“เกือบไปแล้ว พี่ปลื้มนะพี่ปลื้ม อย่าให้จับได้บ้าง จะฟ้องแม่ด้วยภาพเลยคอยดู” หิรัญก็คิดไปแบบนั้นแหละ แท้ที่จริงปลื้มไม่เจ้าชู้สักนิด ไม่ได้เชื้อพ่อมาเต็ม ๆ เหมือนกับเขา
ชายหนุ่มนึกไปถึงใบหน้าน้อย ๆ ที่ทำแดง คงอายเขาแทบตายแล้วกระมัง
‘เธอจะกินยาคุมฉุกเฉินไหม แล้วถ้าไม่กินจะท้องไหม ไม่น่าพลาดไปเลยว่ะเมื่อวาน ซิง นานแล้วนะไม่ได้เจอแบบนี้’
รอยยิ้มร้าย ๆ แบบพึงพอใจในตัวเธอแสดงออกมา
กริ๊ง...
“ค่ะเจ้านาย”
(“นี่ฉันได้ข่าวว่าแกมาออฟฟิศเมื่อวานหรือ งานที่จะให้นำไปเสนอกับทางบริษัทคุณปลื้มเรียบร้อยดีนะ”)
“อ้อ แน่อยู่แล้วค่ะพี่ ส้มไม่ทำให้ผิดหวังหรอกค่ะ”
(“เราต้องได้งานนี้นะ”)
“ค่ะ แน่นอนค่ะ พี่เชื่อมือส้มนะคะ”
(“ก็เพราะว่าเชื่อน่ะสิ ฉันเลยส่งเธอไป โอเคแค่นี้นะ”) คุณสายชลเจ้าของบริษัทโฆษณาที่โบนิตาทำงานอยู่วางสายไป
‘เฮ้อ... กว่าจะเสร็จ เมื่อวานเล่นเอาเหนื่อยเลย เพราะนายนั่นคนเดียว’
‘เพราะแกต่างหากที่ไม่น่าทำตัวเป็นขี้เมา’
‘รู้แล้ว รู้แล้ว ต่อไปจะไม่มีทางที่เจ้าสิ่งเหล่านั้นจะเข้าไปอยู่ในท้องของฉันอีก’ เหมือนให้สัญญากับตัวเอง เพราะเรื่องที่เกิดหลังจากที่เมามันเสียหายมากมายจนเธอคิดว่าจะไม่แตะต้องมันอีก
บริษัทศิริพัฒนายางกูรผู้ผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์เบเกอรี่ ซึ่งเริ่มต้นด้วยภุชงค์กับ ศิริพักตร์ แต่ยกให้ปลื้มดูแลทั้งหมดมาได้เกือบห้าปีแล้ว
“สวัสดีค่ะ ดิฉันโบนิตาที่นัดเอาไว้นะคะ”
“อ๋อค่ะ สวัสดีค่ะ นี่เหมียวเองค่ะ จำกันได้นะคะที่เราสองคนโทร. คุยกัน”
“ค่ะ จำได้ค่ะ”
“เชิญทางนี้ค่ะคุณโบนิตา”
“เรียกส้มก็ได้ค่ะ ง่ายดี”
“ค่ะคุณส้ม”
“พี่เหมียว พี่เหมียวคะ” ลิลลี่ผู้ช่วยเลขาฯ ของอริสาหรือเหมียวเรียกเธอด้วยท่าทีร้อนใจ
“มีอะไร” เธอถามออกไป ทั้งสองจึงหยุดคุยกับลิลลี่
“เมื่อกี้คุณอลิสที่เป็นดาราสาวช่องแปดเธอมาที่นี่ค่ะ”
“หื้อ” เหมียวทำเสียง
“มาหาบอสเหรอ”
“พี่เหมียวยังไม่รู้เหรอคะว่า บอสไม่มาทำงาน บอสไปพักร้อน แต่ให้คุณกายมาทำงานแทน” ลิลลี่ดึงรุ่นพี่ไปกระซิบกระซาบ
“อือ... ให้มันได้ยังงี้สิ”
“มีอะไรหรือเปล่าคะคุณเหมียว” โบนิตาถาม
“อ๋อ... นิดหนึ่งค่ะ” อริสาเอียงคอพูด
“คือว่าคุณส้มไปรอที่ห้องประชุมเล็ก ห้องเดิมนะคะ เดี๋ยวเหมียวตามไป ขอไปคุยกับบอสนิดหนึ่ง”
คุณเหมียวเธอจะต้องโทร. ไปหาบอสตอนนี้ เพราะเขาไม่เกริ่นอะไรไว้เลย แบบนี้เขาเรียกหนีงานชัด ๆ คุณเหมียวทำหน้ายิ้ม ๆ แต่ในใจเดือดปุด ๆ
‘อู้งานไปไหนนะ ไม่บอกเหมียวสักคำ กลัวว่าเหมียวจะไม่ให้ไปน่ะสิ’
(“เธอเป็นเลขาฯ ที่เก่งนะคุณเหมียว แต่คุณไม่ใช่แม่ผม”) คำพูดแรง ๆ เวลาที่คุณปลื้มโมโหคุณอริสา
‘ห้องนี้’
โบนิตาผลักประตูห้องเข้าไป สิ่งที่เห็น ผู้ชายคนหนึ่งกำลังกอดจูบกันอย่างดูดดื่มกับดาราสาว อลิเชีย แคมเบิล
ไฟในห้องที่สว่างจ้าเห็นใบหน้าของทั้งสองคนชัด ๆ ตอนที่พวกเขาผละออกจากกัน
เท้าของโบนิตาเป็นอะไร มันขยับไม่ได้ มันเหมือนถูกตอกเอาไว้ที่พื้น
“อะไรคะ” อลิเชียถามเขา
เพราะเห็นหิรัญทำตาโตมองใครสักคนหนึ่ง
‘นายคนนั้น’
โบนิตาจำเขาได้ชัดเจน ความรู้สึกปวดหนึบหัวใจมันกระตุกแบบไม่ทราบสาเหตุ และเต้นเร็ว หน้าตาของโบนิตาแดงขึ้นมาดื้อ ๆ
“ขอโทษค่ะ” เธอเอ่ยปาก ก่อนจะปิดประตูบานนั้นลงไปในทันที
‘โลกมันกลมขนาดนี้เลยหรือ ไม่น่าจะเป็นไปได้ ไม่ใช่เขามั้ง’
โบนิตายืนอึ้งทำอะไรไม่ถูก
ภายในห้อง
“ตายแล้ว ใครมาเห็นคะ แบบนี้อลิสจะเสียหาย” อลิเชียห่วงชื่อเสียงของตัวเอง
“ไม่หรอก ผมก็บอกคุณแล้วไงว่าไม่ต้องตามมา”
อลิเชียทำหน้าเง้า
“พี่กายไม่เคยให้ความสำคัญกับอลิสเลยนะคะ ก็คิวของอลิสว่าง อลิสก็รีบมาหาพี่ทันที อลิสอยากไปพัทยา”
“ก็ผมไม่ว่าง คุณก็เห็นอยู่ กลับไปก่อนได้ไหมอลิส เสร็จงานแล้วผมจะโทร. หา”
“เออ... ก็ได้ค่ะ ถ้าหากพี่กายยังไม่ให้ความสำคัญกับอลิส อลิสจะหาแฟนใหม่แล้วนะคะ” เธอทำท่าเบื่อหน่ายและอยากจะต่อรอง และเริ่มโมโหเขานิด ๆ
แต่หิรัญกลับนิ่งไป ในใจเขาคิดถึงแต่ใบหน้าของโบนิตาที่ดูเหมือนตกตะลึง
โบนิตา
‘มิน่าล่ะ อ๋อ... เขาเป็นแฟนลับ ๆ ของยายดาราหน้าสวยคนนี้เอง เขาถึงไม่อะไรกับเราต่อ ไม่สานสัมพันธ์ ฟันเราแล้วทิ้ง ฮือ...’ ความรู้สึกเจ็บปวดอยู่ในหัวใจ
“คุณส้มขอโทษนะคะ ที่ให้รอ เชิญค่ะ ห้องนี้ค่ะ”
คุณเหมียวทำท่าจะเปิดประตูเข้าไป แต่โบนิตารีบจับมือของเธอเอาไว้
“อย่าเพิ่งเข้าไปตอนนี้เลยค่ะ”
“ข้างในมีอะไรหรือคะ” เหมียวหันมามองหน้า
ประตูก็ถูกผลักออกมาโดยแม่ดาราสาว
“อุ้ย...” คุณเหมียวอุทาน
อลิเชียทำเป็นไม่สนใจทั้งสองคน ยกแว่นกันแดดขึ้นมาสวม ก่อนจะทำเป็นเดินเฉิดฉายออกไปไม่สนอะไรทั้งนั้น
คุณเหมียวหันมามองหน้าโบนิตา เธอเริ่มเข้าใจแล้ว
“เข้ามาสิ” เสียงของหิรัญหยุดเรื่องที่คุณเหมียวกำลังจะสนทนาต่อกับโบนิตาลงไปได้
โบนิตาไม่อยากจะมองหน้าเขาเลย สิ่งที่เธอเห็นเมื่อกี้มันได้แปรเปลี่ยนเป็นความโกรธ และเธอกำลังทำท่างอนเขา
‘งอน’
‘แกเป็นอะไรกับเขา แกถึงไปงอนเขาแค่แกเคยได้นอนกับเขาคืนเดียว’
ฉึก... เหมือนมีหอกแหลม ๆ ปักลงมาที่กลางหน้าอก