“อย่าดิ้นสิแม่คุณ เดี๋ยวตกจากหลังม้าหรอก”
เสียงเข้มปนรำคาญดังขึ้นตรงหน้าเธอ พวงชมพูเพิ่งรู้ว่าเธอถูกอุ้มลอยขึ้นมาอยู่บนหลังม้าเสียแล้ว แถมยังเจอกับผู้ชายหน้าดุที่รกไปด้วยหนวดเครา
“กรี๊ด!!! ปล่อยนะ นายจะทำอะไรฉันน่ะ จะพาฉันไปไหน”
“อย่าดิ้นมากสิคุณ เห็นไหมว่ายิ่งดิ้นยิ่งเบียดเสียดสีกับอะไรของผมบ้าง”
“ลามก โรคจิต” พวงชมพูหยุดดิ้นทันทีเพราะเธอเองก็สัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างของผู้ชายที่ตุงอยู่ใต้กางเกงยีนส์หนาเก่าๆ ตัวที่เขาสวมอยู่ เธอไม่ใช่เด็กไร้เดียงสา เข้าใจดีว่ามันคืออะไร
“อยากรู้ไหมว่า... ลามก โรคจิตเป็นยังไง หึหึ” อุกฤษฏ์แกล้งยื่นหน้าเข้าไปหา พวงชมพูเบี่ยงหน้าหนี มองตาเขียว
ผู้หญิงอะไรแก้มเนียนหอมชะมัด นี่เขายังไม่ได้ประทับปากลงไปตรงๆ หรอกนะ แค่อยู่ระยะกระชั้นชิดก็ทำให้เขาไขว้เขวได้แล้ว
“อย่านะ ไอ้บ้ากาม นายจะพาฉันไปไหนนี่ ปล่อยฉันไปเถอะนะ” พวงชมพูถามอย่างหวาดระแวง ไม่คิดว่าการเดินทางมาหาบิดาครั้งนี้จะโชคร้าย
“สาวๆ สวยๆ แบบนี้พาไปทำอะไรดีนะ เอาไปทำเมียดีหรือเปล่า” อุกฤษฏ์หัวเราะอย่างครื้นเครง ยิ่งเห็นใบหน้าหวานหยาดเยิ้มหยดย้อยแดงก่ำด้วยความโกรธ ยิ่งอยากยั่วเข้าไปอีก
“ปล่อยฉันไปเถอะนะ ฉันจะไม่เอาเรื่องนายแน่นอน เพราะถือว่านายช่วยชีวิตฉันไว้ บ้านฉันรวยมากนะ นายจะเอาเงินเท่าไหร่ฉันจะให้คุณแม่เงินส่งมาให้”
เธอรีบยกมือไหว้เขา เอ่ยขอร้องเสียงสั่น เพราะยิ่งเขาควบม้าไปเรื่อยๆ ก็ยิ่งเข้าไปในป่าลึก แถมลูกน้องของเขายังตามมาเป็นพรวน ผู้ชายเป็นโขยงแบบนี้ ถ้ายังแข็งข้อ พวงชมพูคิดว่าตัวเองคงไม่รอด คงต้องใช้ไม้อ่อนพูดจาเกลี่ยกล่อม บางทีเธออาจจะรอดก็ได้
“เรื่องอะไรจะปล่อยง่ายๆ ได้ทั้งเมียได้ทั้งเงินไม่ดีกว่าเหรอ” อุกฤษฏ์หัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์ พวงชมพูยิ่งหวาดกลัวจนตัวสั่น ไม่คิดว่าจะโชคร้ายมาเจอโจรกลางทางแบบนี้