----05----
มาถึงเป็นตึกคู่ 2 คูหา 4 ชั้นก่อด้วยอิฐสีน้ำตาลสภาพจัดอยู่ในจุดที่ดีถูกประดับตกแต่งด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ แต่เยอะไปมั้ยเอาซะนกเป็นป่าเลยทางเข้าเนี่ย
"¥ผู้หญิงจะอยู่ฝั่งขวา ส่วนผู้ชายจะอยู่ฝั่งซ้าย"
อีพี่เฉินพูดพร้อมผายมือบอก เออดีถ้าไม่บอกอัญก็แยกไม่ได้ค่ะ
"¥ทำไมไม่ให้ผู้หญิงอยู่ซ้ายผู้ชายอยู่ขวา"
อีนี่ก็ถามไปด้วยความสงสัย เพราะธรรมเนียมไทยจะเป็นแบบนั้น หญิงซ้าย ชายขวา
"¥ทำไมก็ช่างเหอะ เข้าไปเก็บของก่อน"
เอ้า!! คำถามของฉันไม่ได้รับคำตอบ พี่เฉินเดินนำไปพร้อมกระเป๋าของฉัน ไม่สงสัยก็ได้วะ
เข้ามาถึงห้องแรกดูจะเป็นห้องรับแขก มันถูกตกแต่งได้น่ารักสมเป็นหอพักผู้หญิงเลยล่ะภาพวาดตัวการ์ตูนน่ารักๆ กับข้อความอะไรสักอย่างที่ถูกเขียนบนไวท์บอร์ด ดอกไม้เอย ริบบิ้นเอย ปอมๆ ลูกปัด โบว์ อืม....ฉันว่ามันชักจะรกแล้วนะ
"¥นั่นเป็นกระดานลงชื่อพร้อมเขียนความรู้สึกที่มาที่นี่"
ทำไมชอบมาเงียบๆ แต่ก็เออพูดช้าลงนิดนึงฟังเข้าใจขึ้น
"¥ลงชื่อไว้ก่อน พอจะย้ายออกค่อยเขียนความรู้สึกก็ได้"
พูดจบนางก็เดินไปนั่งที่เก้าอี้แล้วก็รินชาใส่แล้วใบเล็กๆ 2 ใบ
"¥มาดื่มชาก่อนสิ"
ฉันเดินไปนั่งที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับพี่แก
"¥คนอื่นๆ คงยังไม่กลับ อยากไปไหนมั้ย"
จะรู้มั้ยว่าจะไปไหน เพิ่งมาที่นี่ที่ไหนยังไม่รู้เลยเหอะ
"¥คือ...ไม่รู้ว่าควรจะต้องไปไหน"
"¥จริงสิ ไม่ใช่คนที่นี่ด้วยนิ"
ก็เออสิคะ พี่แกนิ่งไปแปบนึงก่อนจะยกแก้วชาขึ้นซดจนเกลี้ยง
"¥ไปดูเสื้อผ้ามั้ย"
"¥ไม่ ไม่ชอบซื้อเสื้อผ้า"
ฉันตอบแบบไม่คิด ปกติเป็นคนที่ไม่คลั่งแฟชั่นอยู่แล้วหยิบอะไรได้ก็ใส่ๆ ส่วนมากจะโฟกัสไปที่ของกินอยู่แล้ว
"¥งั้นอยากซื้ออะไร"
"¥กะ....แก้วมังกร"
คือจะพูดว่าไก่เต็มที่ แต่นึกขึ้นได้ก่อนว่าเออต้องกินเจเลยแถหลบลงข้างทางไปข้างๆ คูๆ
"¥ผลไม้เหรอ อืม...เอาของขึ้นไปเก็บชั้น 2 เดี๋ยวพี่พาไปตลาดของกิน"
เย้!!! มันต้องแบบนี้สิ ฉันรีบหิ้วสัมภาระที่แบกมาไปกองไว้ในห้องอะไรสักอย่างที่คิดว่าน่าจะเก็บไว้ได้ก่อน ช่างมัน รีบลงไปข้างล่างดีกว่า จะแอบไปกินไก่ให้สาสมใจเลยคอยดู!!!
นั่งรถมาบรรยากาศเงียบสงบประหนึ่งว่าอยู่ในป่าช้านั่งวิปัสสนาหวังจะบรรลุธรรม ถุย ถ้ายกขาขึ้นมาขัดสมาธิได้ก็จะนั่งสมาธิโชว์เลยเงียบเกิ้นนนน (เสียงสู้งงง) คนขับรถก็ตั้งใจ คนนั่งมาด้วยก็ภาษาจีนย่ำแย่พูดไรไม่ได้เลย จะชวนคุยรึก็นึกคำไม่ออก
มาถึงตลาดคือไทยแลนด์มากเวอร์ อารมณ์แบบตลาดสดที่บ้านเลยแค่มันดูสะอาด เป็นระเบียบการจัดผังตลาดมีที่มาที่ไปกว่า และที่สำคัญ กลิ่นไก่ทอดเอย ปลาหมึกเอย กลิ่นอาหารลอยคละคลุ้งราวกับกำลังเชิญชวนให้ก้าวเท้าเข้าไป
"¥เดี๋ยว...จะไปไหน"
เพอ่งจะยกขาขึ้นยังไม่ได้เอาขาลงเลยโดนเบรคซะแล้ว พี่เฉินแกหันมาคว้าแบนฉันไว้ ถามแปลกๆ พุ่งทะยานสู่ความอร่อยมาชิตะอะดิ (อูมามิเล่นกันเยอะแล้ว พ่ามมม!!)
"¥ไปหาของกินน่ะสิ"
ฉันตอบไป พี่แกถอนหายใจใส่
"¥ซอยอาหารเจทางนี้"
คำว่าอาหารเจแทรกตัวเข้าไปในรูหูพุ่งเข้าสูแกนสมองและขั้วหัวใจ โว้ยยยมาถึงตลาดขนาดนี้แล้วยังต้องมาถือศีลกินเจอีกรึไง
"¥แยกกันเดินก็ได้ค่ะ"
"¥ไม่ได้!! "
แง~ ไก่ทอดดด ?
ฉันถูกพรากออกจากอกและสะโพกไก่ทีาใฝ่ฝันหา มาเดินดูผักและเต้าหู้ที่ไร้ซึ่งวิญญาณ
"¥อยากกินอะไรก็บอกนะ เลี้ยง"
เลี้ยงผีอะไรล่ะ จะกินไก่โว้ย ที่นี่หรอ มะเขือเอย มะระเอย มันไม่ใช่!!! มันต้องเนื้อสิ
ฉันเดินตามคุณพี่เฉินไปนางก็ถามตลอดทางเอาอันนั้นมั้ย เอาอันนี้มั้ย แน่ล่ะ ไม่เอาค่ะ!!!
"¥กินอันนี้มั้ย? "
เต้าหู้ชุบแป้งทอดจ้า อยู่บ้านก็กินแต่เต้าหู้ มานี่ยังต้องมากินเต้าหู้อีกรึไง
"¥ไม่ดีกว่าค่ะ ไม่ชอบเต้าหู้"
"¥ไม่ชอบ เต้าหู้? "
พี่เฉินทวนคำพูดฉันอีกรอบ เพราะเหมือนฉันจะออกเสียงผิดไปเล็กน้อย แต่ก็นั่นแหละ เดาๆ เอาบ้างสิ
"¥ผักทอดก็ไม่ชอบ ก๋วยเตี๋ยวเจก็ไม่เอา จะกินอะไร"
เขาถามด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
"¥ก็...ผลไม้ไง"
ฉันแอบเห็นร้านผลไม้คล้ายๆ ที่ไทยอยู่ฝั่งบองที่มันไม่เจเลยอยากจะย่องไป
"¥อยากกินผลไม้อะไรล่ะที่นี่ก็เยอะแยะ"
"¥อยากกินร้านตรงนู้นค่ะ"
ฉันพูดพร่อมชี้มือไปทางทิศที่มีกลิ่นไกลโชยมาเป็นละลอก
"¥หาเรื่องไปกินเนื้อสัตว์ล่ะสิ"
"¥อะไรนะคะ"
ฟังไม่ทันแถมพูดเบาอยู่ในลำคอด้วย อะไรเนื้อๆ รู้ดี รู้ดีจังเลย
แต่นางก็อนุญาตให้ไป แต่ก็เดินตามติดแจไม่ห่างไปไหนเลยจ่ะ ติดแบบติดเกิน เรามาถึงร้านผลไม้ฉันก็เลือกๆ แต่นาก็แอบมองร้านหมูปิ้งข้างๆ โอ้ยหอมอ่ะ ไหนจะไก่ทอดร้านถัดไปนู่นอีก
"¥เสร็จแล้วก็ไปจะรออะไรอีก"
หึ้ย มารคอหอยจริง
❗️
เสียงโทรศัพท์พี่เฉินดังขึ้น เหมือนเสียงจากสวรรค์ แต่นางก็ไม่ยอมไปคุยที่อื่น ยืนเฝ้ามันอยู่นี่พูดอะไรก็ไม่รู้เร็วไฟแลบแรพอิสนาว ใส่อารมณ์ด้วย อัญอะหรอ อะโธ่ว ฟังไม่ออกสักคำ
"¥รออยู่นี่นะห้ามไปไหน"
"¥พี่จะไปไหน"
"¥ไปเอาผักตรงนี้ ที่บ้านสั่งไว้ แปบเดียว"
นางพูดอะไรสักอย่างผักๆ บ้านๆ พร้อมกับชี้ไม้ชี้มือก่อนจะวิ่งออกไป เชอะใครยะยืนโง่อยู่นี่ล่ะ ไปสิรีบไปซื้อรีบกิน ร่างกายต้องการเนื้อโว้ยยย
ฉันรีบตรงไปที่ร้านหมูปิ้งข้างๆ เพราะคิดดูแล้วมันใกล้ที่สุดจะไม่เสียเวลาเท่าไหร่
"¥เอาอันนี้ค่ะ"
ไม่พูดพร่ำทำเพลงฉันก็ชี้นิ้วสั่งมาแดก1 ไม้ เยอะกว่านี้ไม่ไหวเดี๋ยวกินไม่ทัน ไม่รู้พี่เฉินนางไปนานมั้ยด้วย พอได้ของแล้วก็จัดสิรอไร หมูในมือมันหอมมาก หอมกลิ่นนมสดที่ชุ่มอยู่ในเนื้อหมู
"แว้กกกร้อนอิสัสร้อนนน"
ด้วยความตะกละตะกลามก็เอายักเข้าปากโดยไม่สนอะไรไง แล้วเพิ่งยกมาจากบนเตาร้อนลิ้นแทบตาย
"ฟู่ๆ ๆ ๆ ๆ "
อะเป่าๆ ๆ ๆ ๆ อ้าาา~
จังหวะที่จะส่งหมูเข้าปากแบบปราณีตอีกรอบตามันก็ป้ะเข้ากับร่างสูงๆ ในเสื้อเชิ้ตสีขาวแขนยาว ใส่คู่กับกางเกงขายาวสีดำ ทรงผมแบบนี้ สีผิวประมาณนี้ หิ้วถุงผักมาด้วย ชิบหายแล้ว!! อีพี่เฉินแน่ ทำไงดี เอาไงดีวะ หมูทั้งไม้ ไม้นี้ก็ไม่ใช่เล็กๆ เลย ร่างสูงใกล้เข้ามาทุกที เอาวะร้อนลิ้นตายดีกว่าทิ้งเสียดายตัง ฉันตัดสินใจยัดหมูทั้งไม้เข้าไปในปากแล้วรีบเคี้ยวๆ ๆ ๆ ๆ หวังทำลายหลักฐาน แต่เพราะมันร้อนน้ำลายก็ท่วมปากล้นทะลักออกมานอกปากเยิ้มจนต้องยกมือขึ้นมาปาด ทำไมทุเรศทุรังแบบนี้วะ (เอาตัวเองเป็นนางเอกนี่จะทำอะไรก็ได้หรอ 555)
"¥ทำอะไรน่ะ"
ความร้อนยังคงขลุกขลิกอยู่ในปากแต่ก็ทะยอยส่งไปที่กระเพราะบ้างแล้ว พี่เฉินเดินมาถึงฉันก็ยิ่งต้องรีบเคี้ยวเพื่อที่จะตอบคำถามแก ฮึบๆ ๆ ๆ ง่ำๆ ๆ ๆ ๆ
"¥อิน เอ้า อู้ทอด"
เคลียร์ของไม่ทันหมดก็ตัดบทตอบๆ ไปก่อนเพราะหน้านางคือสงสัยเบอร์สุด
"¥อะไรนะ"
"อื้มมม..."
หมดพอดี มาขอตั้งสติแปบ
"¥กินเต้าหู้ทอด"
"¥ไหนบอกไม่ชอบเต้าหู้"
"¥ก็..."
ชิบหายละ อะไรดีวะ จะมาสงสัยบ้าบออะไรตอนนี้ ฉันมองซ้ายมองขวาหวังจะแถ แต่มันแบบความอร่อยมันเข้าไปจุกอยู่ในสมอง
"¥เอ่อ..."
นางชำเรืองมองไปที่ร้านหมูปิ้ง ชิบหายแล้วเอาไงดีวะ เอาไงๆ ๆ ๆ
"¥เต้าหู้ทรงเครื่องซอสเจเทอริยากิ"
"¥ห้ะ!? "
อยู่ๆ ปากมันก็ปล่อยประโยคบ้าบอคอแตกอะไรก็ไม่รู้ออกไปพรวดๆ แบบมั่วไป งงๆ ด้วย
"¥แอบกินหมูร้านนี้ใช่มั้ย"
"¥ไม่ได้กิน"
"¥แล้วกินอะไร
ทำไมเซ้าซี้จังเลยวะ แสบลิ้นก็แสบยังจะให้พูดอีก
"¥กิน...เต้าหู้"
"¥ไหนบอกไม่ชอบ"
"¥มันเป็นเต้าหู้...ทรงเครื่อง"
"¥แน่ใจ!!? "
"¥แน่ใจสิ กฏก็ต้องเป็นกฏ"
"¥คิดแบบนั้นก็ดี ไปเพื่อนๆ กลับมากัน แล้ว"
หู่ววว ปากกูววว!
นั่งรถมาสักพักนอกจากเสียงเพลงญี่ปุ่นที่พี่แกเปิดฟังก็ไม่มีเสียงอะไรเลย
"¥ทำไมนั่งแลบลิ้นแบบนั้นล่ะ"
พี่เฉินทำท่าทำทางตกใจปนขยะแขยง อ่อที่นั่งแลบลิ้นแบบนี้อะนะ เป็นวิธีรักษาอาการลิ้นโดนลวก (ที่คิดขึ้นเอง) โดยสาสอาจารย์แพทย์หญิงด็อกเด๋ออัญมณีคนนี้เอง
"¥เอ่อลิ้น มันเอ่อ..."
พองจะบอกไงวะไม่ได้เรียนมา
"¥มันอะไร"
"¥มัน...แอ่ะ มันฟู่ววว แว้กกกกแฮ่กๆ "
ยิ่งฉันทำท่าประกอบสีหน้าคนขับรถยิ่งรังเกียจขยะแขยงฉันไปใหญ่ ท่าที่ทำก็ประมาณว่าแลบลิ้นออกมา ทำหน้าเจ็บลิ้นเพราะร้อนที่กินของร้อนเข้าไป แล้วมือนีงจับลิ้น อีกมือก็พัด นี่มีน้ำลายย้อยด้วยสมจริงขนาดนี้ ไม่เข้าใจได้ไงวะ เข้าใจอะไรยากจัง
"¥นี่ทิชชู่"
นางพูดพร้อมโยนกล่องทิชชู่มาให้
"¥เข้าใจที่บอกรึป่าว"
ฉันถามเพราะหน้าแกดูไม่เก็ทเท่าไหร่
"¥อืมๆ ๆ "
"¥เข้าใจว่า"
"¥ปากเป็นร้อนใน"
ห้ะ!!! พูดไรวะไม่เข้าใจ ศัพท์แต่ละตัวที่เอามาพูดด้วยยากไปไหน
"¥แปบ"
จังหวะติดไฟแดงพี่เฉินนางก็คว้าโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดแอพแปลให้ฉันดู
"อ่อ...ปากเป็นร้อนใน....เห้ยยยย ¥ไม่ใช่ ไม่ได้เป็นไอ้นี่ ปากมันแฮร่แผลบๆ ๆ ๆ "
ฉันแลบลิ้นออกมาอธิบายอีกรอบ
"¥ไม่เป็นไร ไม่อยากรู้แล้ว"
แค่จะบอกว่าปากพอง ทำไมต้องทำท่ารังเกียจด้วยวะ เออช่างแม่ง!!!
ขามาเหมือนเห็นเซเว่นตรงไหนนะ แวะหน่อยอยากกินน้ำอัดลมหน่อย
"¥เอ่อ...ถึงเซเว่น แวะ ซื้อของแปบนึงได้มั้ยคะ? "
ฉันพยายามสื่อสารกับคนขับรถ นางพยักหน้าตอบ พอถึงเซเว่นก็แวะตามที่คุยกันไว้ ฉันรีบลงจากรถอย่างทันทีพอพี่เฉินนางแกะเข็มขัดนิรภัยให้
"¥เดี๋ยว!! "
"¥คะ? "
ฉันหันไปทางพี่เฉินไม่รู้นางเรียกทำไม
"¥ล้างมือด้วยนะ"
แหมมมๆ ๆ ๆ พ่ออนามัย พ่อคนสะอาด
"¥ค่ะ!!! "
เซเว่นที่นี่มีห้องน้ำมันดีตรงนี้แหละ (แถวบ้านไม่มีไง)
พอฉันออกจากห้องน้ำเท่านั้นแหละกลับสู่โหมดตามติดแจเหมือนเดิม
"¥อ้ะๆ อันนี้ไม่ได้นะ มันไม่ใช่ขนมเจ"
วอททท!! ขนมก็ต้องเจหรอ ให้ตายเถอะ
"¥อันนั้นก็ไม่ได้"
"¥นี่มันรสสาหร่ายนะ"
"¥ไม่ได้ มันไม่เจ"
อะไรวะ!! ฉันเลยพยายามจะเดินไปอีกฝั่งหนึ่ง โว้ยอันนั้นก็ไม่เจ อันนี้ก็ไม่เจ
"¥ตามมาทำไม"
"¥เดี๋ยวก็แอบกินของที่ไม่เจอีก"
"¥ไหน อะไรเจ อะไรไม่เจแยกยังไง"
ชักรำคาญคุมขนาดนี้มาเป็นผัวเลยมั้ย!!
"¥ถ้าเจจะมีสัญลักษณ์นี้"
นางหยิบขนมขึ้นมา 1 ซองแล้วชี้ให้ดูสัญลักษณ์เจที่มุมซอง
"¥อันนี้กินได้ จะเอามั้ย"
"¥เอาก็เอา"
ฉันเดินไปที่ตู้น้ำ หมายจะหยิบโค้กกระป๋องมาซด
"¥เอ่อ..."
เสียงดังอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล พอหันไปปั้บ แหมตามทุกก้าวจริงๆ
"อะไรอีกวะ"
"¥อันนี้มัน.."
"¥ไม่เจหรอ"
"¥ป่าว มันไม่ดีต่อสุขภาพ กินน้ำผลไม้แทนเถอะ"
คุณผู้ชายรักสุขภาพ โธ่ ผลไม้ก็ผลไม้วะ พอเปิดตู้ผลไม้เห็นน้ำเปล่าหมั่นไส้คุมนักใช่แมะ
"¥อันนี้กินได้มั้ย"
นางหันมามองแล้วถอนหายใจ
"¥น้ำเปล่ามันกินได้อยู่แล้ว"
"¥ไม่เห็นมีสัญลักษณ์เจเลย กินได้แน่นะ"
หนอยยยย อีพี่เฉินกรอกตามองบนแล้วถอนหายใจ ชอบคุมนักนิพอถามหน่อยทำมาใส่อารมณ์
"¥เอามา ไปได้แล้วคนที่บ้านรอต้อนรับเธออยู่"
"¥พี่!! "
ฉันคิดว่าฉันน่าจะลืมกระเป๋าตังนะ
"¥อะไรอีก"
"¥ยะ...ยืมตังก่อนได้มั้ย พอดีลืมกระเป๋าตังอะ แหะๆ "
"ไม่ต้องยืม เลี้ยง!! ไปได้แล้ว"
ดีจังเลยแฮะ ของกินจริงจังแต่ตังยังครบ...