‘นั่นไง เมาทีไรให้มาที่นี่ทุกที’
เสถียรคิดขึ้น เพราะเกือบจะถึงคอนโดของคริสเตียนแล้วแท้ๆ อยู่ดีๆเจ้านายของเขาก็บอกให้ขับรถมาที่นี่แทนเสียอย่างนั้น
“จอดตรงนี้แหละ...”
คริสเตียนสั่งขึ้น เมื่อไม่อยากไปจอดหน้าบ้านของอลิสาเหมือนอย่างเช่นเคย และพอรถจอดลง เขาก็ไม่ได้ลงไปเหมือนปกติเมื่อเอาแต่นั่งมองตรงไปยังบ้านหลังเล็กที่คุ้นเคย
‘วันนี้มาแปลกแฮะ...จะไม่ลงไปจริงๆเหรอ’
คนขับรถอดคิดขึ้นไม่ได้ เขาแอบมองเจ้านายหนุ่มผ่านกระจกมองหลัง เมื่อนอกจากนั่งมองอยู่เฉยๆคริสเตียนก็ไม่ทำอะไรเลย จนกระทั่งมีคนกลุ่มหนึ่งเดินผ่านมา คริสเตียนรีบหันหน้าหลบเพราะกลัวคนด้านนอกจะเห็นทั้งๆที่กระจกรถติดฟิล์มดำทึบขนาดนั้น
“นี่ยายฟ้าาา ฉานยางม่ายมาว พาฉานกลาบทามมายยยย”
เสียงอ้อแอ้ที่บ่งบอกว่าเมาสุดๆของคนด้านนอกดังขึ้น คริสเตียนรีบหันไปมอง ก่อนจะพบว่าเป็นอลิสา ที่เมามายจนเพื่อนชายต้องพยุงเธอกลับมาส่งโดยมีฟ้าใสและเพื่อนสาวตัวเล็กอีกสองคนเดินถือของตามมาไม่ห่าง
“อลิซ ใจเย็นๆก่อนสิ อย่าดิ้นนะ โอ๊ย! ทำไมเวลาเมาไม่ฟังอะไรแบบนี้”
วสันต์ เพื่อนหนุ่มร่างใหญ่อดบ่นไม่ได้ เมื่อเพื่อนสาวสุดสวยพอบทจะเมาก็เมาได้น่าตีสุดๆ เขาโอบกอดร่างบางเอาไว้แน่นเพื่อไม่ให้อลิสาล้มลงไปนอนที่พื้น
“ปล่อยยยย นายเปนครายยยย”
อลิสายังคงพยายามดันเขาออกจากร่างของเธอ จนฟ้าใสที่เดินถือกระเป๋าตามหลังต้องส่ายหัว เธอไม่น่ายุยงให้อลิสาดื่มเลยจริงๆทั้งๆที่อลิสาปฏิเสธขนาดนั้น
“ถ้าฉันรู้ว่าอลิซเมาง่ายขนาดนี้ ฉันจะไม่บังคับให้ดื่มหรอก เฮ้อออ ไม่น่าเลย”
ฟ้าใสอดโทษตัวเองไม่ได้ ก่อนที่จะรีบเดินไปเปิดประตูให้วสันต์พาอลิสาเข้าไปในบ้าน ที่ตอนนี้ดูสะอาดขึ้นกว่าแต่ก่อนมากแล้ว
“งั้นฉันไปล่ะ ไม่ไหวแล้วเหมือนกัน”
เพื่อนสาวอีก 2 คนที่เดินตามมาด้วยเอ่ยขอตัวเพราะทั้งง่วงทั้งเมาและโชคดีที่บ้านของพวกเธออยู่ในซอยถัดไปพอดี
“อื้อ ไปเถอะ เดี๋ยวฉันจัดการอลิซเอง”
ฟ้าใสบอกขึ้น เมื่อคืนนี้เธอคงต้องได้นอนเฝ้าอลิสาอีกคืนเป็นแน่ ก่อนที่วสันต์จะพาอลิสาเข้าไปในบ้าน
“นั่นมัน...เจ้าของบ้านครับเจ้านาย!”
เสถียรที่เห็นคนด้านนอกเดินเข้าไปในบ้านหลังที่เจ้านายของตัวเองชอบมายืนมองถึงกับรีบบอกขึ้นอย่างตื่นเต้น แต่พอหันมามองคริสเตียนเขากลับต้องรีบหุบยิ้มแล้วหันหน้ากลับไปนั่งเงียบแบบเดิมทันที
‘แพศยาสิ้นดี!’
คริสเตียนที่เห็นว่ามีชายหนุ่มหน้าตาดีโอบกอดร่างบางของอลิสาอย่างสนิทแนบแน่นอดคิดหึงหวงไม่ได้ สองมือกำแน่นเข้าหากัน สองตาจ้องมองตามเข้าไปในบ้านแทบไม่กระพริบ แต่ก่อนพื้นที่ตรงนั้นเคยเป็นของเขา ร่างนั้นนอกจากเขาก็ไม่เคยมีใครได้แตะต้อง แต่ตอนนี้มันคงเปลี่ยนไปแล้วเมื่อเขาไม่มีสิทธิ์อะไรเลยสักนิด ยิ่งคิดเขาก็ยิ่งโกรธ ก่อนจะยิ่งโกรธมากขึ้นไปอีกเมื่อเห็นฟ้าใสเดินกลับออกมาจากบ้านหลังนั้นคนเดียวหลังจากเดินเข้าไปกันสามคน
“โอ๊ย! ยัยปลิวลืมกระเป๋าจนได้ เฮ้อออ”
ฟ้าใสที่ถือกระเป๋าของเพื่อนสาวที่พึ่งเดินแยกตัวออกไปรีบวิ่งออกมาจากบ้านของอลิสา เธอวิ่งตามไปเพื่อจะคืนกระเป๋าให้โดยปล่อยให้อลิสาอยู่กับวสันต์ไปก่อน ทำเอาคริสเตียนที่มองอยู่ถึงกับเข้าใจผิดไปกันใหญ่
“เวรเอ้ย!!!”
เขาสบถขึ้นเสียงดังลั่นรถอย่างเหลืออดเมื่อเห็นว่าในบ้านมีเพียงอลิสากับผู้ชายอีกคน เขาคงคิดเป็นอื่นไม่ได้นอกจากสองคนนั้นคงนอนด้วยกัน
‘อะไรอีกเนี่ยยยย’
เสถียรคิดขึ้นพร้อมกับมองเจ้านายผ่านกระจกมองหลังอย่างรู้สึกกลัว เมื่อไม่เคยเห็นคริสเตียนดูโมโหแบบนี้มาก่อน
แกร็ก!
คริสเตียนรีบเปิดประตูรถเพื่อจะเดินลงไปที่บ้านของอลิสา แต่กลับต้องหยุดชะงักเมื่อร่างเล็กของฟ้าใสวิ่งกระหืดกระหอบกลับมาเสียก่อน เขาค่อยๆดันตัวเข้าไปในรถอีกครั้ง ก่อนจะมองเข้าไปในบ้านที่มีเพียงไฟสว่างเล็กน้อยส่องออกมา
“เฮ้อออ ขอบใจมากวสันต์ ว่าแต่นายกลับไหวเหรอ นอนที่นี่ไหมล่ะ ตรงโซฟาโน่นก็ได้”
ฟ้าใสรีบอกขึ้น เมื่อวสันต์พาอลิสาเข้าไปในห้องนอนเรียบร้อยแล้ว
“ได้เหรอ...ฉันก็เหนื่อยจนหมดแรงจะกลับแล้วเหมือนกัน”
วสันต์บอกออกมา เมื่อทั้งพูดคุยสนุกสนานแถมดื่มไปก็มากพอสมควรแล้วต้องมาลากอลิสากลับมาที่บ้านอีก ทำเอาเขาหมดแรงไปเลยทีเดียว
“อื้อ ได้ๆ จะอาบน้ำก็ได้นะ เดี๋ยวฉันไปเอาผ้าห่มออกมาให้”
และฟ้าใสก็จัดแจงทุกอย่างเหมือนกับเป็นบ้านของเธอเองก็ไม่ปาน ส่วนคนด้านนอก พอเห็นแบบนั้นเขาก็เริ่มสงบลง เขากำลังคิดว่าเขามาทำอะไรที่นี่...เวลากว่าสิบปีแล้วทำไมเขาไม่คิดลืมแล้วเริ่มต้นใหม่ ขนาดเธอยังลืมแล้วเริ่มต้นใหม่ได้ แต่ทำไมเขาทำไม่ได้กัน...ยิ่งคิดคริสเตียนก็ยิ่งรู้สึกโกรธตัวเอง
หนึ่งอาทิตย์ต่อมา หลังจากจัดการเรื่องบ้านเสร็จ อลิสาก็ย้ายออกมาอยู่คอนโด ซึ่งเป็นของบิดาบุญธรรมของเธอซื้อเอาไว้ มันเป็นคอนโดค่อนข้างหรูหราตามฐานะของเขา
“อะไรนะ? วันนี้แกจะไปทำงาน?”
ฟ้าใสถามขึ้น เมื่อเห็นอลิสาลุกขึ้นแต่งหน้าแต่งตัวซะสวยผิดปกติ
“อืม...”
“ไหนว่าแกทำงานที่อเมริกา หรือเปลี่ยนใจจะอยู่ที่นี่แล้ว?”
“เปล่า พอดีแด๊ดเกิดอุบัติเหตุ ขาต้องเข้าเฝือกเลยมาไม่ได้ ฉันเลยต้องเข้าไปทำงานแทนน่ะ”
“อ้ออออ”
อลิสาบอกออกมา เพราะอันที่จริงเธอแค่มาที่นี่เพื่อจัดการเรื่องบ้านจริงๆ แต่บิดาบุญธรรมพึ่งโทรมาบอกเมื่อวันก่อนว่าเขาเกิดอุบัติเหตุบินมาทำงานที่นี่ไม่ได้ ขอให้เธอเข้าไปจัดการแทน ซึ่งปกติเธอก็ช่วยงานเขาอยู่แล้วเลยสามารถเข้าไปทำงานแทนได้
จากนั้นอลิสาก็นั่งแท็กซี่ไปยังบริษัทที่บิดาบุญธรรมของเธอได้ส่งข้อมูลเข้ามาให้เมื่อคืน เมื่อเธออาจต้องทำงานอยู่ที่นี่จนกว่าโปรเจคสะเสร็จสิ้นเพราะดูจากอาการของบิดาบุญธรรมของเธอน่าจะใช้เวลาหลายเดือนกว่าจะกลับมาเป็นปกติ
“อ่าว แครอล คุณก็ถูกส่งมาที่นี่ด้วยเหรอ?”
“อลิซ! ไม่ได้เจอกันนานเลย เดวิดกลัวว่ามันจะหนักเกินไปสำหรับเธอเลยส่งฉันกับเควินมาช่วยน่ะ”
แครอล เลขาสาวคนสวยของ คุณเดวิด บิดาบุญธรรมของเธอถูกส่งให้มาช่วยงานอลิสา ทำเอาอลิสาถึงกับยิ้มออกเพราะมีแครอลมาช่วยงาน
“ขอบคุณนะ ฉันว่าเราเข้าไปข้างในกันเถอะ จะได้เวลาแล้ว”
จากนั้นสองสาวก็เดินเข้าไปในบริษัทอันใหญ่โตที่ตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางย่านธุรกิจของเมือง เมื่อตอนนี้ เควิน ผู้ช่วยด้านการวางแผนที่ถูกส่งมาพร้อมกับแครอลได้รออยู่ในบริษัทเรียบร้อยแล้ว