EP 7 พิสูจน์ใจ

1383 คำ
อา... คิดถึงปิ่นโตจัง เมื่อไหร่เฮียจะกลับมาเฝ้าร้านนะ (จะว่าไปเฮียก็เตี้ยพอๆ กับสามคนนั้นแฮะ) แล้ววันนี้ผมจะได้เจอปิ่นโตของผมไหมเนี่ย T_T “พี่ต๊ะๆ เป็นอะไรไปคะ?” พอถูกเขย่าแขนเสื้อ ผมก็ก้มลงมองน้ำค้าง ก่อนกวักมือเรียกให้เธอเข้ามาหลังเคาน์เตอร์ ซึ่งคนตรงหน้าผมก็ยิ้มแฉ่ง ท่าทางดีใจ พอเธอวิ่งปรู๊ดเข้ามายืนข้างๆ ผมก็ถอดผ้ากันเปื้อนสกรีนชื่อร้าน ‘น้องหมาตาแป๋ว’ ให้เธอใส่ไว้ “ฝากหน้าร้านหน่อยนะ พี่จะเอาเค้กไปใส่จาน แล้วเดี๋ยวมากินกัน” “ค่ะ! ได้เลยค่ะ! >///ตึกตัก... ตึกตัก... ผมยกมือขึ้นแตะหน้าอกบริเวณหัวใจตัวเอง เพื่อพิสูจน์ว่ามันเต้นแรงขึ้นเวลาอยู่ใกล้เธออย่างแต่ก่อนหรือไม่ และคำตอบที่ได้ก็เซอร์ไพรส์สุดๆ! หัวใจผมเต้นเป็นจังหวะเกือบจะปกติ ต่างจากเมื่อก่อนที่มันเคยเต้นรัวจนกลัวว่าจะขาดใจตายเวลาได้อยู่ใกล้เธอ... อย่าเพิ่งตื่นเลยนะซายน์... ขอพี่พิสูจน์อะไรบางอย่างอีกสักนิดเถอะนะ... “พี่ต๊ะขา~ เนธัชมาถามหาซายน์อะค่ะ” ผมเงยหน้าขึ้นมองน้ำค้างที่ยื่นหน้าเข้ามาทางประตู ก่อนที่เธอจะหยุดชะงักอยู่ตรงนั้นและจ้องมองหัวดำๆ ของคนที่นอนนิ่งอยู่บนโซฟาตรงหน้าผมอย่างสนใจปนไม่พอใจนิดๆ เหมือนจะดูออกว่าเป็นซายน์ ไม่ใช่เฮีย (เพราะเฮียโกรกผมเป็นสีน้ำตาลอมทอง) แล้วผู้ชายตัวสูงน้อยกว่าผมนิดนึงก็โผล่หัวตามน้ำค้างมา “พี่... ซายน์อยู่นี่ป่ะ?” ถามจบก็เหลือบมองซายน์ที่ถ้ามองจากตรงนั้นจะเห็นแค่ด้านบนของศีรษะที่หนุนพนักวางมือของโซฟาอยู่ ผมที่นั่งคุกเข่าอยู่ด้านหน้าโซฟายักไหล่นิดๆ ก่อนลุกเดินล้วงกระเป๋าไปหาไอ้เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมแต่กลับเคยเอาชนะเรื่องหัวใจทิ้งให้ผมเจ็บเกือบตายแบบไม่เห็นฝุ่นเมื่อหลายปีก่อน -_-^ คิดแล้วแค้นไม่หาย ผมมีอะไรด้อยกว่าหมอนี่วะ! “ก็เห็นนี่” ผมตอบนิ่งๆ “มึงมีอะไร?” เนธัชทำหน้าปั้นยาก มันคงรู้ละว่าผมไม่ได้จะกีดกันหรืออะไรทำนองนั้นเหมือนก่อนหน้านี้อีกแล้ว แต่กำลังกวน teen มันเล่น -w- “เข้าไปสิ” ผมบอกห้วนๆ ก่อนเดินชนไหล่มันออกมาโดยไม่หันกลับไปมองอีก แล้วน้ำค้างก็วิ่งตามมาด้วยอีกคน เธอยืนอยู่ข้างผมเงียบๆ... น้ำค้างรู้เรื่องผมกับซายน์ดีเลยละด้วยความที่บ้านเราอยู่ติดกันและเธอเองก็สนใจผม ชอบมาเล่นที่ร้านบ่อยๆ ตั้งแต่ตอนนั้น ว่าแต่... สี่ปีแล้วสิเนี่ย เธอไม่เหนื่อย ไม่เบื่อบ้างเหรอ? กับการตามผมแจ ทั้งที่ผมไม่เคยมีท่าทีอะไรด้วยเลย... ผมคิดแล้วยังเหนื่อยแทนเลยนะ... “พี่ต๊ะ เค้กล่ะคะ?” “หืม? เค้กอะไร” “เค้กของน้ำค้าง... ที่พี่บอกจะใส่จานมากินกัน” ผมขมวดคิ้วหันมองหน้าจ๋อยๆ ของเด็กสาววัยสิบเจ็ดตรงหน้า ก่อนนึกขึ้นได้ว่าผมลืมวางจานเค้กทิ้งไว้บนโต๊ะหน้าโซฟานี่หว่า! พอหันมองเข้าไปทางโซนประตูที่เชื่อมระหว่างบ้านกับหน้าร้าน มันก็ถูกบังด้วยบันไดขึ้นชั้นสองที่ทอดลงมาข้างเคาน์เตอร์ และพอหันกลับมามองเด็กสาวที่ยืนอยู่ข้างกัน เธอก็ก้มหน้าต่ำไปใหญ่ และไหล่บางๆ นั่นก็สั่นระริก เวรแล้วไง -_-; “ใจเย็นนะ พี่จะเข้าไปเอาออกมาเดี๋ยวนี้ละ” พอน้ำค้างเงยหน้าขึ้นมายิ้มใสเป็นสัญญาณว่าเธอจะอารมณ์ดีต่อไปในข้อจำกัดที่ว่าอีกไม่เกินห้านาทีข้างหน้าต้องได้สวาปามเค้กที่ตัวเองทำมากับมือพร้อมกัน! ผมก็รีบชิ่งจากหน้าเคาน์เตอร์มาถึงประตูเชื่อมระหว่างร้านน้องหมาฯ กับบ้านพัก แต่ใจมันดันฝ่อขึ้นมาตอนจับลูกบิดประตูซะอย่างนั้นทั้งที่ที่นี่เป็นบ้านของผมเองนะ! จะเกรงใจใครล่ะไอ้ต๊ะ... เปิดเข้าไปเลยสิวะ!!! คิดได้ดังนั้นผมก็บิดลูกบิดประตูช้าๆ และค่อยๆ แง้มมันเปิดเข้าไปอย่างเงียบเชียบที่สุด -.- ภาพที่เห็นบนโซฟาคือซายน์ลุกขึ้นมานั่งแล้ว โดยมีเนธัชชันเข่าอยู่ตรงหน้าเธอจุดเดียวกับที่ผมเพิ่งลุกจากมา... ทั้งสองคนโต้เถียงอะไรกันสักอย่าง โดยที่เนธัชพยายามอธิบายและเบือนหน้าหลบไปขำอีกทางเป็นระยะจนซายน์ดูจะโกรธปนงง แล้วรีบค้นกระเป๋าฉวยเอากระจกพับมาส่องหน้าตัวเองเหวอๆ ผมรีบหดหัวหลบทันทีที่ซายน์ทำท่าจะหันมองมาทางประตูอย่างเข่นเขี้ยว และยืนพิงกำแพงกลั้นหัวเราะอยู่ตรงนั้นเพราะเมื่อกี้ตอนซายน์หลับ ผมอยากพิสูจน์กับตัวเองว่าถ้าอยู่ใกล้เธอนานๆ จะใจเต้นแรงขึ้นเหมือนแต่ก่อนรึเปล่า เลยเอาปากกาเมจิมาวาดแก้มเธอเล่นไง และผลก็คือมันต่างไป... ในระหว่างที่ระบายหน้าเธอเป็นลิงชิมแปนซี ผมไม่รู้สึกตื่นเต้นใดๆ เลยแม้แต่น้อย -w-+ ป่านนี้ลิงน้อยคงโกรธผมน่าดูชมเลยละ แต่... ทำไมไม่โวยวายเลยหว่า? พอแอบชะโงกศีรษะมองทางรอยแง้มของประตูอีกครั้ง ก็เห็นซายน์พยายามจะใช้น้ำยาอะไรสักอย่างในกระปุกสีฟ้าที่เธอเอามาเทใส่กระดาษทิชชูพกพา แล้วปาดรอยปากกาบนหน้าตัวเองออกไปพลาง บ่นไปพลาง โดยมีเนธัชช่วยถือกระจกพับบานเล็กให้เธอส่อง แต่แค่ไม่นานเจ้านั่นก็วางกระจกลงแล้วแย่งกระดาษทิชชูไปเช็ดรอยเปื้อนออกให้เธอแทน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม