ในขณะเดียวกันเข้มกับลูกสาวนั้นหันมามองอาชว์เพราะผู้นายเข้มพูดถึงเขาทำให้เธอต้องหันไปมองตามและพบว่าคนที่พ่อบอกจะแนะนำให้รู้จักตอนเย็นแทนเพราะตอนนี้เขาทำงานอยู่
“คนที่คุยกับคุณเดียวเขาเป็นวิศวกรที่ปรึกษาจากบริษัทใหญ่ลงมาตรวจงานที่เรา... วันนี้หนูเลิกเร็วนี่ เราจะทำอะไรเลี้ยงต้อนรับทีมวิศวกรที่บ้านดีล่ะ พ่อบอกแม่เอาไว้แล้ว”
เข้มบุ้ยหน้าให้เฟื่องฟ้าหันไปมองชายร่างสูงที่ดูโดดเด่นแตกต่างจากคนอื่นในไซต์งานมากๆ และกำลังเห็นว่าเขาก็เสมองมาทางเธอกับบิดาก่อนจะหันไปคุยงานกับหนึ่งเดียวต่อ คงอยากคุยกับบิดาเธอแต่เห็นเธออยู่กับบิดากระมังถึงไม่ได้เรียกบิดาเข้าไปหา
มองปราดเดียวดูท่าทางแปลกๆ เฟื่องฟ้าคิดในใจสำหรับการมองเขาเผินๆ ในรอบนี้ แล้วเธอก็หันมาคุยกับบิดาต่อ...
“แม่ก็บอกไว้เหมือนกันว่าพ่อโทรมาบอกให้ทำกับข้าวกับปลาเตรียมรอเลี้ยงนายช่างที่ทำงาน วันนี้ไปกันกี่คนล่ะจ๊ะพ่อ...”
“สี่คน... คุณอาชว์ คุณเดียว คุณตะวันแล้วก็ คุณนนท์” เฟื่องฟ้าพยักหน้าเข้าใจเธอรู้จักทุกคนยกเว้นคนชื่ออาชว์เพราะว่าเป็นทีมวิศวะที่สนิทกับบิดาเธอและมักไปทานข้าวที่บ้านบ่อยๆ และนายคนตัวสูงนั้นคงชื่ออาชว์นั่นเอง
“จ้ะ วันนี้ฟ้าจะดูๆ ให้แล้วกันน๊ะจ๊ะพ่อ ตั้งใจทำงานนะจ๊ะ ฟ้าไปทำงานก่อน คุณหมอรออยู่” หญิงสาวไหว้บิดาแล้วขอตัวไปทำงาน เข้มมองตามลูกสาวไปอย่างภาคภูมิใจในตัวลูกสาวคนโต เฟื่องฟ้าเป็นเด็กหัวดี เลือกเรียนพยาบาลเพราะอยากทำงานใกล้ๆ บ้านได้อยู่ดูแลพ่อแม่ยามแก่เฒ่าแม้ว่าหลังเรียนจบจะได้ทุนให้ไปทำงานโรงพยาบาลใหญ่ในเมืองพร้อมกับเรียนไปด้วยหรือทุนไปต่างประเทศก็มีแต่เฟื่องฟ้าเลือกอยู่ทำงานใกล้บ้าน หญิงสาวเต็มไปด้วยความพอเพียงแต่ก็ไม่ทิ้งเรื่องวิชาชีพเพราะยังคงสานต่อหาความรู้เกี่ยวกับเรื่องงานด้วยตัวเอง... เธอเป็นลูกสาวที่ดีจนไม่เคยคิดเสียดายว่าทำไมไม่ได้ลูกชายเป็นลูกคนโต เฟื่องฟ้าเป็นลูกที่ดีและช่วยเหลือพ่อแม่ได้มากคิดถึงก็ภูมิใจที่ลูกอดีตช่างก่อสร้างจบป. สี่อย่างเขาได้เรียนสูงๆ และเป็นคนดีของสังคมขนาดนี้...
คิดถึงเฟื่องฟ้าอย่างภูมิใจเข้มก็ต้องกุมขมับเมื่อนึกถึงลูกสาวคนเล็กที่ ดาวเรืองสาวน้อยแฝดต่างฝาของเฟื่องฟ้าแล้วก็กุมขมับความแตกต่างของทั้งสองไม่ได้มีเพียงหน้าตา แต่เรื่องการเรียน นิสัยใจคอ อะไรต่างๆ นั้นแทบตรงกันข้ามกันทุกอย่าง หากเฟื่องฟ้าเป็นลูกที่พ่อแม่ภูมิใจตอนนี้ดาวเรืองก็ไม่ต่างจากเป็นคนที่ทำให้พ่อแม่กลัดกลุ้มใจทุกวี่วันเพราะเรื่องเจ้าตัว เกิดท้องเดียวกันโตมาด้วยกันทำไมถึงได้แตกต่างกันนักไม่รู้...
เข้มส่ายหัว... เรื่องบางเรื่องเขาก็ทำใจยอมรับเพราะรู้ว่าอะไรมันเปลี่ยนแปลงไม่ได้
รถเอสยูวีที่เข้ามาจอดที่บ้านของเฟื่องฟ้าอีกครั้งในรอบเย็นหลังจากที่ลงเวรพร้อมกันในวันนี้หมอพีทจึงอาสามาส่งเธอหญิงสาวเอ่ยขอบคุณเขาและเดินลงรถกลับเข้าบ้านมา...
หน้าบ้านของเฟื่องฟ้าเป็นรั้วไม้ระแนงโปร่งๆ ทอดแนวยาวไป เข้มมีความรู้เรื่องก่อสร้างเป็นอย่างดีแม้ไม่ได้เรียนสูงแต่ตอนยังหนุ่มเขาได้ไปขายแรงงานที่ต่างประเทศและได้ทักษะการก่อสร้างมาจากที่นั่นทำให้พอมีความรู้เรื่องช่างและพอมีต้นทุนสำหรับการสร้างบ้านที่เฟื่องฟ้ากำลังจะก้าวเข้าไปอยู่นี้... ใครๆ ที่มาเห็นบ้านของเธอก็ต่างคิดว่าเป็นบ้านเช่าหรูๆ หรือไม่ก็เป็นรีสอร์ท แต่ก็ไม่ใช่ ในรั้วเดียวกันมีบ้านหลังเล็กๆ สีขาวสไตล์อังกฤษสี่หลัง ซึ่งแต่ละหลังมีขนาดเพียงแค่ยี่สิบตารางเมตร แต่ละหลังเชื่อมกันด้วยระเบียงเทาอ่อนที่ปลูกไม้เลื้อยดอกสีส้มสดพันเกี่ยวเชื่อมกันทอดยาวไป โดยบ้านหลังซ้ายสุดเป็นห้องของเข้มกับภรรยา บ้านถัดมาครอบครองโดยดาวเรือง หลังต่อมาเป็นของเฟื่องฟ้า และหลังขวาสุดนั้นเข้มทำไว้เผื่อเป็นพื้นที่ส่วนกลางของบ้านโดยที่หลังนี้เป็นหลังใหญ่สุดและมีห้องน้ำห้องครัวครบ วันหยุดพวกเขามักมารวมตัวกันในบ้านนี้เสียมากกว่าทั้งยามที่มีแขกมาหลายคนบ้านหลังนี้ก็มีพื้นที่โล่งให้ปูที่นอนนอนได้เป็นสิบๆ คน
วันนี้บ้านส่วนกลางก็มีงานสังสรรค์ที่เฟื่องฟ้าคุ้นชินเพราะบิดาไม่ชอบออกไปกินดื่มนอกบ้านยามที่อยากกินดื่มหรือเพื่อนชวนเมื่อไหร่ต้องมาจบลงที่บ้านเข้มเอง และมันก็เป็นความเต็มใจของภรรยาเข้มที่สามีจะมาสังสรรค์กับเพื่อนที่บ้านดีกว่าโดนชวนไปไกลหูไกลตา เสียงพูดคุยจากในบ้านส่วนกลางทำให้เฟื่องฟ้าเดินเข้าไปในบ้านนั้นแทนที่จะเดินกลับไปห้องของตนเอง เธอต้องไปบอกบิดามารดาว่าเธอต้องไปรับงานข้างนอกไม่ได้มาอยู่ทำอาหารและทานด้วยกันอย่างที่ตั้งใจไว้ตอนแรก
“...” เดินเข้าบ้านไปแล้วเสียงพูดก็เงียบกริบ แต่ทันทีที่เธอยกมือไหว้ทักทายวิศวกรกลุ่มที่คุ้นหน้าทุกคนก็กลับมาพูดจากันปรกติ หนึ่งเดียวเคยบอกว่าพวกเขาเห็นเธอหรือดาวเรืองเมื่อไหร่จะพูดไม่ออกไปครู่หนึ่งเพราะตะลึงในความสวย ต้องจูนสองก่อนสองสามวิค่อยพูดต่อได้ไม่รู้ว่าเขาพูดจริงพูดเล่นแต่มันก็ขำมาก...
“ฟ้าไม่ได้อยู่นะคะ พอดีว่าครีมขอให้ช่วยไปรับเวรเลี้ยงหลานๆ ให้ที่บ้านเพราะญาติของสามีครีมแต่งงานเด็กๆ ไม่สบายเลยให้อยู่ที่บ้าน” หญิงสาวบอกบิดากับมารดา...
ก่อนจะหันไปมองคนร่างสูงที่เปิดประตูตามห้องน้ำออกมา เมื่อครู่ไม่ทันได้เห็นเขาเพราะว่าเขาเข้าห้องน้ำอยู่นี่เอง... เห็นใกล้ๆ แล้วก็มองออกว่าอาชว์ดูโดดเด่นกว่าคนอื่นมาก ยิ่งมองใกล้ๆ ยิ่งเห็นว่าเขามีลักษณะหลายๆ อย่างที่เรียกสายตาให้มองกับท่าทางองอาจมาดมั่นและสายตาที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ...
หญิงสาวยกมือไหว้เขา...
“ลูกสาวคนโตของผมครับ” เข้มบอกเจ้านาย
“อ้อ คนที่เขาไปในไซต์แล้วไม่สวมหมวกนิรภัยนี่เองถึงตรงที่เข้าไปจะไม่เสี่ยง แต่คราวหลังรบกวนใส่ด้วยนะครับ จะได้ไม่เป็นอันตราย” อาชว์บอกเสียงทุ้ม คำพูดของเขาทำเอาทุกคนเลิกคิ้วไปตามๆ กัน ที่อาชว์เลือกที่จะตำหนิแทนที่จะทักทาย
“อ่ะ เอ่อ...” เฟื่องฟ้าพูดอะไรไม่ออก... ไม่ถูกโฉลกกับเขาไปเสียแล้วที่เขาหักหน้าเธอต่อหน้าคนอื่นแบบนี้ทั้งที่เพิ่งรู้จักกัน...
.................