ตอนที่ 4

1898 คำ
“ไอ้หนึ่งเดียว ไอ้นี่หนิ เอ็งนอนที่นี่ไม่ได้นะเว้ย” เสียงเอะอะมะเทิ่งของคนที่ลากหนึ่งเดียวไปอ้วกที่ห้องน้ำติดๆ กับเคาน์เตอร์ครัวฝรั่ง ทำให้คนบนโต๊ะที่กำลังก๊งเหล้ากันไปมองทางฝั่งต้นเสียงเป็นตาเดียวกัน... ภาพที่เห็นนั้นคือหนึ่งเดียวพยายามเอาหัวมุดใต้เคาน์เตอร์ครัว โดยมีเพื่อนอีกคนหนึ่งที่ไม่ได้มีสภาพดีกว่าหนึ่งเดียวเท่าไหร่ พยายามดึงชายหนุ่มออกมา แต่เพราะเมาบางจังหวะการดึงจึงเหมือนเป็นการยัดหนึ่งเดียวเข้าไปมากกว่า เสียงบ่นอ้อแอ้ทำให้คนบนโต๊ะที่เมาน้อยกว่า (ยังไม่ถึงคราวไปกอดโถส้วม) ส่ายหัวอย่างระอาในความคออ่อนของหนุ่มวิศวะ “พอกันเลย พวกเอ็งสองคน นั่นไม่ใช่ที่นอนไอ้หนึ่ง จะนอนก็แยกวง แล้วกลับบ้าน ไม่ใช่คลานเข้าตู้” อาชว์ซึ่งเคยมาดื่มที่บ้านเข้มครั้งแรกเห็นความเปลี่ยนแปลงของลูกน้องผู้เฉลียวฉลาดเอาการเอางานแล้วก็กุมขมับ ยิ่งเห็นมันสองคนพ้นมาจากเคาน์เตอร์ครัวไม่ทันได้โล่งใจได้นานทัดเทพเปิดประตูตู้เย็นออกแล้วหนึ่งเดียวจะเอาหัวยัดเข้าแล้วเขาจึงต้องออกโรงลุกไปช่วยหลังจากที่สังเกตการณ์จนมั่นใจแล้วว่าพวกมันเมาจริงไม่ได้เล่นเอาฮา อาชว์ที่ขึ้นชื่อว่าคอแข็ง ยังเดินเซๆ แต่มีสติมากกว่าน้องๆ ที่เมาคลานๆ เหมือนหมาแล้วก็มีทีท่าว่าจะไม่เต็มเต็งหลังจากดื่ม... เขาพยายามไปลากรุ่นน้องมาที่ที่ควรอยู่ก่อนที่ไอ้หนึ่งเดียวจะอุตรินอนในตู้เย็นขนาดใหญ่ของบ้านนายเข้มแทน เข้มที่คุ้นชินกับนายช่างหนุ่มๆ นั้นก็บอกให้เมียของตนไปเตรียมฟูกมาไว้ที่กลางห้องซึ่งเป็นที่นอนประจำ ส่วนดาวเรืองที่รู้จักความเป็นไปวงจรของคนในวงเหล้าของบิดาก็เริ่มเก็บโต๊ะอย่างรู้การรู้งานเพราะลงเอยแบบนี้แปลว่าวงเหล้าสลายตัว... คนไม่ไหวก็ไม่ได้ไปต่อ ส่วนคนที่ยังไหวก็ได้แค่นั่งจิบเหล้าคุยกัน จานกับแกล้มกับเกลิ้มนี่เก็บล้างได้สบาย ไม่มีใครมีปัญญากินอะไรต่อได้แล้วต้องจัดที่นอนให้อย่างเดียวเท่านั้น “ขอโทษด้วยนะครับลุงเข้ม ไอ้พวกนี้ทำงามหน้าจริงๆ” “ไม่เป็นไรหรอกครับ เป็นเรื่องปรกติ ลูกเมียผมชินแล้ว พากันมากินดื่มที่นี่ไม่เถลไถลที่ไหน... เมาแล้วก็นอน เดี๋ยวลูกกับเมียผมจัดที่กลับที่นอนให้ครับ” เข้มที่ไม่ได้เมาจัดเหมือนหนุ่มๆ บอกอาชว์ “ลุงเข้มเตรียมรับมือพวกนี้ดีอย่างนี้ แสดงว่าพวกมันมาเมาที่นี่บ่อยน่ะสิครับ แต่ละคนนี่ดูท่าแล้ว ไม่ควรไปเมานอกบ้าน ได้มีเรื่องกับคนอื่นหรือมไม่ก็คงกลายเป็นตัวตลกแน่นอน ถ้าจะเมาแล้วบ้าขนาดนี้” เพราะว่าเป็นรุ่นห่างกันเขาจึงไม่เคยออกไปเมาคว่ำกับรุ่นน้องร่วมสถาบันพวกนี้เลย ได้รู้จักกันก็ตอนพวกนี้มาทำงานแล้ว ครั้งนี้นับว่าเป็นครั้งแรกก็ว่าได้ที่มารวมกลุ่มก๊งเหล้ากัน แล้วก็ได้รู้ไส้รู้พุงพวกมันกันหมด กว่าจะจัดการเรื่องที่นอนให้และยุบวงเหล้าก็ดึกมากแล้วจนหาวหวอดๆ กันถ้วนหน้า สรุปว่าวันนี้จะยังไม่มีใครกลับบ้านสักคนเพราะว่าขับรถกลับไม่ไหว เจ้าของบ้านจัดการเรื่องที่นอนให้แขกแล้วก็เอ่ยขอตัวพาเมียกับลูกกลับไปนอนที่ห้องของตน... ก่อนที่ดาวเรืองจะไปนั้นยังไม่ลืมส่งสายตาให้อาชว์พร้อมทั้งจับโทรศัพท์มาแกว่งๆ เป็นการบอกให้เขาโทรหา ซึ่งชายหนุ่มก็พยักหน้ารับยิ้มๆ ก่อนจะหันไปจัดการภารกิจจัดการให้ลูกน้องได้มีที่นอนสบายๆ ส่วนตัวเขานั้นคาดว่าคืนนี้เขาน่าจะมีที่นอนสบายๆ กว่าฟูกยางพาราบางๆ เหล่านี้ ดูแลเรื่องที่หลับที่นอนให้นายช่างทั้งหลายแล้ว ดาวเรืองก็เดินออกจากห้องอาหารมาพร้อมบิดาเธอเห็นว่าไฟที่บ้านของเฟื่องฟ้าเปิดอยู่ เจ้าตัวเลยบอกบิดารมารดาว่าอยากไปคุยกับพี่สาวตามประสาผู้หญิง แต่อันที่จริงตั้งใจจะมานัดและดักรออาชว์เพื่อเข้าห้องเธอมากกว่า นายเข้มและนางมะลิก็ไม่ได้เอะใจอะไรเพราะแม้ลูกสาวสองคนนิสัยต่างกันสุดขั้วแต่ว่าก็สนิทกันและรักกันมาก เมื่อทันมองเห็นว่าดาวเรืองเดินเข้าห้องพี่สาวแล้วสองผัวเมียเดินแยกจากลูกสาวไปยังห้องนอนของตนเพื่อเตรียมพักผ่อนตามประสาคนชนบทที่ทำงานแล้วก็รีบหลับนอนเพื่อเก็บแรงไว้ทำงานในวันต่อไป... อาชว์เองที่ออกมาคุยโทรศัพท์กับเพื่อนอยู่ด้านนอกบ้านทันเห็นว่าดาวเรืองเดินเข้าบ้านหลังไหนและเห็นเข้มกับเมียแยกไปคนละทางแล้ว แม้จะเมาจนครองสติได้ค่อนข้างน้อยแต่เขาก็จำแม่นว่าสาวที่หมายปองเดินเข้าห้องไหน คุยธุระกับเพื่อนเสร็จแล้ว เขามั่นใจว่าแม่สาวจอมร้อนแรงต้องเปิดประตูห้องรอเขาอย่างแน่นอน... เสียงเคาะประตูห้องเรียกให้คนที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จหมาดๆ เอ่ยถามออกไปว่าเป็นใคร พอได้ยินว่าเป็นเสียงน้องสาวแล้วก็เอ่ยรับเบาๆ ก่อนจะเดินไปเปิดประตูให้ ดวงตาคู่สวยกวาดมองไปยังนาฬิกาข้างผนัง ตอนนี้ดึกมากแล้ว เธอเองไปเลี้ยงเด็กแฝดสามลูกเพื่อนมาเหนื่อยๆ ยังไม่ได้พักผ่อนดีน้องสาวก็มาหาอีก เฟื่องฟ้าเห็นหน้างอๆ ของน้องสาวแล้วก็หัวเราะ วันนี้เธอท่าจะต้องรบกับเด็กเพิ่มอีกคนหนึ่ง... ดาวเรืองต้องมีปัญหากับภาวันแน่ๆ ไม่อย่างนั้นไม่กลับมานอนบ้านหรอกเพราะตั้งแต่หมั้นเจ้าตัวก็หอบผ้าผ่อนไปอยู่บ้านอีกฝ่ายโดยที่พ่อแม่ว่าอะไรไม่ได้ เพราะว่าไปดาวเรืองก็ไม่ฟัง “ว่าไง" “ทำไมหน้าโทรมๆ อย่างนั้นฟ้า ไม่สบายเหรอ” “อืม... เราแพ้อากาศน่ะ วันนี้เหนื่อยๆ ด้วย น่าจะมีหวัด แต่เพิ่งกินยาไปตอนก่อนอาบน้ำนี่เอง มีอะไรจะคุยกับเราหรือเปล่า อีกประเดี๋ยวเราก็ง่วงแล้วนะ เรากินยาปรับความดันในหูไปแล้วยาออกฤทธิ์ก็คงง่วงจนคุยกันไม่รู้เรื่องแล้ว” “เราอยากถอนหมั้น เราไม่อยากหมั้นกับภาวันแล้ว” “หา ดาวว่าไงนะ...” คำพูดของน้องสาวทำให้ดวงตาที่ดูเนือยๆ เพราะทำงานหนักมาทั้งวันเบิกกว้างขึ้น “เราเบื่อ นายนั่นชอบทำตัวไร้สมอง ตะบี้ตะบันหึงเราจนไม่เป็นอันทำอะไรเลย นี่ก็รำคาญเลยหนีมานอนที่บ้าน เบื่อมากๆ จะถอนหมั้นแล้วหาแฟนใหม่” พูดไปอย่างมีความหวังเมื่อนึกถึงดวงหน้าของใครคนหนึ่ง ที่อาจจะมาแทนที่คู่หมั้นที่เธอกำลังอยากเขี่ยออกไปจากชีวิต “นายนั่นคงยอมหรอก ดาวก็ไปหมั้นหมายตั้งท่าว่าจะแต่งงานกับเขา แล้วยังไม่เลิกทำตัวเจ้าชู้ก็โดนนายนั่นหึงเป็นธรรมดา...ก่อนหน้านี้เห็นรักเห็นหลงไม่มองว่าภาวันไม่ดีตรงไหน ตอนนั้นใครเตือนก็ไม่ฟังจนระอา ตอนนี้ทำไมมาบอกว่านายนั่นงี่เง่าล่ะ ทั้งที่ก่อนหน้านี้รักกันปานจะกลืน” “เบื่อพูดกับฟ้าจริง บ่นมาได้... ไม่เคยมีความรักไม่เข้าใจหรอก รักได้ เลิกได้เบื่อได้ ความรู้สึกมันไม่จีรัง คนเรามันดีตอนแรก อยู่กันไปเข้ากันไม่ได้ เดี๋ยวก็ต้องหาทางเลิก” “จ้ะ แม่คนเคยมีความรัก” ความมากประสบการของน้องสาวกับความด้อยประสบการณ์ของเธอต่างกันจนเธอเองก็รู้ดี แต่เรื่องที่เตือนไปมันก็ยังเป็นเรื่องที่เป็นจริงเสมอแม้ว่าเธอจะโสดแต่ก็ให้คำแนะนำที่ดีได้ล่ะนะ “รักได้ง่าย แต่เลิกไม่ได้ง่ายๆ หรอก... ยิ่งกับคนมุทะลุและเปลี่ยนความคิดยากเหมือนนายภาวันน่ะ ดาวต้องค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป ไม่ใช่หักดิบหนีมาบ้านทั้งที่ไปอยู่ด้วยกันแล้วอย่างนี้” “ยิ่งคุยยิ่งตำหนิ ฟ้าไม่เข้าใจดาวเลย... ฟ้านอนพักผ่อนเถอะ ดาวไปที่ห้องหาอะไรทำแก้เบื่อดีกว่า” “ตามใจแล้วกัน แล้วมีเรื่องจะปรึกษาฟ้าแค่นี้เหรอ...” เฟื่องฟ้าถามแบบไม่ได้สนใจปัญหาของน้องสาวนักเพราะว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอต้องนั่งฟังว่าน้องสาวอยากเลิกกับภาวัน... “ฮื่อ มีแค่นี้ล่ะ” ดาวเรืองอยากคุยต่อนิดหน่อย แต่ว่าเห็นพี่สาวหาวนอนและทำท่าเหมือนอยากพักมากก็เลยไม่อยากกวน แม่จะอยากคุยกันแต่ดาวเรืองก็คิดว่าน่าจะเอาไว้วันหลังเพราะเฟื่องฟ้าไม่มีทีท่าว่าจะคุยกับเธอได้สติ คงกินยาเข้าไปหลายขนานอยู่... “เราไปแล้ว ฟ้านอนหลับฝันดีหายป่วยไวๆ แล้วกัน” ดาวเรืองห่มผ้าให้พี่สาวก่อนที่จะเดินออกจากห้องของพี่สาวไป เพราะมัวแต่คิดถึงอาชว์มากเกินไป สาวสวยจึงลืมล็อคประตูห้องพี่สาวตนเอง... ส่วนคนในห้องนั้นคิดว่าน้องสาวล็อคห้องให้แล้ว จึงซุกตัวเข้าใต้ผ้าห่ม ก่อนจะลงมือถอดชุดนอนผ้าฝ้ายตัวหนาออกมาสวมชุดบางๆ ที่ไม่ได้ปกปิดอะไรมากแทนเพราะอยากให้ตอนกลางคืนไข้เธอได้ลด พรุ่งนี้เช้าจะได้หาย ถ้าขืนไม่สบายวันหยุดของเธอคงจบกับการนอนรักษาตัวที่ห้อง ซึ่งเฟือ่งห้าจะไม่ยอมให้เป็นอย่างนั้น จะอาบน้ำรอ อีกสามสิบนาที เจอกันที่บ้านหมายเลขสอง ห้ามพูดมาก ห้ามบอกใคร เรื่องนี้เป็นความลับ ห้ามผิดนัดด้วย ไม่งั้นอด อาชว์ได้รับข้อความหลังจากที่เขาเดินโซเซออกจากห้องน้ำของห้องทานข้าว เขาล้างหน้าล้างตาแปรงฟันแล้วแต่ก็ยังไม่หายมึนเท่าไหร่ เหล้าดองเองของนายเข้มสุดจะบรรยายอย่างที่พวกน้องๆ เขาบอกไว้จริงๆ ขนาดคอแข็งอย่างเขายังหาสติแทบไม่เจอ... แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ สาวนัดมาแล้ว เรื่องไปต่อกับสาวเนี่ย ถึงเมาหัวราน้ำเพียงใด เขาก็สามารถ สกิลขั้นเทพทำให้ความเมาไม่สร้างปัญหายามเมื่อจะเข้าด้ายเข้าเข็มก็ไม่เคยพลาด ไอ้ที่สำคัญคือซองกระดาษฟลอยสีน้ำเงินในกระเป๋าสตางค์ที่ไปค้นเพิ่มจากรถยนต์มาอีกสองชิ้นหลังจากที่มีพกอยู่แล้วชิ้นหนึ่ง... ช่วงนี้เขาเตรียมงานหนัก ห่างกายจากเรื่องแบบนี้มานาน... มันต้องจัดหนักสักหน่อย... แค่คิดถึงก็ร้อนซู่ซ่าขึ้นมา นึกเร่งเข็มนาฬิกาให้หมุนครบสามสิบนาทีไวๆ อยากจนใจจะขาดอยู่แล้ว .........................
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม