เริ่มนั่งประจำที่ เมื่อห้องนี้ค่อนข้างใหญ่และทุกคนต่างถูกจัดให้อยู่คนละมุมและค่อนข้างเป็นส่วนตัวเวลาทำงาน จนกระทั่งอิงอรเดินเข้ามาแจ้งถึงเวลาเข้าประชุม ทั้งสามเดินตามออกมาและห้องประชุมก็อยู่ชั้นเดียวกันกับห้องทำงานของพวกเธอด้วย
‘ทำไมเขา...’
พอเดินเข้าไป อลิสาถึงกับตัวแข็งทื่อก้าวขาแทบไม่ออก เมื่อตอนนี้คริสเตียนกำลังนั่งมองมาที่เธออย่างตกตะลึงไม้แพ้กัน
‘นี่มันอะไรกัน...’
คริสเตียนคิดขึ้นอย่างไม่อยากเชื่อว่าอลิสาจะเป็นหนึ่งในทีมงานที่คุณเดวิดส่งมา เขาเห็นรายชื่อแล้วเมื่อสามวันก่อนและแน่ใจว่าไม่มีอลิสาในรายชื่อนั้นแน่นอน
“อลิซ...อลิซเป็นอะไรรึเปล่า?”
แครอลที่เห็นว่าอลิสาไม่ยอมเดินตามเข้ามาในห้องประชุมเธอเลยเดินกลับไปกระตุกแขนเรียกสติจนอลิสาสะดุ้งสุดตัว
“คะ!? เอ่อ ค่ะ โทษที”
อลิสารีบดึงสติกลับคืนแล้วเดินไปนั่งยังเก้าอี้ว่าง ตอนนี้หัวใจดวงน้อยแทบหยุดเต้น ใบหน้าขาวซีดไปหมดเพราะไม่เคยคิดเคยฝันว่าจะต้องมาทำงานกับคริสเตียนแบบนี้
ส่วนคริสเตียน เขาแทบอยากลุกเดินกลับออกไปจากห้องประชุมถ้าไม่คิดว่าคนที่ส่งสามคนนี่มาคือคุณเดวิด
“คุณมนัสนำเสนอแทนผมแล้วกัน”
คริสเตียนสั่งขึ้น เมื่อเขาไม่มีอารมณ์ทำงานแล้วตอนนี้ ไม่ต่างจากอลิสา เธอแทบอยากเดินกับออกไปถ้าไม่คิดว่ากำลังทำงานอยู่ ทุกอย่างในการประชุมวันนี้แทบไม่เข้าหัวเธอเลยสักนิด เมื่อเอาแต่คิดไร้สาระไปต่างๆนานาพร้อมกับต้องคอยหลบสายตาอาฆาตของคริสเตียนอีก
“เขาดูเรื่องมากน่าดูเลยนะ เสนออะไรไปก็ปฏิเสธจนหมด คงต้องหาข้อมูลมาให้เลือกเพิ่มอีก”
พอการประชุมจบลง เควินที่เดินกลับมาที่ห้องทำงานกับแครอลถึงกับบ่นออกมา เขาอุตส่าหาข้อมูลมาเยอะแยะแต่คริสเตียนกลับไม่ยอมรับจนต้องหาข้อมูลเพิ่มอีก
“นั่นสิ เดวิดบอกฉันมาว่าเขาค่อนข้างฉลาด และทำงานแบบมืออาชีพมากด้วย...แต่เท่าที่ดู นอกจากปฏิเสธเขาไม่ได้ทำอะไรเลยสักนิด”
แครอลบอกขึ้นตามที่เธอเห็น เมื่อคำเดียวที่ออกจากปากของคริสเตียนในวันนี้คือไม่เห็นด้วย ขอให้หาข้อมูลเพิ่มทั้งๆที่เธอฟังดูมันก็ดูเข้าท่าทั้งหมดแท้ๆ
“แล้วลิซ่าจะรับมือได้เหรอ ดูเขาไม่ใช่ง่ายๆเลย”
“นั่นสิ...”
ทั้งสองได้แต่มองหน้ากันก่อนจะแยกย้ายกันไปทำงานต่อเมื่ออลิสานั้นถูกคริสเตียนเรียกเอาไว้หลังจากประชุมเสร็จ
“ลาออกจากโปรเจคนี้ไปซะ”
ทางด้านคริสเตียน เขาคงทำงานนี้ต่อไม่ได้ถ้ายังมีอลิสาในทีม เขาเรียกเธอเอาไว้ก่อนที่ทุกคนจะเดินออกไป และพอทุกคนเดินออกไปแล้วเขาก็พูดขึ้นทันที
“ฉันคงทำแบบนั้นไม่ได้”
อลิสาปฏิเสธออกมาอย่างไม่ต้องคิด เมื่อเธอไม่ได้ทำอะไรผิด เธอแค่มาทำงานของเธอ ส่วนคริสเตียนพอได้ยินแบบนั้นเขาถึงกับโมโหขึ้นมาทันที
“หรือที่กลับมาแถมพยายามเข้าหาฉันถึงที่นี่เพราะเธอต้องการอะไรจากฉันอย่างนั้นเหรอ? ห๊ะ!?”
เขายืนขึ้นแล้วตะคอกใส่เธอเสียงดังจนอลิสาตกใจ เพราะตั้งแต่ที่เคยคบกันมา ไม่มีเลยสักครั้งที่เขาจะขึ้นเสียงใส่เธอแบบที่ทำอยู่ตอนนี้
“ฉันมาที่นี่เพื่อทำงาน ส่วนเรื่องที่จะกลับไปหาคุณ...คงไม่มีวันนั้นไม่ต้องกลัวหรอก วันไหนที่ทำงานเสร็จฉันจะบินกลับอเมริกาทันที”
หมับ!!
พูดจบอลิสาก็ตัดสินใจหันหลังเพื่อจะเดินหนีเขาออกมา แต่คริสเตียนกลับไวกว่า เขาคว้าแขนของเธอเอาไว้แน่นพร้อมกับบีบจนอลิสาตกใจ
“อ๊ะ! อื้อ อลิซเจ็บนะ!!”
ด้วยความเจ็บ อลิสาเผลอใช้สรรพนามเหมือนที่เธอเคยใช้เมื่อหลายปีก่อน
“อย่ามาพูดแบบนั้นกับฉัน! เธอมันแพศยา! ฉันเกลียดเธอ!”
“...............”
คริสเตียนพูดออกมาเสียงดังแล้วเดินออกจากห้องประชุมไปโดยไม่คิดหันกลับมามองคนที่ยืนนิ่งอยู่ในห้องนั้น สองแก้มเนียนอาบไล้ไปด้วยน้ำตาแห่งความเสียใจ เธอไปทำอะไรผิดเขาถึงต้องทำร้ายจิตใจของเธอแบบนี้
ส่วนคริสเตียนตอนนี้หัวเสียสุดๆ พอเดินกลับมาที่ห้องทำงานเขาก็เปิดโหมดทำลายล้างทันที ทำเอาอิงอรที่ได้ยินถึงกับตกใจรีบวิ่งตรงไปที่ห้องเจ้านาย แต่พอเปิดประตูเข้าไปเธอกลับต้องรีบปิดมันกลับคืนเมื่อเธอไม่เคยเห็นคริสเตียนโมโหมากมายแบบครั้งนี้มาก่อนเลย
“เกิดอะไรขึ้น...ทำไมเขาน่ากลัวขนาดนี้...”
อิงอรได้แต่ยกมือทาบอก เมื่อเสียงในห้องทำงานของเจ้านายหนุ่มดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“โธ่เว้ย!!!! ทำไมต้องเป็นอย่างนี้ด้วยวะ!!!”
คริสเตียนที่พังของทุกอย่างจนเหลือแต่ซากได้แต่ยืนหอบเหนื่อย เขาควบคุมความโกรธของตัวเองไม่ได้จริงๆถ้ามันเกี่ยวข้องกับอลิสา ผู้หญิงคนแรกและเพียงคนเดียวที่เขารักมากและก็เกลียดมากไปในคราวเดียวกัน
“คุณอร”
คริสเตียนที่เปิดประตูห้องทำงานออกมาแล้วเดินตรงมาหาเลขาของเขา ทำเอาอิงอรถึงกับสะดุ้งตกใจ
“คะ!? ท่านประธาน!”
“ให้คนเข้ามาจัดการห้องด้วย อะไรพังก็ทิ้งให้หมดแล้วสั่งใหม่มา”
“ค่ะ...ได้ค่ะ...แล้ว...เฮ้อออ ไปซะแล้ว...”
พอสั่งเสร็จเขาก็เดินหนีออกไปทันที ทำเอาอิงอรได้แต่มองตามหลังผู้เป็นเจ้านายไป เธออยากจะถามเหลือเกินว่าเขาจะไปไหนหรือจะเข้ามาอีกไหมก็ไม่ทันแล้ว เมื่อดูท่าคริสเตียนหัวเสียสุดๆตอนนี้