“ห๊ะ?...เธอว่ายังไงนะ...”
ขณะนั่งรอเรียน อยู่ดีๆธาราก็เดินก้มหน้าตรงเข้ามาหาโรมัน ทำเอากลุ่มของหนุ่มหล่อถึงกับมองจ้องเธออย่างตกใจ
“ช่วยติววิชานิติเวชฯ เอ่อ ให้หน่อยได้ไหม?...”
ธาราพูดขึ้นทั้งๆที่ก้มหน้างุดจนแทบมองหน้าเธอไม่เห็น
“ใครวะ...ไม่เคยเห็นหน้า”
ศิวะที่มองจ้องตั้งแต่เห็นธาราเดินเข้ามาอย่างมีคำถาม เมื่อเขาจำเธอไม่ได้เพราะไม่ได้ใส่แว่น เขาลุกเดินเข้ามามองเธอใกล้ๆ ทั้งก้ม ทั้งเบี่ยงตัวไปมาแต่ก็มองไม่ชัดเมื่อธาราพยายามก้มหน้าหลบเขา
“ไม่ต้องยุ่งน่า!...เดี๋ยวฉันติวให้เอง...”
เป็นรามินทร์ที่บอกขึ้น พร้อมกับตำหนิศิวะ จนศิวะต้องเดินกลับไปนั่งที่เดิม ส่วนโรมัน ตอนนี้เขากำลังมองรามินทร์ด้วยสีหน้าและสายตาเป็นคำถาม เพราะปกติรามินทร์ไม่ชอบยุ่งเรื่องของคนอื่นแท้ๆ
“ไม่ต้อง ฉันตกลง”
โรมันบอกขึ้น ทำเอาคนที่ได้ยินถึงกับอ้าปากค้าง ไม่เว้นแม้แต่ธาราที่ค่อยๆเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างตกตะลึง ก่อนจะเผยรอยยิ้มกว้างออกมา
“ขอบคุณนะ! ขอบคุณจริงๆ”
เธอเอ่ยขอบคุณเสร็จก็รีบวิ่งกลับไปด้วยความตื่นเต้นดีใจ โดยทิ้งให้สองหนุ่ม ทั้งรามินทร์และโรมันได้แต่มองตามหลังเธอไปเหมือนถูกมนต์สะกดกับรอยยิ้มของเธอ
ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก...
นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้น...ทำไมหัวใจเต้นแรงอย่างนี้วะ...
โรมันที่ยังนิ่งค้างถามตัวเองในใจ เมื่อหัวใจอันตายด้านกลับเต้นแรงเพียงเพราะรอยยิ้มกว้างของเพื่อนสาวร่วมห้องอย่างธาราเสียอย่างนั้น
ไม่ต่างกันกับรามินทร์ เมื่อวานเขาแค่รู้สึกถูกใจในความสวยใสของเธอ แต่ยิ่งได้เห็นและได้รู้จักเหมือนกับว่าเขากำลังตกหลุมรักเธอเสียอย่างนั้น
“นั่นใครวะ...เรียนกับเราเหรอ ทำไมไม่เคยเห็น อ่าว แกสองคนเป็นอะไร...รู้จักเหรอ?”
เทวาที่ยังสงสัยถามขึ้น แต่พอมองไปที่เพื่อนกลับต้องแปลกใจเมื่อพากันมองไปทางเดียวกันเสียอย่างนั้น
“เดี๋ยวฉันจัดการเอง แกไม่ต้องทำหรอก เสียเวลาเปล่าๆ”
รามินทร์หันไปบอกโรมัน
“ไม่ล่ะ ฉันบอกว่าจะทำก็คือจะทำ”
พรึ่บ!
พูดจบโรมันก็ลุกเดินออกไปทันที ทำเอาเพื่อนๆอีก 3 คนถึงกับมองตามอย่างไม่เข้าใจ เพราะปกติโรมันจะเลี่ยงที่จะยุ่งเกี่ยวกับคนอื่น ยิ่งเป็นพวกผู้หญิงธรรมดาๆยิ่งไม่มีทาง นอกจากพวกสาวดาวมหาลัยหรือไม่ก็สวยระดับดารา
“อะไรของมันวะ...แล้วทำไมแกสองคนถึงทำตัวแปลกๆ อ่าว ไปไหนกัน...”
ศิวะที่สงสัยไม่แพ้เทวาอดพูดขึ้นไม่ได้ ก่อนจะมองตามรามินทร์ที่ลุกเดินหนีไปอีกคน
“แก...”
ทางด้านธาราที่ทั้งดีใจและตื่นเต้นรีบวิ่งกลับมาหาเพื่อน ที่รอลุ้นอยู่ไม่ไกล
“เป็นไงๆๆๆ”
วารีรีบถามขึ้น
“มีชีวิตกลับมาแบบแขนขาไม่หักก็ดีแล้ว นั่นน่ะโรมันนะ ไม่มีทางที่...”
“เขาตกลงล่ะแก!!”
บ๊อบบี้ที่คิดว่าเป็นไปไม่ได้ถึงกับอ้าปากค้างกับสิ่งที่ธาราพึ่งบอกออกมา ก่อนสามสาวจะลุกขึ้นประสานมือแล้วเต้นรำอย่างดีอกดีใจ เพราะคิดว่ารอดตายแล้ว จนคนที่นั่งแถวนั้นอดมองด้วยความอยากรู้อยากเห็นไม่ได้
และหลังจากนั้นธาราก็ต้องคิดหนักเพราะไม่รู้จะเริ่มหรือติดต่อโรมันยังไง เพราะมีแค่ไม่กี่วิชาที่เธอกับเขาเรียนตรงกัน เธอเอาแต่มองหาและเฝ้ารอเจอเขาแทบทุกวินาที จนสุดท้ายก็มาเจอเขาที่ห้องเรียน ที่ทำงานกลุ่มด้วยกัน
“โรม...ฉัน เอ่อ ฉันอยากคุยเรื่องที่นายจะติวให้ พอจะ...”
“ฉันยังไม่ว่าง”
โรมันปฏิเสธทันทีทั้งๆที่เธอยังพูดไม่จบ ทำเอาธาราถึงกับหุบยิ้มทันทีเช่นกัน เมื่อความหวังเหมือนดูริบรี่เต็มทน
“ถ้าไม่ว่าอะไร ฉัน...”
รามินทร์ที่ทนฟังอยู่นานเสนอตัวแต่พูดยังไม่ทันจบ โรมันก็พูดขึ้นก่อน
“เย็นนี้ที่ลานเฟื่องฟ้า 5 โมงเย็น สายแค่วินาทีเดียวยกเลิกทันที”
ทำเอาทั้งรามินทร์และธาราอึ้งไปตามๆกัน ซึ่งไม่ต่างจากศิวะและเทวาที่เดินมาทันได้ยินก็อดนิ่แปลกใจไม่ได้
“ขอบ...ขอบใจนะ! รับรองฉันไม่สายแน่นอน!”
ธารารีบบอกขึ้นพร้อมกับอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ ก่อนจะเดินหันหลังกลับไปหาเพื่อนๆของเธอ ปล่อยให้โรมันที่ดันเผลอมองรอยยิ้มของธารารีบหันหน้าออกไปทางหน้าต่าง
อะไรกัน...ไอ้โรมชอบผู้หญิงคนนั้นเหรอ?...บ้าน่า...ไม่มีทาง...แล้วทำไมหมอนี่ถึงทำแบบนั้นล่ะ
นี่คือความคิดของรามินทร์ เทวาและศิวะ เมื่อต่างก็แปลกใจกับโรมัน แต่ก็ไม่มีใครกล้าถาม เพราะถ้าเกิดโรมันโมโหขึ้นมาอาจเกิดเรื่องกัน
ส่วนโรมันเขาเองก็ไม่เข้าใจตัวเอง แทนที่เขาจะตัดปัญหาโดยให้รามินทร์เป็นคนทำแทนแต่เขาดันเอาแต่ขัดขวางจนเริ่มหงุดหงิดกับสิ่งที่ตัวเองทำลงไป
ตกเย็น ธาราที่ไปรอตั้งแต่ 5 โมงเย็น เมื่อเรียนคาบสุดท้ายเสร็จเธอก็รีบเก็บของมารอเจอโรมันที่นี่ หญิงสาวกอดหนังสือเรียนเล่มโตเอาไว้แน่นพลางสอดส่ายสายตามองไปรอบๆเผื่อโรมันจะมาก่อนเวลา
“ทำไมยังไม่มา...หรือว่าลืม...”
และเวลาก็ผ่านไปจนกระทั่งหกโมงครึ่งโรมันก็ไม่โผล่มา คนรอเริ่มนั่งนิ่งไม่ไหวเธอลุกเดินไปมาอย่างกระวนกระวายใจ เพราะอีกแค่ 5 วันเธอก็ต้องสอบแล้ว ถ้าไม่ผ่านมีหวังอนาคตการเป็นหมอดับอนาถอย่างแน่นอน
ส่วนโรมัน เขาดันลืมไปเสียสนิทว่านัดธาราเอาไว้ เขากลับมาจนถึงคอนโด อาบน้ำอาบท่าเสร็จเรียบร้อยแล้วถึงนึกขึ้นได้ เขารีบใส่เสื้อผ้าซึ่งหยิบจับอะไรได้เขาก็ใส่ๆไปก่อนจะวิ่งไปหยิบกุญแจรถแล้วลงไปชั้นล่างอย่างลืมตัวกับสิ่งที่กำลังทำ
ไม่นานโรมันก็มาถึงลานเฟื่องฟ้า สถานที่ที่เขานัดธาราเอาไว้ ซึ่งตอนนี้มีแค่แสงไฟสลัวๆเพราะเกือบหนึ่งทุมแล้ว เขามองไปรอบๆพร้อมกับถอนหายใจเพราะคิดว่าธาราคงกลับไปแล้ว
แต่พอกำลังจะหมุนพวงมาลัยรถเพื่อกลับคอนโด ร่างเล็กของธาราก็เดินผ่านข้างๆรถเขาไป ทำเอาโรมันถึงกับรู้สึกผิดเพราะไม่คิดว่าเธอยังรอเขาอยู่ ตาคมมองจ้องตามร่างบางซึ่งเธอเอาแต่เดินกลับไปกลับมาบนถนนทางเดินพลางชะเง้อมองไปมา ยิ่งทำให้เขารู้สึกผิดขึ้นไปอีก
ปิ๊บๆ!
“ว๊าย! เอ่อ...”
โรมันบีบแตรรถเสียงดัง จนคนที่เดินอยู่สะดุ้งตกใจหันมามองที่รถของเขาด้วยความสงสัย ก่อนกระจกจะค่อยๆลดลง
“โรม!!!”
พอเห็นว่าเป็นโรมันเธอรีบวิ่งเข้ามาหาพร้อมกับยิ้มกว้างอย่างดีใจ
“ฉันนึกว่านายจะไม่มาแล้ว! เอ่อ แต่...มันมืดแล้ว...”
เธอมองซ้ายขวาและคิดว่ามันมืดเกินกว่าจะมานั่งติวกันแล้ว พลันธาราก็ทำหน้าเสียดายเพราะคงไม่ได้ติวกันอีกตามเคย
“เธอพักอยู่ไหน?”
“หือ? หอพักนักศึกษา”
โรมันถามขึ้น ซึ่งธารานั้นเลือกจะพักที่หอพักของทางมหาวิทยาลัยจัดให้เมื่อสะดวกแถมราคาถูกกว่าที่อื่นๆอีก
“ยังอยากติวอยู่รึเปล่า?”
“ห๊ะ! อยากๆ”
“งั้นก็ขึ้นมา”
และธาราก็รีบวิ่งไปขึ้นรถของเขาอย่างไม่ต้องคิดอะไรมากมาย เมื่อโอกาสมาถึงขนาดนี้ เธอไม่ปล่อยให้มันหลุดมือไปเด็ดขาด
จากนั้นโรมันก็ไม่พูดอะไรอีก เขาขับรถพาเธอมาที่คอนโดของเขา เมื่อคงไม่สะดวกไปติวให้เธอที่หอพักหญิงล้วนอย่างแน่นอน
“ติวที่คอนโดฉัน โอเครึเปล่า?”
พอมาถึงเขาก็ถามขึ้น
“ได้สิๆๆ ที่ไหนก็ได้หมดแหละ ฉันไม่มีปัญหาหรอก”
และเธอก็ตอบรับอย่างไม่ต้องสงสัย ก่อนจะรีบเดินตามร่างสูงใหญ่เข้าไป และธาราก็พึ่งสังเกตว่าเสื้อผ้าที่เขาใส่อยู่นั้นมันดูตลกยังไงชอบกล
กางเกงบ๊อกเซอร์กลับด้าน เสื้อเชิ้ตติดกระดุมผิดเม็ดแถมรองเท้าแตะคนละสีนั่นอีก ต่างจากเวลาที่อยู่มหาลัยอย่างสิ้นเชิง โดยไม่รู้เลยว่าโรมันนั้นไม่ได้รู้เพราะไม่ได้สำรวจตัวเองก่อนออกไปหาเธอ มัวแต่รีบ ผลออกมาเลยเป็นแบบที่เห็น
“เข้ามาสิ”
และพอมาถึง เขาก็เปิดประตูห้องแล้วบอกให้เธอเข้ามา และพอเห็นห้องของเขา ธาราถึงกับเบิกตากว้าง อ้าปากค้างอย่างไม่อยากเชื่อเมื่อมันดูใหญ่โตหรูหรา แถมมองไปทางไหนก็สะอาดตาไปหมด
“ห้ามบอกใครว่ามาที่นี่ล่ะ”
“อื้อๆๆๆ ไม่บอกหรอก...”
ธารารีบตอบรับ ก่อนจะเดินเข้าไปนั่งลงที่โซฟารับแขกสีขาวสะอาดของเขา ส่วนเจ้าของห้องก็เดินหายเข้าไปในห้องนอน ปล่อยให้แขกมองสำรวจไปเรื่อยๆ