AP’s Cuisine ตั้งอยู่บนย่านธุรกิจใจกลางกรุงเทพฯ ภายในร้านกว้างขวางโอ่โถง ตกแต่งตามแบบอินดัสตรี้ ลอฟท์ ผนังก่อด้วยอิฐสีแดงส้มทั้งแถบประดับด้วยกรอบรูปเปล่าเรียงรายหลายกรอบ เพดานที่ไร้ฝ้า มีโคมไฟดวงใหญ่หลายดวงสีดำห้อยลงมา โต๊ะเก้าอี้สีดำเข้ากับบรรยากาศร้าน เหมาะแก่การพาคนพิเศษมาฉลองวันสำคัญ
“สวัสดีครับ AP’s Cuisine ยินดีให้บริการครับ”
“ดิฉันจากเฉลิมวานิชย์ไฟท์อิ้งคะ มารับอาหารที่สั่งไว้ค่ะ”
“อ๋อ! คุณน้ำหวานนะครับ เชิญนั่งรอสักครู่เราขอตรวจเช็ครอบสุดท้ายสักสิบห้านาทีนะครับ”
ชาเอิร์ลเกย์อุ่นในถ้วยพร้อมนมสดและน้ำตาลถูกนำมาเสิร์ฟระหว่างรอ กลิ่นชาหอมละมุนช่วยให้ผ่อนคลาย ลักษณ์นารานั่งอ่านหนังสือลำพังข้างหน้าต่างกระจกใส หารู้ไม่ว่าใครบางคนก็รอจังหวะแสดงตัวเช่นกัน
อันที่จริงอาหารถูกจัดเสร็จเรียบร้อยพร้อมส่งมอบแล้ว แต่ทดเวลาไว้ต่างหาก
พลพยัคฆ์ลอบชะโงกมองจากในครัวตั้งแต่ที่หญิงสาวเข้ามา เมื่อสบโอกาสเขารีบสาวเท้าตรงเข้าหาดิ่งเป้าหมายทำทีเป็นเหตุบังเอิญ!
“อ้าว! ว่าไง นาร่า บังเอิญจัง เป็นลูกค้าร้านนี้ด้วยหรอ”
ชายหนุ่มนั่งบนเก้าอี้ข้าง ๆ ท้าวศอกสองข้างไขว้แขนพลางยืดตัวขึ้น คนถูกประชิดตัวสะดุ้งโหยง เบิกตาโพลงอย่างตื่นตะลึง จู่ ๆ ก็โผล่มาแบบนี้เล่นเอาตกใจจนพูดไม่ออก แต่เจ้าหล่อนลอบกวาดสายตามองรูปร่างของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว เขาสวมเสื้อยืดที่เข้ารูปช่วงบนโชว์ให้เห็นบ่าหนากว้าง มัดกล้ามแขนลูกเบ่อเร่อและกล้ามหน้าอกนูนแน่นจนคล้ายกับยัดด้วยซิลิโคนเสริมหน้าอก อูย!
“อ้าว ๆ ทำเป็นไม่รู้จัก ทำเป็นไม่ทักหรอ”
“อืม!! เอ่อ สะ..สะ...สวัสดีค่ะคุณพลพยัคฆ์” ลักษณ์นารายกมือไหว้ทักทายพอเป็นพิธีกระพริบตาถี่รัวเรียกสติ พยายามหลุบสายตาจากฝ่ายตรงข้าม
“เรียกอเล็กซ์เถอะ ขอเรียกตัวเองว่านาร่านะ”
“ตามสบายค่ะ คือจะมีบินกับคุณลีน่าหรอคะ”
“ยังไม่มีหรอก แต่ก็อยากมีนะ อยากเจอนางฟ้า” หยอดมุขนี้ จนคนฟังไม่รู้ตัวว่าหน้าแดง
“อ๋อหรอคะ วันนี้พูดภาษาไทยซะคล่องเชียวนะคะ ระดับความสูงเป็นหมื่นฟุตนอกจากจะส่งผลให้หูอื้อแล้วยังมีผลต่อการสื่อสารขนาดนั้นเลยหรอคะ ทั้งภาษาอังกฤษทั้งภาษาไทย...จีนกลางก็ด้วย อาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงฉับพลัน ถึงกับกำมีดด้วยตัวเองไม่ได้...ใช่มั้ยคะ!”
ลักษณ์นาราจัดชุดใหญ่ ทำตาเล็กตาน้อยแล้วค้อนขวัก ความเกี่ยงงอนยังไม่จางหาย
“เจอนางฟ้าระยะประชิด ใครจะไปนึกอะไรออกล่ะ” เขาเห็นสีชมพูระเรื่อแจ่มชัดบนเรียวหน้าคนงาม อย่างนี้ต้องกดดันให้เขินหนักขึ้น พลพยัคฆ์เคลื่อนเก้าอี้เข้าใกล้ เอียงหน้าพลันส่งประกายดวงตาวูบวาบจ้องหน้าหล่อน หญิงสาวเม้มเรียวปาก สายตาหลุกหลิกแสดงสีหน้าไม่ถูก ยังไม่ยอมรับว่าเขิน...
“จะ...จะ จะมองอะไรนักหนาคะ”
“มองคนสวย”
แทนที่ลักษณ์นาราจะภูมิใจ เธอกลับขึงตาคู่งามใส่ ลุกพรวดพราดคว้ากระเป๋าถือแล้วเดินฉับ ๆ ไปถามหาความเคลื่อนไหวของสิ่งที่รออยู่ พลพยัคฆ์โบกมือกลางอากาศให้สัญญาณเปิดทาง คนขี้แกล้งช่วยทำหน้าที่เปิดประตูผายมือเหมือนกำลังส่งเสด็จองค์หญิง เท่านั้นยังไม่พอเขาส่งจูบทำตาหวานเยิ้มให้อีกต่างหาก
ยิ่งเร่งเร้าให้คนถูกแกล้งเบิ่งตาโต อ้าปากค้างแทบจะวิ่งสี่คูณร้อยขึ้นรถแล้วออกตัวจากไปดั่งสายฟ้าแลบ ลักษณ์นาราจับพวงมาลัยความอุ่นร้อนแผ่ซ่านทั่วใบหน้า เธอยอมรับว่านี่คืออีกครั้งที่พลพยัคฆ์ทำให้เลือดลมสูบฉีด หัวใจเต้นแรงพองโตอีกแล้ว หลังจากเข็ดขยาดความรักมาพักใหญ่
หรือเธอควรเปิดใจอีกครั้ง
“แผนสูงไม่เบานะครับ ผมว่าคุณน้ำหวานก็สนใจคุณอเล็กซ์ด้วยนะครับ”
ทันทีที่ลักษณ์นาราโทร. สั่งอาหารตามหมายเลขที่ปรากฏ พลพยัคฆ์แสร้งเป็นพนักงานร้านและใช้ชื่อว่า ‘พีพี’ แล้วไหว้วานให้ใครสักคนสมบทบาทนั้นแทน ได้เบอร์โทรมาแล้วด้วยสิ
ไม่มีความบังเอิญในพจนานุกรมของเขา!
มื้อค่ำอีกวันที่คฤหาสน์เลิศวิริยะ
องค์หญิงน้อยผู้เพียบพร้อมกำลังเสวยพระกายหารมื้อค่ำกับเจ้าชายรูปงามผู้กล้าหาญในปราสาทหรูหราใหญ่โตเปรียบเปรยได้ดีถึงบรรยากาศช่วงเวลานี้ พลพยัคฆ์คืออัศวินผู้กล้าหาญในสายตาทอปัดเสมอมา เขาเป็นเพื่อนคนเดียวของเธอตั้งแต่ชั้นมัธยมปลาย แทบจะเป็นคนเดียวที่เข้าใจและคอยดูแลกันมาโดยตลอด
“อเล็กซ์งานยุ่งมากมั้ย ช่วงนี้” ทอปัดชิมซุปข้นหอมกรุ่นที่ปรุงอย่างพิเศษ
“ที่บริษัทก็ไม่เท่าไหร่หรอก ไตรมาสนี้ประชุมเยอะหน่อย” เขาพูดไปสายตาเหลือบมองจอโทรศัพท์ยี่ห้อดังเป็นระยะ
“แล้วร้านเป็นไงบ้างล่ะ ขายดีเลยสิ ใช่มั้ย” คนถามยิ้มฟันสวยอย่างอารมณ์ดี
“ร้านเพิ่งเปิดก็ยุ่งนิดหน่อย ป้าลีน่าสั่งอาหารไปตั้งเยอะ บอกจะช่วยโปรโมตร้านกับลูกค้าแกด้วย”
“สมกับเป็นทายาทอันดับหนึ่งเลย คุ้มค่าทุกนาที”
“ไม่ขนาดนั้นหรอกเบลล์ พูดเกินไปแล้ว”
ภาษากายของพลพยัคฆ์ฟ้องว่าเขาไม่ได้สนใจอาหารตรงหน้าเลย เพื่อนชายไม่ใช่คนติดโซเชียลมีเดียต้องมานั่งตามข่าวสารหรือยอดไลค์ ยอดคอมเม้นท์ไร้สาระเหล่านั้น ส่วนตลาดหุ้นปิดทำการไปตอนสี่โมงเย็น โทรศัพท์มีอะไรน่าสนใจนักหนา เสมือนกำลังรอคอยการติดต่อจากคนคนหนึ่ง
ยาหลังอาหารทั้งเม็ดกลมเม็ดเหลี่ยมและแคปซูลหลากสี
ทอปัดทยอยรับประทานมันทีละน้อยตามด้วยน้ำแก้วใหญ่ พลพยัคฆ์เม้มปากแน่น ผ่อนลมหายใจเบา ๆ ระหว่างอ่านฉลากบนขวดยาจำนวนมากมายตรงหน้า
“เบลล์เข้าใจทุกอย่างดีนะอเล็กซ์ มันไม่ได้ช่วยให้หายขาดแค่คุมอาการไว้”
“เบลล์...!” พลพยัคฆ์โอบแขนกับร่างผอมบาง
ลักษณ์นาราหิ้ววัตถุสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ออกจากลิฟต์ ดันอย่างทุลักทุเลเข้าประตูห้อง เธอยืนท้าวเอวมอง กรอกตาแล้วบุ้ยปากอย่างเซ็ง ๆ กล่องปริศนาใบนั้นเมื่อเปิดดูมันประกอบไปด้วยลูกโป่งสีสันฉูดฉาดน่ารักหลายใบพร้อมกับข้อความภาษาอังกฤษตัวใหญ่ SORRY บนฝากล่องแนบกระดาษโน้ตใบเล็กๆ เขียนด้วยลายมือ
‘ขอโทษนะครับ 090-888-8888 A.P.’ ไม่ต้องโทร. ก็รู้ว่าใครรออยู่ปลายสาย เว่อวังอลังการแบบนี้จะมีใครอีกล่ะ