“อุยดีจัง บริษัทเรายิ่งขาดวิศวกรเก่งๆ อยู่ และยิ่งได้คนในครอบครัวมาช่วยทำในตำแหน่งนี้ เราคงไว้ใจได้มากๆ เลย”
ด้านน้องสาวแสดงความดีใจแบบออกหน้าออกตา ในขณะพี่สาวกล่าวเชิงลึก
“เป็นวิศวกรจริงหรือเปล่า? เท่าที่รู้...นายไม่ได้ทำอาชีพนี้นี่”
“ผมทำงานหลายอาชีพ และถ้าเป็นอาชีพวิศวกรผม ก็ขอทดลองงานดูสักระยะ แต่เป็นอาชีพเสริมผมว่าน่าจะผ่านแล้ว เพราะน้องพิมพิชญา ตัวแทนประธานบริษัทได้ลงมือสัมภาษณ์เอง ด้วยการปฏิบัติงานจริง มาแล้วนี่ครับ...”
ศิวะพูดเสร็จก็ยกนิ้วกลางที่ยังคงเกรอะกังไปด้วยน้ำหวานของพิมพิชญาขึ้นมายั่ว
“บ้าๆ ...นาย...บ้าๆ ...”
พิสมัยไม่เข้าใจในสิ่งที่คนทั้งคู่สนทนา แต่ถ้าให้ดีที่สุดก็ต้องให้ทุกคนแยกย้ายกันไปก่อน เพราะกว่าศิวะจะยินยอม มาอยู่กับเธอ มันก็ยากแสนเข็ญพอแล้ว
“เอาล่ะเรื่องอื่นค่อยว่ากันก็แล้วกันนะ วันนี้เหนื่อยกันมาทั้งวัน..ไปพักผ่อนกันดีกว่านะ อ้าวป้าเดือนกับแววพาศิวะไปห้องพักที่เตรียมเอาไว้เร็ว”
...................................................................................
“ผมขอแนะนำคุณศิวะ กำจรกิจ วิศวกรหนุ่มที่จะมาทำหน้าที่ในตำแหน่งโปรเจคไซท์ (Project Engineer: Project Site) คนใหม่ของโครงการคอนโดมิเนียน และโครงการรีสอร์ทบนเกาะกะลาที่เราใกล้จะเปิดโครงการภายในเร็วๆ นี้ ของบริษัทโมเดร์นโฮมการ์เด้น พร้อมกับนางสาวพิมพิชญา ทิวานันท์ลูกสาวคนโตของผม ที่จะเป็นผู้มีสิทธิ์ลงนามแทนตัวผม ตอนที่ผมเดินทางไปรักษาตัวที่ต่างประเทศ”
ชายหนุ่มและหญิงสาวที่ถูกเอ่ยนามลุกขึ้นยืน ขณะ เสียงตบมือของหุ้นส่วนกรรมการบริษัทร่วมสิบกว่าคนก็ดังรั่ว ภายในห้องประชุมใหญ่ของบริษัทโมเดิร์นโฮมการ์เด้น
“และตอนไปนี้ผมขอให้ผู้จัดการพิสมัยกล่าวถึงความคืบหน้าของผลประกอบการให้ที่ประชุมได้รับทราบ”
“ค่ะความคืบหน้าโครงการก่อสร้างรีสอร์ทที่เกาะกะลา ในตอนนี้เราได้รับใบอนุญาตให้ก่อสร้างเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และตอนนี้ทีมก่อสร้างของเรา ก็กำลังวางแผนงานเพื่อจะเข้าดำเนินการก่อสร้างอยู่ และ เราคงเปิดไซค์งานได้ไม่เกินต้นเดือนหน้า และ โครงการคอนโดย่านฝังธนเราก็ดำเนินการก่อสร้างไปได้กว่าแปดสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว และคงไม่นานเราคงส่งมอบห้องให้กับลูกค้าได้ และเราขอแจ้งข่าวดีว่าคอนโดของเรา ตอนนี้ถูกจองไปกว่าเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว”
ผู้เข้าร่วมประชุมต่างยิ้มแย้มเมื่อรับทราบข้อมูลเชิงลึก ก่อนที่หนึ่งในหุ้นส่วนของกรรมการจะถาม
“ท่านประธานมีกำหนดการเดินทางวันไหนครับ”
“ผมจะไปวันนี้เลย..ยังไงก็ฝากให้ทุกท่านช่วยเป็นหูเป็นตาในกับทางบริษัทด้วยนะครับ”
.................................................................................
“ศิวะเรื่องที่ผ่านมาเป็นเรื่องของชะตากรรมเราไม่ต้องไปคิดมันมาก ฉันรู้ว่านายลำบากมาเยอะ และตอนนี้ที่นายตัดสินใจมาอยู่กับเรา ฉันก็ดีใจมาก เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา ฉันนั้นถือว่านายคือคนในครอบครัวของเรา”
ราเชนกล่าวกับศิวะด้วยความจริงใจ ในขณะชายหนุ่มพยักหน้า แต่ภายในจิตใจของชายหนุ่มนั้นยากจะหยั่งรู้
“พีศิวะค่ะแผนงานก่อสร้างคอนโด ที่พี่เข้ามาปรับแผน ทางไซค์งานได้รับทราบแล้ว และญาก็นัดประชุมไซค์ตามที่พี่สั่งเอาไว้แล้วค่ะ”
สิ้นเสียงอภิญาที่กล่าวกับศิวะจบแต่ก็มีเสียงเล็กแหลมดังแทรก
“โครงการก่อสร้างหลายร้อยล้าน ไปสั่งเปลี่ยนนั้น เปลี่ยนนี้ เดียวก็ยุง...เหมือนคนสั่งหรอก”
พิมพิชญากล่าวพร้อมลอยหน้าลอยตา
“ไม่หรอกลูกพิมพ์ พ่อดูแผนงานก่อสร้างที่ศิวะปรับแล้ว มันโอเครเลยนะ รู้งี้ศิวะน่าจะมาอยู่กับเราตั้งนานแล้ว”
“ได้ยินประธานพูดแล้วนะน้องพิมพิชญา เดียวพอท่านไปแล้วคนไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรในบริษัท แล้วมาสั่งนูนนี่นั่นมั่ว เดียวก็ยุ่งตายห่า”
ดวงตาที่ไม่คิดจะยอมใครของหมอสาวจ้องชายหนุ่มเขม็ง...แต่ร่างเล็กก็ไม่มีอะไรจะตอบโต้ เพราะเรื่องการบริหารในบริษัทเธอไม่รู้เรื่องอะไรสักนิด
“เออ...ทั้งคู่เหมือนกับว่ารู้จักกันมานานเลยนะ ฮ่าๆๆๆ .. ไป..ไป...ศิวะไปส่งฉันที่สนามบิน”
“ครับ”
“จะไปทำไหม? ที่นั่งในรถยิ่งมีน้อยอยู่”
พิมพิชญาอดที่จะพูดกระแนะกระเน่ไม่ได้
“น้องพิมพ์นั่งตักผมก็ได้ ชอบนั่งตักไม่ใช่เหรอ? ครับ”
หญิงสาวรู้ว่าวันนี้ไม่ใช่วันของเธอจึงรีบเดินล่วงหน้าไป ด้วยใบหน้าที่ใครมาบอกให้ทำบุญเธอก็ไม่รับ
...............................................................................
“ไปคุณ...เขาเรียกสองครั้งแล้วเดียวก็ตกเครื่องกันพอดี”
พิสมัยกล่าวจบก็ พยักหน้าให้คนเข็นรถวีนแชร์ที่สามีเธอนั่งให้รีบเร่งเข็น แต่พิมพิชญาและอภิญาผู้เป็นลูกนั่งลงกอดพ่อของเธอเอาไว้
“แล้วหนูจะไปเยี่ยมนะคะพ่อจ๋า...”
“หายเร็วๆ นะคะพ่อ..”
ศิวะมองดูครอบครัวที่เขาคิดจงเกียดจงชังมาตลอด กำลังแสดงความรัก และความอบอุ่นให้แก่กัน ที่เขาไม่เคยมี จนชายหนุ่มเกิดความอิฉา ในขณะพิสมัยกล่าวเร่ง
“ไปเร็ว..พอได้แล้วทั้งสอง เราไม่มีเวลาแล้วนะ”
“ศิวะ จำไว้นะ ว่านายคือคนในครอบครัวของเรา...”
ราเชนไม่ลืมหันหน้ามากล่าวกับศิวะถึงความไว้ใจและหวังดีของเขา
“.......”
ศิวะไม่พูด เขาทำแค่มองใบหน้าของผู้มีฐานะเป็นพ่อเลี้ยง
“ลานะคะพ่อ...”
เวลาไม่คอยท่าทำให้ผู้ที่มาส่งทำได้เพียงบอกลา และมองผู้จะเดินทางไกล หายเข้าไปในห้องรอขึ้นเครื่อง ขาออกไปต่างประเทศ ของสนามบินสุวรรณภูมิ
..................................................................
“สวัสดีเชอรี่...ไม่เจอกันนานสบายดีไหม?”
“ว้าย...ตายแล้วขุนศึกในตำนานกลับมาแล้ว”
สาวประเภทสองที่แต่งตัว แต่งหน้าสุดเปรียว ที่นั่งอยู่ในห้องที่ถูกจัดไว้เพื่อเป็นสำนักที่ถูกสร้างบรรยากาศให้ดูเริดหรู ร้องออกมาเสียงสูง ก่อนจะวิ่งเข้ามากอดศิวะด้วยความดีใจ แบบคนคุ้นเคยที่ไม่ได้พบกันมานาน
“ดีใจจังพี่ศิวะ จะกลับมาทำงานที่ตำหนักเพชรของเราแล้วใช่ไหมคะ...พี่รู้ไหม? ตั้งแต่พี่กลับมารับงานครั้งก่อน แขกขาประจำเก่าๆ โทรมาจ้องตัวพี่จนสายโทรศัพท์แทบจะไหม้เลย”
“พี่ไม่ได้มาทำประจำอีกแล้วเชอรรี่...พี่จะรับงานเป็นเคสๆ ไปจ๊ะ”
“พี่ไม่เสียดายรายได้เหรอคะ อย่างพี่นี่ อย่างน้อยเดือนละแสนเลยนะพี่ศิวะ...”
“ไม่เสียดายหรอก...พี่เลิกก็คือเลิก”
ศิวะเคยทำงานขายบริการทางเพศประจำอยู่ณ.สำนักแห่งนี้่ ที่เรียกตัวเองว่าตำหนักเพชร เพราะในช่วงที่ชายหนุ่มเรียนอยู่ที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยดัง เงินค่าเล่าเรียนค่อนข้างสูง และ ลำพังงานรับเหมาเพียงค่าแรงงานเหล็ก ของผู้เป็นพ่อ มันจึงไม่พอใช้จ่ายในการใช้เล่าเรียน ชายหนุ่มจึงต้องหาลำไพ่พิเศษ ด้วยการไปขายบริการทางเพศ ณ.ที่แห่งนี้ แต่เมื่อศิวะเรียนจบแล้ว เขาจึงเลิกทำโดยเด็ดขาดถึงแม้มันจะมีรายได้ดีเพียงใดก็ตาม และจากวันนั้นจนถึงวันนี้มันก็เป็นเวลาร่วมสองปีเข้าไปแล้วที่ชายหนุ่มเลิกทำงานที่นี่
“เออ...แล้วไหนละไอ้ดล...”
“นู๊นค่ะพี่...นอนโด่ให้ มาม่าซัง ดูอาการให้อยู่ในห้องนั่นแหละค่ะ”
ประตูห้องถูกเปิดออก ศิวะจึงพบเพื่อนรักของเขา นอนเปลือยช่วงล่างบนโซฟา โดยมีหญิงร่างท้วมในวัยกลางคนกำลังใช้ผ้าประคบอยู่ที่อวัยวะเพศที่แข็งตัวเต็มที่ของเขาอยู่
“มาแล้วเหรอ...ศิวะตัวแสบ เร็วๆ รีบพาเพื่อนนายไปหาอาจารย์หมอเร็ว นี่นะ มาม่าชังก็ทั้งเตือน ทั้งสั่งแล้วว่า..อย่ากินเข้าไปมาก แต่ก็ไม่พากันฟังเลย..”
“มันโด๊ปเข้าไปเท่าไหร่? ละครับ มาม่าซัง...”
“ก็ถามเพื่อนนายเองสิ ฉันทั้งว่าว ทั้งเอาน้ำอุ่นคบให้ เป็นชั่วโมงๆ แล้วมันยังโด่ไม่รู้ล้มอยู่เลย”
ธีรดลมองหน้าเพื่อนรักตาปริบๆ ก่อนกล่าว
“ก็ฉันรับสองงาน งานแรกเสร็จแล้ว แต่พอมางานที่สองทำยังไงมันก็ไม่แข็ง...ฉันเลยจัดไปสองโด๊ปวะเพื่อน...”
ศิวะรู้ดีว่าอาชีพอย่างพวกเขาที่ต้องให้บริการทางเพศ กับหญิงแก่แม่หม้าย ที่มีทั้งอ้วนทั้งดำ รวมทั้งชายจริง ชายเทียมฯ ลโดยไม่สามารถเลือกได้ว่าจะเป็นใคร และยิ่งวันไหนน้ำรักได้ออกจากตัวไปแล้ว มันก็ยากนักที่อวัยวะเพศจะแข็งตัวอีกครั้ง และนั้นมันก็คือสาเหตุที่พวกเขาต้องพึงยาโด๊ป และฤทธิ์ของยาโด๊ปนั้นถ้าน้ำรักไม่ถูกขับออกมา มันก็จะแข็งตัวอยู่ตลอด และสิ่งนั้นมันจะทำให้พวกเขาปวดอวัยวะเพศมาก และเรื่องนี้บุรุษหนุ่มรู้ดี
“แล้วมึงเป็นยังไงบ้างวะ..ตอนนี้เพื่อน.”
“ก็ปวดมาจนถึงโค่น และตึงไปทั้งหน้าขาแล้วตอนนี้...ไอ้เพื่อนเวร”
ใบหน้าธีรดลแสดงถึงความเจ็บลึกจนยากจะอธิบายออกมา
“งั้นผมจะพามันไปหาหมอ...เดียวมันตายเพราะไอ้นั้นแข็งจนใจขาดตาย ชาวเน็ตจะพากันแช่เรื่องนี้กันให้วุ่นอีก”
“ไปๆ รีบพาดลไป มาม่าซังนัดอาจารย์หมอที่เคยเป็นลูกค้าเราไว้แล้ว...เพราะเขารักษาเรื่องนี้โดยตรงเลยนะศิวะ”
“ครับมาม่าซัง... ไปสิไอ้ดลเร็ว รีบไปหากางเกงบางๆ มาใส่”
“โน่นกางเกงแพรฉันเตรียมไว้ให้แล้ว”
เจ้าของตำหนักสวาทชี้มือไปตรงที่เธอเตรียมกางเกงแพรก่อนจะหันหน้ามาพูดกับศิวะ
“และเออ...ศิวะถ้าอยากกลับทำงานเหมือนเดิม ก็มาหามาม่าซังได้ทุกเมื่อนะพ่อตัวเงินตัวทอง”
“ครับผม”
ศิวะยิ้มให้ผู้ที่ปรารถนาดีกับเขาเสมอมา ก่อนที่จะออกไปจากห้องพร้อมกับเพื่อนรัก
...................................................................................
“ธีรดล ดารารัตน์ครับ โทรนัดเอาไว้แล้วครับ”
“อ๋อ...เป็นเคสฉุกเฉิน เชิญที่ห้องรวจได้เลยค่ะคุณหมอรออยู่”
ศิวะประครองธีรดลที่เดินตัวงอเพื่อบรรเทา อาการองคชาดแข็งตัวจนมันดันกางเกงแพรจนตุง จากเคาน์เตอร์ของคลินิก ที่ระบุว่า..ที่นี่รับรักษาโรคเกี่ยวกับสูตินรีเวช ไปยังห้องตรวจ
“เออได้...แกมารอฉันที่คลินิกเลยนะพิมพ์ ตอนนี้อาจารย์หมอไม่ว่าง ท่านเลยให้ฉันอยู่ตรวจคนไข้ฉุกเฉินแทน อยู่เคสหนึ่งนะ...จ๊ะๆ ตามนั้นพิมพ์”
นักศึกษาแพทษ์ปีสุดท้ายที่ชื่อปณิดา กดวางสายโทรศัพท์ก่อนที่จะเห็นชายสองคน ที่กำลังประครองกันเดินผ่านประตูห้องตรวจไข้เข้ามา
“เชิญค่ะ แล้วเป็นอะไรกันมาคะ..แต่เอ๊ะ นั่นคุณศิวะใช่ไหม? คะ”
ปณิดาจำศิวะได้แม่น แม้จะเคยพบกับชายหนุ่มเมื่อครั้งที่อาจารย์หมอของเธอว่าจ้าง ให้เขาให้ไปนอนกับพิมพิชญาเพื่อนของเธอเพียงครั้งเดียว
“เออ...คุณหมอ...เออคือ..”
“ก็เราพบกันที่หน้าห้องตอน...เออ..ก็ไอ้พิมพ์ไงคะ...”
“อ๋อ...ผมจำได้แล้ว”
ศิวะจำได้จึงยิ้มให้หมอสาว
“แล้วจะคุยกันนานไหมครับ ผมจะได้ไปสั่งก๋วยเตี๋ยมากินก่อน? ...อูย...พวกคุณรู้ไหมว่าตอนนี้ผมปวดแค่ไหน?”
“อุย...ขอโทษคะ งั้นญาติช่วยเอาคนไข้นั่งก่อนนะคะ และเชิญญาติออกไปรอข้างนอกก่อน”
ศิวะยิ้มก่อนที่จะทำตามที่ปณิดาบอก ด้วยการพาเพื่อนของเขานั่งลงบนเก้าอี้รอตรวจ
“มึงอย่าดื้อละ...เดียวหมอฉีดยาให้ไม่แข็งตลอดชีวิตเลยนะ...มึง”
“ไอ้เวร...เดียวกูเตะ ยิ่งปวดๆ อยู่ด้วย..มึง”
“ยังไงผมฝากเพื่อนหน่อยนะครับคุณหมอ...เออ...”
“ปณิดาค่ะ”
ศิวะหายออกจากห้องไป ก่อนที่หมอสาวจะใช้สายตาสำรวจคนไข้ของเธอ ก่อนจะพบความผิดปกติตรงหน้าขาของเขา
“ไหน...เป็นอะไรมา เล่าให้หมอฟังสิค่ะ”
“เปลี่ยนเป็นหมอผู้ชายไม่ได้เหรอครับ”
“ได้ค่ะ...แต่ต้องรออีกสักสามชั่วโมงถึงจะมา...เล่ามาเถอะค่ะ หมอนะเห็นมาเยอะแล้วของแบบนี้”
ความปวดทำให้ธีรดลไม่ต้องคิดอะไรอีกแล้ว
“ก็..ก็..ได้ครับ... คือว่า...ตอน...นี้มันแข็งและปวดมากครับหมอ”
“อะไรแข็งหมอยังไม่รู้เลยค่ะ”
“ก็นี่ไงครับ”
ธีรดลเลิกกางเกงแพรออกก่อนแท่งเนื้อที่แข็งโด่จะหลุดออกมาโชว์เด่นต่อหน้าหมอสาว
“คุณนี้มันเกินมาตรฐานชายไทยมากเลยนะ อื่อ...แต่หมอว่าคุณยืนขึ้นดีกว่านะคะ”
ร่างสูงลุกขึ้นยืนขณะหมอสาวที่มองดูองคชาตของธีรดลอาการปกติค่อยๆเลื่อนเก้าอี้ขยับออกมาจากโต๊ะเพื่อจะได้ตรวจถนัด จนทำให้ปลายแท่งเนื้อชี้หน้าผู้ที่กำลังใช้ดุลพินิจในการรักษา
“คุณใช้สารกระตุ้นให้มันแข็งตัวมาใช่ไหม?”
ธีรดลพยักหน้ายอมรับขณะที่ปณิดาใส่ถุงมือยางก่อนจะเลื่อนมือไปจับลูกอัณฑะของผู้ป่วยคลึงไปมา
“ก่อนหน้านี้ทำอะไรมาบ้างคะ”
“ผมนอนกับผู้หญิงมาสองคน...คนแรกอายุมากแล้วแต่นมใหญ่มาก คนที่สองอายุน้อยกว่าคนแรกแต่ผิวเธอดำ แต่เธอเก่งเรื่องเซ็กส์มาก...เธอขึ้นบนตลอด เธอทำเป็นชั่วโมงแต่ผมก็ไม่ยอมเสร็จ...”
“พอๆ หมอไม่ได้ถามเรื่องนั้น หมอแค่จะถามว่าคุณพยายามรักษาเบื้องต้นอย่างไรต่างหาก”
.........ตามต่อนะครับ......
ศิวดล กับ หมอปณิดาก็คืออีกคู่นะครับที่ อยากให้รี๊ดตามรักตามลุ้น..และ..ก็อย่าลืมตามอ่านนิยายเรื่องนี้ต่อนะครับ