ปิ่นโตทำได้ทุกอย่างที่ผู้หญิงส่วนมากไม่ทำกัน ภายใต้กรอบผมและแว่นกันแดด เธอกลับเปลี่ยนสีหน้าและอารมณ์ได้หลากหลาย และรอยยิ้มของเธอก็มักทำให้หัวใจของผมพองโตได้อย่างน่าประหลาด... น่าแปลกที่ผมอยากเจอเธอทุกวัน... ทุกวัน...
ไม่ใช่คืนเดียวจบกันอย่างผู้หญิงคนอื่นที่ผ่านมา
จนบางทีผมก็อดคิดไม่ได้นะว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ จีบเธอเหรอ? อยากได้เธอมาเป็นแฟนรึเปล่า? พอตั้งคำถามกับตัวเองก็กลับหาคำตอบไม่ได้!
ผมไม่รู้หรอกนะว่านอกจากอารมณ์อยากเอาชนะ อยากได้ของคืนเพื่อล้างอายในคราวแรก ตอนนี้ผมรู้สึกกับเธอแบบไหน รู้แค่ว่าผมไม่เคยอดทนรอใครได้แบบที่ต้องมารอเธอหน้าบ้านโดยไม่รู้ชะตากรรมเลยว่าวันไหนจะได้เจอหรือวันไหนจะแป้ก... ไม่ได้เจอเธอแบบนี้มาก่อน
รักเหรอ...
ผมรู้จักเธอดีพอที่จะใช้คำว่า ‘รัก’ ได้หรือยังนะ
อีกอย่างผมก็พูดได้ไม่เต็มปากหรอกว่าจะรักผู้หญิงคนอื่นได้ ถ้าความรู้สึกที่ให้ซายน์ไปมันยังไม่ชัดเจนว่าผมรักเธอแบบ ‘น้องสาว’ คนหนึ่งได้แล้วหรือเปล่า
ผมพร้อมที่จะรักใครคนอื่นหรือยัง...
“พี่ต๊ะ! เหม่ออะไรอยู่น่ะ เฮ้ๆ”
มือบางที่โบกไหวๆ ตรงหน้าดึงสติผมให้หลุดจากภวังค์มามองเธอ ซายน์... ยัยตัวเล็กที่ยืนอยู่อีกฝั่งของเคาน์เตอร์คิดเงินในร้านน้องหมาตาแป๋วตรงหน้าผมกำลังเงยหน้ามองมาอย่างสงสัย ก่อนคลี่รอยยิ้มล้อเลียน และหรี่ตาแซว
“ฮั่นแน่! คิดถึงสาวเหรอ กิ๊วๆ”
“คิดถึงเรานั่นแหละ”
พอบอกออกไปด้วยสีหน้าจริงจัง ซายน์ก็ค่อยหุบยิ้มลงเจื่อนๆ ก่อนหันไปดุสองหมาที่พามาด้วยไม่ให้เล่นซนในร้านกลบเกลื่อน เด็กเอ๊ย...
“หึ” พอผมพ่นลมออกจากจมูก หันไปทำท่ากลั้นหัวเราะอีกทาง ซายน์ก็ตวัดสายตามองมาวาววับ
“แกล้งกันเหรอ!”
พอเธอยกมือขึ้นชี้หน้าพลางแยกเขี้ยวอวดฟันขาว ผมก็ปัดมือนั้นออกยิ้มๆ ก่อนเอ่ยถามตามหน้าที่เจ้าของร้านที่ดีที่ถูกเฮียจิกหัวใช้ให้เฝ้าร้านอยู่คนเดียวในวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผมไม่มีงานตอนกลางวัน แต่ได้ข่าวว่าคืนนี้ผมมีงานเดินแบบที่พัทยานะ!
ไม่ให้พักผ่อนกันเลยนะเฮีย T_T
“แล้วพาสปายกับโปเต้มาทำไมเนี่ย อาบน้ำ? ตัดขน?” พอถามออกไป สาวน้อยตรงหน้าที่แต่งตัวมาซะสวยเช้งก็ทำหน้ามุ่ย ก่อนก้มหน้าบอกอ้อมแอ้ม
“เจ๊เติ้ลไม่อยู่เหรอ”
“อือ ออกไปไหนไม่รู้แต่เช้า”
“เค้าอยากมาขอหลบภัยซักพัก...”
“หา?”
“ขอใช้ห้องนั่งเล่นหน่อยนะพี่ต๊ะ ถ้าเนธัชมาบอกว่าไม่เห็นซายน์นะ หรือบอกว่าซายน์ตายไปแล้วก็ได้!”
“ซายน์...”
ผมขมวดคิ้วมุ่น อดไม่ได้ที่จะมองเธออย่างตำหนิจนซายน์เบ้หน้า น้ำตาปิ่ม และสุดท้ายก็ก้มหน้าลงต่ำ ยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาป้อยจนผมต้องเรียกเด็กในร้านที่ไว้ใจได้จากโซนอาบน้ำหมามาเฝ้าหน้าร้านคนหนึ่ง แล้วพาเธอกับสองหมาเข้าไปด้านใน
อาการแบบนี้ไม่ต้องถามก็เดาได้...
...ทะเลาะกับไอ้เนธัชมาแหงๆ!
“หิวมั้ย? เดี๋ยวพี่หาอะไรให้กิน”
ผมหันไปถาม หลังจากปล่อยให้เธอนั่งอยู่กับสองหมาที่โซฟา และเดินเข้าไปเปิดตู้เย็นเพื่อหยิบน้ำส้มมารินใส่แก้ว แล้วเทน้ำเปล่าใส่ถาดไว้ให้สปายกับโปเต้
“ไม่ค่ะ...” ซายน์ตอบเสียงเบา
“ดูหนังมั้ย เมื่อวานเฮียเติ้ลซื้อหนังใหม่ๆ มาตั้งหลายเรื่องอยู่หน้าทีวีน่ะ”
ผมวางแก้วน้ำส้มให้ตรงหน้า พอเหลือบตามองก็เห็นเธอกำลังเม้มปากแน่น และยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาเป็นระยะ เฮ้อ... ทะเลาะกับหมอนั่นทีไรก็มานั่งร้องไห้แบบนี้ทุกที ปกติเวลาซายน์แย่ๆ มา เฮียจะอยู่เป็นเพื่อนน่ะนะ ผมไม่ค่อยอยากยุ่งด้วยเท่าไหร่เรื่องเธอกับเนธัช
ก็ผมมันคนแพ้นี่!
“ซายน์” ผมเดินอ้อมไปเท้าแขนกับพนักโซฟาด้านหลังเธอแล้วยื่นหน้าไปเรียกใกล้ๆ แต่กลับไร้สัญญาณตอบรับจากบุคคลที่ท่านเรียก “ซายน์ หันมาหน่อยสิ” ผมเอาฟันกระต่ายปลอมที่แอบหยิบจากหน้าเคาน์เตอร์มาเสียบฟันตัวเอง และดึงลูกตาดำให้มาบรรจบกันชิดสันจมูก (ความสามารถพิเศษห้ามลอกเลียนแบบ -_-v) แบบที่ไม่อยากนึกภาพตัวเองเลยว่านายแบบสุดฮอตอย่าง ‘ต๊ะ - ตรัยคุณ’ ทำไมต้องมาทำอะไรทุเรศแบบนี้ด้วยวะ! (แต่ไม่ทันแล้ว)
ซายน์ยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาอีกหน ก่อนสูดลมหายใจลึกแล้วเงยหน้าหันมามองผมตามเสียงเรียก จากนั้นก็สะดุ้งโหยง! แล้วตบแก้มผมดังเพี๊ยะ! ฟ... ฟันกระต่ายปลอมของผมกระเด็นเลยอะ! ฟันจริงยังอยู่ครบมั้ยวะเนี่ย อ๊าก!
“พ... พี่ต๊ะ! ตายแล้ว ขอโทษค่ะเจ็บมั้ย”
“T^T” เจ็บสิฟะ ถามได้
“คิก...”
“หัวเราะเยาะเหรอ เดี๋ยวเถอะ!”
พอผมยื่นมือไปขยี้ผมเธอแรงๆ ซายน์ก็หัวเราะคิกคักพลางพยายามผลักตัวผมออกอย่างไม่จริงจังเท่าไหร่ แล้วหยิบรีโมทมาเปิดทีวี ก่อนเบิกตาโต หันมามองหน้าผมสลับกับจอทีวีอย่างตื่นเต้น
“มีโฆษณาตัวใหม่ไม่บอกกันเลยนะพี่ต๊ะ! โอ๊ย ตายแล้ว ซายน์ต้องรีบไปอวดเพื่อนก่อนแล้วว่า ต๊ะ - ตรัยคุณ นายแบบที่กำลังมาแรงโคตรๆ ของเมืองไทยเป็นพี่ชายของซายน์เอง! >Oพอซายน์เริ่มอารมณ์ดีขึ้น ผมก็ปล่อยให้เธอนั่งดูทีวีอยู่ในห้องนั่งเล่นแล้วออกมาเฝ้าหน้าร้าน ต้องทำงานทำการซะบ้างก่อนเฮียจะกลับมาเห็นว่าผมอู้แล้วจับผมมัดห้อยหัวลงจากหน้าต่างชั้นสองได้อีก T-T รายนั้นยิ่งอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ เหมือนคนวัยทองอยู่ ไว้ใจได้ที่ไหน
กริ๊ง~
“เชิญครับ”
ทันทีที่ประตูร้านเปิดออก ผมก็หันไปยิ้มธุรกิจทันทีโดยอัตโนมัติ ก่อนหุบยิ้มลงฉับเมื่อเห็นสาวน้อยตัวเล็กยืนยิ้มแฉ่งอยู่หน้าร้าน
น้ำค้าง... มาอีกแล้ว -_-
“พี่ต๊ะ วันนี้เหนื่อยมั้ย น้ำค้างทำเค้กมาฝากค่ะ”
คนตัวเล็กดี๊ด๊ามายืนหน้าเคาน์เตอร์และยื่นกล่องใส่เค้กสีชมพูหวานแหววมาตรงหน้าผมพร้อมกับคลี่รอยยิ้มเอียงอาย เออ... จะว่าไปทำไมผู้หญิงที่ผมสนิทถึงมีแต่คนตัวเล็กๆ วะเนี่ย? แถมดูท่าจะส่วนสูงใกล้เคียงกันหมดเลยด้วยนะ ทั้งซายน์ น้ำค้าง และ... ปิ่นโต