หมับ!
“อึ๊ อื้อ...”
หลังจากดื่มต่อกับซาร่าพักใหญ่ๆ ทั้งสองก็เดินออกมาจากงานปาร์ตี้ เมื่อต่างก็พอรู้ถึงความต้องการของกันและกัน ซาร่าพาโรมันมาที่หอพักของเธอ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัย พอมาถึงห้องทั้งสองก็ไม่ได้รีรอ
สวบ!!
“อ๊ะ!...”
โรมันที่รูดซิบกางเกงลงมาแล้วสวมใส่อุปกรณ์ป้องกัน ก่อนจะดันมันเข้าไปในรูรักแสนหวานของซาร่าอย่างรวดเร็วและรุนแรงจะเธอถึงกับอ้าปากค้างด้วยความเจ็บจุก
ปึก!
“อ๊ะ! โรม...โรมคะ ซาร่า อ๊ะ!...”
ซาร่ารีบเอามือไปดันท้องเขาเอาไว้ เมื่อขนาดที่เขาส่งเข้ามานั้นมันใหญ่จนเกินที่เธอจะรับไหว ร่างสาวงองุ้มอย่างเจ็บจุก แต่โรมันไม่สนใจ เขาเริ่มกระหน่ำแทงหนักหน่วง เมื่อตอนนี้ต้องการจนแทบบ้าอยู่แล้ว
ปึก! ปึก!
“โอ๊ย! โรม อ๊ะ! โรมคะ อื้อ โรม อ๊า ซาร่าเจ็บ อึก! โรม...”
ซาร่าไม่ได้มีความสุขร่วมด้วยกับเขาเลยสักนิด เมื่อหน้าสวยเหยเก เต็มไปด้วยความเจ็บและทรมาน สองมือกำเข้าหากันแน่น เมื่อเคยได้ยินว่าเขาดุดันเรื่องบนเตียง แต่ไม่คิดว่าจะมากมายขนาดนี้
ปึก! ปึก! ปึก! ปึก!
ส่วนโรมัน เขาเอาแต่กระแทกเข้าใส่เธอเหมือนกับเห็นเธอเป็นแค่ที่รองรับความต้องการที่เกิดขึ้น เขาไม่แม้แต่จะโอ้โลม หรือพาเธอไปมีอะไรกันบนเตียงที่อยู่ตรงหน้าหรือโซฟาที่อยู่เยื้องๆกัน แต่เขากลับเลือกที่จะกระหน่ำรักเธอที่หน้าประตู จนกระทั่งเขาทนไม่ไหวปล่อยน้ำรักข้นขาวออกมาจนแทบล้นเครื่องป้องกัน
“อ๊า!...”
บ๊วบ!
โรมันดึงเอ็นใหญ่ออกจากกุหลาบรักของเธอเมื่อเสร็จสมแล้ว
“อื้อ!...”
ส่วนซาร่าถึงกับหมดแรงทิ้งร่างลงนั่งกองอยู่ที่พื้น หมดสภาพความสวยเมื่อนี่เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกทรมานจากการร่วมรัก ต่างจากโรมัน เขาเก็บน้องชายสุดรักที่เช็ดทำความสะอาดแล้วใส่กลับที่เดิม ก่อนจะเปิดประตูเดินออกจากห้องพักของเธอไปอย่างไม่คิดจะพูดอะไรออกมาเลยสักคำ
“หายไปไหนของมันวะ...เฮ้ย! เห็นไอ้โรมไหม?”
“เห็นเดินออกไปหลังร้านกับซาร่านะ”
“...............”
ทางด้านศิวะที่เห็นว่าโรมันหายออกมานานเกินไปเลยเดินออกมาตาม และเพื่อนที่อยู่ในงานก็บอกเขาว่าโรมันเดินออกไปกับซาร่า ทำเอาศิวะถึงกับยืนนิ่งหน้าเปลี่ยนสีอย่างเห็นได้ชัดเพราะรู้ดีว่าจุดจบระหว่างโรมันกับซาร่าคือที่ไหน
“มีเรื่องอะไรรึเปล่าศิวะ...ทำไม...”
อิงอิงที่เดินตามออกมาถามขึ้น
หมับ!
“ว๊าย! จะไปไหนน่ะ ศิวะ!”
แต่กลับถูกศิวะจับแขนแล้วพาเดินออกไปทางด้านหลังร้านจนเธอที่ไม่ได้ตั้งตัวตกใจ แต่ก็ยอมเดินตามเขาออกมา
เวรเอ้ย!!! ไอ้เพื่อนเวร!!!
ศิวะที่ทั้งโกรธทั้งโมโหที่ถูกแย่งผู้หญิงที่หมายปองมานานได้แต่ก่นด่าในใจ
ผลั๊ก!
“โอ๊ย! อะไรกันคะศิวะ! อิงอิงเจ็บ อื้อ!...”
พอมาถึงรถ ร่างบางถูกผลักไปพิงรถของเขาก่อนศิวะจะตามมาประกบจูบลงไปบนปากของเธออย่างรวดเร็วและรุนแรงจนอิงอิงตกใจ
“เป็นบ้าอะไร! อื้อ ไม่นะ ศิวะ! ไม่เอา! ว๊าย! อ๊ะ! อื้อออ”
สวบ!!
อิงอิงที่ปากเป็นอิสระเมื่อศิวะจับให้เธอหันหลังแล้วดึงถลกกระโปรงแสนสั้นของเธอขึ้นสูง ก่อนจะสอดใส่ลำเอ็นใหญ่ประสานเข้าไปอย่างไม่สนใจเสียงร้องห้ามและแรงดิ้นขัดขืนของเธอ
ปึก! ปึก! ปึก! ปึก! ปึก! ปึก!
เขาเอาความโกรธมาลงที่ร่างของอิงอิงโดยไม่คิดแม้แต่จะป้องกันหรือสนใจสถานที่เลยสักนิด เขาจ้วงแทงใส่ไม่ยั้งจนอิงอิงขาอ่อนหมดแรง กระทั่งปลดปล่อยออกมานั่นแหละอิงอิงถึงได้หายใจหายคอ
“นาย...นายเป็นบ้าอะไร! ทำแบบนี้กับฉันทำไม?”
เธอถามขึ้นอย่างโกรธเคือง
“สิ่งที่เธอต้องการไม่ใช่เหรอ?”
ศิวะถามขึ้นพร้อมกับเก็บความเป็นชายใส่เอาไว้ที่เดิม
“ฉันไม่ได้ต้องการนาย โรมคือคนที่ฉันต้องการ!”
และพอได้ยินประโยคนั้น ความโกรธที่ยังอยู่ก็เพิ่มขึ้นอีก เขามองอิงอิงที่กำลังขยับเสื้อผ้าให้เข้าที่แล้วตะคอกใส่
“อย่าหวัง!! อย่างมันไม่สนใจผู้หญิงหน้าตาธรรมดาๆอย่างเธอหรอก!”
“อ๊ายยยย”
พูดจบศิวะก็เดินหันหลังกลับเข้าไปในร้าน ปล่อยให้อิงอิงได้แต่กรีดร้องอย่างโกรธเขา เมื่ออยู่ดีๆก็เดินตามออกมาให้เขาเสียบฟรีๆแถมยังถูกด่าฟรีๆอีกต่างหาก
“เฮ้อ ทำยังไงดีอ่ะแก ถ้าเกิดเราสอบไม่ผ่าน อาจารย์บอกว่าจะไม่เซ็นให้ไปฝึกประสบการณ์ปีหน้า”
“ฉันก็ไม่รู้ ทำไมเราถึงโง่อย่างนี้ล่ะ...เรียนมาตั้ง 5 ปี จะมาตกม้าตายปีสุดท้าย เฮ้อ...ทำไงดี...”
สองสาวเพื่อนซี้ได้แต่นั่งเศร้าถอนหายใจอย่างหนักใจ เมื่อทำยังไงเธอสองคนก็สอบไม่ผ่านภาคนิติเวชเมื่อวาน ที่ต้องฝึกผ่าหุ่นร่างกายคน และอาจารย์บอกว่าอาทิตย์หน้าต้องสอบให้ผ่าน เพราะถ้าไม่อย่างนั้นเธออาจไม่มีสิทธิ์ไปฝึกงานในการเรียนปีที่ 6 ก็เป็นได้
“ลองไปหาคนเก่งๆมาช่วยติวไหม? ฉันได้ยินมานะว่าการติวตัวต่อตัวน่ะ ช่วยได้เยอะเลยแก อย่างพี่ส้มซ่า แกรู้ฉายาใช่ไหม? นั่นแหละ พี่เขาไปให้ที่ 1 ของรุ่นมาติวให้ แกเอ้ย จากที่โหล่พี่แกเกือบได้เกียรตินิยมเลยนะ”
“เฮ้ย! / เฮ้ย!”
สองสาวอุทานออกมาพร้อมกับกับสิ่งที่บ๊อบบี้บอกให้ฟัง พลันสายตาก็เป็นประกายกับความหวังอันน้อยนิดของพวกเธอ
“แต่ที่หนึ่งของรุ่นเรา...โรม! โอ๊ย ฉันขอบาย”
วารีทั้งพูดทั้งทำหน้าขยาด เมื่อใครๆต่างก็รู้ว่าโรมันน่ากลัวขนาดไหน ต่างจากธาราที่นั่งเงียบทันทีที่เอ่ยชื่อโรมันออกมา
“อะไรยัยธาร อย่าบอกนะว่าแกจะให้โรมช่วยน่ะ แกอยากถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆก่อนจะได้เรียนใช่ไหม?”
บ๊อบบี้ที่สังเกตเห็นหน้าของธาราก็รู้ได้ในทันทีว่าเพื่อนของตนต้องการจะทำอะไร เพราะการยอมแพ้เพียงแค่ยังไม่ได้ลองหรือลองแค่ครั้งเดียวนั้นใช้ไม่ได้กับธาราคนนี้ ภายนอกเห็นท่าทางอ่อนแอตัวเล็กจิ๋วแต่ใจสู้จนหาคนเทียบยาก
“ฉันอยากสอบผ่าน...อีกอย่าง ถ้าฉันเลื่อนอันดับขึ้นไปอีกสักสิบ หรือยี่สิบอันดับได้ พ่อกับแม่ฉันจะยอมให้ทำงานที่โรงพยาบาลถ้าฉันเรียนจบแล้ว...แต่ถ้าไม่...ฉันอาจต้องกลับไปอยู่เชียงราย...”
ธาราบอกออกมา เพราะการเรียนแพทย์ของเธอนั้นไม่ได้ถูกสนับสนุนจากครอบครัวของเธอเลยสักนิด เมื่อบิดามารดาเป็นเจ้าของไร่ชาอันโด่งดังที่ภาคเหนือและมีลูกสาวเพียงคนเดียวคือเธอ แต่เธอกลับเลือกเรียนหมอตามความฝันทั้งๆที่หัวไม่ให้ กว่าจะผ่านมาแต่ละปีก็แทบเอาตัวไม่รอด
“เฮ้อ ฉันพอเข้าใจ ทำไมฉันไม่เรียนเก่งๆนะจะได้ช่วยแกได้”
วารีอดทำหน้าเศร้าแล้วบอกออกมาไม่ได้
“เอาตัวเองให้รอดก่อนไหมล่ะ เฮ้อ เราน่าจะไปคบกับคนเก่งๆนะ จะได้ช่วยดึงคะแนนเราบ้าง นี่แต่ละคนก็แทบเอาตัวไม่รอด เฮ้อออออ”
ทั้งสามเพื่อนสนิทได้แต่ถอนหายใจและนั่งหน้าเศร้ากันอยู่ที่สวน ส่วนธารา ตอนนี้สายตามาดมั่นเป็นอย่างมาก ความกลัวไม่สามารถทำอะไรเธอได้ขอแค่ให้เธอได้เรียนจนจบและเป็นหมอสมใจก็พอ