“อ้อ คนที่เขาไปในไซต์แล้วไม่สวมหมวกนิรภัยนี่เองถึงตรงที่เข้าไปจะไม่เสี่ยง แต่คราวหลังรบกวนใส่ด้วยนะครับ จะได้ไม่เป็นอันตราย” อาชว์บอกเสียงทุ้ม คำพูดของเขาทำเอาทุกคนเลิกคิ้วไปตามๆ กัน ที่อาชว์เลือกที่จะตำหนิแทนที่จะทักทาย
“อ่ะ เอ่อ...” เฟื่องฟ้าพูดอะไรไม่ออก... ไม่ถูกโฉลกกับเขาไปเสียแล้วที่เขาหักหน้าเธอต่อหน้าคนอื่นแบบนี้ทั้งที่เพิ่งรู้จักกัน...
ดวงตาสีดำสนิทของเขานั่น เธอจะจำไม่ลืมเลย ไอ้คนไร้มารยาทเอ๊ย!
“เฮ้ยพี่อาชว์ อย่าซีเรียสๆ เดี๋ยววันหลังคุณฟ้างอนไม่ไปที่ไซต์ก็แย่พอดีสิครับ” หนึ่งเดียวแกล้งแซว
“ทำไมต้องแย่วะไอ้เดียว” วศินหันมาถามเพื่อนที่พูดแก้เก้อ เพราะอาชว์ไม่สนใจมัวแต่ยืนมองหน้าเฟื่องฟ้าท้าทาย จนสถานการณ์ในห้องเย็นเยือกขึ้นมา
“ก็เดี๋ยวไม่มีใครเอาข้าวไปให้ลุงเข้มกิน ลุงเข้มก็จะหิว พอหิวก็จะเหนื่อย พอเหนื่อยก็จะทำงานไม่เต็มที่ พอทำงานไม่เต็มที่งานก็ออกมาไม่ได้... พองานออกมาไม่ดี...”
“พอ” ทุกคนแทรกกลางปล้องทำให้หนึ่งเดียวหุบปาก...
“ไว้คราวหลังฟ้าจะใส่นะคะ... ขอโทษด้วย” หญิงสาวบอกเจ้าของดวงตาเข้มๆ ที่ทอดมองมา เขาไม่ได้มองเหมือนตำหนิ คงจะเจตนาดีแต่พูดไม่ถูกที่ถูกเวลา และทำให้เธอไม่ประทับใจเสียแล้ว ปรกติเพื่อนร่วมงานบิดามาสังสรรค์ที่บ้านเธอก็จะพูดคุยด้วยอย่างเป็นกันเองตามประสาคนอัธยาศัยดีแต่กับเขา แน่ใจว่าไม่อยากคุยด้วยแล้วแน่ๆ ดีที่วันนี้เธอไม่ต้องมานั่งร่วมวงทานข้าวกับพวกเขาเพราะว่ามีงานเสียก่อน...
“คราวหลังฟ้าก็อย่าเพิ่งตีโป่งตอนเอาข้าวมาให้พ่อที่ไซต์งาน ใส่หมวกเดี่ยวผมเสียทรง ปล่อยผมมาก่อนแล้วค่อยไปมัดที่ทำงานก็น่าจะได้ไหม” เข้มรับมุกเจ้านาย หันมาแซวลูกสาวตัวเองแทน หนุ่มๆ ถึงกับขันในอารมณ์ขันของเข้ม...
“พ่อคะ ฟ้าแค่ใส่เนตไปทำงาน ไม่ได้ตีโป่ง” หญิงสาวทำหน้างอนใส่บิดา... “ฟ้าแวะเข้ามาบอกแค่นี้นะคะ ฟ้าจะไปบ้านครีมแล้ว ไปก่อนนะคะทุกคน” หญิงสาวบอกบิดาก่อนจะหันมาโบกมือลาหนุ่มๆ ทุกคน ยกเว้นอาชว์ แล้วก็เดินออกจากบ้านไปยังบ้านหลังเล็กของตัวเอง ตอนแรกตั้งใจว่าจะหั่นผัก หั่นเนื้อและสับมะละกอสำหรับทำอาหารอีสานให้แขกทาน เพราะยังว่างอยู่สองชั่วโมงก่อนไปบ้านเพื่อนที่อยู่ถัดไปไม่กี่หลัง แต่เธอเปลี่ยนใจและเลือกจะมาล้างหน้าล้างตาเปลี่ยนชุดและนอนพักที่ห้องสักพักก่อนจะไปทำงานดีกว่า...
เมื่อเฟื่องฟ้าออกไปแล้วอาชว์ก็งงว่าสาวเจ้าไม่อยู่และจะมาตอนไหน เขาไม่ได้ถามเข้มเลยยกมือถือมาแชทกับหนึ่งเดียวแทน
“พี่ทำไมพูดกับคุณฟ้าแบบนั้นล่ะพี่” ยังไม่ทันส่งข้อความไปหนึ่งเดียวก็แชทมาก่อน...
“พูดดีๆ แบบพวกแกเขาไม่ประทับใจเว้ย ฉันสร้างความประทับใจแรกให้เด็ดดวง จะได้จำไม่ลืม ตอนนี้ก็คงคิดถึงแต่หน้าฉันอยู่แน่ๆ”
“โห เด็ดเลยพี่ มันเป็นแผนจอมโจร ถึงว่าพี่มีสาวๆ ให้กินตลอด สอนวิชาผมบ้างนะพี่”
“เออๆ แล้วไปไหนแล้วล่ะ”
“ไปทำงานต่อพี่ เห็นว่ามีงานเข้า เลยไม่อยู่กินข้าวกับพวกเรา เมื่อกี้แวะมาบอกเฉยๆ”
“วันนี้อด งั้นเอาไว้ต่อวันหลัง... ขอโทษนะไอ้เดียว ใครดีใครได้” อาชว์ยักคิ้วให้รุ่นน้องแล้ววางโทรศัพท์ก่อนจะหันมาเข้าวงสนทนากับเพื่อนๆ ต่อ...
หนึ่งเดียวล่ะนับถือในชั้นเชิงของรุ่นพี่จริงๆ เห็นเงียบๆ นิ่งๆ เหมือนพระเอกหนังเข้มๆ แบบนี้ มีสาวสวยให้กินตลอดเพราะอย่างนี้นี่เอง พวกเขาเพ้อหาลูกสาวลุงเข้มทุกวันยังได้แค่เพ้อและเป็นได้แค่เพื่อนสนิทเธอไม่ถือตัวคุยด้วยได้แต่ก็ใช่ว่าจะจีบได้ แต่อาชว์รุกแบบมีชั้นเชิงขนาดนี้เขาคงต้องยอมแพ้ไป...
ไม่รูปหล่อพ่อรวยอย่างพี่อาชว์บ้างวะ หนึ่งเดียวคิดในใจก่อนจะซดเหล้าในแก้วที่เพื่อนชงให้เข้าปากรวดเดียวหมดแก้ว...
“อะไรวะไอ้เดียว นี่ให้จิบๆ รอกินข้าว นี่เล่นกินพรวดๆ แบบนี้ มึงจะเมาแต่หัววันเลยหรือไงวะ” ทัดเทพดึงแก้วคืนจากมือหนึ่งเดียว แม้จะได้มาแก้วเปล่า แต่มันก็ไม่ได้กินอีกแน่เพราะแก้วมันโดนเขายึดแล้ว
“ไม่เป็นไรหรอกคุณทัดเทพ... พรุ่งนี้หยุดกันไม่ใช่เหรอ เอาเต็มที่เลยครับ กลับบ้านไม่ไหวมีฟูกมีผ้าให้นอน” เข้มที่หั่นเนื้อสัตว์ช่วยภรรยาอยู่หลังเคาน์เตอร์ครัวบอกติดตลก...
คำแนะนำของเข้มทำให้อาชว์ยิ้มที่มุมปาก... ดวงตามีแววหมายมาดบางอย่าง ลักษณะของบ้านเข้มมันเอื้ออำนวยเหลือเกิน ถ้าลูกสาวเข้มเล่นตัวน้อยลงสักนิด เขาก็คงได้แอ้มลุกสาวสุดสวยของเข้มไม่ช้าก็เร็ว...
อาชว์คิดในใจอย่างกระหยิ่มยิ้มย่อง...
มื้อเย็นที่กำลังจะเริ่มต้นมีสมาชิกใหม่เพิ่งอีกหนึ่งคนเมื่อพวกเขากำลังจะทานอาหารที่หน้าตาน่าทานและน่าทรมานลำไส้สุดๆ เพราะเป็นอาหารรสจัดทั้งนั้น ดาวเรืองเปิดประตูเข้ามาพอดี... เสียงเอ่ยทักทายอย่างแจ่มใส เรียกสายตาของทุกคนให้มองไปที่สาวสวยรูร่างอวบอัดเซ็กซี่และอยู่ในเสื้อผ้าที่เปิดเผยเนื้อตัวเป็นสาวสมัยใหม่แลดูงดงามทันสมัย...
“อ้าว ดาวเรือง ไหนบอกติดงานที่โรงสี มาได้แล้วรึ”
มารดาถามเมื่อลูกสาวเดินมาและไหว้หนุ่มวิศวะทุกคน โดยเฉพาะอาชว์ที่ดาวเรืองปรายตาหวานและทอดมองนานที่สุด... คนเป็นแม่ถอนใจ ลูกสาวคนโตก็ไม่เล่นหูเล่นตากับใครจนกลัวจะขึ้นคาน ลูกสาวคนเล็กก็ดันเป็นคนเปิดเผยจนนางปรามๆ ไปหลายหน เพราะดาวเรืองเองก็มีคู่หมั้นแล้ว และเป็นคู่หมั้นที่เธอเลือกเองแล้วด้วย...
“ตอนนี้ว่างล้าจ้ะแม่... กำลังจะทานข้าวใช่ไหม หนูขอทานด้วยคนนะ”
“เอ้ามานั่งๆ ก่อน มารู้จักคุณอาชว์เจ้านายพ่อ เพิ่งมาจากกรุงเทพๆ” นายเข้มแนะนำให้ลูกสาวรู้จักเจ้านาย เธอยกมือไหว้แช่มช้อยยิ้มหวานหยดอีกครั้ง... อาชว์หล่อสะดุดตาเธอที่สุดตั้งแต่เติบโตมา ไม่เคยเห็นใครที่หล่อขนาดนี้ นั่งใกล้ๆ เขาแล้วลืมคู่หมั้นไปพักหนึ่งเลยทีเดียว
“คนนี้ก็ไม่เลว ดูเข้าถึงง่ายกว่าพี่สาวอีกว่ะ” อาชว์บอกกับหนึ่งเดียว
หนึ่งเดียวทำหน้าครุ่นคิดเรื่องจะบอกว่าดาวเรืองนั้นมีคู่หมั้นแล้ว แต่ด้วยความหมั่นไส้ที่รุ่นพี่ที่ใช้ชั้นเชิงหว่านเสน่ห์กับสาวในดวงใจที่เขาเฝ้าเทียวไล้เทียวขื่อมานานนม เขาจึงนึกอยากแกล้งอาชว์เพื่อหลอกให้ชายหนุ่มเผลอจีบดาวเรืองแล้วค่อยมาแบลคเมล์เขาทีหลังให้ขำจนฟันร่วงยามเมื่อเฉลยทีหลัง...
ดีกรีแอลกอฮอล์ที่เพิ่มของแต่ละคนทำให้ลืมสนใจคนรอบข้างทำให้บรรยากาศบ้านๆ กลายเป็นห้องคอนเฟอเรนซ์ให้เหล่าวิศวกรและช่างนั่งคุยกันออกรสขึ้น โดยมีเมียนายเข้มและลูกสาวคอยเมกลับแกล้มให้เป็นระยะๆ พวกเขาต่างพูดปรัชญาการเมือง วิเคราะห์เศรษฐศาสตร์มหัพภาพอย่างเมามันจนลืมไปสังเกตว่ายามที่เข้มและภรรยาเผลอนั้น อาชว์และดาวเรืองได้แลกเบอร์กันเรียบร้อย คนเป็นผู้ชายมาดนิ่งๆ สาวๆ กรี๊ดและเข้าหาตลอดและเขาก็ไม่เคยปฏิเสธใคร เจอคนสวยๆ ก็สานสัมพันธ์ด้วยไม่ขัด โดยเฉพาะสาวน้อยตรงหน้าที่ดวงหน้าสวยจัดและท่าทางรักสนุกแบบไม่ผูกพัน มันอย่างเดียว ไม่เกี่ยวกับเรื่องความรับผิดชอบ... อาชว์ชอบยิ่งนัก
“คืนนี้แยกวงแล้ว เจอกันที่ห้องดาวเรือง มีอะไรที่พี่ต้องชอบแน่ๆ อยู่ในห้องนั้น” ดาวเรืองส่งข้อความหาอาชว์แล้วขยิบตาเชิญชวน...
อาชว์อ่านแล้วริมฝีปากเขาก็กดหยักยิ้มลงลึก... หรี่ตามองของที่จ้องหน้าอย่างยั่วยวนแบบสนองเธอเต็มที่ ดวงตาคมเหมือนเหยี่ยวจ้องตระคลุบเหยื่อทำให้ดาวเรืองสั่นสะท้าน...
เขาช่างทรงเสน่ห์เหลือเกิน... แค่เห็นก็อยากระทวยในอ้อมกอด ทำไมเธอไม่เจอเขาไวกว่านี้สักสองสามปี ไม่อย่างนั้นไอ้คู่หมั้นที่เธอกำลังรำคาญสุดๆ คงไม่ได้แอ้มเธอแน่...
แต่ถึงกระนั้นก็เถอะ ตอนนี้มันก็ไม่ได้สายไปสักเท่าไหร่หรอก ในเมื่อยังไม่ได้แต่งงาน นั่นก็คงหมายความว่าเธออาจจะเปลี่ยนตัวเจ้าบ่าวได้ทัน
“วันนี้ไม่เมาไม่เลิก...” หนึ่งเดียวชูแก้วเหล้าขึ้นมาพร้อมตะโกนลั่น ทำให้คนสองคนที่ส่งกระแสพิศวาสผ่านทางสายตาอยู่นั้นชะงัก ก่อนที่อาชว์จะหยักไหล่แล้วยกมือถือโบกให้สาวเจ้าสนใจโทรศัพท์
“ห้องอยู่ไหน ชี้พิกัด คืนนี้จะไปหา”
ดาวเรืองอ่านขอความแล้วก็ดีใจจนเนื้อเต้น เงยหน้าไปมองอาชว์ กัดริมฝีปากพร้อมทั้งหรี่ตาข้างเดียวอย่างยั่วเย้า ก่อนจะบอกพิกัดของห้องเธอไปทางข้อความ พร้อมกับค้นหารูปแสนเซกซี่ของตนในโทรศัพท์ส่งไปให้เขาพริวิวก่อนการตัดสินใจซื้อ...
สองสายตาจดจ้องกันอย่างมีความหมายโดยที่ไม่มีใครรู้อิโหน่อิเหน่ด้วยเลย...
โดยเฉพาะหนึ่งเดียว เขาไม่รู้เลยว่า การที่เขาแกล้งไม่บอกเรื่องดาวเรืองหมั้นแก่รุ่นพี่ แล้วก็ลืมในที่สุดมันจะทำให้เกิดเรื่องร้ายแรงบานปลายขึ้นมาจนแก้ไขอะไรไม่ได้...