8

1495 คำ
คำพูดของเขาเจ็บจี๊ดเข้ามากลางใจของเธอ เธอหยิ่งในศักดิ์ศรีพอ ทำไมต้องไปอ้อนวอนเขาด้วย วิธาดาควานหาเสื้อผ้ามาสวมใส่ ป่านนี้ชลันธรคงหาเธอให้ควัก หรือไปแจ้งความแล้วก็ไม่รู้ ยิ่งเป็นพวกกระต่ายตื่นตูมอยู่ด้วย ธัญญ์หรี่ตามองหญิงสาวที่ควานหาเสื้อผ้ามาสวมใส่ เธอหันหลังให้เขา ไม่สนใจเขาอีก ที่เขานึกหมิ่นในใจคือเธอไม่รู้จักอายที่มาสวมใส่เสื้อผ้าต่อหน้าผู้ชายเช่นนี้ แต่พอคิดว่าเธอมาขายตัวแลกเงิน เขาก็ปัดความคิดนั้นออกไป เธอไม่ใช่สาวน้อยไร้เดียงสาแสนบริสุทธิ์เสียหน่อย เมื่อคืนที่เขาสัมผัสได้ อาจเป็นเพราะความเมาหรือเธออาจไปทำรีแพร์กระชับช่องคลอดมาก็ได้ เดี๋ยวนี้วิวัฒนาการทันสมัย เธอต้องหาเงินแบบนี้อีกนานคงต้องดูแลตัวเอง น่าสงสารบิดามารดาของเธอจริงๆ เสียดายเธอเกิดมามีพร้อมแต่ไม่เอาไหนอะไรสักอย่าง หญิงสาวอายแสนอายที่ต้องมาสวมใส่เสื้อผ้าต่อหน้าเขา แต่ในเมื่อเขาไม่เห็นค่า เธอไม่จำเป็นต้องง้อ เธอกัดฟันข่มความเจ็บกลางกายเดินลงจากเตียง สายตาสอดส่ายหากระเป๋า... ซึ่งไม่มี คงอยู่ที่ชลันธร เมื่อคืนเธอเมามาก จนไม่รู้ตัว ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าโดนธัญญ์ลากเข้าห้องมาปู้ยี้ปู้ยำได้อย่างไรกัน ร่างอรชรแต่อวบอิ่มรีบลากขาไปที่ประตู ไม่หันกลับมามองคนที่ยืนอยู่ด้านหลัง ธัญญ์ขมวดคิ้วยุ่งเมื่อเห็นการกระทำของเธอ ก่อนจะเดินมาหาเรื่องต่อ “จะรีบไปรับแขกอีกกี่คนล่ะ ตอนนี้สภาพเธอคงไม่มีใครกระเดือกลง น่าจะกลับไปพักผ่อนเสียก่อนนะ เย็นๆ ค่อยออกหาเหยื่ออีกรอบ คงไม่เป็นไร” ชายหนุ่มกระชากเรียวแขนบอบบางให้หันมา วิธาดาดิ้นหนีทุบตีแต่ไม่พ้น มองเขาอย่างตัดพ้อน้อยใจ ธัญญ์อึ้งไปกับสายตาเช่นนี้ เขาไม่เคยเห็นสายตาเช่นนี้ของเธอมาก่อน “อีกหลายคนเลยล่ะ คนเดียวมันไม่พอ” หญิงสาวตอกกลับจนอีกฝ่ายขบกรามเป็นสันนูน “แล้วนายณัฐให้เธอเท่าไหร่ล่ะสำหรับมานอนกับฉัน ฉันจะได้ให้เพิ่มเผื่อเธอไม่พอ ดูจากสภาพแล้วคงไปรับแขกอีกไม่ไหวอย่างที่บอก” วิธาดาขมวดคิ้วยุ่งเธอไม่รู้ว่าเขาหมายถึงอะไร เขาพูดถึงใคร แต่ช่างเถอะ เธอไม่อยากสนใจอีกแล้ว เขารังเกียจ เขาไม่ต้องการเธอ เขาเหยียดหยาม เธอคงทนให้เขาพูดจาร้ายกาจต่อไปอีกไม่ได้ “ไม่จำเป็น เอาเงินเน่าๆ สกปรกของนายเก็บเอาไว้เถอะ แล้วก็ปล่อย นายไม่อยากแตะต้องตัวฉันไม่ใช่เหรอ จะมารั้งไว้ทำไม” เธอเชิดหน้าอย่างถือดี “ใครบอกว่ารั้ง ฉันอยากรั้งเธอตายแหละ นี่เงิน... เอาไปเถอะ เพื่อยกเครื่องใหม่ เมื่อคืนฉันคิดว่าหลายยก” ธัญญ์เอาเงินยัดใส่มือเธอ วิธาดาก้มมองมันเหมือนสิ่งประหลาด ปฏิกิริยานิ่งเฉยเหมือนใช้ความคิดนั้นทำให้ธัญญ์เหยียดยิ้ม เขาคิดว่าหญิงสาวแกล้งเล่นตัวไม่รับเงินไปอย่างนั้นเอง แต่แท้ที่จริงกลับอยากได้เงินจนตัวสั่น เพราะเงินที่เขาให้มากมายจนเธอใช้เล่นไปได้หลายวัน วิธาดาเงยหน้ามองสบตากับเขา สายตาตัดพ้อและน้อยใจส่งมาให้เขาอีกครั้ง ธัญญ์นึกฉงนกับแววตานี้ แต่เขาไม่มีเวลาหาคำตอบเมื่อเธอโยนเงินที่เขายัดเยียดให้ใส่หน้าโดยแรง “เอาเงินของนายคืนไป ฉันไม่ต้องการ” เธอตบหน้าเขาฉาดใหญ่และผลักเขาจนเซ ก่อนกระชากประตูเปิดออก ธัญญ์ถึงกับผวาตามแต่ไม่ทันเสียแล้ว เมื่อหญิงสาวกระแทกประตูปิดใส่หน้าเขาโครมใหญ่ ธัญญ์ยืนอึ้งอยู่เพียงครู่ ก่อนจะสลัดเรื่องไร้สาระทิ้งไป แค่ผู้หญิงไร้ค่าคนหนึ่งเท่านั้น ชายหนุ่มเดินไปหยิบโทรศัพท์เพื่อจะโทรหาเพื่อน แต่ปลายสายติดต่อไม่ได้ เขาส่ายหน้าไปมา วันนี้คิดว่าจะกลับบ้านเสียที เขาทำตัวไร้สาระมานานแล้ว กลับไปคงต้องช่วยงานทางบ้านให้ดีที่สุด ทุกคนที่บ้านรอคอยเขาอยู่ จะมาเสียเวลากับผู้หญิงไร้ค่าคนนี้ทำไมกัน “ต๊ายตาย! ยัยวิ นี่หล่อนหายไปไหนมาย่ะ ฉันไปแจ้งที่เคาน์เตอร์ด้านหน้าว่าหล่อนหายไปหน้าห้อง บอกว่าสงสัยโดนใครลากเข้าห้องไป แต่พนักงานไม่ยอมให้ความร่วมมือ บอกว่าการไปเคาะห้องแขกเป็นการเสียมารยาท แถมกล้องวงจรปิดของชั้นที่เราพักก็ดันมาเสียอีก นี่ฉันก็ลังจะไปแจ้งความว่าหล่อนหายไป แล้วทำไมกลับมาในสภาพนี้ อย่าบอกนะว่า... หล่อนโดนลากไปขืนใจมาจริงๆ” ชลันธรยกมือทาบอกเมื่อเห็นสภาพของเพื่อนสาว “เชอร์รี่...” วิธาดาโผเข้ากอดเพื่อนรักคนเดียวที่เหลืออยู่ ชลันธรอ้าแขนรับ กำลังอ้าปากจะถามซ้ำก็เปลี่ยนใจ คิดในใจว่าเพื่อนคงเจอเรื่องอะไรร้ายแรงมาเป็็น็นแน่ “เป็นอะไร ค่อยๆ เล่ามา” ชลันธรเริ่มตั้งสติ ค่อยๆ ลูบศีรษะเพื่อนรักเบาๆ “เรื่องมันเป็นแบบนี้...” วิธาดาเล่าด้วยความอัดอั้น ก่อนจะปล่อยโฮออกมา น้อยคนนักที่จะได้เห็นน้ำตาสาวมั่นและเปรี้ยวเข็ดฟันอย่างเธอ และหนึ่งในนั้นก็เป็น ชลันธรเพื่อนรักเพียงคนเดียว “ต๊ายตาย! นี่อีตาธัญญ์มันลากหล่อนเข้าห้องไปปู้ยี้ปู้ยำอย่างนั้นเหรอ สภาพหล่อนถึงได้เป็นแบบนี้” ชายใจหญิงยกมือทาบอกอีกครั้ง ตาโตจนแทบถลนออกมาด้วยความตกใจในเรื่องราวที่ได้รับฟังจากปากเพื่อน วิธาดาพยักหน้าอย่างเหนื่อยๆ เธอรู้สึกเพลีย แขนขาเมื่อล้าไปหมด “ฉันจะไปจัดการมันเอง ผู้ชายอย่างมันต้องเจอกับคนอย่างฉัน” ชลันธรฮึดฮัดทำท่าจะเดินออกจากห้อง “รู้หรือเปล่าเขาอยู่ห้องไหน” วิธาดาเบรกอีกฝ่ายเอาไว้ “หล่อนบอกมาสิยะว่าห้องไหน ฉันจะไปลุยกับมันเอง ต่อให้ตัวใหญ่กว่าก็เถอะ ฉันจะตบให้หน้าหงายเลย” “อย่าไปยุ่งกับเขาเลยเชอร์รี่ เขาเกลียดฉันจะตายไป” หญิงสาวนอนลงบนเตียงกว้าง รู้สึกว่าเหนื่อยล้าจนอยากหลับตาแล้วไม่อยากตื่น เรื่องราวมันรุมเร้าจนเธอแทบทำอะไรไม่ถูก รู้แต่ว่าอยากพักคนเดียวเงียบๆ “แล้วที่หล่อนเสียตัวล่ะยะ จะทำยังไง จะยอมง่ายๆ หรือไง ฉันล่ะปวดหัวกับหล่อนเสียจริง” ชลันธรกุมขมับมองเพื่อนสาวอย่างหนักอกหนักใจ “ช่างประไร แค่เสียตัวเอง” “โอ๊ย! อะไรเข้าสิงห์หล่อนยะ พูดออกมาได้ว่าแค่เสียตัวเอง ถ้าเสียตัวให้คนรักล่ะไม่ว่า แต่นี่อะไร โดนเขาดูถูกกลับมาอีก อีตานั่นให้หล่อนกินอะไรเข้าไป หล่อนถึงได้เป็นเอามากขนาดนี้” ชลันธรขึ้นเสียงจนวิธาดายกมือปิดหูแทบไม่ทัน “พอเถอะเชอร์รี่ ฉันเหนื่อยอยากพัก” “อยากพัก แล้วนี่หล่อนจะกลับบ้านกลับช่องเมื่อไหร่ล่ะ จะอยู่ที่นี่ทำซากอะไร หรือจะไปให้มันข่มเหงอีกสักยก” ชลันธรพูดอย่างโมโห แม้จะรู้ว่าเพื่อนพูดแรง แต่วิธาดากลับไม่โกรธ “กลับวันนี้ก็ได้” วิธาดาบอกในที่สุด เธอหลับตาลงเพื่อปิดกั้นสิ่งรอบกาย “ยัยวิ ฉันพูดกับหล่อนตรงๆ เลยนะ ยังไงก็ผ่านมาตั้งสี่ปีแล้ว หล่อนยังไม่เลิกคิดเรื่องนั้นอีกเหรอ ยังไงเค้าก็เป็นแม่หล่อนนะ เลี้ยงหล่อนมาจนโต แถมยังรักหล่อนด้วย อีกอย่างนั่นก็พ่อ ยังไงก็ตัดไม่ขาดหรอก” “...” “หล่อนได้ยินที่ฉันพูดไหม เมื่อไหร่หล่อนจะเลิกประชดตัวเอง ทำตัวไร้ค่าเสียที” “แกก็คิดว่าฉันไร้ค่าเหรอเชอร์รี่” วิธาดาพูดทั้งๆ ที่ยังหลับตา หัวใจข้างซ้ายของเธอบอบช้ำเกินไปแล้ว เกินจะรับไหว “ใช่ ถ้าหล่อนยังประชดโดยการเที่ยวเตร่ ไม่กลับบ้าน ไม่รู้จักทำงานทำการอะไรแบบนี้อีก แสดงว่าหล่อนไม่รู้จักคุณค่าของตัวแกเอง” ชลันธรเตือนสติเพื่อน พูดแบบนี้มาเป็นร้อยๆ พันๆ รอบ แต่ไม่ว่าจะพูดมากแค่ไหน หรือพูดจนปากจะเฉียงถึงใบหู ถ้าเจ้าตัวเองไม่ได้คิดสำนึก เปล่าประโยชน์ ก็เหมือนพูดกับลมกับแล้ง แต่ยังไงเค้าก็ไม่ละความพยายาม สักวันเพื่อนอาจคิดได้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม