“คุณหิรัญคะ นี่คือคุณโบนิตาค่ะ มาจากบริษัทโฆษณาที่นัดกันเอาไว้” เหมียวแก้สถานการณ์ เธอก็ไม่อยากให้โบนิตารู้ว่าบอสหนีงานแล้วส่งน้องชายมาทำงานนี้แทนเขา
“สวัสดีค่ะ” โบนิตายกมือไหว้ แต่ใบหน้าก็ยังเรียบเฉย
หิรัญยิ้มให้นิด ๆ มันพลาดตรงที่ว่า โบนิตาไม่น่าจะมาเห็นช็อตเด็ดเมื่อตะกี้นี้เลย
“จะเริ่มกันเลยไหม” ชายหนุ่มเอ่ยเหมือนรีบ
‘อ๋อ ก็คงต้องไปต่อกับแม่ดารานั่น ต่อจากเมื่อกี้ หึ... นี่แหละสันดานผู้ชาย น่าเจ็บใจ’ในใจของโบนิตา
ใบหน้าของโบนิตายิ้มแย้ม
“ค่ะ” แล้วเธอก็เดินเข้าไปต่อโน้ตบุ๊กที่เตรียมมาเข้ากับโปรเจกเตอร์
“สวัสดีค่ะคุณกาย” คุณเหมียวยกมือไหว้เขา
“พี่ปลื้มให้ผมตัดสินใจแทนได้” เขาพูดเบา ๆ บอกคุณเหมียว เธอได้แต่พยักหน้า
“คือจะเป็นแบบนี้นะคะ...” โบนิตาอธิบายขยายความงานของเธอได้อย่างคล่องแคล่ว ตลอดเวลาที่เสนองาน ทางหิรัญและคุณเหมียวถามเรื่องที่ต้องการรู้เพิ่มเติมบ้าง ก่อนที่เธอจะปิดการนำเสนองานไปเมื่อใช้เวลาเกือบหนึ่งชั่วโมง
“รับกาแฟไหมคะ” เหมียวถามทั้งสองคน เพราะเห็นมีสีหน้าเคร่งเครียด
“ส้มไม่ดื่มกาแฟค่ะ”
เหมียวกำลังจะเดินจากไป
“เดี๋ยวค่ะคุณเหมียว เรื่องนี้จะให้คำตอบได้วันไหนคะ”
“ผมนี่แหละจะให้คำตอบคุณ รอผมดื่มกาแฟให้เสร็จก่อน” ทำไมหิรัญรู้สึกอารมณ์เสียที่เห็นเธอไม่ใส่ใจเขา
“อ๋อค่ะ”
โบนิตาถอนหายใจ เริ่มเก็บของของตัวเองลงกระเป๋า
คุณเหมียวส่งยิ้มให้แล้วเดินออกไป
หิรัญเดินเข้ามาใกล้ ๆ เธอขยับถอยห่าง นึกไปถึงบทจูบของเขากับแม่ดาราสาวก่อนหน้าแล้วก็ชักสีหน้า
หิรัญต้องชะงักมือที่กำลังจะเอื้อมไปจับแขนของหญิงสาว อยากคุยกับโบนิตาต่อสักนิดในเรื่องส่วนตัว
ประตูก็ถูกเปิดเข้ามา
“กาแฟมาแล้วค่ะคุณกาย ส่วนของคุณส้มเป็นน้ำเปล่าได้ไหมคะ”
“ได้ค่ะ” โบนิตานั่งลงไปที่เก้าอี้ตรงข้ามเขา
“เรื่องการทำโฆษณา ผมตกลงนะ แต่...”
โบนิตาสีหน้าดีใจ ก่อนจะหุบลง
“แต่อะไรคะคุณกาย” คุณอริสาถามเสียเอง
“คุณโบนิตาต้องไปกินข้าวเย็นกับผม และให้ผมไปส่งคุณที่คอนโดฯ ตกลงไหม” หิรัญจ้องหน้าของโบนิตา
คุณเหมียวถึงกับทำหน้าเหวอ
‘อ้ะแล้วแม่ดาราเมื่อกี้ล่ะ’ คำถามเกิดขึ้นในใจ
‘เอ... คุณส้มไม่น่าจะใช่สเปกของคุณหิรัญนี่นา คนละขั้วกับยายอลิส’
เสียงของเจ้านาย
คำพูดของคุณสายชลดังขึ้นมาในหัว
“ส้มถ้าแกได้งานของบริษัทคุณปลื้ม ฉันให้แกลางานได้เจ็ดวัน”
“อะไรกันคะพี่ มันเป็นวันพักร้อนของหนูอยู่แล้ว”
“แล้วถ้าฉันไม่เซ็นอนุมัติ แกจะได้หยุดไหม” คุณสายชลถือไพ่เหนือกว่า
“ก็ได้ค่ะ” เธออยากจะไปเที่ยวไกล ๆ ที่ไหนสักที่ในประเทศไทยแล้วตอนนี้
“ว่าไงคะคุณส้ม” เสียงคุณเหมียวดังขึ้นทำให้เธอตื่นจากภวังค์
แต่บทรักของหิรัญกับยายอลิเชียเมื่อกี้
“ไม่ค่ะ” เธอพูดจบก็รีบเก็บของขึ้นมาถือ แล้วหมุนตัวออกจากห้องประชุมเพราะเคืองหิรัญมาก เขาต้องการอะไรจากเธอกันแน่
“เดี๋ยวก่อนสิ คุณส้ม” หิรัญลุกขึ้นตาม แต่โต๊ะตัวใหญ่ที่ขวางเขาเอาไว้ เขาต้องเดินอ้อม
คุณเหมียวรีบวิ่งตาม เพราะสีหน้าที่โกรธจัดของโบนิตากับคำพูดและข้อเสนอของหิรัญ
“คุณส้มคะ เดี๋ยวก่อนค่ะ”
“ขอโทษนะคะคุณเหมียว” โบนิตาหันมาคุยด้วย
“เอ่อ... คุณส้มคะ”
“จริง ๆ ข้อเสนอที่คุณกายพูดขึ้นมา มันก็ไม่น่าเกี่ยวกับงานที่ส้มเสนอและพรีเซนต์ไป ยังไงถ้าคุณกายเขาไม่ตัดสินใจหรือปฏิเสธ ส้มก็โอเคค่ะ ถือว่างานของส้มมันห่วย มันไม่เข้าตา”
โบนิตาหน้าแดงหน้าเขียวออกมาอย่างเห็นได้ชัด
อริสาไม่รู้ว่าทั้งสองเคยมีอะไรเกี่ยวข้องกันมาก่อนหน้าหรือเปล่า แต่ก็ยิ้มให้แห้ง ๆ
‘จะเอาอะไรไปรายงานบอสวะ คุณปลื้มโมโหตายอีกแบบนี้’
“เดี๋ยวเหมียวจะถามคุณกายให้อีกทีค่ะ น่าจะหยอกเล่น”
“ส้มลาค่ะ” เธอยกมือไหว้ แล้วก้าวฉับ ๆ ออกไปทันที
“นี่คุณ” หิรัญเดินมาทันเธอจนได้ แต่โบนิตาก็ยังไม่หยุดเดิน เขาจับแขนและกระชากเธอเข้าหาตัว
“บอกให้หยุดก่อนไง เรายังคุยกันไม่จบ”
ร่างของส้มเซไปปะทะกับเขา เงยหน้าขึ้นมองตอนที่ทรงตัวได้ แต่มือของเธอก็ยังอยู่ในมือของเขา
“ก็ฉันไม่ไปกินข้าวกับคุณ และก็ไม่ให้คุณไปส่งบ้าน มันก็จบแล้ว”
“ผมล้อคุณเล่น” เขายิ้มกวน
เธอกลั้นลมหายใจที่กำลังโกรธจัด
“แต่ฉันไม่ชอบให้ใครมาพูดเล่นด้วย” เธอขึงตาเข้าใส่
“เสร็จงานแล้วหรือคะพี่กาย” อลิเชียโผล่หน้าเข้ามาแทรกตรงกลาง
ทั้งคู่หันไปมองหน้าดาราสาว ที่อยู่ระหว่างคนสองคน
“อลิส ผมนึกว่าคุณกลับไปแล้ว”
“ทีแรกอลิสก็คิดว่าจะกลับไป แต่พอดีนึกขึ้นได้ว่าอาทิตย์หน้าคิวอลิสก็จะเต็มเหมือนเดิม สู้นั่งรอพี่กายชั่วโมงสองชั่วโมงจะเป็นไรไป ว่าแต่... พี่กายทำเหมือนว่าจะไปกับแม่ผู้หญิงทำงานออฟฟิศคนนี้ จะไปทำงานกันต่อหรือคะ”
สายตาที่อลิเชียมองดูโบนิตาตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าและแววตาที่ดูถูกคนสุด ๆ เสื้อผ้าที่โบนิตาใส่อาจจะไม่มีราคาค่างวด และเป็นสินค้าแบกะดินราคาถูกไม่ได้ขึ้นห้าง แต่มันก็สะอาดสะอ้านไม่ได้สกปรกตรงไหน
โบนิตาเกิดอาการหัวร้อน แต่ก็ต้องข่มใจไว้ แต่ก็อดปากเอาไว้ไม่ได้
“ผู้ชายคนนี้เป็นคู่นอนของคุณหรือคะ”
‘OMG’ ดาราสาวทำตาโตเท่าไข่ห่าน
“บอกคู่นอนของคุณด้วยนะคะว่าอย่าพาใครไปขึ้นเตียงที่ไหนอีก หากเขาติดใจจะสานสัมพันธ์ต่อ มันอาจจะทำให้คุณเสียหน้าได้”
“อะ อ้า...”
อลิเชียถึงกับอ้าปากค้าง หมดคำจะพูด ได้แต่หันไปมองรอบ ๆ ว่ามีสายตาของใครดูอยู่บ้าง หรือมีใครยกกล้องมือถือขึ้นมาถ่ายรูปเอาไว้หรือเปล่า ถ้ามีใครมาได้ยินว่า ดาราสาวอลิเชียกำลังแย่งผู้ชายกับแม่ผู้หญิงหน้าจืด ๆ คนนี้คงขายขี้หน้าแย่
“โอ๊ย... ลูกน้องของพี่หรือคะ พี่กายไล่ออกเลยค่ะ พูดจาก็ทุเรศ และไร้มารยาทที่สุด” เธอเค้นคำพูดมีสีหน้าโกรธออกมาเหมือนกัน
“คงไล่ออกไม่ได้หรอกค่ะ เพราะฉันไม่ใช่ลูกน้องของเขา และอีกอย่างช่วยบอกผู้ชายของคุณให้ปล่อยมือของเขาออกจากมือของดิฉันด้วยค่ะ” เธอมองหิรัญด้วยความไม่พอใจ
หิรัญเริ่มรู้ตัว ปล่อยมือออกจากมือของเธอทันที
อลิเชียรีบดึงและคล้องแขนหิรัญเอาไว้แสดงตัวเป็นเจ้าของเขาทันที
“ขอตัวนะคะ” เธอบอกลาเขา แต่ตอนนั้นเหมือนอยากที่จะร้องไห้ออกมาแล้ว ทำไมมันบีบหัวใจอย่างนี้
‘ทุเรศ ทุเรศสิ้นดี’
ไม่รู้จะด่าใครเหมือนกัน รู้สึกเวทนาตัวเองเป็นที่สุด